..๏ มีม่านเมฆเฉกฉากอันหลากร่าง มากั้นหว่างฟากฟ้านภาสวรรค์ แต่งด้วยมวลดาราโสภาพรรณ อีกดวงจันทร์แจ่มกระจ่างพร่างแพรวพราว ให้เชยชมภิรมย์รื่นทุกคืนค่ำ ร่ายลำนำกวีไปในคืนหนาว ผูกพยางค์ชมเดือนเป็นเพื่อนดาว ที่แวววาวเวิ้งว้างหว่างเมฆา ยังเฉิดฉันท์พรรณรายแสงฉายฉาน ต่างตระการแจ้งประจักษ์งามนักหนา เพริศพิไลนวลละอองผ่องโสภา ยังตรึงตราสุขใจมิใช่น้อย ด้วยคำนึงถึงบางใครในภวังค์ อดีตยังตามสะกิดให้คิดบ่อย คราวสานสายสัมพันธ์วันรอคอย ยังเลื่อนลอยเกินกว่าไขว่คว้ามัน ๚ะ๛
28 ตุลาคม 2548 10:21 น. - comment id 527402
สวัสดีครับ เพิ่งทราบว่ามาเที่ยว พักผ่อนกายใจที่สะเมิงช่วงวันหยุดยาวแต่คงไม่ค่อยวุ่นวายมากนัก ผมอ่านกลอนแล้วครับได้อารมณ์ดี แต่คงไม่ทะเล่อทะล่าไปโพสต์อะไรหรอกครับ ไว้คุยกันไล่หลังได้ งานปล่อยโคมก็ทำประจำทุกปี มีแข่งโคมลอยลอดบ่วงด้วยนะครับ ช่วงหลังแถวบ้านผมไม่ค่อยจัดงานแข่งขันแล้วเพราะโคมที่ไม่ลอย หรือลอยต่ำ มันจะตกหลังคาบ้านคน ไฟไหม้ได้ มีครั้งนึงช่วงเทศกาลโคมตกแถวตรอกเหลาโจ๊ว เป็นร้านขายผ้าเมือง ก็เสียหายไปแยะครับ อีกครั้งพิธีปิดซีเกมส์ที่สนาม700ปี ซึ่งผมได้บัตรดูบอลรอบสุดท้าย ปิดงานด้วยการปล่อยโคมไฟ งานนี้แหละครับที่ผมประทับใจมาก เหมือนดวงไฟเรื่อเรืองเต็มท้องฟ้า ผมเคยทำโคมเพื่อปล่อยเอง แต่ก็ใช้ได้ไม่ทุกลูก เหลาโครงไม้กัน แปะกาวหนามากก็ไม่ได้ ไม่สมดุล ไม่ลอยอีก ก็ได้แต่ลมควันให้แทน สนุกดีครับ หนังที่คุณแนะนำ ผมโน้ตไว้แล้ว ไม่ทราบว่าจะได้ดูเมื่อไหร่ แต่แฮรี่ พอร์ตเตอร์นี่กว่าจะได้ดูก็ลาโรงไปแล้ว เพราะผมไม่ดูหนังโรงมานานมาก แต่หนังสือนี่มีครับ ฝากใครซื้อได้ ผมคงดูหนังได้ทุกแนวแหละครับ ชอบดูว่างั้นเหอะ ดูเรื่องนึงไม่ต่ำกว่าสองรอบทุกครั้ง เก็บรายละเอียดน่ะครับ อย่างดูColleteral ก็ดันไปชอบดูฉากมหานครลอสแองเจลลิส หรือดูCold Mountainได้บ่อยครั้ง ไม่ติดกับอะไร แล้วแต่น่ะครับ หนังของวอล์ท ก็ดูเรื่อยๆถ้ามีเวลา เหนื่อยมากก็นอนซะมากกว่า อย่างว่าแหละครับ ผมเป็นคนยุคBBC=Born before computer ไม่ไฮเทค ไม่ทันสมัย ยังติดกับการนอนอ่านหนังสือ ดูทีวี วิถีชีวิตง่ายๆ โชคดีที่พอใช้คอมฯเป็นอยู่บ้าง พอได้อ่านโน่นนี่ เหมือนผมสมัครสมาชิกที่นี่ด้วยตัวเองยังไม่รอดเลย ต้องเอาเมล์ลหลานสาวแทนก็เลยได้หมายเลขสมาชิก น่าอายนะครับ ไม่ทันสมัยจริงๆ ไม่ทราบว่าคุณอิม เคยไปอินเดียมั้ยครับ ประเทศที่อยากจน มากกว่ายากจนนะผมว่า ถ้ากินอะไรยากก็ลำบากซักหน่อย จะได้กินแกงกะหรี่แพะ โรตีแทบทุกมื้อ เคยสั่งไข่เจียวสามที่ ไก่ทอดสามจาน บริกรก็ยืนจดซะยืดยาว ถึงเวลามีชามใหญ่ๆใส่ไข่มา ก็สงสัยกันว่า ไก่น่ะหายไปไหน ปรากฎว่า ไก่ก็อยู่ในไข่เจียวนั่นแหละ งานนี้เลยไม่รู้ว่าใครสื่อสารไม่ดีกันแน่ ห้องน้ำห้องส้วมอาจจะดีกว่าเมืองจีนนิดนึง แต่สิ่งที่ผมอเมซซิ่ง เห็นจะเป็นแม่น้ำคงคา มองสองฟากฝั่งแล้วจะปลง ความรู้สึกนรก-สวรรค์มันเห็นได้ในเวลาเดียวกัน น้ำนี่นะใส่ขวดทิ้งไว้สักวัน ใสอย่างตาตั๊กแตน อันนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ บางทีศรัทธา กับความเชื่อที่เค้ามีกัน มันก็ไม่รบกวนวิถีชีวิตเค้าเท่าไรนะ โรงงานผลิตยาใหญ่ๆเยอะมาก มีอะไรหลายอย่างที่เล่าไม่หมด ผู้คนก็ยังนอนหลับตาพริ้มข้างถนนหนทางได้ รถยนต์เล็กๆเยอะรถตูดสั้นๆ ผมนึกยี่ห้อไม่ออกตอนนี้ รถตุ๊กๆขับซิ่งกว่าในกรุงเทพฯนะผมว่า ขับไปหันมาคุยได้อีก โห อันตรายเป็นบ้า ขำก็ขำ กลัวก็กลัว เผอิญผู้สูงอายุเยอะน่ะครับ มองกลับมาที่สวนลุมฯกรุงเทพฯ แขกบ้านแขกเมืองมา พวกโฮมเลสก็ต้องจัดการ แม้แต่พวงเด็กขายพวงมาลัยก็ไม่ให้ขายตามท้องถนน เป็นต้น คุยยาวไม่ได้ กวนน้ำให้ขุ่นเปล่าๆ คิดว่าคุณอิมทราบดี นี่ผมพล่ามอะไรกันนี่ ถือว่าทำความรู้จักกันนะครับ ไว้มาคุยต่อหลังจากกลอน\'\'ฝากหัวใจไว้ที่สะเมิง\'\'มาอยู่ในกล่องเก็บกลอน มาช้า หรือหายหัวก็ไม่ว่ากันนะครับ ผมทำงานทุกวันไม่มีวันหยุดราชการ ช่วงนี้คุณก่อพงษ์คงไม่ว่าง โรงเรียนเปิดแล้ว ไว้ค่อยตามอ่านกลอนทีหลังเอา ทำงานให้มีความสุขนะครับ รบกวนเวลาคุณอิมมากแล้ว
25 ตุลาคม 2548 23:41 น. - comment id 529155
สวัสดีค่ะ คุณทางไกล.. จะใกล้หรือไกล ฝากอักษรไว้เดี๋ยวก็ได้รู้ คุณม้าลาย .. แหงนมองดาวบนฟ้า ณ ราตรี ดาษดื่นมีประดับเหมือนรับขวัญ หากสิ่งหนึ่งซ่อนนัยให้จาบัลย์ มีใครกันจะหยั่งภวังค์เรา คุณครูใหญ่ฯ .. ค่ะ เหมือนลางเลือน คุณเปรยเหมือนบางใครเลยค่ะ นายพระจันทร์ .. เพ้อพร่ำเพราะหวั่นไหวอาลัยยิ่ง อยากหลบโลกความจริงมิอิงตื่น รักที่เคยฝังใจไม่อาจคืน เสียงสะอื้นสะกดไว้ในอารมณ์ พี่สาว .. แหะ แหะ ลืมอีกแล้ว ฮา .. จำได้ล่ะ ตอนไปทานปลาที่ป่าสัก และอีกตอน ที่สาวมาร์วิ่งมากอด ที่เซ็นเตอร์พอยส์ .. อึ๋ย อายคนจังค่ะ คุณก่อพงษ์ .. ระลึกถึงเช่นกันค่ะ :) พี่ดอกแก้ว .. ชัง อัลมิตราไม่ค่อยจำนะคะ .. มันเป็นเรื่องรกใจจังค่ะ ไฟความชังไม่น่าเก็บกักไว้กับตัว รัก อัลมิตราก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกันนะคะ .. รู้สึก เฉย ๆ ยังไง ก็ไม่รู้ สงสัย อัลมิตราจะกลายเป็นหินไปจริง ๆ แล้วค่ะ คุณใบไม้ .. ขอบคุณค่ะ สำหรับดอกไม้ คุณเพรง.พเยีย .. ได้แนวร่วมแล้ว เย้ คุณแก้วประเสริฐ .. เรียกยอดหญิงอีกแล้ว ตอนนี้เขาอินเทรนไอ้มดแดงนะคะ คุณsodasasa .. โดนอะหยังว่า น้องเอ๋ย คุณโอ คาลิฟโซ .. หากอยากคว้า ก็จะเอาไม้สอย :) ใช่ไหมคะ คุณทานทองคำ .. ช่าย ฉากในภวังค์ จะมีสักกี่คน ที่นึกภาพออกได้ตาม ค่ะ คุณสีน้ำฟ้า .. ไม่เจอกันนาน ยังหายใจดีอยู่บ่ คิดถึงนะคะ คุณผู้หญิงช่างฝัน .. เห็นอยู่รำไร หวิวหวาด เหมือนใจจะขาดรอน :) ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
23 ตุลาคม 2548 10:59 น. - comment id 531072
หากไขว่คว้า.. แล้วทรมานัก.. ขอชื่นชมอยู่ห่าง ๆ ดีกว่าค่ะ.. May the force be with U.
22 ตุลาคม 2548 08:31 น. - comment id 533060
เฮ้อ วันหยุดแบบนี้ น่าไปเที่ยวจัง longweeken เสียด้วย วันนี้น่าจะมีคนมาเยี่ยมเยอะ หุ หุ หุ
22 ตุลาคม 2548 08:35 น. - comment id 533063
มีเด็กแหงนดูดาวดื่นพราวฟ้า มีสายลมพัดมาเพียงค่อยค่อย ต่างคนต่างมองฟ้าตาลอยลอย มายืนคอยเหมือนใครก็ไม่รู้ หากสักครั้งกลางหาวมีดาวร่วง จะกวาดปวงดารามาเรียงคู่ ร้อยเป็นแหวนกำไลให้พธู ห้อยต่างหูระยิบระยับยืนนับดาว
22 ตุลาคม 2548 09:29 น. - comment id 533076
เหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นนะ
22 ตุลาคม 2548 09:55 น. - comment id 533091
ในภวังค์นั่งคิดจิตใฝ่หา อัลมิตราหาใครในความหลัง จนเพ้อพร่ำคำไว้ในภวังค์ เหมือนว่ายังตรึงจิตสนิทใน แล้วชื่นชมดวงดาวสกาวเด่น บอกจันทร์เพ็ญสวยงามความสุกใส แต่ข้าเห็นในภวังค์คือบั้งไฟ ลอยขึ้นไปหาใช่ไฟดวงดาว.....อิ อิ อิ
22 ตุลาคม 2548 19:16 น. - comment id 533117
ในภวังค์ความหลังยังครุ่นคิด ยังผูกจิตตรึงใจไม่เสื่อมหาย แม้วันนี้ต้องเป็นผู้อยู่เดียวดาย คงมิคลายลืมภวังค์ฉากนั้นลง
22 ตุลาคม 2548 22:07 น. - comment id 533150
เศร้า แต่ ชอบ ..
22 ตุลาคม 2548 10:23 น. - comment id 533195
เออ..จำผิดน่ะยัยอัล..วันนั้น 8 ธค.44 จำได้ว่าปิด 3 วันแล้วครูบ้านท่าเยี่ยมเขาอดกลับบ้านเพราะต้องรอต้อนรับ (8-9-10 ปิดรัฐธรรมนูญ) แล้วนักท่องเที่ยวที่เขื่อนป่าสักก็เพียบบบบ
22 ตุลาคม 2548 10:34 น. - comment id 533199
ยังรำลึกถึงครับผม
22 ตุลาคม 2548 10:41 น. - comment id 533200
สายสัมพันธ์วันเก่าเฝ้าครุ่นคิด ด้วยตามติดจนลึกไปนึกฝัน สะกิดใจไขผ่านม่านแสงจันทร์ นึกถึงวันเก่าเก่าในเงาใจ สวัสดีค่ะน้องอัลมิตรา.. ทั้งชอบและชัง ถ้านึกถึงบ่อยๆก็จะติดตรึงใจมากเป็นธรรมดา..
22 ตุลาคม 2548 11:23 น. - comment id 533207
22 ตุลาคม 2548 12:04 น. - comment id 533218
อารมณ์นี้ เป็นอยู่บ่อยๆ เลยค่ะ
22 ตุลาคม 2548 12:06 น. - comment id 533219
คืนเดือนพราวราวสวาทพาดสู่ฝัน นึกย้อนวันพลันสะท้านหันหวนหา จำเนียรกาลผ่านวันกาลเวลา ดุจเมฆาปิดฉากกันสั้นเหลือเกิน รัชนีส่องท้องฟ้าพราวสกาวใส ดาวส่งประกายหนึ่งเดียวมิเลี้ยวเหิน เป็นเพื่อนคู่สู่จันทราคราหมองเมิน ระหกระเหินเดินอยู่แต่ผู้เดียว. บังอาจต่อกลอนยอดหญิงคงไม่ว่านะขอรับ แก้วประเสริฐ.
22 ตุลาคม 2548 12:55 น. - comment id 533232
อ้า ชอบๆๆ ชอบจังเลยพี่อิม โดนอะแบบว่าโดน
22 ตุลาคม 2548 18:06 น. - comment id 533282
....ไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้หรอกครับ อย่าพึ่งท้อไป..
28 ตุลาคม 2548 13:50 น. - comment id 535580
ทิวาสวัสดิ์ค่ะ คุณร้อยแปดพันเก้า .. ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา อัลมิตราพาตัวและหัวใจท่องเที่ยวไกลจนถึงประเทศพม่า แต่ก็ได้แวะพักผ่อนที่สะเมิงด้วยค่ะ โดยเฉพาะวันที่ ๒๓ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอยู่สะเมิง เนื่องจากติดภาระกิจบางอย่าง บรรยากาศที่สะเมิงเงียบสงบดีนะคะ อัลมิตราพักที่รีสอร์ทแถวนั้น ค่ำลงก็ก่อกองไฟ นั่งทานอาหารกัน ตรงนั้น มีความสุขกับสภาพที่เรียบง่าย และถึงแม้ว่าจะอัตคัตน้ำสะอาดอยู่สักหน่อย เนื่องจากทางรีสอร์ทใช้น้ำที่ไหลมาจากภูเขา ดังนั้น น้ำที่ไหลออกจากก๊อกจึงเป็นสีน้ำตาล เวลาอาบน้ำก็พอทนได้อยู่ แต่ตอนแปรงฟัน ล้างหน้า .. ต้องเอาน้ำดื่มมาใช้ค่ะ ประเทศอินเดียและประเทศจีน อัลมิตราก็ยังไม่เคยมีโอกาสไปเยือนเลยค่ะ และถ้าเป็นไปได้ อยากไปนครวัด นครธม มากกว่า แบบว่างบน้อย ไปไกลไม่ไหว .. ฮา .. ที่อินเดียเพื่อนของอัลมิตราที่ชื่อปุถุชน เรียกนายเชดีกว่าง่าย ๆ นายเช เรียนจบจากที่นั่น สาขาศาสนาเปรียบเทียบ ตอนแรก ๆ อัลมิตราล่ะ งง สาขาอะไรว้านายเช ไม่รู้จักอ่ะ นายเชเคยเอารูปมาให้ดูนะ แต่ละคนที่นั่น ตัวดำปี๋ อัลมิตราคิดว่า อัลมิตราคงจำหน้าใครไม่ได้แน่เลยค่ะ กระทั่งรูปของนายเชเอง อัลมิตราล่ะส่องตั้งนานยังไม่แน่ใจเลยว่า ชี้แล้วถูกคน ส่วนประเทศจีน เจ้านายเพิ่งกลับจากการไปเที่ยวมาค่ะ ขนมของฝากยังอยู่บนโต๊ะของอัลมิตราเนี่ย ว่าแล้ว ต้องหม่ำซะหน่อย ..กิ..กิ.. เรื่องไปต่างประเทศ เคยอยู่ในความคิดของอัลมิตรานะ แต่ทำไปทำมา นับวัน ความอยากไป ก็ยิ่งถดถอยลงทุกที ที่เมืองไทย ยังมีอีกหลายที่ ที่อัลมิตราอยากไปอยู่แบบว่านาน ๆ ไม่ใช่แค่เพียงแวะผ่าน อย่างหัวยน้ำดังที่เชียงใหม่ เคยผ่านแว๊ปเดียวนะ หมอกคลุมเต็มไปหมด มองจากภูเขาเห็นเป็นทะเลหมอก แค่นึกแล้วไม่อยากอาบน้ำแฮะ คงจะหนาวน่าดูเลย ฮา .. ที่สะเมิงนี่ เครื่องทำน้ำอุ่นเสีย น้ำก็ขุ่น อัลมิตราล่ะไม่ได้ถูขี้ไคลเลย เพิ่งมาลอกขี้ไคลออกตอนกลับถึงบ้านที่กรุงเทพฯ ได้ตั้งหลายกิโลแน่ะ ( เชื่อป่ะ ) เมื่อคืนย่องไปดู กบฏท้าวศรีสุดาจัน มาด้วยค่ะ เนื้อเรื่องต่างจากที่เคยรับรู้มาจากพงศาวดาร แต่เขาก็จั่วหัวไว้ก่อนแล้วว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต่อเติมขึ้นเอง ฉากสวยนะ แต่ก็ไม่ตระการตาเท่าสุริโยทัย ว่าไปแล้ว คะแนนที่จะให้ ยังห่างชั้นจากสุริโยทัยนักค่ะ ภาพยนตร์เรื่องนี้ตัวเดินเรื่องอยู่ที่ชาวโปรตุเกส ที่เป็นทหารองค์รักษ์ของพระชัยราชา หลายฉากดูแล้วขัดตา ตัวอย่าง ฉากที่พระเอกชาวโปรตุเกส พูดภาษาอังกฤษกับนายทอง ซึ่งเป็นชาวนา คุยกันรู้เรื่องแฮะ ชาวนาในสมัยนั้นเก่งจัง ฟังฝรั่งปร๋อ หนำซ้ำหญิงชราคนปรุงยาพิษ ก็ยังฟังฝรั่งออกด้วย โอย .. คาดไม่ถึง อะไรจะเป็นไปได้ขนาดนั้น แต่ถ้าจะมองในมุมของคนต่างชาติ (ผู้ร่วมทุนเป็นคนต่างชาตินี่นา) ภาพยนตร์เรื่องนี้นับว่าคุ้ม ที่พวกเขาจะได้เห็นวิถีชีวิตอย่างไทย ถึงแม้ว่าบางฉากขัดตาขัดใจจัง ( อัลมิตราขี้บ่นเนอะ..) เอาน่า คุณอาจจะชอบก็ได้นะคะ วกกลับมาอีกรอบเรื่องแกงกะหรี่แพะ ตะก่อนอัลมิตราก็ไม่เคยทานเนื้อแพะนะคะ เพิ่งจะทานเมื่อปีสองปีนี่เอง ครูที่สอนภาษาอรับพาไปทานค่ะ เขาเป็นมุสลิม ( แต่อัลมิตราเป็นพุทธศาสนิกชน) ร้านอาหารที่แวะทานข้าว ก็จะมีเนื้อแพะ เนื้อวัว เนื้อไก่ ด้วยความที่อัลมิตราไม่ทานเนื้อวัว และไก่ก็ยังเป็นโรคจามฮัดเช้ยอยู่ .. เมนูเนื้อแพะ จึงเป็นอาหารที่สั่งมาทานอยู่เนือง ๆ ค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ได้เรียนภาษาอรับแล้ว คงไม่ได้ทานเนื้อแพะอีก .. อดเลย ๕๕๕ สำหรับคุณก่อพงษ์ ..แฮ่ม ! อัลมิตราคงได้พบเขาในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ข่าวว่าคุณก่อพงษ์จะเอาอุมาฝากอัลมิตรา อัลมิตราจะเอามาหมักผม ( ใช้แทนเบียร์ได้ป่าวคะ) ตอนนี้ต้องเร่งออกกำลังกาย เผื่อว่าจะมีการแข่งวิ่งขึ้นเขาพระวิหาร ระหว่างหนุ่มเฒ่า-สาวชรา งานนี้ยาดมคงขายดีค่ะ ต้องรีบปั่นงานอีกแล้ว ค่ำนี้จะมีอาคันตุกะจากแดนอิสานมาเยือนบ้าน ไว้จะมาโม้ให้ฟังค่ะ คุณอย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคะ หนาวแล้วต้องจิบชาอุ่น ๆ เจ้าตัวเล็กเขาจะชอบอาบน้ำเย็นมั๊ย ต้องเป่าให้ขนเขาแห้งด้วยนะ เขาคงจะหนาว .. บายค่ะ ไว้เจอกันน๊า มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
27 ตุลาคม 2548 08:46 น. - comment id 536864
สวัสดีครับ คุณอิม หายหัวไปหลายวัน ตั้งสติก่อนแล้วจะหาเวลามาคุยด้วยนะครับ คุณอิมสบายดีนะครับ มองหาไม่เห็นเขียนกลอน เดาเอาว่าคงงานเยอะ ช่วงนี้ดูหนังเยอะ มีแต่หนังชื่นชมผู้หญิงทั้งนั้น ตั้งแต่ โจน ออฟ อาร์ค /แมรี่ ไบรอัน และอีกหลายเรื่อง ไว้จะมาคุยด้วยนะ ไม่ทราบไปดูหนังเรื่องเพื่อนสนิทหรือยังครับ เพราะที่นี่ เพื่อนคุณอิมทั้งนั้นเลย มาถ่ายทำที่เชียงใหม่ด้วยนี่นา อ่างขางเย็นมากแล้วนะ หมอกกำลังดี ละอองฝนบางๆ ดอกบัวตองกำลังเป็นดอกตูมๆ หนาวกว่านี้คงบานชูดอกเหลืองทองเต็มสองข้างทาง ทำงานให้มีความสุขนะครับ
27 ตุลาคม 2548 10:43 น. - comment id 536900
ทิวาสวัสดิ์ค่ะ คุณร้อยแปดพันเก้า .. ที่พิงคนคร เดือนหน้าก็เริ่มเทศกาลติด ๆ กันถึงสองช่วง น่าสนใจทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลอาหารและถัดไปคือเทศกาลลอยโคมยี่เป็ง ..ว๊าว อัลมิตราเคยอ่านกลอนของลุงที่เขียนเกี่ยวกับเทศกาลลอยโคม ได้แต่นึกภาพตามค่ะ แต่ก็ไม่เคยเห็นของจริงสักที เป็นความตั้งใจเหมือนกันว่า จะหาโอกาสดีๆให้ตัวเองสักครั้ง คิดว่างานลอยโคมคงอลังการนะคะ อัลมิตรายังด้อยประสบการณ์ น้อยนักที่ได้รู้ได้เห็นสิ่งเหล่านี้ ทีนี้เรามาคุยกันถึงภาพยนตร์กันดีกว่า .. เริ่มต้นวันนี้สนใจอยู่สองเรื่องนะคะ Flightplan ที่โจดี้ ฟอสเตอร์ แสดงนำ และ กบฏท้าวศรีสุดาจัน หนังฟอร์มใหญ่ใช้ทุนกว่าสองร้อยล้าน แต่ถ้าจะถามอัลมิตราว่า อัลมิตรารอภาพยนตร์เรื่องใดอยู่ ..แฮ่ม ! ตอบแบบไม่อายค่ะ รอ Harry Potter and the Goblet of Fire ภาค ๔ ถ้วยอัคนี .. ภาคนี้มีฉากน่าตื่นตาตื่นใจมากเชียว ได้อ่านจากหนังสือนานแล้ว ทีนี้ก็เหลือรอดูภาพยนตร์ ว่าจะซื้อซีดีด้วยเผื่อว่าจะได้ดูอีกหลาย ๆ รอบค่ะ ที่เชียงใหม่อากาศเริ่มเย็นแล้ว แต่ช่วงกลางวันยังคงร้อนอยู่ เสาร์ที่ผ่านมาตอนเครื่องบินจะจอดลง กัปตันรายงานสภาพอากาศว่า อุณหภูมิในตอนนั้น (เกือบบ่ายสอง) อยู่ที่ 31 องศาเซลเซียล บนดอย อากาศร่มรื่นนะคะ ยังมีหมอกปกคลุมอยู่ ช่วงค่ำเป็นต้นไป ลมหนาวพัดมาแผ่ว ๆ อัลมิตราก่อกองไฟ และนึกคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย .. สามค่ำคืน กับกองไฟ ตรงหน้า ทำให้อัลมิตราได้รับความรู้สึกที่ดี เหมือนได้พักผ่อนจริง ๆ .. ไว้จะเขียนให้อ่านค่ะ ลืมหัวใจ..ไว้ที่สะเมิง มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..