การเวกเสียงหวาน สำเนียงแจ้วแว่วหวานปานน้ำผึ้ง ติดตราตรึงสุดซึ้งรำพึงหวน ถึงหญิงสองตรองคิดใฝ่คำนวณ สะท้านห้วงบ่วงลึกตรึกความนัย หนึ่งนั้นหรือคือหญิงสิ่งวัยรุ่น ที่หอมกรุ่นอบอวลล้วนความไสว จริตก้านหว่านล้อมน้อมหทัย ร่างซุกไซร้น่ารักพักใจพิง อีกหนึ่งเล่าเฝ้าพิศจิตแจ่มใส สะท้านใจไหวหวั่นกระบวนหญิง หวานชดช้อยร้อยหวานซ่านใจจริง เลอเลิศยิ่งในทุกสิ่งควรอิงปอง การจับปลาสองมือคือสิ่งห้าม จะลุกลามดุจไฟจะไหม้สนอง จะละหนึ่งพึงคิดติดใจปอง กลัวหนึ่งน้องต้องสลายให้เสียดาย พะวักพะวงปลงใจมิอาจใฝ่ แสนเสียดายหากร้างจิตจางสลาย หัวใจวุ่นครุ่นคิดแทบวางวาย โอ้ไฉนใยจึงเป็นดังเช่นนี้ เหมือนฟ้าฟาดบาดหมางสุดจางเศร้า สร้างปวดร้าวเฝ้าตรมมิเกษมศรี โน่นก็รักนี่ก็รักไม่เปรมปรีดิ์ สุดช้ำฤดีที่กระทำยากนำทาง ยิ่งรำพึงตรึงคิดจิตยิ่งหมาง มิกระจ่างสร้างใจมิสล้าง ฝันที่คิดติดไว้ใจจืดจาง ครั้งหนึ่งวางหรรษาพาให้จำ หากรำพึงถึงคำจำพระสอน ให้ลิดรอนริษยาพาเลิศล้ำ ทิ้งทุกสิ่งหันหน้าใฝ่พึงนำ เอาพระธรรมกอบกู้สู่ทางเดิน มาร่วมเรียงเคียงหน้าพาสู่รัก บ้านพำนักจักพาให้ได้สรรเสริญ มาร่วมเรียงเคียงบาตรจัดสิ่งเจริญ เข้าเผชิญกอบกู้สู่ความงาม สิ่งทั้งหลายทิ้งไปให้ลาลับ อย่าหวนจับคำมานะงามขำ นึกถึงสิ่งสดใสไว้ให้จดจำ นึกถึงคำสัญญาคราร่วมเรียง แสนเสียดายซ้ายขวาในครานี้ แสนเสียดายชีวีที่ทอดเสียง แสนเสียดายในรสจรดเคียง แสนเสียดายน้ำเสียงพึงใฝ่ครอง กลับเถิดหนางามงอนพี่วอนเจ้า มาโรมเร้าเฝ้าคำนึงถึงสิ่งสนอง บ้านของเราใครเล่าควรเฝ้าปอง โปรดจงมองสิ่งพำนักเคยพักพิง สำเนียงแจ้วแว่วหวานปานการเวก อนุเฉกชัชวาลซ่านล้ำยิ่ง เป็นที่อาศัยฝูงนกหมดจดจริง เกินกว่าสิ่งใดใดไร้เทียมทาน น้ำตาชายไหลลงตรงทรวงอก วิ่งวนวกในใจสุดจะกร้าน ช่างตอกย้ำซ้ำตรมสุดร้าวราน จำเนียรกาลความหวานใยไม่มา ขอเถิดนะคนดีพี่ขอเจ้า สองเคยเฝ้าร่วมเรียงเคียงหรรษา มาร่วมสู่คูหารักเพื่อนำพา สร้างบ้านนาให้เกริกก้องมิรองแมน. * แก้วประเสริฐ. *
19 ตุลาคม 2548 12:19 น. - comment id 528149
หวานจังเลยค่ะ
19 ตุลาคม 2548 13:44 น. - comment id 528169
มีโอกาสได้อ่านงานหวานๆ ... สวัสดีครับ
19 ตุลาคม 2548 00:40 น. - comment id 528541
คุณ พุด สาวงามแห่งพงไพร สวรรค์สร้างร้างไว้หวนให้ถวิล จะโรยรินกลิ่นพฤษามาถนอม ในขอบเขตห้วงรักควรจักออม อย่าริดรอมในรักจนหักไป ในโลกนี้มีอะไรในแก่นแท้ ที่แน่แน่สูญสิ้นยากผลักไส เพราะทิฏฐิมานะนำพาไป จึงได้ไร้ปัญญามานำทาง การอภัยมีไว้ให้คนกระทำ คิดว่าล้ำเกินกว่าใครจะสะสาง หากปัญหาคงไว้ไม่ละวาง ย่อมจะสร้างอารมณ์มิสมปอง ทั้งสองทางเข้าสู้ประตูสร้าง มิละร้างวางกำหนดกฏสนอง อะไรเล่าคือสิ่งที่หมายปอง ยามตายลองคิดดูอดสูใจ สิ่งทั้งหลายคือเหตุอวิชชา ด้วยปัญญาหลงมัวเมาเอาใจใส่ มิคิดหรือว่าตัวเราที่ผ่านไป คืออะไรที่จะได้มาใฝ่ครอง อีกลาภยศเกียรติหาใช่เหตุ ผิวปริเฉทดั่งเช่นสิ่งสนอง ยามหมกมุ่นอยู่ที่ใจตรึกตรอง แก่เฒ่าลองจะได้อะไรมา อันชื่อเสียงเกียรติยศมักหมกหมุ่น รุกเร้ากรุ่นครุ่นคิดติดแล้วหนา ถือว่าตนเป็นใหญ่ไม่นำพา ใครจะมาสร้างไว้ไม่ฟังคำ อันอีกหนึ่งพึงคิดจิตถูกผิด มิได้คิดเราถูกผูกเสกซ้ำ ข้าก็หนึ่งพึงมีจะได้ทำ กล่าวลำนำคำไว้จนได้ความ เกิดปัญหาซุกซ่อนดุจซ่อนเงื่อน จนเลอะเลือนเหมือนไม่ให้เกรงขาม ข้าก็หนึ่งเจ้าก็หนึ่งจึงลวนลาม เกิดถ้อยความนำสู่กระทู้ใจ พุทธองค์ทรงไว้ในคำถ้อย เรียงเรียงร้อยถ้อยคำอย่าฝันใฝ่ อนิจจังวังวนย่อมเปลี่ยนไป จงวางไว้ด้วยใจและปัญญา อันนี้หนอขอผู้พระหูสูตร ที่เลิศรุดปัญญาอย่ากังขา โกรธเกลียดชังขังขอบคือปัญญา ที่จะมาสร้างเสริมเติมทั้งปวง หยุดเถิดนะอย่าคิดว่าตัวเก่ง เป็นนักเลงนำพาข้าจากสรวง ล่วงละเมิดหัวใจในทุกดวง จะเป็นบ่วงของมารซ่านอารมณ์ แด่ยอดหญิงมิ่งมิตรที่คิดสรรค์ เฉิดจำนรรค์สรรค์สร้างวางสู่สม ผมเป็นกลางวางไว้ใจยังตรม ยากแก้ปมขมขื่นมิรื่นใจ. แก้วประเสริฐ.
18 ตุลาคม 2548 22:55 น. - comment id 528668
มาฟังเสียงหวานและอ่านบทกลอนค่ะคุณแก้วประเสริฐ ขอบพระคุณมากนะคะที่แวะไปอ่านงานที่บ้านโน้นเสมอ...น้องกิ๊ฟฝากขอบคุณมากด้วยค่ะ
18 ตุลาคม 2548 11:49 น. - comment id 528810
คุณ ddd ขอขอบพระคุณที่ส่งข้อความมาให้อ่านนะครับ ต้องประทานอภัยโทษอย่างสูง ผมจำเป็นต้องลบทิ้งไปครับ เพราะเหตุว่าผมไม่ต้องการให้บ้านผมนี้ขาดความสามัคคี ให้เป็นบ้านแห่งความสุขสันต์ตลอดไปครับ สิ่งใดๆผมไม่ต้องการเกี่ยวข้องและนำเอามาสร้างมลทินแก่จิตใจผมครับ ต้องขอโทษเป็นอย่างสูงด้วย บ้านผมต้องเป็นบ้าน ที่สดใส สะอาดด้วยรสพระธรรมครับ อภัยกันเถอะครับ เพราะชีวิตคนเรานั้นนะไม่ช้าก็ต้องตายแล้ว จะเอาอะไรแน่นอน สู้หันหน้าสู่ความรักกัน พึงพาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หาสิ่งสดใสให้แก่กันมิดีกว่าหรือครับ ขอขอบคุณ และขอโทษเป็นอย่างสูงนะครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 ตุลาคม 2548 18:33 น. - comment id 529206
คุณ อัลมิตรา อย่างไรผมก็ไม่รู้เคยได้ยินคุณพ่อคุณแม่เล่าตลอดคนเฒ่าคนแก่ว่า นกการเวกจะร้องตอนดึกๆเสียก้องกังวานไพเราะครับ ผมเองอายุปูนนี้แล้วไม่เคยได้ยินกลางคืนสักที แต่ที่บ้านเลี้ยงไว้หนึ่งตัวจะใช่หรือเปล่าไม่แน่ใจ คนขายเขาบอก ฟังไม่เห็นไพเราะเลยล่ะ นานๆจะร้องสักทีครับ บินหลาดงไม่มีวันลืมขมิ้นน้อยได้หรอกครับ เป็นความสุขที่ยากจะลืมเลือน ขอบคุณมากนะครับยอดหญิง แก้วประเสริฐ
19 ตุลาคม 2548 18:35 น. - comment id 529208
คุณ แทนคุณแทนไท ขอบคุณมากครับ นานๆได้เจอกันสักทีนะครับ คุณคงไม่ว่างนะครับ ขอบคุณสวัสดีครับ แก้วประเสริฐ.
18 ตุลาคม 2548 21:20 น. - comment id 529806
หวานอีกแล้ว อ่านแล้วแอบอมยิ้มไม่ได้ แต่ก็แฝงความเศร้านิดๆ
19 ตุลาคม 2548 00:54 น. - comment id 530269
คุณ พุด สาวงามแห่งพงไพร ขอบคุณครับผมไม่ใช่เหมือนเพลงหรอกครับ แต่ตั้งแต่เล็กถูกถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้มาพอสมควร และใฝ่คว้าหาสิ่งที่แท้จริงจึงยืนหยัด ว่าเราทำถูกแล้ว จึงได้กระทำไปครับและจะกระทำจนชีพนี้จะวายปราณ ปกติแล้วผมจะถือสมถนิ่งเฉยๆไว้เสมอๆ แต่คนเราย่อมผิดพลาดได้เพราะยังไม่ได้อรหันต์ครับ ยังไม่พ้นโลกีย์วิสัยจึงดำเนินไปซึ่ง เขาห้ามหนักหนา อย่ายุ่งเกี่ยวจะทำให้จิตใจเราหมองเศร้าครับ เพราะรักในเวปฯนี้ซึ่งทำให้ผมสบายใจครับ ขอบคุณยอดหญิงสาวงามแห่งพงไพร งานคุณนับวันจะใกล้เข้าถึงสิ่งที่คุณปราถนา ทุกขณะขออวยพระด้วยหัวใจครับ บางสิ่ง บางอย่างการกระทำแม้จะด้วยใจแต่ควรฝังไว้ ด้วยจินตนาการด้วยนะครับ ผมเองรักคุณจึงพูดได้แค่นี้ครับ ผมเองยังไม่เก่ง รอวันจะจากไปครับ ขอบคุณมากครับ รักคุณเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 ตุลาคม 2548 00:58 น. - comment id 530271
คุณ ลมรำเพย ด้วยหัวใจผมเองเศร้ามากครับ แต่ก็วางไว้ในสิ่งที่ควร เพราะสิ่งหนึ่งที่ควรคิดควรทำเกิดผิดพลาดไปครับ ช่างเถอะ พายุร้ายพัดผ่านย่อมเกิดความสงบขึ้นวันใดวันหนึ่ง แม้นจะสูญสิ้นบางสิงบางอย่างไปครับ ขอบคุณมากครับเพื่อนที่แสนดี รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 ตุลาคม 2548 01:06 น. - comment id 530275
คุณ พี่ดอกแก้ว บ้านนี้เป็นบ้านที่ผมรักมากบ้านหนึ่ง รักมากแต่เป็นบ้านแห่งธรรมที่สร้างสรรค์ชีวิตให้ผ่องใส ยากยิ่งคนจะเข้าใจและซึ้งในรสพระธรรมของพระพุทธองค์ ผมเคยทดลองแล้วครับ ผล เพียงแค่ สองหรือสามเปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ช่างเถอะ เพชรก็คือเพชรตกที่ไหนก็คือเพชรย่อมส่งประกายเสมอ หาใช่สิ่งจอมปลอมใดทั้งสิ้น ฝากบอกคุณกิ๊ฟด้วยนะครับผมเองรักและศรัทธา ในการกระทำของคุณ กิ๊ฟ เสมอมา คนอย่างผมพูดสิ่งใดย่อมไม่ลืมหรอกครับ ขอบคุณมากครับ แล้วผมจะแต่งกลอนที่ขี่เหร่ส่งไปนะครับ หวังว่าคงจะทำความรำคาญนะครับขอบคุณครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 ตุลาคม 2548 03:30 น. - comment id 530295
ลุงแก้วจ๋า แวะมาเยี่ยมบ้านลุงแก้วเอาตอนตีสามครึ่ง มายิ้มให้ด้วยนะคะ แต่มะไหวแล้วค่ะ ตาจะปิด หาวแล้ว หาวอีก หากแต่ก็เดินโซเซมาถึงบ้านลุงแก้วจนได้ค่ะ อ่านกลอนลุงแก้วจบตาปิดพอดีเจ้าค่ะ มัดหมี่ไปนอนก่อนค่ะ รับเรื่องเย็น ๆ ไปนอนฝันดีกว่าค่ะ คิดถึงลุงแก้วเสมอค่ะ
19 ตุลาคม 2548 08:52 น. - comment id 530322
มาอ่านกลอนครับ
19 ตุลาคม 2548 13:32 น. - comment id 530340
คุณ sunstrom โอโฮ...นอนดึกจังระวังสนุขภาพด้วยนะครับ แต่ว่ายังหนุ่มสาวคงไม่เท่าไหร่ แต่จะทำให้หน้าเหี่ยวนะ ขอบใจที่ยิ้มให้จ๊ะ อิอิ ลุงก็ยิ้มตอบตอนนี้นะ คิดถึงเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 ตุลาคม 2548 13:33 น. - comment id 530341
คุณ ร้อยแปดพันเก้า ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
19 ตุลาคม 2548 13:35 น. - comment id 530343
คุณ forever-you ขอบคุณมากครับผมแต่งไปแต่งมาไม่รู้ว่าหวาน ไปได้อย่างไร ผมเองก็งงเหมือนกันครับ แก้วประเสริฐ.
19 ตุลาคม 2548 13:40 น. - comment id 530344
เอก อี เอีก เอ๊ก ... เสียงนกการเวก ร้องอย่างไรหนอ ...แบบนี้เปล่าคะ ฮา .. นึกถึง ..บินหลาดง และนกขมิ้นน้อย .. บทเริ่มต้นแห่งความสุข จะยังคงเป็นเช่นนั้นค่ะ คุณแก้วประเสริฐ
18 ตุลาคม 2548 14:10 น. - comment id 532109
คุณ.... ขอบพระคุณมากครับ ผมได้อ่านแล้วพิจารณาแล้ว แม้ว่าผมเองจะไม่รักใครไปมากกว่า คำว่า \" เพื่อน\" หากมาดแม้นผมนำข้อความที่กรุณาส่งมาให้ผมอ่านนั้นคงไว้ ก็จะทำให้ผมไม่เป็นกลางไปในทันที ยิ่งเพิ่อความ ร้าวฉานมากยิ่งขึ้นไปอีก บอกตรงๆผมรักทั้งสองฝ่ายไม่น้อยกว่าใครเลย ผมมานั่งคิดนอนคิดไตร่ตรองซึ่งเหตุผลแล้ว รับฟังทั้งสองฝ่ายพอทราบเป็นนัยๆแต่ก็เถอะ ผมสรุปได้ว่าควรจะอยู่กึ่งกลางนั่นแหละดี แม้แต่ลูกเอมผม ผมก็ยังปรามไว้ไม่ให้ยุ่งเกี่ยว ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็ยังเป็นเพื่อนผมอยู่เสมอๆ มองหน้าได้ทั้งสองฝ่ายครับ จึงต้องขออภัยไว้อีกครั้งหนึ่งครับ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร เวรย่อมนำผลเสมอแก่ผู้ก่อเวร เวรย่อมสิ้นสุดหากอภัยไม่ต่อเนื่องแวร ตัณหา ราคะ ทิฏฐิมานะ ไม่ละเสียซึ่งคนไม่ลดละ อะไรดีชั่วย่อมเกิดจากใจ อะไรดีชั่วย่อมรู้แก่ใจ อะไรดีชั่วหากอยู่ตรงกลางย่อมมองเห็นฉะนี้แลครับ ขอขอบคุณยิ่งครับ หวังว่าคงให้อภัยผมด้วยที่บังอาจลบข้อความทิ้งไปเสีย เพราะมิอยากให้เกิดรอยร้าวฉานต่อไปครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
18 ตุลาคม 2548 16:59 น. - comment id 532474
ฝนกำลังพรำสายพรายพลิ้วนะคะ ใจดวงรักงามสงบกำลังรอฝนหยุดค่ะ ทุกดวงใจ เลยลองนอนนิ่งๆค่ะ ฟังเสียงสายฝนพร่างในท่ามงามเงียบ แห่งสรรพสิ่งค่ะ นิ่งฟังเสียงสายฝนสายสวรรค์ค่ะ และ น้อมรำลึกนึกถึงภาพพระพุทธไสยาสน์ ในหอมห้วงแห่งดวงจิตค่ะ ให้.. เกิดทิพยนิรมิตไสว พร่างสว่างราวมีอัญมณีจรัสแจ่มสว่าง อยู่ณ..ภายใน ใจดวงใสดวงงาม ของเราเองค่ะ สุขในความงามเงียบ เรียบง่ายไร้วายวุ่นรับผัสสะใด ผัสสะอันร้อนรนใจค่ะ เพียงเพียรวางว่าง สร้างรอยบุญกรุ่นหอม แล้วน้อมพลีอธิษฐานจิต ภาวนาให้ทุกมิ่งมิตรในเรือนใจ ได้ค้นพบ ความงามใจแบบคนกวี ที่จักมีเพียงพลีน้ำใจรักแด่กัน อย่างฉันท์คนที่พากันมาเอื้อฝันโอบไหล่ ในถนนสายดอกไม้งาม ใช่.. หาเรื่องรานร้าวเศร้าหมอง ให้ครองใจนานนะคะ พุดรักคนดีทุกคนค่ะ ด้วยกมลปรารถนาดีอย่างจริงใจ หวังก่อเกื้อเมตตาอภัย และหันหน้ามาปรองดอง ครองสุขไปพร้อมกันนะคะ ทุกคนดีที่พุดไพรและใจสาวนา แสนใสชื่อแสนรักค่ะ
18 ตุลาคม 2548 17:01 น. - comment id 532595
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song72.html หนึ่งในร้อย ...นิตยา บุญสูงเนิน พราว แพรว อันดวงแก้วแวว-วาว สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม นิล-กาฬ มุกดา บุษรา คัมคม น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี ผ่อง แผ้วสดสีเพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง ความ ดี คนเรานี่ ดีใด ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน รู้ กลืน กล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง...