ใครสักคน ... ยลกระจกสะทกจิต โอ้คงผิดกระจกปดความสดใส หน้าหม่นหมองของฉันนั่นหรือไร กระจกคงหลอกไว้ให้ใจตรม ใครคนนั้น ... พลันทุบกระจกทิ้ง คงไม่ใช่ความจริงสิ่งขื่นขม แล้วควานหากระจกใหม่ให้ตนชม เพื่อจะข่มกระจกเก่าที่ร้าวไป กระจกใหม่ ... ใสใสได้แจ่มแจ้ง ใจยังแย้งไยหมองหม่นจนหวั่นไหว ทุบกระจกอีกครั้งยังหวังใจ กระจกใหม่คงคืนความชื่นชม ทุบกระจกหลายอันพลันร้าวแตก ดวงใจแหลกกระจายเจ็บหนักขม ส่องกระจกบานไหนใจยังตรม ทุกกระจกล้วนข่มสะสมร้าว กระจกใหม่กี่ใบได้ทิ้งแล้ว ใบหน้ายังส่อแววหมองเกินกล่าว ไขความจริง ... อิงซ่อนวอนเรื่องราว อ้อนกระจกช่วยล้างคาวทุกคราวไป กระจกคงลงความเห็นเป็นความจริง ใจยังวิ่งวุ่นวายคล้ายหวั่นไหว โทษกระจกหรือปรับตน ... ยามจนใจ จึงผ่องใสโดยแท้ ... แค่ตัวตน ใครคนหนึ่ง ... เริ่มซึ้งค่าคุณกระจก หวั่นสะทกแล้วแก้ไขไม่สับสน ริ้วรอยย่นปนแปลกแยกอดทน ค่อยค่อยค้นคิดแก้และป้องกัน ใครคนนั้น ... วันนี้จึงมีหวัง พอประทังพัฒนากว่าถึงฝัน มีชีวิตจิตจ่อต่อปัจจุบัน พร้อมสร้างสรรค์แก้ไขในสิ่งจริง.
10 ตุลาคม 2548 10:48 น. - comment id 525511
..๏ มาดของเขาเหี้ยมโหดดูโฉดชั่ว ใครพบเห็นก็กลัวจนตัวสั่น แถมปากคอเราะรายคล้ายดุดัน มีนามแฝงถูกกล่าวขวัญแสนจัญไร เขาอีกคนแอบแฝงแสร้งใสซื่อ ด้วยหวังซื้อศรัทธาหามิตรได้ ทุกรอยยิ้มริมปากฤๅจากใจ เบื้องหลังถือดาบใหญ่ไล่ทิ่มแทง เธอคนนั้นวาจาขวานผ่าซาก แต่เอ่ยปากคือเปิดใจไม่เสแสร้ง รักหรือเกลียดก็กล้ามาแจกแจง เรื่องกลั่นแกล้งตอแหลแม่ไม่มี นั่นอีกคนงามพักตร์ดูพรักพร้อม หากจำแนกแปลกปลอมดั่งย้อมสี ภาพตรงหน้าที่เห็นเช่นผู้ดี แท้เบื้องลึกอัปรีย์นี่แหละเธอ ภาพเบื้องหน้าปิดบังเบื้องหลังไหม ? สร้างภาพหรือจริงใจอะไรเสนอ ? อาจปะปนจนเปรอะให้เจอะเจอ อย่าด่วนเผลอเชื่อภาพที่ฉาบลวง ๚ะ๛ กระจกเงา.. บางทีส่องให้เห็นได้เฉพาะเบื้องหน้า แต่ไม่อาจลึกซึ้งถึงเบื้องหลัง หลายคนพอใจที่จะให้ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้างดงาม แต่ ขณะเดียวกันก็ไม่กำจัดด้านร้ายที่ซุกอยู่ในตัวตน กลอนชุด เบื้องหน้า-เบื้องลึก เคยลงกระทู้ไปหลายวันก่อน มีคำหนึ่งที่อัลมิตราผ่านตาอย่างบังเอิญ จำไม่ได้เวปไหน คือ..คำว่า .. สัจธรรม - สัตว์จะทำ ความหมายช่างคล้ายกับเบื้องหน้า - เบื้องลึก จึงทำให้กลับไปย้อนอ่านเก่าของตนเองอีกหน ใกล้จะถึงเวลาที่เงื่อนจะถูกคลายปมด้วยวาระแห่งกรรม :) เกือบลืมทิวาสวัสดิ์ วันนี้เริ่มต้นงานที่ค่อนข้างวุ่นเล็กน้อย แต่ทั้งหมดจะคลี่คลายไปด้วยดี มีความสุขกับงานนะคะ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
10 ตุลาคม 2548 11:57 น. - comment id 525540
กระจกวิเศษบอกข้าเถิดใครงามเลิศในปฐพี นึกถึงนิทานเรื่องสโนว์ไวซ์ แต่เรื่องนี้มีสอดแทรกคติคำสอนไว้เยอะมากๆจ๊ะ ขอบคุณนะคะกระจกวิเศษ
10 ตุลาคม 2548 12:33 น. - comment id 525555
วันนี้ข้าพเจ้ามาเจอแต่กลอนคารมณ์คมความคิด แต่หัววันเลย ทั้งกลอนเจ๊แดดคนเก่ง กับกลอนคุณอิมคนแกร่ง ให้แง่คิด อะไรมากมายเชียว เป็นการแนะนำที่ดีมากๆค่ะ
10 ตุลาคม 2548 12:58 น. - comment id 525576
กระจกวิเศษจงบอกข้าเถิดใครงามเลิศในบ้านกลอนไทย...อิอิ... วันนี้ไม่ได้มาบินอย่างเดียวนะ...หวัดดีตอนเที่ยงหลังหม่ำเสร็จครับผม...
10 ตุลาคม 2548 15:56 น. - comment id 525648
ใครสักคน คน ๆ นั้นท่านหรือเปล่า ท่านแดดเช้าเฝ้าส่องคันฉ่องใส ส่องไปแล้วให้หม่นขัดข้องใจ ส่องเท่าไหร่ตอกย้ำช้ำใจตรม โอ้กระจกวิเศษบอกข้าเถิด ทำไมข้าจึงเกิดจิตสับสน ส่องเท่าไหร่ให้ดูว่าหมองหม่น แสนทุกข์ทนทรมานร้าวรานใจ กระจกตอบหากใช้ตามาเพ่งพิจ ตามจริตมองแล้วจริงแท้ไม่ ใช้ใจมองส่องลึกถึงข้างใน อาจส่องได้ความจริงไม่หลอกลวง
10 ตุลาคม 2548 20:25 น. - comment id 525654
น้องคนนนี้มาอ่านด้วยอาการมึนๆเนื่องจากยังไม่หายไข้หวัด แต่ก็พอจะซึ้งและเข้าใจในความหมายของกลอนนี้แบบมึนๆ คิคิคิ น้องจะลองใช้กระจกเงานี้ส่องน้องบ้างนะคะ
10 ตุลาคม 2548 19:38 น. - comment id 525688
ในห้วงลึกตรึกไว้ไม่เลือนลาง ความบอบบางของหนึ่งสิ่งอิงแอบไว้ แทรกซึมซับเข้าสู่กระแสใจ กลายเป็นฝันฉากใหญ่ให้ชวนตรอง เงาอดีตขีดรอยให้ถอยหลัง บางครั้งรั้งใจเศร้าให้เราหมอง บางคราวเพิ่มแรงใจให้ใฝ่ปอง จึงครอบครองไหวหวั่น...ไม่มั่นใจ กลายกระแสแผ่อำนาจให้ขาดรู้ เมื่อหมกอยู่กับสิ่งที่น่าหลงใหล หรือกับสิ่งเจ็บร้าวที่ภายใน สูญเสียใจ...ไร้สติริปัญญา มาอ่านงานดีๆค่ะ
10 ตุลาคม 2548 23:43 น. - comment id 525778
มาส่องกระจกด้วยคน... อย่าทุบอีกล่ะ..!!!
24 พฤศจิกายน 2551 16:31 น. - comment id 917191
ใครสักคน ... ยลกระจกสะทกจิต โอ้คงผิด ฉันถูกปด ความสดใส หน้าหม่นหมองของฉันนั่นหรือไร กระจกคงหลอกไว้ให้ใจตรม ใครคนนั้น ... พลันทุบกระจกทิ้ง คงไม่ใช่ความจริงสิ่งขื่นขม แล้วควานหากระจกใหม่ให้ตนชม เพื่อจะข่มกระจกเก่าที่ร้าวไป กระจกใหม่ ... ใสใสได้แจ่มแจ้ง ใจยังแย้งไยหมองหม่นจนหวั่นไหว ทุบกระจกอีกครั้งยังหวังใจ กระจกใหม่คงคืนความชื่นชม ทุบกระจกหลายอันพลันร้าวแตก ดวงใจแหลกกระจายเจ็บแสนขม ส่องกระจกบานไหนใจยังตรม ทุกกระจกล้วนขู่ข่ม .. สะสมร้าว กระจกใหม่กี่ใบได้ทิ้งแล้ว ยังส่อแววหม่นหมอง มากเกินกล่าว ไขความจริง ... อิงซ่อน วอนเรื่องราว อ้อนกระจกช่วยล้างคาวทุกคราวไป กระจกคงลงความเห็นเป็นความจริง ใจยังวิ่งวุ่นวายส่ายหวั่นไหว โทษกระจก หรือ ปรับตน ... ยามจนใจ จึงผ่องใสโดยแท้ ... แด่ตัวตน ใครคนหนึ่ง ... เริ่มซึ้งค่าคุณกระจก หวั่นสะทกแล้วแก้ไขไม่สับสน ริ้วรอยย่นปนแปลกยอมแบกทน ค่อยค่อยค้นคิดแก้และป้องกัน ใครคนนั้น ... วันนี้จึงมีหวัง พอประทังพัฒนา ไขว่คว้าฝัน มีชีวิตจิตจ่อต่อปัจจุบัน พร้อมสร้างสรรค์แก้ไขในสิ่งจริง