ฉันเขียนกลอน อ่อน-กร้าน ... ผ่านรู้สึก ล้วงเบื้องลึกควักใจใฝ่ฝันเขียน แล้วหยุดนิ่งอิงซ่อนวอนคำเพียร ดิ่งลงเจียรถ้อยคำลึกล้ำดี ฉันเขียนกลอนวอนใจให้รู้สึก ล้วงสำนึกตรึกค่าท้าศักดิ์ศรี จากศรัทธามาทวนทบทุกนาที มิใช่เพื่อระบายหนีความช้ำตรม กลั่นหัวใจไหวไหว ... ไกวรู้สึก ตกผลึกแต่ละด้าน ทั้งหวานขม หมาย "สื่อสาร" งานความคิด ให้ติชม มิหวังข่มเก่งกาจเป็นปราชญ์ไกร กรองถ้อยคำแต่ละคำ ... ร่ำรู้สึก สะท้อนทบระลึกตรึกตรองไตร่ จาก ตัวตน ค้นหาขั้ว จากหัวใจ แสวงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ... ให้วงวรรณ ฉันมิอาจเอื้อมค่าว่าเก่งนัก มิอาจรักคำเกินจิตคิดใฝ่ฝัน เพียงรู้จักตระหนักสัมผัส จัดคำครัน และเลือกสรรคุณค่า ... มาสื่อกลอน ฉันมิอาจเปรียบค่าชัดจัดระดับ สดับรับ ณ ปัจจุบัน วรรณอักษร เคลื่อนทุกคิดสถิตมั่นฝันทุกตอน ละเอียดอ่อนเพียงพอละออคำ ฉันมิอาจสรุปค่าบทกวี เพียงหน้าที่เข้าใจในคำพร่ำ คุณค่าบทประพันธ์คือฝันนำ มิใช่กรอบกรงค้ำ ... หรือคำคล้อง ฉันเขียนกลอน อ่อน-กร้าน สื่อสัมผัส สิ่งรับรู้ สิ่งแจ่มชัด สิ่งขัดข้อง นำเสนอจังหวะสัมผัส จัดทำนอง สอดคล้องจองดนตรีดีดสีนัย ฉันคงค่าบทกวีที่ตัวบท มิใช่กฎเกณฑ์อื่นเพื่อลื่นไหล กฎแห่งฝัน กฎแห่งคิด กฎแห่งใจ เหนือกฎใด เหนือกรอบครอบขอบความคิด ฉันเขียนกลอน อ่อน-กร้าน วันวารร่ำ อยากให้คำใคร่ครวญล้วนศักดิ์สิทธิ์ ร่ำทุกบทชดเชยเผยทุกทิศ สื่อชีวิตลึกล้ำ ... ทุกคำกลอน ลับมุมมองคล้องโลกยามโศก-สุข พิศชื่น-ทุกข์รุก-รับกับอักษร หลอมชีวิตติดพันกลั่นคำวอน เสกคำพรกรองวจีอย่างที่เป็น นับวันกลอนกล่อมเกลาเหลาดวงจิต เจียรประดิษฐ์มุมมองกรองคิดเห็น แง่ชีวิตงามจิตใจใสร่มเย็น ส่วนหนึ่งเร้นลึกซ่อนย่อมอ่อนเบา ฉันเขียนกลอน อ่อน-กร้าน เติบการคิด วิญญาณจิตพัฒนาล้างบ้าเขลา หลอมสติตริตรองมองแสง-เงา ชัดเพียงเข้าใจชีวิต ... ตามคิดกลอน.
8 ตุลาคม 2548 19:59 น. - comment id 525131
บันทึกกลอนสอนใจให้สงบ ให้เคารพกฎกติกาพาใจหมาย ให้จมดิ่งกับอักษรซ่อนกลกาย สื่อความหมายในอักษรสอนใจคน การเขียนบทกลอนทำให้เรารู้จักตัวตนของตนเองมาขึ้นโดยใช้อักษรมากล่อมเกลาตนเองให้ละเอียดและปล่อยวางมากขึ้น
8 ตุลาคม 2548 20:13 น. - comment id 525139
....... เก่งจังคะ เข้ามาแอบอ่านค่ะ หวัดดีค่ะ คุณแดดเช้า หวัดดีค่ คุณไรไก่
8 ตุลาคม 2548 23:01 น. - comment id 525190
แต่งเก่งจังค่ะ แวะมานะคะ
8 ตุลาคม 2548 23:13 น. - comment id 525193
เป็นบันทึกที่จริงใจแจ้งเจตนาอย่างสวยงาม มาอ่านด้วยความชื่นชม และนำกลอนเก่ามาวางไว้ที่นี่ด้วยค่ะแดดเช้า.. ในสวนงามยามเช้าสกาวแสง หมู่แมลงเริงร่ากับฟ้าใส มวลบุปผามาลีคลี่ดอกใบ เผยกลิ่นให้อวลอาบซาบผกา หลายหลากพันธุ์สรรหามาต่างถิ่น ล้วนเป็นเอกทั้งสิ้นในพฤกษา ด้วยโดดเด่นงดงามตามปรีชา ต่างมีค่ามีคุณหนุนในตน ทั้งตำแหน่งแห่งต้นบนลานนี้ จัดสรรสีสลับงามตามห้วงหน บ้างงามดอกงามใบในปะปน รวมเป็นความงามล้นแห่งสวนงาม จะยามไหนชมได้ไม่สิ้นสวย รื่นระรวยดมดอมหอมล้นหลาม แม้นโลกเลื่อนเคลื่อนสู่ราตรียาม ยังคงความสดชื่นให้ตื่นตา คือสวนขวัญลานกวีศรีอักษร ปลูกกาพย์กลอนโคลงฉันท์สรรค์ภาษา มรดกของกวีไทยมีมา ต่างเป็นเอกเอนกค่ามาสร้างงาม
8 ตุลาคม 2548 23:23 น. - comment id 525200
ความรู้สึก ที่เขียนเพราะใจอยากเขียน เป็นความรู้สึกที่มีอยู่ในใจ เหมือนกันค่ะ เยี่ยมจริง ๆ
9 ตุลาคม 2548 16:34 น. - comment id 525338
มาแล้วค่าพี่แดดจ้า ถึงลูกถึงคนจริงๆเลยนะเจ๊ คิคิ อ่านแล้วก่อให้เกิดอหังการทางความคิด ความฝัน จังเลย เจ๊ปลุกระดมได้เก่งมากๆๆๆ รักเจ๊ที่สุด