ในดวงตาว้าเหว่คนเร่ฝัน เมืองตีบตันเต็มตึกฉันนึกหวาด คืนเงียบเหงาเฝ้าฟ้าดาราวาด ไฟเมืองกราดเกลื่อนกลบจนลบดาว อึกทึกคึกคักชวนหนักเหนื่อย ลมอับเอื่อยอาภัพห้องหับหนาว ฉุนกลิ่นขมซมขื่นสะอื้นคาว มากเรื่องราวรันทดทั้งหมดเมือง ร้างแววตาหน้าคุ้นให้อุ่นอก หากตายตกคงไร้ใครรู้เรื่อง ทนอ้างว้างห่างเหินดำเนินเนือง คงเปล่าเปลืองเวลาชะตาเรา อาจแปลกแยกแผกไปจากใครอื่น เกินจะฝืนความเยียบอันเงียบเหงา อยากได้ยินหินทรายทักทายเงา ใช่ความเปล่าผุพังผนังปูน เก็บชีพน้อยถอยร่นถนนไฟ ก่อนดวงใจแรงผินจะสิ้นสูญ กลับสู่บ้านชานป่าที่อาดูลย์ เกิดจำรูญความหวังใกล้รังเรือน ละอองหมอกดอกฝันจึงพลันหวาน เมื่อฉันขานรับพรลมอ้อนเอื้อน เมื่อฉันนอนช้อนตาพบหน้าเดือน เมื่อชีพเคลื่อนพ้นจากซากเมืองนั้น
28 กันยายน 2548 11:28 น. - comment id 520315
อ้า ไม่น่าเชื่อวันนี้ใจตรงกันโพสกลอนเวลาใกล้ๆกันเลยนะคะพี่สาวคนสวย อ่านกลอนนี้แล้วนึกถึงตอนตัวเองทำงานอยุ่ที่ กทมเลยอะคะ ขอบคุพี่เก๋อีกครั้งนะคะสำหรับคำชมทุกคำขอบคุณมากๆเลยค่า
28 กันยายน 2548 11:42 น. - comment id 520329
อยู่ในเมืองกรุง จงมุ่งต่อไป.......
28 กันยายน 2548 11:48 น. - comment id 520334
งามเกินกล่าวชมค่ะ พีพุดรักบทนี้มากค่ะ ละอองหมอกดอกฝันจึงพลันหวาน เมื่อฉันขานรับพรลมอ้อนเอื้อน เมื่อฉันนอนช้อนตาพบหน้าเดือน เมื่อชีพเคลื่อนพ้นจากซากเมืองนั้น ชลกานต์รจนางานได้งามมากค่ะ ทั้งอ่อนหวานและมีสาระค่ะ รักล้นใจ
28 กันยายน 2548 12:03 น. - comment id 520350
ต้นเดือนหน้าก็จะกลับบ้านเหมือนกัน... ***แวะมาอ่าน ผ่านมาเยี่ยมนะครับ
28 กันยายน 2548 13:50 น. - comment id 520453
เวลาเหนื่อยท้อคราใด ก็จะหวนนึกถึงบ้านที่จากมาทุกครั้ง รู้สึกได้ถึงความรัก ความอบอุ่น ความปลอดภัยซึ่งหาจากที่ใดไม่ได้ในโลก อยากกลับไปเอนกายลงนอนบนเสื่อทอเก่าๆ ผืนเดิม นอนมองแสงจันทร์ข้างหน้าต่าง กินข้าวพร้อมหน้าพ่อ แม่ พี่สาว เดินลุยโคลนหาปลาในท้องนา คิดถึงบ้านค่ะ
28 กันยายน 2548 14:05 น. - comment id 520458
เป็นความสุขสำหรับคนกลับบ้าน เท่ากับการต้องซ่อนความอ่อนไหว ตัวกลับบ้านที่นานมากเราจากไป แต่หัวใจอยู่ที่เขา....ลืมเอามา
28 กันยายน 2548 14:58 น. - comment id 520471
กลับไปบ้านรับแดดอันอบอุ่น เพราะมันคุ้นกว่าไฟในเมืองหลวง กลับไปชมนวลจันทร์วันเต็มดวง ดีกว่าลวงด้วยนีออนซ่อนในโคม..
28 กันยายน 2548 15:18 น. - comment id 520486
งานงามมากๆค่ะ ชื่นชม+ชื่นชอบเสมอ
28 กันยายน 2548 15:42 น. - comment id 520501
อ่านแล้วอยากกลับบ้านครับ จากบ้านมานาน คิดถึงเสมอ ยิ่งได้อ่านบทกลอนยิ่งคิดถึงมาก
28 กันยายน 2548 16:16 น. - comment id 520533
วันนี้ผมคิดถึงบ้านครับ แวะมาอ่าน
28 กันยายน 2548 17:32 น. - comment id 520563
ขอบคุณนะคะ เรื่องคำว่า\"ใต้\"อะค่ะ น้องเก้เรียบร้อยแล้ว ขอบคุมากนะคะ ดินะพี่เก๋บอก ไม่งั้นพี่รุ่งมาเจอ แอนโดนแน่ ฝากความคิดถึงถึงพี่รุ่งและพี่ไรด้วยนะคะ ช่วงนี้น้องคงยังออนเอ็มไม่ได้ มีปัญหาทางเทคนิคนิดหน่อย
28 กันยายน 2548 17:33 น. - comment id 520565
จรุงงานเขียนเป็นภาพได้งามแท้ค่ะ ^^ อยากมีบ้านสักหลังอยู่ท่ามกลางธรรมชาติบ้างจัง
28 กันยายน 2548 22:03 น. - comment id 520684
บ้านอยู่ไหนอ่ะค่ะ .... กลับด้วย หุหุ .. รูปน่ารักจังเลยอ่ะค่ะ อยากบอกเคยเล่นด่วยอ่ะค่ะ ไอ้ที่เด็ก สองคนเค้าเล่นอ่ะค่ะ แข่งกันสนุกดี .. อิอิ วุ๊ย ! หลุดปากเค้ารู้หมดเลยว่า บ้านนอก ... แวะมาวุ่นวายนะคะ
28 กันยายน 2548 22:39 น. - comment id 520706
แสนเงียบเหงาเศร้าหนักหนาน้ำตาตก ในหัวอกอ้างว้างช่างห่างเหิน จำต้องพรากจากลูกยามาเผชิญ ความเจริญจอมปลอมรอบล้อมตัว คิดถึงบ้านเหมือนกันครับ จากมาไกลแสนไกล เข้าใจความรู้สึกดีครับ
29 กันยายน 2548 05:49 น. - comment id 520756
นอนดูหมอกบอกหนาวอีกคราวร้าย สิ่งรอบกายดายเดียวใครเหลียวหลัง วาดวิมานบ้านในฝันอันจีรัง หลังคาสังกะสี....ดีใจแล้ว
29 กันยายน 2548 14:06 น. - comment id 520975
สวัสดีจ้านู๋แอนน่ารัก บางทีพี่ก็เผลอสะกดผิด พิมพ์ผิดบ่อยๆเหมือนกัน ตอนอ่านทาวนไม่เห็น แต่ทิ้งไว้หลายๆวันมาอ่าน เพิ่งมาเจออะไรงี้ พี่ก็ขอบคุณน้องแอนเช่นกันที่แวะเวียนมาอ่านงานพี่สม่ำเสมอ ไม่ตกหล่นเลย ทำให้พี่มีกำลังใจเขียนต่อไปจ๊ะ สวัสดีค่าคุณแมงกุ๊ดจี่ อย่าท้อๆๆนะคะ สู้ต่อไปค่า เมืองกรุงก็ไม่ใหญ่เกินใจเราหรอกเน้าะ และก็คงไม่ลำบากกว่าแรงจะฝ่าข้ามค่ะ สวัสดีค่ะพี่พุดคนดี ขอบคุณนะคะที่แวะมาอ่านกลอนของนู๋ งานของพี่พุดก็อ่อนหวานงดงามมากคะ อ่านแล้วได้ความสุข ความงามค่ะ สวัสดีค่ะพี่บินเดี่ยว บินกลับบ้านก็ระวังฟ้าระวังฝนนะคะ พกร่มพกเสื้อหนาว เพราะก็หนาวแล้วด้วยสิ อย่างไรเดินทางโดยสวัสดิ์ภาพค่ะ สวัสดีค่ะคุณยังเยาว์ เหมือนกันเลยค่ะ เวลาเหนื่อยท้อ ก็นึกถึงพ่อแม่ที่บ้านไว้ก่อน แบบว่าพ่อแม่เหนื่อยยากกว่าเรามากนัก เค้ายังทนเพื่อเรามาถึงวันนี้ ขนาดเราโตขนาดนี้ ก็ยังไม่เคยปล่อยให้เราลำบาก มันลึกซึ้งยิ่งใหญ่จังเลยความรักของพ่อกับแม่ ทำให้คราใดที่ท้อมากๆ ก็จะกลับไปหาพ่อแม่ ไปอ้อน อิอิ สวัสดค่ะคุณหัดหทัย แหมม ฝากใจไว้กะใครหนอ ใครคนนั้นคงโชคดีมากๆเลย น่ารักจังเลยค่ะ อย่างไรแล้วมีข่าวดีก็บอกกันมั่งนะคะ สวัสดีค่ะพี่กุ้งหนามแดง ขอบคุณนะคะที่แวะมาอ่านผ่านมาเยือน ว่างมาเขียน ของนู๋สมัยเด็กๆ ชอบจุดตะเกียงน้ำมันมากเลย ไม่ชอบใช้ไฟฟ้า จนพ่อแม่หวั่นว่าไฟจะไหม้บ้านสักวัน อิอิ สวัสดีค่ะคุณคนเมืองลิง ดีใจนะคะที่แวะมาอ่านขอบคุณมากค่ะสำหรับกำลังใจให้มีให้ เวลามีคนมาชอบกลอนที่เขียนทีไร รู้สึกดีใจมากๆทุกทีเลย สวัสดีค่ะคุณ ณพ วิฤทธิ์ชัย ทุกคนที่ได้จากบ้านเกิด ส่วนใหญ่จะก็คิดถึงอยากกลับบ้านทุกคนเลย กลอนที่คุณเขียนก็มีกลิ่นไอของบ้านเกิดคุณด้วยเหมือนกันนะคะ อ่านแล้วอบอุ่นใจดีค่ะ สวัสดีค่ะคุณธรรม ทัพบูรพา ขอบคุณนะคะที่แวะมาอ่านผ่านมาเป็นกำลังใจ อีกไม่นานคุณคงว่างพอได้กลับไปเยี่ยมบ้านแล้วล่ะคะวันนี้อย่าลืมซื้อขนมไปฝากคุณแม่นะคะ อิอิ
29 กันยายน 2548 14:23 น. - comment id 520987
สวัสดีค่ะคุณ Maimao ขอบคุณนะคะที่แวะมาเยี่ยมกัน ไปอ่านงานของคุณแล้วคุณเขียนได้เห็นภาพชัดเจนมากค่ะ ชอบงานที่คุณแปลมากเลย แล้วจะติดตามงานของคุณต่อไปค่ะ สวัสดีค่ะคุณสาวดำรำพันรัก นู๋ชลก็เป็นเด็กบ้านนอกเหมือนกันค่ะ เด็กบ้านนอกแต๊ๆเลยนา ตอนเด็กๆก็เล่นแก่นซนตามประสาเด็กชนบท เนื้อตัวมอมแมมเปรอะไปหมด แต่หวนคิดถึงทีไรมีความสุขดีนะคะ อยากย้อนไปได้จังเลย สวัสดค่ะคุณอาทร เขียนเสียเศร้าเลยนะคะ ที่เราจากมาเพราะทำเพื่อคนที่เรารักนี่นา ความคิดถึงไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าหรอกค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณเสมอนะคะ สวัสดีค่ะคุณ plaing_piu ขอบคุณนะคะที่แวะมาอ่าน คุณพูดถึงหลังคาสังกะสีแล้วฟังดูอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกเลย เหมือนได้ย้อนไปนั่งฟังเสียงน้ำฝนเคาะสังกะสี เหมือนได้ย้อนไปดูน้ำฝนที่หลากไหลไปบนรางน้ำสังกะสี ขอบคุณค่ะที่แวะมา ขอบคุณทุกสหายที่แวะมาเยือนเสมือนหนึ่งกำลังใจให้กันเสมอ อย่าทอดทิ้งกันไปไหนเลยนะคะ ..
29 กันยายน 2548 18:43 น. - comment id 521127
มาปิดท้ายกลอนของน้องสาวที่งามทั้งกาย งามทั้งใจ งามทั้งสำนวนกลอนค่ะ อ่านแล้วมีความสุขอีกตามเคย : )