อันชีวิตคนเราย่อมมีการแปรเปลี่ยน ทุกสิ่งเคลื่อนไหวไปตามแห่งวิถี แต่สิ่งหนึ่งยังคงที่ สิ่งนั้นคือความดี เป็นสิ่งที่ไม่มีแปรเปลี่ยนไปกับกาลเวลา อันความดีความชั่วอยู่ที่ตัวกระทำ จิตจะย้ำให้กำหนดจดจำอยุ่ทุกครา ตั้งแต่อดีตหนเก่ามักวนเวียนมาหา ถึงชาติหน้าก็ต้องมาชดใช้กรรม ถ้ารักดีจงละหนีจากสิ่งชั่ว อย่าปล่อยตัวให้กิเลสมาครอบงำ ตั้งสติให้เกิดปัญญายั้งใจมิให้ถลำ ไม่ให้เกิดกรรมนำพาไปให้อับจน ถ้ารักบุญจงละทิ้งหลบหลีกบาป อย่าหยามหยาบรักษากายไม่ให้หมองหม่น หมั่นฝึกฝนความดีอยู่คู่กับตัวตน จึงจะเป็นคนที่ดีและมีชีวิตงาม
2 กันยายน 2548 15:00 น. - comment id 510973
ดีหรือชั่ว บางครั้งมันก็แยกไม่ออก คงต้องถามใจตัวเองอีกครา
2 กันยายน 2548 15:28 น. - comment id 511000
สิ่งใดเกิดขึ้น พึงดูสิ่งนั้น นิ่งเงียบตั้งมั่น ตั้งใจเรียนรู้ เกิดดับแล้วเกิดอีก เกิดขึ้นให้ดู กรรมดับเพียงครู่ เดี๋ยวรู้เบาบาง นี่แหละธรรมะ จะคลายหม่นหมาง ใจเที่ยงเป็นกลาง ตามสิ่งที่เป็น อย่าตั้งท่าดับ สิ่งสับสนเร้น เดี๋ยวไม่ทันเห็น ปัญญาบำเพ็ญไม่เกิด : ) ท่านสอนว่า \"ดีก็ไม่เอา ชั่วก็ไม่ละ\" ตั้งใจดู ไม่ตั้งใจเอา หรือ ตั้งใจละ อะไรเลย แล้วจะพบความจริงค่ะ
2 กันยายน 2548 17:00 น. - comment id 511022
จะงามไม่งามมันอยู่ที่จิตสำนึกของคนเราเนอะคะ แต่กลอนบทนี้ง๊าม งาม เจ้าค่ะ เอิ๊กๆ
3 กันยายน 2548 12:20 น. - comment id 511264
ครับ..ชีวิตงามต้องสรรค์ด้วยความดี... ละเว้นหนีความชั่ว...จึงจะงดงามครับ แก้วประเสริฐ.