สิ้นภิรมย์(บทอัศจรรย์)

เรไร


ณ ริมฝั่งนทีสีทันดร
ตะวันรอนเย็นย่ำใกล้ค่ำแล้ว
ตรงขอบฟ้ามองเส้นไม่เห็นแนว
พอสิ้นแววรวิลานภาลัย
ราตรีนั้นมีเจ้าเนาว์แนบข้าง
มิเกินห่างใต้แสงดาวพราวไสว
ชี้ชวนชมดาราบนฟ้าไกล
ละเลื่อมไหววิบวับงามจับตา
ชิดเชยพักตร์แก้มนางพลางจุมพิต
แนบสนิทห้วงสวาทปรารถนา
ชื่นภิรมย์ใต้แสงแห่งจันทรา
ดาวอิจฉาเดือนจ้องมองคู่เรา
ลมสวาทโหมพัดสะบัดพลิ้ว
สำเภาลิ่วกางใบวิ่งทิ้งอับเฉา
ลมกระโชกบ้างก็ซัดพัดแผ่วเบา
จนข้ามเข้าเวิ้งกว้างทางนที
แล่นใกล้หินโสโครกก็โยกหลบ
เลี้ยวตลบชักหางเสือเพื่อแล่นหนี
เย้ทางซ้ายย้ายทางขวาไม่รอรี
โดนเสียดสีเกือบตายวายชีวิน
พระพายโหมพัดกระโดงเชือกโยงขาด
เรือก็พาดขัดสันดอนชะง่อนหิน
ระลอกคลื่นโถมถาธาราริน
เรือก็ผินผงะลงในคงคา
มีแต่พายด้ามน้อยต้องคอยจ้ำ
ค่อยแจวลำกำปั่นหวั่นผวา
เมื่อใดหนอถึงฝั่งพสุธา
มิรอช้าเร่งจังหวะไม่ละวาง
ดังพายุพิโรธแสนโกรธเกรี้ยวขึ้ง
เสียงอื้ออึงลมซัดพัดเรือขวาง
มองเห็นฝั่งลับลับแทบอับปาง
พอลมร้างก็เสือกเสยเกยหาดทราย
แต่ที่ฝั่งฝันวันนี้ไม่มีเจ้า
แม้แต่เงาเลือนลางค่อยจางหาย
ยังตราติดคิดถึงซึ้งมิคลาย
คงจำไว้คืนสุดท้ายได้กอดเกย
ธารน้ำตาพร่างพรูลงสู่พื้น
โศกสะอื้นอาลัยใจเจ้าเอ๋ย
สุดเหว่ว้าแก้วตามาละเลย
ทำเมินเฉยแสร้งเสเล่ห์รักลวง
จิตร่ำร้องโหยหวนจวนเจียนบ้า
เมื่อศรัทธาภักดีที่แหนหวง
แหลกสลายสิ้นรักที่ปักทรวง
ใจทั้งดวงสลดโศกโศกา
ชลนาเนืองนองทั้งสองแก้ม
จิตเคยแจ่มกลับวิตกอกผวา
เคยชิดเชยมิ่งขวัญกลัยา
บัดนี้มาเหินห่างร้างแรมรอน
ค่ำคืนเคยร่วมเตียงเคียงเขนย
เป็นคู่เชยชิดชมสมสมร
ราตรีนี้ไร้คู่คลออรชร
ทนกอดหมอนสะอื้นหาด้วยอาลัย				
comments powered by Disqus
  • ร้อยฝัน

    16 มิถุนายน 2548 09:27 น. - comment id 431821

    อ่านแล้วนึกถึงโขน ค่ะคุณเรไร
  • sun strom

    16 มิถุนายน 2548 09:29 น. - comment id 431825

    62.gif
    
    อื้ออออออออฮือออออออ
  • กุ้งหนามแดง

    16 มิถุนายน 2548 09:22 น. - comment id 480504

    ..อุปสรรคเยอะ แต่รอดตายมาได้..อัศจรรย์มากเลยลุง..
    
    ..อิอิ..
  • อัลมิตรา

    16 มิถุนายน 2548 10:29 น. - comment id 480509

    ภาพนี้เคยเห็นนะ ..:)
    
    ไม่ใช่ภาพประกอบกลอน 
    อัลมิตราหมายถึง ภาพที่คุณบรรยายกลอน ค่ะ
    
    อั่นแน่ .. ขำ
  • แก้วนีดา

    16 มิถุนายน 2548 10:50 น. - comment id 480533

    ว๊าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.........เรไร.......40.gif
  • ลอยไปในสายลม

    16 มิถุนายน 2548 11:32 น. - comment id 480553

    นั่งเศร้าลำพัง
    ใจยังหวังเจ้ากลับมา
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    16 มิถุนายน 2548 12:00 น. - comment id 480580

    บทที่หนึ่งถึงแปดของเบิร์นวีซีดีขายนะ..อิอิ..
    31.gif
  • พระรอง

    16 มิถุนายน 2548 12:35 น. - comment id 480595

    ที่แท้คุณพระเอกก็มีแค่พายด้ามน้อย 20.gif20.gif20.gif สรรพคุณเท่านี้เองหรือครับ
  • กอกก

    16 มิถุนายน 2548 15:05 น. - comment id 480644

    เหมือนจะกร้านพาลมาเจ็บและเหน็บหนาว
    พิศวาสคาวครานั้นกระสันหา
    เธอแต่งเติมเพิ่มโหยไห้ในอุรา
    เล่ห์มนต์ตราร่ายรักกระอักทรวง..***
    
    อุ๊ย..เขียนอะไรออกไปหว่า ฮะ ฮะ ฮ่า
    
    สวัสดีค่ะ
    36.gif
  • อัลมิตรา

    16 มิถุนายน 2548 15:36 น. - comment id 480654

    ปทุมถันพรรณรายหมายจับต้อง
    ช่างผุดผ่องต้องตาจักหาไหน
    ครั้นเอื้อมกรค้อนขวับประทับใจ
    ชวนหลงใหลเคลิบเคลิ้มลิงเริ่มลาม
    
    มหาสมุทรสุดลึกพิลึกนัก
    หินแตกหักถมไปไม่อาจถาม
    ใช้ขุนพลมวลกระบี่มีทั้งยาม
    แบกหินหามเหนื่อยจริงลิงอ่อนแรง
    
    ลึกเกินหยั่งนั่งเขย่งเล็งตาถลน
    ต้องสับสนปวดหัวจนตัวแสลง
    ใช้ถ่อค้ำลงสะบัดทะมัดทะแมง
    ซ้ายขวาแกล้งโยกสลับจับเข้ามุม
    
    
    เกิดอะไรขึ้นหนอ .. สะเทือนไปสามภพ
  • ใบบอนแก้ว

    16 มิถุนายน 2548 23:52 น. - comment id 480768

    ...เหมือนเมฆบัง ทั้งหมด แต่สดใส
    แรงลมไล้ แผ่วผ่าน ซาบซ่านหนอ
    ถึงจะเหนื่อย เรื่อยไป ไม่รั้งรอ
    เหมือนเมฆขอ บังฟ้า ทุกราตรี...
    
    ..........รู้นะคิดอะไรอยู่............
    
                  สวัสดีครับ
  • ศศร

    19 มิถุนายน 2548 00:46 น. - comment id 481393

    42.gif
    แวะมาเยี่ยมชม
    บทกลอนไพเราะมากคะ
    ภาพสวยจังเลย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน