๏ยามเมื่ออุษาสาง............คคนางค์สว่างแล้ว แสงส่องสิเห็นแนว..............ปฐวีวิถีทาง ๏เร่ร่อนตะลอนฝัน...........สติมั่นมิเคว้งคว้าง ขวากหนาม ฤ ขัดขวาง.......รติสร้างกำลังใจ ๏ห้วงแห่งสิเน่หา.............ฤ นภาจะกั้นไหว คร่ำครวญคนึงใน..............หฤทัยสิแหลกราน ๏จิตเศร้าสลดโศก...........วิปโยคและร้าวฉาน ตรอมตรมระทมนาน..........ฤ สวรรค์ลิขิตมา ๏ให้ชีพดำเนินไป............ขณะใจสิโหยหา มืดบอดตลอดมา................ก็ชะตากำหนดเกณฑ์ ๏จนสิ้นทิวาวัน................สุริยันอร่ามเห็น ขอบฟ้า ณ ยามเย็น...........จิตหวั่นสะท้านกาย ๏หลับตานิทราลง...........ก็พะวงมิรู้หาย ขื่นขมจะตรมตาย.............จะผุผังสิหวังเรา ๏เดียวดายรำพึงหา........อุระเอยจะเงียบเหงา หลงคว้าก็เพียงเงา...........นิรมิตนะจิตใจ๚ะ๛
6 มิถุนายน 2548 22:09 น. - comment id 476061
ให้ความขื่นขม ความเศร้า ความโศก ฯลฯ ทั้งหมด หายไปกับพระอาทิตย์ยามเย็นนะจ๊ะ พรุ่งนี้พระอาทิตย์ขึ้นใหม่ ขอให้มีแต่ความสดใส และรอยยิ้มที่มีความหวังน๊า เดียวดาย เพราะมัวหลงคว้าเงานี่เอง ..เพราะดีค่ะ
6 มิถุนายน 2548 22:16 น. - comment id 476067
แต่งได้ดีมากเลยค่ะ
6 มิถุนายน 2548 22:28 น. - comment id 476081
เอาจนได้นะน้า มาแล้วครับ ก้าวที่ยิ่งใหญ่ เยี่ยมไปเลย ไม่รู้ผมจะได้เดินเมื่อไหร่
6 มิถุนายน 2548 22:41 น. - comment id 476090
..๏ ราตรีศศีฉาย.................รุจิพรายกระจายนวล โลกหล้าสุธาอวล..................อุระรวนชนวนคราง ..๏ เพ็ญกรายกระต่ายติด....นฤมิตสถิตวาง ไหนองค์อนงค์นาง...............จรร้างและห่างไกล ..๏ เดียวดายละอายนัก........ผิวหักก็จักใคร ยินยล ฤ สนใจ....................ทมไห้พิไรลาญ ..๏ กาลก่อนฉะอ้อนออด.......ดนุพรอดและปลอดพาล เดี๋ยวใจกระไรการณ์...........กลผลาญสะท้านทรวง ..๏ จันทร์เพ็ญสิเย็นเยียบ....ฤ จะเปรียบประเทียบปวง เท่าทันรำพันลวง..................ทยกลวงมิตวงเต็ม ..๏ ยิ่งดึกระทึกหนาว...........นภราวจะร้าวเล็ม แตกยับประทับเข็ม.............ทะลุเล่มเขษมปลง ..๏ รอท่าทิวาวก...................ตริวิตกจะยกลง ขับมืดมิยืดยง......................เพราะอนงค์ผจงเจียน ..๏ จากนั้นกำนัลกฎ............ทุรยศย้ำบทเรียน ลองรักประจักษ์เบียฬ.........จะริเลียนสิเปลี่ยนทัน ๚ะ๛ .. บางอย่างแม้คิดว่ายาก แต่ก็จะยากอยู่เท่าที่คิด ลงมือเสียทีจะได้รู้ว่า ที่ว่ายาก... แท้จริง ก็พอจะคลำทางไปได้บ้าง .. หวังว่าจะมีงานชิ้นต่อๆไปที่เป็นบทฉันท์ และสำหรับอินทรวิเชียรฉันท์ ชุดนี้ อัลมิตราคงปฏิเสธที่จะช่วยชำแหล่ะทีละบทให้ เนื่องจากดูจากความตั้งใจแล้ว คุณเอาชนะใจตนเองได้ในระดับหนึ่ง เท่านี้ก็ถือว่า ..กล้าหาญแล้ว ค่ะ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
6 มิถุนายน 2548 23:12 น. - comment id 476111
ขอปรบมือให้ครับ....คุณทำได้...และทำได้ดีเสียด้วย...ผมเองยังไม่เป็นสับปะรดเลย(ยังเป็นค้างคาวอยู่).... ....................สวัสดีครับ.....................
6 มิถุนายน 2548 23:21 น. - comment id 476118
ก็มั่วได้สมความมุ่งหมายแล้วนี่ครับ
7 มิถุนายน 2548 00:30 น. - comment id 476143
มาอ่านค่ะ
7 มิถุนายน 2548 07:26 น. - comment id 476169
บทกลอน..ของพี่เรไร..มัย?..เศร้าจัง.. เรน.. เป็นกำลังใจ.. ให้พี่เรไร..นะคะ.. .... เรน..ขอให้..ความรัก..ของพี่เรไร... อย่ามีอุปสรรค.. เลยนะคะ..
7 มิถุนายน 2548 07:31 น. - comment id 476173
....มาเป็นกำลังใจให้น่ะคุณเรไร เรรายน่ะค่ะ...ถ้าไม่พอจะส่งให้อีกสักสองขวด...ดีป่าว ....
7 มิถุนายน 2548 08:02 น. - comment id 476183
แลโสมที่สองหล้า............ณ นภาอยู่ไกลไกล หวนนึกสะอื้นใน............อุระร้าวเมื่อเจ้าจร **อิอิ..มั่วเหมือนกันท่าน..
7 มิถุนายน 2548 09:25 น. - comment id 476202
..๐หลงจันทร์ประหวั่นถึง กลขึงก็ตรึงตรา หลงเล่ห์สิเน่หา ก็จะคว้านภาดวง ..๐หลงเพ้อชะเง้อคอย ฤ ชะรอยผิว์รักลวง หลงไหลพิไลสรวง นยะล่วงบ่เลือนลา เก่งจังครับ ผมไม่ค่อยถนัดเลยเรื่อง อินทรวิเชียรฉันท์ ชอบเขียน สัททุลฯ กับ อิทิสังฯ มากก่า
7 มิถุนายน 2548 09:55 น. - comment id 476212
งามมากนะคะ.. ทั้งกลอนทั้งเงา... สวัสดีค่ะ
7 มิถุนายน 2548 11:13 น. - comment id 476244
เป็นเพียงภาพภาพฝัน มิอาจเป็นจริง แม้มีทุกสิ่ง แต่เหงาจับใจ....
7 มิถุนายน 2548 11:46 น. - comment id 476270
อินทรวิเชียร์ฉันท์ เป็นไง ยังไม่รู้หรอก ไม่เคยครับ แต่ ถ้า ถึงเพลแล้วฉัน นี่ ก็พอจะเคยมาบ้าง
7 มิถุนายน 2548 12:13 น. - comment id 476289
พี่เรไร ... นายแน่มาก หุ หุ หุ ... คนอะไรก็ไม่รู้เก่งจัง ...
7 มิถุนายน 2548 12:56 น. - comment id 476321
ระยะหลังมานี่ก็ชอบอ่านฉันท์ค่ะ ที่ชอบที่สุดคือ วสันตดิลก รองลงมาก็อินทรวิเชียรนี่แหล่ะค่ะ เคยหัดเขียนอิทนทรวิเชียรไว้ได้บทหนึ่ง เอามาแปะ (แบบอายๆ) ให้ลองอ่านบ้างนะคะ ...รำลึก...ปราสาทแห่งกัมพุช... ๏ โอฬารพิมานเมือง...............ขณะเรืองอดีตไกล ลือนามประกาศใน..................มหราชธานี ๏ รอยกาละปรากฏ.................บริบทพิจารณ์มี ศรัทธาประเพณี......................คติเทวะราชา ๏ แผ่นหนาศิลาสร้าง.............ก็สล้างสลักตรา แลหลังก็กังขา.........................พิศมั่นกระชั้นชม ๏ งามสรรพอัปสร...................ดุจอ้อนเพราะค้อนคม ลีลาสราญรมย์ .........................ตะละฟ้อนประอรรำ ๏ อีกสรรพรักษา....................พระทวารบาลนำ เคียงเขตพิธีกรรม..................บริรักษ์ ณ บันทาย ๏ แทนล้อมสมุทรรอบ.............พิเคราะห์ตอบลุบาราย ปราสาทสฤษฏ์หมาย................พระสุเมรุคีรี ๏ ขอบรัถยาสร้าง...................ตะละข้างละภาคี เทพศักดิ์และยักษี..................ขณะกอปรพิธีการ ๏ กำแพงระเบียงคต..............ก็จรดวิจิตรปาน ปวงเทวะบันดาล....................นิรมิต ณ มณฑล .................................................................................................. ลี่...ผู้มาเยือน .
7 มิถุนายน 2548 15:16 น. - comment id 476379
ท่านเร เพ้อไรอ่า คริๆ ครายหน๊อ ช่างจัยร้ายเหลือเกิน นิ่งเตะ ๆๆๆ ท่านเร ฮิๆๆๆๆ +-*-+ +-*-+-*- ปู๊ชายอารมดี๊ดี -*-+-*-+ +-*-+
7 มิถุนายน 2548 18:08 น. - comment id 476549
คุณ นี ในดวงหทัยฉัน.....หฤหรรษมิพบเห็น โศกาสลดเป็น......กิจวัตรประจำวัน คุณ ผู้หญิงไร้เงา เขียนข้างวิถีจร......ศศิธรละอ่อนแสง เขียนไปมิเคลือบแคลง...ฤ จะแกล้งยุแยงใคร คุณ ดาวอังคาร อยู่ที่พยายาม........สติถามสิได้รู้ คร่ำครวญคนึงดู....ก็มิเกินพยายาม คุณ อัลมิตรา แหม๊อุตสาห์ไปบอกหลังไมค์ ว่าช่วยชำระ ..เอ้ยชำแหละ ให้ที ขอบคุณครับ บางทีใจมันจดจ่ออยู่กับการเขียนฉันท์ พาลเขียนอะรไม่ออก ก็บ้าๆลงไป คุณ ค้างคาวคืนคอน บางบทมิรู้ซึ้ง......ก็ทะลึงรำพึงเขียน บ้าบอฤนั่งเทียน..มิละความพยายาม คุณ พระรอง เอาน่าก็มั่วจริงๆนี่ครับ ไม่ว่ากัน ไม่ได้เก็บตังค์ค่าชมนะนี่ 555 คุณ ไอดาโฮ ขอบคุณแวะมาอ่าน.....ณ ตำนาน ฤ บทบ้า เพ้อพร่ำลำนำมา........กรุณามิว่ากัน คุณ เรน บางบทสลดเศร้า......ก็เพราะเหงาอะไรหรือ เพราะว่าสุราคือ.......จะชะล้างฤดีตน คุณ ทำ มะ ชาด น้ำใจสิไหลหลั่ง.......จะประดังประเดมา หลงรสสุราพา..........ก็ฤทัยสิลงแดง คุณ บินเดี่ยว ลืมฮ้อสะพายควาย......สิจะหมายจะได้คึก เช้าสาย ฤ บ่ายดึก......ก็มิหยุดสะดุดรมณ์ คุณ จอมอสูร บทแรกในชีวิตเลยละครับ ไว้ศึกษาเพิ่มเติมแล้วจะเขียนดูบ้าง ขอบคุณครับ คุณ กอกก พี่ปรายมั่วแบบหน้าตาเฉย ไปแบบน้ำใสใสเลยครับ คุณ ลอยไปในสายลม เพียงภาพสะท้อนไหว.....หฤทัยสิไหววั่น พอผ่านทิวาวัน..............อระนั่นก็วังเวง คุณ ทะเลใจ น้องเอม..อ่านดีดีเถอะ คนเขียนยังงงเลย คุณ ขอโษษครับผมเมา ฉันเช้าฉันเพลก็ไม่ว่า อย่าฉันสุราก็แล้วกัน 555 คุณ ลี่ ไม่ต้องอายครับ ผมเขียนไม่เป็นเลย ไว้จะเขียนฉันท์แบบอื่นดูบ้าง ขอบคุณครับ ท่านขุน หายหน้าหายหนวดไปเลย สบายดีนะครับ
7 มิถุนายน 2548 20:37 น. - comment id 476673
ไว้ป้าเขียนมั่ง...อิอิ..จะได้ไปจับปลา ด้วยกัน ดีไหม..หรือไปจับงูดี.. ...
7 มิถุนายน 2548 21:58 น. - comment id 476715
สวยงาม และความหมายดีมากเลยค่ะ ชอบวรรคที่ว่า ขวากหนาม ฤ ขัดขวาง สวยมากเลยค่ะ
7 มิถุนายน 2548 22:10 น. - comment id 476721
มิได้มั่วเลยท่านต่อ..อิ้ อิ้ ก็คุณเขียนว่า หลงคว้าก็เพียงเงา..นิรมิตรนะจิตใจ พี่ก็แซวว่า เงานี้งาม..ก็เท่านั้น มีอันใดผิดหรือจ้ะ สวัสดีอีกรอบค่ะ
7 มิถุนายน 2548 22:57 น. - comment id 476742
ฉันท์ ไม่รู้ค่ะ รู้แต่ว่าความหมายกินใจมาก
9 มิถุนายน 2548 14:55 น. - comment id 477528
ภาษาสวยจริง ๆ