ลิลิตพระลอ (ฉบับกลอนตลาด)

รักษ์รัก

.. 
 
ท้าวแมนสรวงร่วงทัพปราบเมืองสรอง
เข้าเขยิบกำเริบราญหาญประลอง
โลหิตนองผองพิลาปอาบแผ่นดิน
มองเมืองสองสิ้นกษัตริย์จรัสศรี
พระเพื่อนพี่พระแพงน้องพร้องถวิล
เป็นกำพร้าเหลือเพียงย่าหาให้กิน
พระแฝดสิ้นปิ่นกนกชนกชนนี
 
ฝ่ายพระลอหน่อเกล้าท้าวแมนสรวง
เวลาร่วงทรวงทรงสะองศรี
สง่าล้ำร่ำระบืออื้อธานี
ธ ทรงมีรูปงามแต่ทรามวัย
หลายสนมสมสะพรั่งทั้งวังเวียง
ให้ร่วมเรียงเคียงจับจนหลับใหล
แต่พระลอฤๅยังขาดพระนาถใจ
คู่พระทัยเข้าฟ้าพระเทวี
 
ข่าวกระพือพัดโบกเหมือนโรคห่า
ถึงพาราเมืองสองแม่สองศรี
โอ้นางรื่นแลนางโรยบ่าวน้องพี่
นำความนี้ทูลกล่าวกษัตริยา
"เพียงเสียงลือเล่าอ้างไปฟังหนอ
เสียงย่อมยอยศใครในทั่วหล้า
สองเขือพี่หลับใหลไม่ลืมตา
คิดเองอ้าหาเผือไม่เชื่อลือ"
เมื่อฟังคำพระเพื่อนแพงสำแดงเสียง
สองพี่เลี้ยงเสี่ยงไปให้เชื่อถือ
สองเจ้าน้อยค่อยฟังอย่าหืออือ
พระลอคือบุตรสวรรค์บันดาลมา
ถึงเวลาอภิเษกแต่เล็กน้อย
หญิงเป็นหมื่นพันร้อยทยอยหา
หากพระลอเลือกพระราชชายา
จะเสียค่าสวามีผู้มีบุญ
จึ่งรัดรวบควบกระบวนสวนดำรัส
แล้วแจงจัดหาปู่เฒ่ามาเป่าหนุน
ลูกประคำทำคาถาเสน่ห์คุญ
รวบสมุนสมิงพรายร่ายอาคม
สานสลักลักขณาพระลอหลวง
เขียนขีดดวงพ่วงผูกปลุกเสกผม
เรียกวิญญาณพล่านผวาจากอาจม
สู่อาศรมบรรทมทิศนิมิตหมาย
พระลอฟื้นตื่นบรรทมชมนิมิต
ได้แนบชิดสองนางพลันจางหาย
จึงโหยหาอาวรณ์เพราะร้อนกาย
สู่จุดหมายเมืองสรองหาสองนาง
พระมารดาว่าเหตุอาเพศนี้
รับสั่งศรีโหรอำมาตย์มา..กวาดถาง
แต่มิต้านมารมนตราพาใจวาง
โอ้พระนางถอนถอดบอดอารมณ์
 
ลูกชายเอ๋ยไฉนเลยละทิ้งแม่
เฝ้าดูแลแม้อาหารยันเครื่องห่ม
หัวใจแม่ฝากเจ้าเฝ้าเชยชม
คงตรอมตรมตามจากเจ้าจากไป
พ่อแมนสรวงร่วงลามารดาเจ้า
เหลือเพียงเงาโอรสยศสมัย
หากแม่ตายใครเล่ามาเผาไฟ
คงทิ้งให้ศพ..ระกำกำพร้าเพลิง
โอ้แม่จ๋าอย่าโศกาพาลูกโศก
ใช่จากโลกจากแม่ลูกแค่เหลิง
ลูกขอลาไปหานางทางดับเพลิง
แม้นระเริงระลึกปั๊บ!..จะกลับมา
เห็นดวงใจไหลเลื่อนเขยื้อนห่าง
แล้วลอยร้างลาลับพับผวา
คุณพระเอ๋ยเชยชิด..บพิตรา
ให้ลูกข้ากลับมาอย่างปลอดภัย
 
คนเมืองสรองรองรับกราบพระบาท
พระลอราชอภิรมณ์สมสมัย
ตั้งพลับพลาพิงห่างตรงกลางไพร
เหมือนหมู่ไม่ร่ายรุมภุมรา
ลอ..บพิตรสะกิดเกาบ่าวทั้งสอง
ไปเมียงมองพระเพื่อนแพงแจงปัญหา
ให้สองนางพรางแสดงเจตนา
แจ้งปัญญาให้ข้านี้มีศรีเมีย
 
สองทหารผ่านคลองมองในน้ำ
ช่างงอมงามทรามใจให้ระเหี่ย
อุ๊ย!..นางรื่นนางโรยน่าคลอเคลีย
จึงได้เสียสองนางข้างริมคลอง
พลันพาคู่ชู้ชื่นระรื่นต่อ
ขึ้นกดก่อกามก่ายใคร่สนอง
บนเรือนข้างนางรื่นโรยโบยตะบอง
ในหนึ่งห้องทั้งสองคู่เหมือนหมู่มัน
เมื่อเสร็จกิจบิดกายแล้วไถ่ถาม
อ้ายสองทรามตามพระลอหน่อสวรรค์
อยากร่วมครองสองพักตราธิดานั้น
อีสองลั่นวันพรุ่งให้มุ่งมา
 
วันส่งสาวท้าวพระเพื่อนแลพระแพง
น้องมิแจ้งแจงกระบวนดวลตัณหา
นางรื่นโรยโอย..หัวเราะเดาะอุรา
ถึงเวลาอย่าแค่นเค้นจะเป็นเอง
พระลอไท้ได้ฟังหลั่งเสียงสรวล
หัวเราะร่วนมิบังควรจะข่มเหง
สองบ่าวนางพรางขยับสดับเกรง
ให้ครื้นเครงสามกษัตริย์ ธ กลัดมัน
 
จึ่งช่วงช้อนป้อนปากลากนาสิก
พระเพื่อนพลิกระริกแรงตะแคงขัน
พระแพงพร่ำละล่ำลวนครวญสนั่น
ระโหยหันกันนวลรัญจวนใจ
 
ปทุมโถ..โกมุทนุชจงกล
หุบกลีบมนชนชิดสนิทไม่
ภุมราถลารุกซุกกลีบใจ
ลอบอิงไอเกสรภมรมาน
น้ำหวานหยดรสสุคนธ์บันดลสุข
เหมือนสิ้นทุกข์ทุกสะเทือนทุกสถาน
สองปทุมชุ่มเกสรงอนสะคราญ
โน้มกิ่งก้านกอดภู่ผู้โกมล
ครั้นยามเช้าท้าวพระเพื่อนแลพระแพง
ผ่านระแนงแปลงผักผ่านจังหัน
ถึงเรือนย่าคลานก้มบังคมคัล
สองเขือพลันลั่นวจีชี้มงคล
เสด็จย่าข้าสองทั้งน้องพี่
ชุ่มฤดีดีใจอยู่หลายหน
เมื่อวานนี้พี่พระลอพ่อสุคนธ์
เปรมกมล..ดลสองให้ร้องคราง
แม่หลานจ๋าก็ว่าดีที่มีผัว
เพราะย่ากลัวตัวตายไปสว่าง
ว่าแต่หัวตัวตีนกลิ่นสรรพางค์
เป็นลูกช่างทางเชื้อจากเขือใคร
เป็นโอรสยศเกล้าท้าวแมนสรวง
เจ้าฟ้าหลวงดวงพระพักตร์จักหาไผ
หมื่นบุรุษขุดเปรียบจะเทียบใคร
ดั่งดาวไกลไม่สว่างเท่าปรางเพ็ญ
คุณพระช่วยด้วยเกล้าเยาวราช
ชนกนาถพลาดท่าให้ย่าเห็น
ท้าวแมนสรวงช่วงเชือดอย่างเลือดเย็น
เกล้ากระเด็นเซ่นซ่านปานแตงโม
แล้วหันมาฆ่าปู่สู่สวรรค์
พูดแล้วมันคันจิตคิดโมโห
เสด็จย่าน้ำตาเล็ดเอ็ดตะโร
กระอักโขโร่สั่งทั้งวังเวียง
เตรียมพลดาบปราบปะทะพะธนู
กลีทัพสู่เรือนหลานอย่าลั่นเสียง
ฆ่าให้ตายหมายตัวบนหัวเตียง
ขอแค่เพียงเสียงสิ้นถิ่นบรรลัย
พลันพระเพื่อนพระแพงพร้องร้องผวา
โอ้ย่าจ๋าสวามีดีไฉน
โปรดพินิจคิดถึงข้าเมตตาไว้
โปรดอภัยให้เขยมาเกยมาน
ย่ามิยอมถ่อมตัวไปมั่วเวร
ที่เคยเห็นแมนสรวงทะลวงหาญ
จากรุ่นพ่อส่อลูกซุกนงพาล
ยิ่งเย้ยหยันหยามเหยียดกระเดียดทราม
โอ้นงเยาว์ท้าวทั้งสองร้องไห้หนี
บอกสามีมีทหารหาญสนาม
เห็นทหารหาญกล้าหน้าอาราม
ฤๅหาญห่ามหารดาบปลาบประลอง
พระลอลาเรียมข้าขอลาจาก
จำลำบากจากหน้าลาทั้งสอง
นัยนาขวาซ้ายไหลน้ำนอง
จะรอน้องสองคนบนพิมาน
พระลอรุกโรมรันประขันดาบ
บรรเลงทาบปราบไกรใจห้าวหาญ
พระเพื่อนพี่พระแพงน้องสองสะคราญ
ประจัญบาลพล่านพร้าข้างสามี
บอกพระลอเราขอมาต่อสู้
อีกหนึ่งคู่รื่นกับโรยมิโกยหนี
แลอีกคู่ชู้ของสองนารี
มาพันตีต่อตะบันเข้าพันตู
เจ็ดประจัญหันเร้าเข้ากำราบ
ประกายดาบปลาบแปลบแสบถึงหู
เฉียดฉวัดปัดป้องละล่องกรู
ตลบคู่ชู้ชื่นนางรื่นโรย
พระลอเลื่อนพระเพื่อนแยงพระแพงย่ำ
ก้าวกระหน่ำซ้ำสอดลอดระโหย
ธนูนิ่งวิ่งพล่านผ่านลมโชย
ธนูโกย..กดอกตระหนกกัน
ธนูน้อยทะยอยเยียบเสียบทั้งสาม
ธนูดามตามตัวรัวถลัน
สามหน่อราชผงาดหน้าพาเงียบงัน
ทหารพลันหยุดเร่งเล็งธนู
เห็นสองศรีพี่น้องมองเบื้องหน้า
เหมือนจ้องตาข้าทหารพานอดสู
ให้แจ่มชัดซัดกระหน่ำซ้ำธนู
ยังยืนอยู่คู่กายพี่ชายลอ
ฝ่ายบุรุษสุดสง่าไม่ลาน้อง
ยังยืนครองสองนรีตรงนี้หนอ
ธนูหนักปักร่างบ้างไม่พอ
ให้พระลอทั้งหน่อนางวางอาลัย
ไม่มีใครยอมตายล้มกายก่อน
อรชรอรอิงพิงแขไข
ข้างพระลอ..นรชาติราชวิไล
เพียงแต่ลมหายใจสิไม่มี
 
..				
comments powered by Disqus
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    4 มิถุนายน 2548 09:54 น. - comment id 474950

    ผ่านมาทักทายพร้อมกับอ่านงานครับผม..
  • ดาหลา & ปะการัง

    4 มิถุนายน 2548 13:12 น. - comment id 475034

    1.gif  งานงามตามแบบฉบับ  ตามความคิด  
    
    คุณรักษ์  เขียนได้  สวยมาก .........36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน