วันแห่งวัยล่วงเลยผ่านมานานแล้ว ไร้วี่แววไขว่คว้าหาสุขสม ให้ชีวาทวงถามความภิรมย์ เศร้าตรอมตรมเป็นเงาทาบทับวิญญาณ์ เหลือเพียงแค่หัวใจที่ผ่ายผอม จึงจำยอมรับสภาพอนาถา อยู่มันไปอย่างท้อรอเวลา ขอรักษาหัวใจให้ทุเลา เคยหนาวสั่นสะท้านเมื่อวานนี้ เห็นอัคคีกองเพลิงเริงร้อนเร่า หวังไปแนบแอบอิงไอบรรเทา ขยับเข้าหาไออุ่นละมุนละไม ทั้งเห็นความเรืองอร่ามแลงามผ่อง ยามเมื่อมองเห็นทางสว่างไสว คอยเติมเชื้อใส่ขอนฟ่อนฟืนไฟ จนเผลอไผลสร้างกรอบล้อมรอบตัว เป็นกำแพงอัคคีที่ร้อนรุ่ม ค่อยค่อยสุมลุกลามตามไปทั่ว เกือบถูกเผาเพราะเราหลงเมามัว มิขลาดกลัวจึงแทบตายวายชีวา จึงดิ้นรนตาเหลือกกระเสือกกระสน อยากหลุดพ้นออกไปใจคิดฝ่า ต้องบาดเจ็บกันบ้างเป็นธรรมดา หลุดออกมาเริ่มต้นใหม่ได้อีกวัน จึงยอมทนปวดร้าวจากหนาวเหน็บ ยังจำเจ็บแสบร้อนเมื่อตอนนั้น รอดมาจากกองไฟบรรลัยกัลป์ ยังหวาดหวั่นสั่นไหวมิหายเลย อยู่มันไปอย่างนี้คงดีกว่า ให้ด้านชาชินไว้ใจเจ้าเอ๋ย หากไขว่คว้าไออุ่นที่คุ้นเคย มิวางเฉยความโศกาคงมาเยือน
11 พฤษภาคม 2548 17:04 น. - comment id 465190
..อัลมิตราเคยได้ยินจากชายคนหนึ่งว่า ..ตอนนั้นผมหนาว ผมเห็นกองไฟ ผมหวังว่า .. ..ผมจะได้รับความอบอุ่นจากกองไฟนั้น .. ..แต่แล้ว ไฟก็ล้อมตัวผม .. ..จนผมโดนเผาร้อนไปจนหมดทั้งกาย .. ..ผมดิ้นหลุดออกมาได้ .. ..นับแต่วันนั้น .. ..ผมยอมทนหนาว มากกว่าจะเข้าความอบอุ่นจากกองไฟอีก .. ..และวันนี้ .. ..อัลมิตราก็ได้อ่านบทกลอน ที่ชายผู้นั้นเคยกล่าว .. ..สิ่งที่อัลมิตราจะทำได้ก็คือ .. ..เฝ้ามองอย่างห่วงใยเท่านั้น .. ..อัลมิตราอยากบอกเขาว่า .. ..บางที แสงริบหรี่ของหิ่งห้อย.. ..ก็อาจนำพาให้เกิดความอบอุ่นในหัวใจ .. ..ไม่ต้องดิ้นรน แต่ปล่อยให้มันเป็นไป .. ..ในเมื่อหัวใจเลือกไขว่ ได้เอง ..
11 พฤษภาคม 2548 17:13 น. - comment id 465198
จะฝ่าไฟ ที่รายล้อม ย่อมร้อนรุ่ม เพราะไฟรุม รุ่มเร้า เข้ามาก่อน ย่อมบาดเจ็บ จากไฟ ได้ร้าวรอน รักษากาย ให้หายก่อน ตอนออกมา ฝ่ากองไฟ ออกมาสู่ อยู่ภายนอก ไฟร้อนไหล เคยช้ำชอก ออกแล้วหนา อย่าลืมไฟ กิเลสร้าย ใต้กายา จงดับมัน ก่อนจะคร่า ชีวาตน แวะมาทักทายคับ
11 พฤษภาคม 2548 18:12 น. - comment id 465229
เห็นไฟร้อนตอนหนาวให้ร้าวจิต มิทันคิดพิษไฟจะไหม้โหม กว่าจะรู้กู้ชีวิตจิตก็โทรม เปลวตะโบมโหมใส่ทั้งใจกาย..*** เอาน้ำทะเลมาสาดใส่สักโครมให้แสบๆ จะได้สะใจไปเลย อย่าลืมสัญญานะ จะลงเล่นน้ำเป็นเพื่อนนางพราย จะสมน้ำหน้าหรือว่าสงสารดีหว่า ฮะ ฮะ ฮ่า ขำ สมน้ำหน้ามากว่าแฮะ สวัสดีค่ะ
11 พฤษภาคม 2548 19:06 น. - comment id 465260
ในดี..มีเสีย ในเสีย..มีดี รู้จักเดินเข้าหาในส่วนดี รู้จักเดินหนีในส่วนร้าย ไฟมีความร้อน..ใช้เผาทำลาย ไฟมีความอุ่น..ใช้คลายหนาว คนเรา..ต้องเจอไฟทุกวัน ก็ควรต้องคิดแล้วหล่ะ.. ว่าจะอยู่อย่างสงบกับไฟ..อย่างไร..อย่างเป็นสุข
11 พฤษภาคม 2548 19:11 น. - comment id 465264
.. คำโบราณที่ว่ากันว่า .. .. คนดี .. ตกน้ำไม่ไหล .. ตกไฟไม่ไหม้ .. .. คงพิสูจน์ได้แล้ว .. ไม่จริง .. ใช่ไหมคะ?
11 พฤษภาคม 2548 19:22 น. - comment id 465277
ไฟ...ให้ทั้งความร้อนและความอบอุ่น.. ชอบ..ไฟร้อน..หรือ..ไฟเย็น..ก็เลือกเอานะคะ...
11 พฤษภาคม 2548 19:23 น. - comment id 465278
อันกองไฟยามใกล้ครั้งได้สุม มีร้อนรุ่มบางครั้งอย่านั่งหมอง เพราะแค่หาอุ่นไอยามได้ลอง อาจติดใจจนต้องไม่จากลา อิอิ กลอนแต่งได้ดีค่ะ
11 พฤษภาคม 2548 19:24 น. - comment id 465279
บาดเจ็บยังไง ก็มียารักษา อย่ากลัวความเจ็บ หากคิดว่าสิ่งนั้นคือ.. ความสุขของเรา..
11 พฤษภาคม 2548 19:57 น. - comment id 465310
อั น ไ ฟ รั ก จ ะ ฝ่ า ไ ป ใ ช่ เ รื่ อ ง ง่ า ย กำ แ พ ง ใ จ ก า ง กั้ น ร อ วั น เ ผ า กำ แ พ ง รั ก กั้ น ก า ง ห ว่ า ง ใ จ เ ร า ต้ อ ง ร้ อ น เ ร่ า ดิ้ น ทุ ร น บ น ท า ง ใจ
11 พฤษภาคม 2548 20:30 น. - comment id 465353
บทกลอนฝ่าไฟ สวยครบความ เล่าจากต้นจนจบได้ลำดับดีค่ะ ชอบมากเลย ขอเก็บหน้านี้ไว้นะคะ
11 พฤษภาคม 2548 22:32 น. - comment id 465431
คนเรารู้ทั้งรู้ว่าไฟมันร้อน ยังอยากจะลองเล่นกับไฟอีก.. ถ้าเอาเหล้าสาดจะช่วยให้ดับไฟได้หรือเปล่าหนอ
11 พฤษภาคม 2548 23:47 น. - comment id 465487
คุณ อัลมิตรา ถูกต้องมีคนกล่าวเอาไว้เช่นนั้น หลายๆคนมองว่า อคติ ต่อความรรัก แม้กระทั่งชีวิตคู่ ใครหลายคนที่อ่าน ความรู้สึกคงไม่ต่างจากผู้เขียนเท่าใดนัก หากแม้นว่าเคยผ่าเรื่องราวทำนองนี้มาแล้ว บางคนเข้าใจ..จริง ฤ เข้าใจแน่หรือถึงความปวดแสบปวดร้อน ...แสงริบหรี่ของหิ่งห้อยก็คงพอส่องทางอันมืดมิด เพียงแค่ได้เดินต่อไป ไม่ต้องคาดหวังสิ่งใดแค่ได้เดดินไปตามที่ใจต้องการ ขอบคุณครับที่ให้หวลคำนึงถึงแสงที่เย็น คุณ วิจิตรวาทะลักษณ์ รู้ทั้งรู้กองเพลิงมันเริงร้อน แต่ยังวอนเข้าไปให้หมองไหม้ รู้ทั้งรู้จะเป็นเหยื่อเป็นเชื้อไฟ อัคคัภัยเผาผลาญราญก็ยอม คุณ กอกก เอาหวายโบยกระหน่ำซ้ำที่อก จนเลือดตกยางออกให้ชอกช้ำ เจ็บเจียนตายแค่ไหนไม่ยักจำ ก้าวถลำเข้าไฟบรรลัยกัลป์ สมน้ำหน้าเถอะ อย่าเวทนากัน คุณ magic ถูกต้องเลยสหาย หากหนาวจงเข้าไป แต่อย่าเข้าใกล้มันนัก เล่นกับไฟต้องรู้จักระยะของมัน อย่าให้ถูกเผา อย่าให้ลุกลามเข้ามา คุณ คันปาก ใช่ครับคำโบราณว่าไว้อย่างนั้น ผมมิใช่คนดีนัก จึงถูกไฟลามเผาจนเกือบวอดวาย ดีชั่วอยู่ที่ตัวกำหนด มิได้อยู่ที่ใครพิพากษา คันเรื่องใด ฤ ถามมา เราจักตอบ คุณ ราชิกา ไฟเย็นเพียงให้แสงสว่าง ไฟร้อนก็ให้ความอบอุ่น แล้วเราจะรู้ได้อย่างใด แสงใดร้อนเร่า แสงสีใดที่เย็นฉ่ำ คุณ ผู้หญิงไร้เงา เห็นคนนั่งผิงไฟ บางครั้งรู้สึกสะท้อนมาถึงตัวเองนะ ว่าเคยอบอุ่นเช่นนั้นเหมือนกัน คุณ นี สวัสดีครับ คนไม่ขยาดหรอกครับ เชื่อสิ คุณ มนต์กวี รับรู้รสแห่งความทุรนทุรายสิครับ คุณ ภาวิดา ยินดีมากครับ บทกวีบบางบทอาจถูกใจใครหลายคน คุณ คนเมืองลิง คิดจะวิ่งเข้ากองเพลิง ฤ
12 พฤษภาคม 2548 07:06 น. - comment id 465587
ชีวิตเอ๋ยเลือนลางอ้างว้างจิต ใครลิขิตขีดเขียนไม่เพียรแก้ ถือกำหนดบทไว้ไม่เหลียวแล ลองชะแง้มีใครดังไพรน แวะมาอ่านยามเช้า กลอนแต่งได้ดีจัง
12 พฤษภาคม 2548 09:23 น. - comment id 465651
ทุกวี่วันผันผ่านเราท่านเห็น มีประเด็นศึกษาหาสุขสม ต้องรู้จักหลักธรรมนำภิรมณ์ อย่าปรารมภ์ตรมทับให้คับทรวง จะได้จิตแจ่มใสสบายเบา อย่าจมเจ่าเหงาคิดให้ติดหน่วง พร้อมเพื่อทำวันใหม่ได้ทั้งปวง แล้วแต่ช่วงเวลาสรรหาเอา เห็นเหมาะสมสมควรก็ควรทำ อย่าปล่อยล้ำเลยไหลเสียดายเปล่า ดีกว่าอยู่อย่างขลาดเพียงคาดเดา สนุกกว่าเก่าถมเถคะเนดู ในบางทีที่มองของภายนอก มองไม่ออกบอกไปก็ไม่รู้ บ้างจ้วงย้อนถอนกลับก็รับอยู่ บ้างสวยหรูละเลงบรรเลงความ บางใจคนค้นจ้องมองไม่เห็น ทั้งแฝงเร้นลึกลับล้วนหลากหลาม มีทั้งเล่ห์เพทุบายหลายนิยาม บ้างซ้อนความตามเหน็บเหมือนเก็บริม บ้างกลับกลอกหลอกคนซับสนจิต คอยจับผิดโพล่งพลุ่งกระทุ้งทิ่ม เล่าเป็นเรื่องร้อยบทหลากรสชิม เฝ้าเจาะจิ้มจับเร้าเป่าคารม เมื่อตรองตรึกนึกเห็นอย่างเช่นนี้ ย่อมรู้ดีที่ทำให้ดำขม ก็แช่มชื่นตื่นตามาขึ้นมาชม เห็นเล่ห์ล้นเหลือคณามาภิเปรย มันน่าดูอยู่เห็นเป็นสนุก ยังมีสุขศึกษาลีลาเอ๋ย ดีดขิมรอพอเวลาลงมาเลย อย่าเพิกเฉยเฉื่อยชามาทันที
12 พฤษภาคม 2548 13:35 น. - comment id 465780
เชื่อ.. อีกครั้งให้ใจได้ไถ่ผิด เชื่อ.. ลิขิตคำว่ารักอีกสักหน เชื่อ..ในรักว่าฝังไว้ในกมล เชื่อ..รักตนก่อนหม่นช้ำคำคนลือ ใน..ความรักใช่ก่อร่างสร้างเพียงวัน ใน..ความฝันอาจมีใครมิใช่หรือ?! ใน..ความจริงใครกันเล่าเฝ้ากุมมือ ใน..ความดื้อทิฐินักยังภักดี รัก..จงลืมเรื่องร้าวรอนแต่ก่อนเก่า รัก..ของเราต้องบั่นบากขวากวิถี รัก..เพียงรักรักด้วยรักเท่าที่มี รัก..ยอมพลีใจกายให้แก่กัน เชื่อในรัก เชื่อในการกระทำ เท่าที่ทำ เท่าที่มี
13 พฤษภาคม 2548 00:27 น. - comment id 466095
คุณ ผลิใบสู่วัยกล้า ขอบคุณครับที่มาเยื่ยมชม ในอารมณ์นึงเท่านั้นเอง คุณ คมคน ขอบคุณสำหรับเรื่องราว ที่เขียนให้ได้อ่านครับ เรื่องราวหลากหลายในชีวิต อย่าถือสากับตัวอักษรไม่กี่ตัวเลยครับ คุณ แม่ดอกฟ้า เท่าที่มี เท่าที่ให้ ขอเพียงแค่ความเข้าใจ เท่าที่ให้ก็ดีพอ