เคยโดนเลี้ยงอบ่างสบายมาแต่เด็ก ตั้งแต่เล็กจนโตเติบน้อยใหญ่ เคยมีสุขมีทุกข์มีน้อยใจ เคย คิดไกลว่าอยากได้เดินทางไป แต่ก็ได้สมประสงค์เดินทางรอบโลก ก็ไร้โศก ได้เห็น แดนสุขใส ก็ได้เห็น แดนอันศิวิไล ก็ได้ไป ใจสมหวังดั่งปันเป็นจริง คิดถึงแม่พ่อของเรา สุดจับจิต ก็ให้คิดว่าท่านเล้ยงเราแสนยากยิ่ง สุดจะเอ่ยว่ายากเย็นเหลือ ก็พูดจริง เราไม่หยิ่ง เป็นคุณหนู รู้ว่าดี แต่มาเจอ การงาน อย่างที่ว่า ก็นำพา อดทน จนเหนื่อยแสน เหนื่อยใจกาย แทบ ขาดดิ้น ไม่สิ้นแคลน ไม่มีแม้น คนเป็นกำลังใจ อย่าทำร้ายกันอีก ปลีกตัวแล้ว คงไม่กคล้ว เป็นแนว แก้วแจ่มใส พี่สาวแท้ แท้ ท่านไม่อยู่จะจากแดนไกล ก็จะไปไม่กลับมา พาเศร้าเอย ทำไม ทำไม เค้าไม่คิด ถึงบุญคุณพ่อแม่เลี้ยง ไม่มีเสียงส่งไปให้ท่านเห็น ไม่ไปกราบไหว้วันผู้สูงอายุอย่างเลือดเย็น น้ำตากระเซ็น อาบหน้าฉัน พลันอาดูร สงสาร สงสาร แม่พ่อ ที่เลี้ยงลูกแต่น้อยใหญ่ แต่ลูกไกลไปไหนไม่มาหา ทำไม ไม่ สังวรณ์ ว่าตนเติบโตมา ที่ได้มา นั้นมาจากไหนที่ไรกัน เก็บเป็นเงิน ไม่พอ แกว่งหาเสี่ยน ให้ไปเรียบ ศาสนาอื่น ชื่นมื่นฟัน อยากมีใหม่ใครกัน หลงผิดกัน โอ้อกผัน อยากร้องไห้ ...........ไม่ทดแทน
20 เมษายน 2548 08:03 น. - comment id 456439
พ่อแม่เป็นผู้มีพระคุณ เหมือนพระในใจนะครับ ผมไม่ชอบ คนที่ ไร้ ความกตัญญู ครับ ผมชอบคนที่เห็นใจและมีใจต่อผู้สูงอายุ
20 เมษายน 2548 08:04 น. - comment id 456440
เห็นใจในบิดามารดาค่ะ อ่านแล้วน้ำตาก็คลอนะคะ
20 เมษายน 2548 10:59 น. - comment id 456542
ยังไงก็ยังเป็นพ่อเป็นแม่เราอยู่ดีล่ะครับ.... ลืมท่านไมลง แวะมาเป็นกำลังใจให้นะ
20 เมษายน 2548 12:06 น. - comment id 456603
ชื่อกลอนทำให้นึกถึงใครบางคนจัง....
20 เมษายน 2548 15:41 น. - comment id 456702
เห็นใจท่านนะค่ะ แต่หากคิดอีกที ลูกหลานอาจติดธุระจำเป็นจริง ๆ ก็ได้