อนาถหนอชีวิต. บูรพาทิวาเพริศเลิศแจ่มใส โลมลูบไล้ท้องนภาหล้าเจิดจ้า แสงสีทองผ่องอร่ามจรดตา มวลพฤกษาร่าเริงเคล้าดนตรี กิ่งไม้สบัดระบัดใบเสียงซ่าซ่า นกในป่าร้องกันลั่นจู๋จี๋ น้ำตกไหลจ๊อกจ๊อกสู่นที มัจฉารี่เวียนว่ายเคล้าวนมา ยืนเพ่งพิศพินิจตรองกรองคิด เอาดวงจิตตั้งลงตรงนาสา ภาวนาคำพจน์พุทธวาจา พิจารณาสังขารอันเปลี่ยนไป อนิจจังทุกขังแล้วอนัตตา เรือนร่างมาประกอบไม่สดใส เกสาขนล้วนหงอกหาจับใจ นักขาไซร้ใยงอกดูน่าชัง ทันตาเล่าเฝ้ามองช่างรอนร้าว ตะโจเล่าแห้งเหี่ยวคุดคู้ขัง เป็นกระเกล็ดเม็ดผื่นไม่จีรัง สิ่งที่หวังไม่สมอารมณ์ปอง เป็นเด็กผ่านหนุ่มสาวแล้วผู้ใหญ่ ล้วนแต่ไม่ประสงค์กลับสนอง คืออนิจจังสสารพลันเข้าครอง สร้างหม่นหมองต้องไว้กับกายเรา เข้าเหตุผลทุกขังมักร้อนจิต ยืนนั่งคิดนอนตรองยากจะเฝ้า สร้างจัดโน่นแต่งนี่มิบางเบา เล่นทำเอาว้าวุ้นกรุ่นโศกทรวง พอกาลผันหมุนเปลี่ยนเวียนสลาย แล้วกลับกลายเป็นอื่นสู่ลุล่วง ไม่ของเราเขาอื่นเป็นกลลวง ซึ่งเป็นบ่วงห่วงมัดเรียกอนัตตา ดุจใบไม้ทะยานสูงพ้นจากพื้น ยังล่วงคืนสู่พสุธามากองหนา เปรียบมนุษย์แวดล้อมด้วยเงินตรา ถึงเวลาจะตายยากนำไป นี่แหละหนอความจริงสิ่งแน่แท้ อย่ามัวแลหลงใหลไปเสียได้ สร้างภายนอกลึกล้ำเข้าข้างใน เอาจิตใจให้กระจ่างสว่างธรรม. ๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
29 มีนาคม 2548 15:12 น. - comment id 446170
จิตที่หมดทุกข์พบสุขจริง สุขในสิ่งที่พระธรรมนำคำสอน รสอื่นใดเที่ยบได้ในดงดอน รสธรรมสอนให้ละสะละลง มาชื่นชมงานกลอยธรรมของแก้วประเสริฐ์ค่ะ....
29 มีนาคม 2548 16:23 น. - comment id 446211
แวะมาเยี่ยมครับท่าน.....
29 มีนาคม 2548 19:40 น. - comment id 446287
ธรรมะสอนให้เราได้เฝ้าคิด ใจลิขิตทุกสิ่งไซร้ให้ไหลหลง ชีพมลายหากใจนั้นยืนยง ตั้งจิตตรงธารธรรมนำส่องทาง......ฯ ทุกสิ่งในโลกไม่แน่นอน....ปรับจิตเราให้มีความสงบ....นั่นคือความสุขที่แท้จริง...นะคะ..
29 มีนาคม 2548 21:38 น. - comment id 446373
อนิจจังทุกขังอนัตตา คือสิ่งที่มีมาไม่ค่อยเที่ยง แต่สิ่งหนึ่งยังยืนฝืนอยู่เคียง คือความดีที่ไม่เกี่ยงไม่มีงอน *-*แต่งได้ดีค่ะ*-*
30 มีนาคม 2548 10:59 น. - comment id 446593
บทกวีงดงาม จิตใจผู้เขียนงดงาม ความงอกงามในธรรมก็ยิ่งงอกงามครับ แต่งได้งดงามวันงามคืนเลยครับ น่าชื่นชมเป็นอย่างมาก
31 มีนาคม 2548 00:37 น. - comment id 446981
..งดงาม .. มากเลยนะคะ .. ภาพ .. และบทกวี .. สร้างศรัทธา .. ให้อ่อนโยน .. เรน .. ชอบภาพ.. ด้วยดิคะ .. งดงาม ที่สุดเลยคะ.. ...
31 มีนาคม 2548 14:44 น. - comment id 447218
ความจริง เป็นสิ่งไม่แน่นอน ค่ะ อิ อิ...
31 มีนาคม 2548 21:40 น. - comment id 447353
ตราบใดที่แสงส่องผ่านร่องร่าง เมื่อเกิดเงาเลือนลางก็เห็นได้ นั่นคือกรรมที่ตามติดชีวิตไป หนีไม่ได้ ปัดไม่พ้น... ครับผม...มาเยี่ยมครับ สบายดีนะครับ.. บทกลอนกลับมาอ่านอีกที ชักจะเข้าไม่ถึงแล้วสิ ...ไฮโซเกิน อิอิ ล้อเล่นครับ..พี่แก้ว ใช่คำเลิศมาก ๆ เลยครับ
1 เมษายน 2548 02:05 น. - comment id 447542
อยากเจอตัวจริงจังเลยนะ .................... เมื่อวานไปกะพี่สาวมา เค้าเปิดเทปธรรมะให้ฟัง อันหมาน้อยตัวหนึ่งพึงสังเวช ช่างสังเกตคนนักกระไรหนา เห็นใครใครเดินผ่านไปไหนมา เป็นต้องพาโดนกัดคนทุกคน กัดทุกคนเกเรไม่เข้าท่า เป็นมายา เจ้าเล่ห์ เท่ห์ทุกหน นึกว่าทุกคนต้องเจ็บเพราะปากตน จึงต้องชนกัดคนเดินไปมา จึ่งมีผู่เฒ่าคนหนึ่งพึงให้สิ่ง เป็นกระดิ่งแขวนคอหนอเจ้าหมา นึกผยองนึกว่าได้รางวัลมา ไม่เข้าท่าเฒ่าบอกว่า ให้หลีกกระดิ่งดัง คนเดินผ่านไปมาได้ยินเสียงกระดิ่ง พึงต้องวิ่งหนีนักไม่หันหลัง หนีสุดกู่เจ้าหมาน้อยกระดิ่งดัง สุนัขฟังนึกว่าตนได้รางวัล เรื่องนี้สอนว่าเจ้าหมาน้อยคอยผยอง คอยจะจ้องกัดคนไม่เลือกนั้น ไม่เห็นใจคนโดนกัดสารพัน เวรกรรมนั้นหันหวลคืนเจ้าหมาเอย............ พี่แก้วคะ พี่แต่งดีมาก ก็เลยนำบทในเทปที่ฟังในรถพี่สาวมาแต่งให้ฟังนะคะ พักนี้คงต้องทำงานหนักค่ะ ไม่ค่อยมานะคะ
1 เมษายน 2548 11:11 น. - comment id 447662
คุณ แก้วนิดา กลอนธรรมนั้นน้อยคนที่จะให้ความสนใจนะครับ ยิ่งยุคนี้ด้วยแล้วหาคนสนใจธรรมได้ยากยิ่งจริงๆครับ ส่วนใหญ่แล้วเพียงเป็นพุทธแค่ปากเท่านั้นเอง ขอขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 11:12 น. - comment id 447663
คุณ บินเดี่ยวหมื่นลี้ ขอขอบคุณเพื่อนมกนะครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 11:15 น. - comment id 447665
คุณ ราชิกา แฝดเพื่อนรัก บอกตรงๆนะว่าการเขียนกลอนธรรมผมสังเกตุแล้วว่าจะเสียผลไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะ กลอนธรรมนั้นน้อยคนที่จะให้ความสนใจนะครับ ยิ่งยุคนี้ด้วยแล้วหาคนสนใจธรรมได้ยากยิ่งจริงๆครับ ส่วนใหญ่แล้วเพียงเป็นพุทธแค่ปากเท่านั้นเอง ขอขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 11:16 น. - comment id 447666
คุณ ผู้หญิงไร้เงา บอกตรงๆนะว่าการเขียนกลอนธรรมผมสังเกตุแล้วว่าจะเสียผลไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะ กลอนธรรมนั้นน้อยคนที่จะให้ความสนใจนะครับ ยิ่งยุคนี้ด้วยแล้วหาคนสนใจธรรมได้ยากยิ่งจริงๆครับ ส่วนใหญ่แล้วเพียงเป็นพุทธแค่ปากเท่านั้นเอง ขอขอบคุณมากนะครับ บางครั้งผมก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายเหมือนกันครับ เพียงแค่คิดสร้างกุศลเท่านั้นเองแหละครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 11:20 น. - comment id 447667
คุณ ลำน้ำน่าน ขอขอบคุณนะครับ สิ่งต่างๆนี้ผมไว้หาใช่หวังสิ่งตอบใดๆทั้งสิ้นครับ ตอนบวชพระนั้นสิ่งที่อุปปัชฌาย์จารย์ท่านมอบให้แก่ภิกษุบวชใหม่ก็คือสิ่งนี้แหละครับ จึงได้เขียนเพื่อเตือนสติเพื่อนๆที่บวชเรียนแล้วหรือจะบวชแม้แต่สตรีก็ควรจะรู้ไม่เสียหายอะไรหรอกครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 11:22 น. - comment id 447669
คุณ เรน ขอบใจน้องมากเลยครับ บอกตรงๆนะว่าการเขียนกลอนธรรมผมสังเกตุแล้วว่าจะเสียผลไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะ กลอนธรรมนั้นน้อยคนที่จะให้ความสนใจนะครับ ยิ่งยุคนี้ด้วยแล้วหาคนสนใจธรรมได้ยากยิ่งจริงๆครับ ส่วนใหญ่แล้วเพียงเป็นพุทธแค่ปากเท่านั้นเอง ขอขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 11:24 น. - comment id 447671
คุณ ลอยไปกับสายลม สบายดีหรือเปล่าครับระยะนี้อากาศร้อนผิดปกติ ระวังสุขภาพด้วยนะครับ บอกตรงๆนะว่าการเขียนกลอนธรรมผมสังเกตุแล้วว่าจะเสียผลไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะ กลอนธรรมนั้นน้อยคนที่จะให้ความสนใจนะครับ ยิ่งยุคนี้ด้วยแล้วหาคนสนใจธรรมได้ยากยิ่งจริงๆครับ ส่วนใหญ่แล้วเพียงเป็นพุทธแค่ปากเท่านั้นเอง ขอขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 11:30 น. - comment id 447674
คุณ พู่กันของหูกวาง หายไปนานเหมือนกันนะครับ ผมเองระยะนี้ไม่ค่อยจะดีครับร้อนมากๆด้วยครับ หวังว่าคงจะสบายดีนะครับ ขอขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 11:32 น. - comment id 447675
คุณ ทรายกะทะเล ดีแล้วล่ะครับกลอนคุณเขียนเปรียบเทียบได้ดีครับ ขอบคุณนะครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 16:51 น. - comment id 447824
เป็นแก้วเลิศประเสริฐจ้าน่าไปบวช จะได้สวดเสกยันต์ไว้กันผี อย่าล่อเหล้าเมาค้างห่างนารี เดี๋ยวราคีคึกคักทะลักลาม เมื่อตัณหามาสู่ให้รู้หด จงกำหนดกดขี่เหมือนผีห้าม อย่าอาลัยใจมัดสกัดกาม ขืนแห่หามตามหาจะบ้าบอ อีกเด็กสาวคราวหลานอย่าหาญรัก เดี๋ยวจมปลักตักตวงเป็นห่วงหนอ จะเลยเถิดเกิดคาวนักข่าวรอ มานั่งหงอหงึกหงักกระอักใจ ทั้งโทสะฉะใครอย่าได้คิด อย่าปล่อยจิตจนสั่นมาหวั่นไหว อย่าหน้ามืดฟึดฟัดเที่ยวอัดใคร อดเอาไว้ให้มั่นอย่าสั่นคลอน อย่าทะนงหลงคำแม้ความเห็น มามองเป็นเช่นค่าไม่กล้าถอน อย่ายึดติดตีตราว่าหมดตอน อะไรซ่อนซึมซับจงจับดู...
2 เมษายน 2548 12:57 น. - comment id 448083
ขอขอบคุณหนุนคำมาร่ำสอน นึกถึงตอนบวชอยู่อดสูเหลือ ผีมานั่งลวงแวมวับนับจุนเจือ หวังหมายเกื้อเอื้อหนุนขุนตัวเรา ประเคนของต้องปลงลงในจิต ปทุมมาลย์สลิดดิ้นพล่านสั่นขุนเขา อสุพะมาข่มใจให้บางเบา ตัณหาเฝ้าหยอกเย้าเข้าอารมณ์ พิจารณามองวางไว้แต่ใจสั่น มันรุมกันขันต่อขอสู่สม ทั้งนอกหนุนกรุ่นแสบแทบอกตรม ล้วนน่าชมข่มพลางสร้างภาวนา ยุบหนอพองหนอตามแนวลักษณ์ มันพองนักแต่มิยุบแทบสลบหนา ต้องหลับตารับของที่เข้ามา หรือหันหน้ามองไปไม่หมายแล มิทะนงหลงเห็นตามภาพนั้น จิตใจพลันสร้างสรรค์มิตามกระแส ฝืนทั้งนอกและในอันปรวนแปร มิยอมแพ้จนละลายสลายไป ขอขอบใจมิตรธรรมที่นำจิต สร้างชีวิตจริงแท้ให้สดใส เป็นความจริงแน่แท้สิ่งเป็นไป เกิดวิไลในทางสร้างแนวธรรม. แก้วประเสริฐ.
2 เมษายน 2548 13:00 น. - comment id 448085
คุณ แก้วแตก อิอิ ขอโทษครับที่ลืมใส่ชื่อคุณ ขอขอบคุณที่เขียนกลอนแนวสร้างสรรค์ไว้ยอดเยี่ยมครับ แก้วประเสริฐ.
2 เมษายน 2548 15:10 น. - comment id 448135
คุณ แก้วแตก อ้อผมลืมไปครับ กลอนคุณงดงามมาก ว่างๆมาร่วมเขียนในไทยกลอนกันซิครับ เกี่ยวกับธรรมนะครับ คุณเขียนได้ลึกซึ้งมากครับ ผมอยากหาคนมาร่วมกันสร้างแนวธรรมไว้ หวังว่าคงมาร่วมด้วยนะครับขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.