ลิขิตจิตพร่ำเพ้อ ..๏เฝ้าหวนคิดจิตกวัด............แรงโน้มมัดรัดรึงฝัน พิศเพ่งชวนผูกพัน.................สุดซาบซ่านวันรอคอย ..๏แว่วหวานแผ่วใจหวน........ แสนปั่นป่วนชวนตาลอย เขาหลอกมาใช้สอย................ดวงใจน้อยพลอยระทม ฯ ..๏ลมเอ๋ยเคยโชยพลิ้ว............ไยโกรธกริ้วมิพลิ้วลม แรงรักหักใจชม.......................แสนขื่นขมปมรักลวง ..๏หวิวหวิวเกิดในอก............... แสนวิตกจนหนักทรวง นึกถึงความเฝ้าหวง...................ล้วนเป็นบ่วงรัดรึงใจ ฯ ..๏รักเขาเฝ้าโหยหวน...............สิ่งนั้นล้วนมักหมองไหม้ เกิดก่อคิดจากไป......................เหมือนห่วงไซร้ช่างยากเย็น ..๏ค่ำเช้าอยากแลหน้า...............สู้อุตส่าห์ฝ่ายากเข็ญ พักตร์เจ้าเพียงแลเห็น...............ชื่นใจเช่นมองแสงโสม ฯ ..๏ราตรีนี้แสนสุขนัก................. สุดที่รักยากเล้าโลม อดทนแม้นชโลม........................ดุจดั่งโสมต้องเมฆา ..๏จำพรากจากร้าวรอน...............ช่างสะท้อนมินำพา ล้วนแล้วแต่วาสนา.......................จะนำมาพาภิรมย์ ฯ ..๏ขมขื่นจำใจพราก.....................แม้นแสนยากก็จักทน สุดแสนแน่นดวงกมล...................หนีไม่พ้นคนก่อเวร ..๏บ่วงนี้มีคนจ้อง..........................เขาป่าวร้องต้องหลีกเร้น หวนไห้แม้ลำเค็ญ.........................ขอหนีเร้นหลบซ่อนกาย ฯ ..๏ก่อเกิดด้วยความรัก...................อนาถนักต้องร้างมลาย ทนสู้มิล่วงกราย..............................เหลือเพียงสลายใจหมองช้ำ ..๏นี่หรือคือรักช้ำ.......................... สุดระกำแสนลึกล้ำ สาวเจ้าช่างสุดทำ............................เบนเบี่ยงนำน้ำใจหญิง ฯ ..๏วันนี้ชายหมองไหม้......................ดุจดั่งไร้หัวใจสิงห์ วันหนึ่งจะเอนอิง...............................เหลือแต่สิ่งให้หวนครวญ ..๏วันหน้าจะกำสรวล.........................สิ่งที่ล้วนชวนปั่นป่วน แล้วเจ้าจะนึกทวน.............................แสนรัญจวนนึกถึงชาย.๚ะ๛ ๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
9 มีนาคม 2548 08:13 น. - comment id 436311
แวบมาอ่าน สวย อีกตามเคยนะคะ.........
9 มีนาคม 2548 08:42 น. - comment id 436317
..เอาดอกไม้มาฝากค่ะ... ^__________^
9 มีนาคม 2548 09:59 น. - comment id 436359
งานงามมากค่ะ...วันนี้ไม่มีรูปรึค่ะ...อิอิ...
9 มีนาคม 2548 10:00 น. - comment id 436361
วันนี้ยังมีค่า.....................ถึงแม้นว่าไม่มีใคร เหนื่อยล้าสักเพียงไหน....จะมั่นไปไม่ย่อท้อ พรุ่งนี้ยังมีฝัน...................ให้บุกบั่นฝ่าฟันต่อ จุดหมายยังคอยรอ............จะไม่ท้อไม่ยอมแพ้
9 มีนาคม 2548 10:01 น. - comment id 436362
ถึงเขาหลอกก็เต็มใจให้หลอกเหรอเพื่อนแก้ว.. หาใหม่ดีกว่ามังค่ะ.. ...
9 มีนาคม 2548 10:53 น. - comment id 436395
โอย...ปวดใจค่ะ แต่งได้อีกแนวแล้ว..โธ่ๆๆ ไม่รอกันบ้างเลย ไม่เป็นไรต่อให้ก่อน ขออ่านอย่างเดียวดีกว่าเด้อค่ะ
9 มีนาคม 2548 11:13 น. - comment id 436405
..๏เฝ้าหวนคิดจิตกวัด............แรงโน้มมัดรัดรึงฝัน พิศเพ่งแรงฤทธิ์พลัน.............สุดซาบซ่านวันรอคอย .........พิศเพ่งแล้วแรงฤทธิ์ ประมาณว่าทำอะไรอยู่ ..๏หวานแววแผ่วใจหวน....... แสนปั่นป่วนชวนตาลอย .......หวานแวว แปลว่าอะไร เขาหลอกมาใช้สอย................ดวงใจน้อยพลอยระทม ฯ ..๏ลมเอ๋ยเคยโชยพลิ้ว............ใยโกรธกริ้วมิพลิ้วลม ... ไย ไม้มลาย คัด 100 จบ แรงรักหักใจชม.......................แสนขื่นขมปมรักลวง ..๏หวิวหวิวเกิดในอก............... แสนวิตกจนหนักทรวง นึกถึงความเฝ้าหวง...................ล้วนเป็นบ่วงรัดรึงใจ ฯ ..๏รักเขาเฝ้าโหยหวน...............สิ่งนั้นล้วนมักหมองไหม้ เกิดก่อคิดจากไป......................เหมือนห่วงไซร้ช่างยากเย็น ..๏ค่ำเช้าอยากแลหน้า...............สู้อุตส่าห์ฝ่ายากเข็ญ พักตร์เจ้าเพียงแลเห็น...............ชื่นใจเช่นมองแสงโสม ฯ ..๏ราตรีนี้สุกนัก......................... เหมือนจะชักยากเล้าโลม .....ร้อนมากหรือคะ สุก น่ะ อดทนแม้นชโลม........................ดุจดั่งโสมต้องเมฆา ..๏จำพรากจากจักร้าวรอน...........ช่างสะท้อนมินำพา ล้วนแล้วแต่วาสนา.......................จะนำมาพาภิรมย์ ฯ ..๏ขมขื่นจำใจพราก......................แม้แสนยากก็ต้องทน สุดแสนจะถูกบ่น...........................หนีไม่พ้นคนก่อเวร .....แปร่งๆจัง สุดแสนจะถูกบ่น เนี่ย ..๏บ่วงนี้มีคนจ้อง..........................เขาป่าวร้องต้องหลีกเร้น หวนไห้แม้ลำเค็ญ.........................ขอหลีกเร้นหนีซ่อนกาย ฯ ....หลีกเร้น หาคำอื่นมาเปลี่ยนเถอะค่ะ มันช้ำกับวรรคที่แล้ว ..๏ก่อเกิดกำเนิดรัก.......................อนาถนักต้องร้างมลาย ....ก่อเกิด = กำเนิด ไหมคะ ทนสู้มิล่วงกราย..............................เหลือเพียงสลายใจหมองช้ำ ..๏นี่หรือคือรักคว่ำ......................... สุดระกำแสนลึกล้ำ ...รักคว่ำ ??? รักกันบนเรือ หรือบนรถ คะ เว้าเจ้าเคล้าสุดทำ............................เบนเบี่ยงนำน้ำใจหญิง ฯ ...เว้าเจ้า ภาษาท้องถิ่นหรือเปล่าเอ่ย ..๏วันนี้ชายหมองไหม้......................มิใช่ไร้หัวใจสิงห์ ....ชิงสัมผัสกันอื้อเลยค่ะ วันหนึ่งจะเอนอิง...............................เหลือแต่สิ่งให้หวนครวญ ..๏วันหน้าจะกำสรวล.........................สิ่งที่ล้วนชวนปั่นป่วน แล้วเจ้าจะนึกทวน.............................แสนรัญจวนนึกถึงชาย.๚ะ๛ เอาแค่นี้ก่อนนะคะ งานแยะ
9 มีนาคม 2548 12:23 น. - comment id 436439
อยากแต่งกลอนเพราะ ๆ ได้แบบนี้ม่งจังเลย
9 มีนาคม 2548 12:36 น. - comment id 436446
อิอิอิ.......ผิดคือครูที่สอนบอก เขียนผิดถูกเราก็มีออกบ่อย คำที่ใช้บางคำเรายังนำมาใช้มิใช้น้อย เลยมิรู้จะบอกกันแบบไหนว่าผิดอย่างไรกัน แต่อัลมิตา..บอกมานั้นนะ...เราจะได้ขอนำเอาไปใช้ด้วยจ้าาาาาาาาาแก้วประเสริฐ์.
9 มีนาคม 2548 13:03 น. - comment id 436465
..๏วันหน้าจะกำสรวล.......สิ่งที่ล้วนชวนปั่นป่วน แล้วเจ้าจะนึกทวน......แสนรัญจวนนึกถึงชาย.๚ะ๛ วันนี้มีอาฆาตกันด้วยนะคะ อิ..อิ.. (=^_^=) * แวะมาชื่นชมเหมือนเช่นเคยค่ะ *
9 มีนาคม 2548 13:40 น. - comment id 436484
คุณ ดาหลา ขอบคุณมากนะครับผมก็พยายามที่จะสรรสร้างงานไว้เป็นที่ระลึกในการแต่งว่าครั้งหนึ่งเราก็สามารถทำได้ครับ แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 13:42 น. - comment id 436486
คุณ นางสาวใบไม้ ขอขอบคุณมากยิ่งนักถึงช่อดอกไม้อันมีค่ายิ่งสำหรับผม จะเก็บไว้ในห้วงกระแสแห่งดวงใจครับ แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 13:47 น. - comment id 436490
คุณ กัลลดา ผมลงโพสน์ตอนตีหนึ่งกว่าๆเลยลืมไปครับแต่เอามาลงไว้แล้วนะครับตัวอักษรก็เปลี่ยนจากสีดำเป็นน้ำตาลเรียบร้อยแล้วครับทั้งยังแก้ไขบางส่วนของกลอนไว้ด้วยครับ ขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 13:50 น. - comment id 436492
คุณ บินเดี่ยวหมื่นลี้ ขอบคุณมากครับในกลอนอันหวานๆนะครับ ด้วยใจจริงๆครับ ซึ้งมากครับ แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 13:54 น. - comment id 436494
คุณ กุ้งหนามแดง โอ้ย..ๆๆๆ...กุ้งเพื่อนรักเรื่องหลอกนะผมเจอมาเสียจนชินชาแล้วล่ะ การแต่งเรื่องนี้เป็นแค่อารมณ์หนึ่งบวกประสบการณ์ไว้ด้วยนะเพื่อน มิได้มีอะไรหรอก ถึงแม้ว่าจะโดนหลอกอีกก็จะเฉยๆแล้วล่ะ ขอบใจเพื่อนรักมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 13:57 น. - comment id 436498
แวะมาเติมใจ....ครับ
9 มีนาคม 2548 13:59 น. - comment id 436499
คุณ คนเมืองลิง เรื่องนี้เป็นผลพลอยได้ครับ กลอนนี้คุณอัลมิตรามอบทั้งแบบโครงสร้างไว้ให้อีกทำนองคล้ายๆกับกาพย์ยานี 11 ซึ่งผมชอบมากอยู่แล้วเลยหัดไว้ไม่ยาก เพียงแต่เรื่อง ความหมายเท่านั้นเองที่ยังสับสนอยู่ เพื่อนก็หัดเอาไว้เถิดคิดว่าคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงเพื่อนหรอกจ๊ะ ขอบใจเพื่อนมากนะ แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 14:02 น. - comment id 436503
คุณ อัลมิตรา ขอบคุณอย่างมากเลยครับ นี่แหละคือสิ่งที่ผมปราถนาเพราะทราบดีถึงตัวเองว่ายังอ่อนมากในการเขียนนี้ เมื่อคุณแนะนำมาเกิดประโยชน์แก่ผมและเพื่อนที่เข้ามาอ่านมากเลย กลอนนี้จะได้แพร่ออกไปสู่มวลชนจ๊ะ ผมดีใจมากและได้ไปแก้ไขบางส่วนตามที่คุณแนะนำมาแล้วครับ ช่วยทบทวนอีกทีนะครับหากไม่เหมาะสมอย่างไรแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ ขอบคุณเป็นอย่างมากครับ แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 14:07 น. - comment id 436506
คุณ สาว พฤษภ ความเพียรพยายามคือบ่อเกิดแห่งความสำเร็จครับ คุณไม่ทำก็จะไม่รู้หรอกทำซิครับอ่านกลอนคนอื่นมากๆหาข้อคิดสังเกตุเอาไว้และของเราไว้ทบทวนข้อผิดพลาดของกลอนเราก็จะสามารถทำได้ครับ เพียงอย่าไปเลียนแบบเขาให้มาก ให้คิดทำเป็นของเราเองจะได้เกิดความภาคภูมิใจแล้วจะเกิดพลังงานในการดำเนินงานต่อไปครับ เชิญเลยครับผมคิดว่าคุณย่อมสามารถทำได้ ขอเอาใจช่วยเสมอๆครับ ลองทำนะครับอย่าท้อถอยครับ แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 14:12 น. - comment id 436509
คุณ แก้วนิดา ครับผมเองเป็นผู้ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นเสมอๆมาและทำให้ก่อเกิดประโยชน์แก่ผมเองด้วยการขัดเกลาแนวทางการสร้างของผมเสมอมา ฉนั้นกลอนรวมทั้งโคลงจึงได้ไปได้อย่างรวดเร็วเกินความที่จะคิดได้ครับ ผิดหรือครูที่ผมใช้เป็นประจำไม่โกรธเคืองกลับยินดีและน้อมรับเสมอๆครับ อิอิ ยกเว้นไม่แนะนำแล้วยังด่าอย่างหยาบคายนี่แหละผมจะรับไม่ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับขอบคุณด้วยใจจริงๆครับ แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 14:17 น. - comment id 436511
คุณ ผู้หญิงช่างฝัน หามิได้ครับผมไม่คิดอาฆาตใครหรอกครับ เพียงผมฝันเหมือนชื่อคุณนั่นแหละคือช่างฝันผูกพันเป็นเรื่องราว ในเมื่อรักเขาเฝ้าทะนุถนอมทำทุกสิ่งแล้วเมื่อไม่สมปองก็ต้องรำพึงออกมาฝากเอาไว้เท่านั้นแหละครับ 555 นี่แหละของคนช่างฝันเหมือนผมครับ ขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 14:20 น. - comment id 436513
คุณ มนต์กวี สิ่งนี้แหละครับคือมวลพลังที่เหนี่ยวรั้งผมให้หลงใหลในกระแสรแห่งโคลงกลอน หากขาดพลังจากเพื่อนๆแล้วงานก็ย่อมสุดสิ้นไปตามสภาพ ขอบคุณมากครับที่ให้พลังเติมความฝันผมอยู่เสมอครับ แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 15:06 น. - comment id 436538
คุณแก้วประเสริฐ คะ ตามตำราฉันทศาสตร์รูปแบบคำประพันธ์ ที่เรียกว่า โศลก นั้น เป็นบทประพันธ์สันสกฤตที่ บทหนึ่งมีสี่บาท เรียกว่าโศลกหนึ่ง ตามศัพท์คำนี้แปลว่า ลำนำขับร้องสรรเสริญ เป็นเกียรติ สูง ในการแต่งคำฉันท์ ซึ่งตามความนิยมมักใช้ คำศัพท์สันสกฤตเป็นพื้น (คำสันสกฤตก็คือศัพท์ ที่ต้องแปลนั่นแหละค่ะ) จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎ ของคำครุ และคำลหุ ที่บังคับ อย่างเคร่งครัดซึ่ง จะคลาดเคลื่อนไม่ได้เลย แม้แต่สักที่เดียวนะคะ และจะต้องลงคำครุคำลหุในตำแหน่งเหมือนกัน โดยตลอดทั้งสำนวน จึงจะนับเป็นคำฉันท์ค่ะ งาน เรื่อง ลิขิตจิตพร่ำเพ้อ สำนวนนี้ เป็นงานที่เห็นความพยายามและความรักใน การประพันธ์อย่างมาก และเสนออารมณ์ดีค่ะ แต่ รูปแบบคำประพันธ์นี้ คือ กาพย์ยานี ๑๑ ไม่ใช่บทฉันท์ เพราะอะไร เพราะว่าการลงครุลหุ ยังไม่ใช่ตามกำหนดที่เป็นฉันท์ค่ะ งานชิ้นนี้ ยังเป็นกาพย์ยานี เพราะปรากฏคำลหุ เช่นคำว่า จะ แทรกตามที่ต่างๆอย่างไม่ตรงที่ลหุบังคับ และตำแหน่งบังคับของลหุในวรรคหลัง กลับเห็นเป็นคำครุซึ่งทำให้ไม่ใช่คำฉันท์ค่ะ ที่สำคัญ ความเสมอกันของครุลหุยังไม่มีในงาน และไม่ใช่บทสรรเสริญ จึงไม่เรียก โศลก ค่ะ คำฉันท์ที่มีสิบเอ็ดคำ (วรรคหน้าห้า หลังหก) มีอยู่หลายชนิด เช่น อินทรวิเชียร อุปัฎฐิตา อุเปนทรวิเชียร อุปชาติ และ สาลินี เป็นต้น ฉันท์ ๑๑ เหล่านี้ จะมีแบบแผนของครุลหุต่างกัน โดยเฉพาะในวรรคต้นค่ะ และในทุกบทต้องใช้ คำครุลหุตรงที่บังคับ ตรงกันทุกบทด้วยค่ะ หนังสือคำฉันท์ที่เป็นแบบอย่าง คือ เรื่อง สามัคคีเพศคำฉันท์ และยอดวรรณกรรม เรื่อง มัทนพาธา (พระราชนิพนธ์ใน รัชกาลที่ ๖) อย่างไรก็ตาม งานของคุณมีพลังมากค่ะ ขอชม ด้วยอินทรวิเชียร ดังนี้ ชื่นชมนิยมอัก ขรรักลิขิตคำ ขอน้อมแนะแนวนำ ดนุผู้กวีกร กรองฉันทะบรรเจิด ลหุเลิศเลบงพร สรรคำวิเศษสร สุรเสียงประสมสาน ราวซอลออสร้อย ครุร้อยระรื่นปาน เปรียบดังดุรีย์หวาน เสนาะถ้อยสุวาที ฯ ( อินทรวิเชียร ๑๑ จะลงคำลหุแปดแห่งในทุกบท) หากแสดงความเห็นยาวไป ขออภัยค่ะ ด้วยปรารถนาดี
9 มีนาคม 2548 15:06 น. - comment id 436539
คุณแก้วประเสริฐ คะ ตามตำราฉันทศาสตร์รูปแบบคำประพันธ์ ที่เรียกว่า โศลก นั้น เป็นบทประพันธ์สันสกฤตที่ บทหนึ่งมีสี่บาท เรียกว่าโศลกหนึ่ง ตามศัพท์คำนี้แปลว่า ลำนำขับร้องสรรเสริญ เป็นเกียรติ สูง ในการแต่งคำฉันท์ ซึ่งตามความนิยมมักใช้ คำศัพท์สันสกฤตเป็นพื้น (คำสันสกฤตก็คือศัพท์ ที่ต้องแปลนั่นแหละค่ะ) จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎ ของคำครุ และคำลหุ ที่บังคับ อย่างเคร่งครัดซึ่ง จะคลาดเคลื่อนไม่ได้เลย แม้แต่สักที่เดียวนะคะ และจะต้องลงคำครุคำลหุในตำแหน่งเหมือนกัน โดยตลอดทั้งสำนวน จึงจะนับเป็นคำฉันท์ค่ะ งาน เรื่อง ลิขิตจิตพร่ำเพ้อ สำนวนนี้ เป็นงานที่เห็นความพยายามและความรักใน การประพันธ์อย่างมาก และเสนออารมณ์ดีค่ะ แต่ รูปแบบคำประพันธ์นี้ คือ กาพย์ยานี ๑๑ ไม่ใช่บทฉันท์ เพราะอะไร เพราะว่าการลงครุลหุ ยังไม่ใช่ตามกำหนดที่เป็นฉันท์ค่ะ งานชิ้นนี้ ยังเป็นกาพย์ยานี เพราะปรากฏคำลหุ เช่นคำว่า จะ แทรกตามที่ต่างๆอย่างไม่ตรงที่ลหุบังคับ และตำแหน่งบังคับของลหุในวรรคหลัง กลับเห็นเป็นคำครุซึ่งทำให้ไม่ใช่คำฉันท์ค่ะ ที่สำคัญ ความเสมอกันของครุลหุยังไม่มีในงาน และไม่ใช่บทสรรเสริญ จึงไม่เรียก โศลก ค่ะ คำฉันท์ที่มีสิบเอ็ดคำ (วรรคหน้าห้า หลังหก) มีอยู่หลายชนิด เช่น อินทรวิเชียร อุปัฎฐิตา อุเปนทรวิเชียร อุปชาติ และ สาลินี เป็นต้น ฉันท์ ๑๑ เหล่านี้ จะมีแบบแผนของครุลหุต่างกัน โดยเฉพาะในวรรคต้นค่ะ และในทุกบทต้องใช้ คำครุลหุตรงที่บังคับ ตรงกันทุกบทด้วยค่ะ หนังสือคำฉันท์ที่เป็นแบบอย่าง คือ เรื่อง สามัคคีเพศคำฉันท์ และยอดวรรณกรรม เรื่อง มัทนพาธา (พระราชนิพนธ์ใน รัชกาลที่ ๖) อย่างไรก็ตาม งานของคุณมีพลังมากค่ะ ขอชม ด้วยอินทรวิเชียร ดังนี้ ชื่นชมนิยมอัก ขรรักลิขิตคำ ขอน้อมแนะแนวนำ ดนุผู้กวีกร กรองฉันทะบรรเจิด ลหุเลิศเลบงพร สรรคำวิเศษสร สุรเสียงประสมสาน ราวซอลออสร้อย ครุร้อยระรื่นปาน เปรียบดังดุรีย์หวาน เสนาะถ้อยสุวาที ฯ ( อินทรวิเชียร ๑๑ จะลงคำลหุแปดแห่งในทุกบท) หากแสดงความเห็นยาวไป ขออภัยค่ะ ด้วยปรารถนาดี
9 มีนาคม 2548 15:14 น. - comment id 436546
ขออภัยอย่างสูง หนังสือสามัคคีเภทคำฉันท์ ค่ะ (ข้างบนนี้สะกดผิดไป ขออภัยด้วยค่ะ)
9 มีนาคม 2548 15:22 น. - comment id 436557
เก่งๆกันทั้งนั้นเลยค่ะ และชื่นชมคุณแก้วด้วยค่ะ ที่มากความเพียรพยายาม พุดเอาใจช่วยด้วยรักศรัทธา สู้สู้สู้ค่ะ
9 มีนาคม 2548 16:53 น. - comment id 436598
เรียน คุณ ช่อชงโค ผมขอนอบน้อมคาราวะแด่ท่านผู้รอบรู้ยิ่ง ผมนั้นไม่มีความรู้เลยเกี่ยวกับโศลก คำฉันท์ที่คุณกล่าวอ้างไว้เพียงแต่ด้วยความรักในบทโคลงกลอน ฉันท์กาพย์มาก จึงเพียรพยายามทำในสิ่งที่คิดว่าทำได้ตามแนวทางผู้รู้กรุณามอบมาให้เพื่อใช้ฝึกฝนสร้างภูมิปัญญาแก่ผมเอง ผมรู้สึกซาบซึ้งถึงน้ำใจไมตรีในการมอบสิ่งที่มีคุณค่าเหล่านี้แก่ผมไว้ ครับผมเก็บเอาไว้เป็นตัวอย่างในการจะแต่งต่อไป ส่วนคำครู ลหุ นั้นผมทราบเป็นเพียงแค่คำหนักและคำเบาต้องใช้อักษรแตกต่างกันไปเท่านั้นครับ อย่างไรก็ตามผมใคร่ขอความกรุณาคุณด้วยมา ณ ที่นี้หากผมแต่งโคลง กลอน คำฉันท์ใคร่ช่วยมาแนะนำผมด้วย ผมขอน้อมรับเชื่อฟังไว้ในโอกาสต่อไปด้วย ขอขอบคุณเป็นอย่างมาก ผมมีแค่เพียงน้ำใจอันแน่วแน่เท่านั้นที่จะส่งมอบคาราวะคุณครับ ขอบคุณอีกครั้งหนึ่งครับ แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 17:01 น. - comment id 436610
คุณ พุด เพื่อนรักครับผมเองบอกตรงๆเลยไม่เป็นอะไรเลยเกี่ยวกับโศลกคำฉันท์นะครับแต่ได้แบบมาก็แต่งขึ้นแต่เพียงกังขานิดหน่อยๆว่าทำไมจึงคล้ายกาพย์ยานี 11 มาจังแต่เพียงผิดกันตอนระหว่างเชื่อมบทเท่านั้นเองครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 19:31 น. - comment id 436654
แวะมาเยี่ยมนะคะ...ความพยายามอยู่ที่ไหน..ความสำเร็จอยู่ที่นั่นค่ะ...สู้ต่อไปนะจ๊ะ...
9 มีนาคม 2548 19:55 น. - comment id 436666
คุณ ราชิกา จ๊ะเพื่อนแฝดที่น่ารัก ผมแค่เพียงฝึกหัดเอาไว้แหละครับ ส่วนลึกๆนั้นผมนั้นมั่นในแค่ โคลงและกลอนเท่านั้นเองจ๊ะ สิ่งต่างๆหากรู้ไว้ก็จะดีเผื่อบางโอกาสหากต้องการจะได้ทำได้จ๊ะเพื่อนรัก ขอบใจมากเลยนะเพื่อน แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 21:53 น. - comment id 436716
แต่งได้ดีนะค่ะ มาชื่นชมในผลงานค่ะ
9 มีนาคม 2548 22:19 น. - comment id 436746
ติดตามอ่านมาเรื่อยๆ ..อ่านด้วยความชื่นชมในความพยายามสร้างสรรค์และเรียนรู้ หลายรูปแบบของร้อยกรองที่นำเสนอ...น่าเลื่อมใสในความเพียรอย่างมากมาย ..แหะ..แหะ.. งดวิจารณ์อีกแล้วค่ะ ..ได้แต่ชื่นชมอย่างเดียว
9 มีนาคม 2548 22:26 น. - comment id 436758
คุณ ผู้หญิงไร้เงา ขอบคุณมากครับ อิอิ หากไม่ทราบจากคุณช่อชงโค บอกมาผมก็ยังไม่รู้อะไรได้มากกว่านี้อีกครับ ทำให้ผมตาสว่างขึ้นมากเลยครับ แก้วประเสริฐ.
9 มีนาคม 2548 22:31 น. - comment id 436764
คุณ น้องกิ๊ฟ ผมเป็นคนยอมรับความเป็นจริงเสมอแหละครับและให้เกียรติแก่ทุกๆคนเสมอมายกเว้น....ไม่พูดครับ การเรียนรู้ของผมจะดีหรือไม่หากถูกแนวทางแล้วย่อมจะนำมาเสนอเกี่ยวกับธรรมะซึ่งตอนนี้รู้สึกว่าเพื่อนๆรู้ซึ้งถึงคุณค่าแห่งพระธรรมกันและพากันเสนอผลงานด้านนี้ไม่มากก็น้อยทำให้ผมดีใจมาก ดุจเช่นเดียวกับคุณที่ทุ่มเทชีวิตให้แก่งานด้านนี้โดยตรง ผมขออนุโมทนาด้วยใจจริงครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
10 มีนาคม 2548 15:28 น. - comment id 437043
ใจชายอยู่ที่ไหน ที่ทิ้งไปใครกลอกกลิ้ง เสียแรงรักเธอจริง ที่เป็นสิงห์จริงหรือเธอ ++++ แต่งได้ดีจ้า...^___^
10 มีนาคม 2548 18:04 น. - comment id 437143
ใจชายอยู่ที่นี่ ด้วยเหตุที่ถูกกลอกกลิ้ง เหลือไว้แค่พักพิง เพียงหยุดนิ่งสิงห์คำราม. ฮึ่มๆๆ เหมือนหรือเปล่าไม่รู้นา คิดได้แค่นี้แหละจ้า ขอบใจมากนะจ๊ะ (ถ้ายานี 11 พอดำน้ำไปได้จ้า อิอิ โศลกคำฉันท์เปิดอ่านที่เวปฯแล้วถอนใจท้อ คอยวันฮึดเหมือนสิงห์ก่อนค่อยบรรเลง เถอะน่าเป็นไงเป็นกัน อิอิ) แก้วประเสริฐ.
20 มีนาคม 2548 21:23 น. - comment id 441900
พึ่งมาอ่านน่ะค่ะ ตกใจกับคำว่า โศลก เหมือนกัน รูปแบบเหมือนยานี 11 เป๊ะเลย ขอบคุณคุณช่อชงโคมากค่ะ ที่ให้ความรู้ในกระทู้นี้ ขอเก็บไว้ศึกษาดีกว่า
20 มีนาคม 2548 21:26 น. - comment id 441903
พึ่งมาอ่านน่ะค่ะ ตกใจกับคำว่า โศลก เหมือนกัน รูปแบบเหมือนยานี 11 เป๊ะเลย ขอบคุณคุณช่อชงโคมากค่ะ ที่ให้ความรู้ในกระทู้นี้ อยากจะขอเพิ่มนิดนึง ตรงที่ว่า ยานี วรรคที่ 3 กับ วรรค ที่ 4 สัมผัสไม่บังคับนะคะ ไม่จำเป็นต้องให้สัมผัสกันก็ได้ แต่จำไม่ได้ว่า วรรคที่ 1 กับ วรรคที่ 2 บังคับสัมผัสกันรึเปล่า รู้สึกว่าจะไม่บังคับด้วยเหมือนกันนะคะ