ท่องแดนแห่งนิรยะ (ต่อ) ไร้สุริยันจันทรามาเกลือกกลั้ว แสงสลัวมัวหมอกมิจางสลาย ดูเวิ้งว้างรายรอบเป็นขอบกระจาย รอบเรียงรายถึงเวลามาเดินทาง ขุมที่ห้านามว่ามหาโรรุวะ หมู่สัตว์จะร้องหวนชวนครวญคราง เปี่ยมสำเนียงเสียงเจ็บปวดสรรพางค์ เป็นแนวกว้างพาหิรชนคนบาปหนา ขุมที่หกแดนตาปนะนรก แปลว่าโลกร้อนเป็นไฟไร้กังขา ทั้งแผ่นดินถิ่นภูเขาไฟโชนมา ถูกตรึงตราหลาวเหล็กนั่งเสียบจม นัยหนึ่งพึงสู่อยู่ห้องเหล็กร้อน แดงสะท้อนโชติช่วงไฟไล้สะสม นำสัตว์เป็นเสียบย่างสร้างรอยปม ด้วยอารมณ์สมใจในทรมาน ขุมที่เจ็ดเรียกว่าปตาปนะ ใช้ชำระสัตว์ไว้ด้วยไฟประสาน ด้วยหอกสามง่ามไฟให้วายปราณ เหตุระรานผลาญศาสนาว่าไม่จริง ขุมที่แปดไม่เว้นว่างอเวจีมหานรก เปลวไฟปกคลุมทั่วไปในทุกสิ่ง ให้ร้อนแรงแฝงทรมานจนสุดอิง ไม่อยู่นิ่งสิ่งทุรนทุรายใช้กรรมเวร เหตุจากด่าทุบตีมีพ่อแม่ พุทธเจ้าแม้แต่รอยจนมองเห็น ผู้มีคุณหนุนเนื่องจนลำเค็ญ ส่งผลเป็นจนให้ได้มหาอเวจี ทั้งแปดขุมลุ่มลึกผนึกเอาไว้ เพื่อจะได้เตือนสติมิเป็นศรี ตามคำภีร์สังกิจจชาดกว่าไว้มี เรื่องเช่นนี้กฏกรรมนำไปตรอง สิ้นขุมใหญ่อีกขุมเล็กชุมนุมหลาย รอบเรียงรายร้อยยี่สิบแปดแผดสยอง ใครอยากอยู่เลือกได้ตามใจปอง โดยไม่ต้องเสียเงินทองหม่นหมองเลย. ๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
11 กุมภาพันธ์ 2548 13:57 น. - comment id 423858
ได้อ่านดูปลงใจคงไม่คิด จะทำผิดติดสาบบาป..มหันต์ ตกนรกหมกไหม้...ไร้ชีวัน ความสุขสันต์ใดใดย่อมไม่มี ได้อ่านแล้วอย่าเบื่อจงเชื่อเถิด การเวียนว่ายตายเกิดทั้งเปรตผี ทั้งอินทร์พรหมเทวดาที่พาที นั้นมั่นมีจริงจริงไม่อิงนิยาย กลอนให้ข้อคิด คนทำผิดคงเกรงกลัว
11 กุมภาพันธ์ 2548 14:24 น. - comment id 423869
อเวจี ต้อนรับ คนเลว หุบเหว นรกร้อน ไฟฟอนผลาญ มีเหล็กแหลม ทิ่มตำ กรรมบันดาล ยากจะผ่าน พ้นได้ เก็บไปคิด ทำกรรมใด ส่งผล กับตนสิ้น ดีอาจินต์ ขึ้นชั้นฟ้า เทวาสถิตย์ จงเลือกเถิด วิถี ใช้ชีวิต เลือกลิขิต ด้วยตนเอง บรรเลงกรรม ดีก็เรียกกรรมดี.. ชั่วก็เรียกกรรมชั่ว.. ...
11 กุมภาพันธ์ 2548 15:48 น. - comment id 423913
ใครทำกรรมใดไว้ชดใช้เถอะ ...ใครทำเยอะใช้เยอะว่าจริงไหม ......บางคนยังไม่ทันถึงที่ตาย ..........ต้องใช้กรรมตอนเป็นไง...ไม่ว่ากัน มาทักทายค่ะ.. อ่านแล้วปลง...ใครทำกรรมไรไว้บาปนั้นตามสนอง...
11 กุมภาพันธ์ 2548 17:20 น. - comment id 423969
บอกแล้วไงคะว่า ไม่ไป ไม่ไปทัวร์รายการนี้ค่ะ ยังจะมาตื๊อให้ไปให้ได้อีก กลัวสุดขีด ขออยู่เฝ้าบ้านดีกว่าใครอยากไปก็ไปเที่ยวตามสบาย แล้วก็ไม่ต้องมาเที่ยวเผื่อด้วย อิอิ บริษัท สยองทัวร์ จำกัด ช่วงโปรโมชั่น เชิญทัวร์นรกฟรี อิอิ ยังไม่มีใครสมัครใจไปสักราย เอิ๊กๆๆ กาเยน สํวโร สาธุ กาเยนะ สังวะโร สาทุ ( อ่าน ) การสำรวมระวังกาย เป็นสิ่งที่ดี วาจาย สํวโร สาธุ วาจายะ สังวะโร สาทุ ( อ่าน ) การสำรวมระวังวาจา เป็นสิ่งที่ดี มนสา สํวโร สาธุ มะนะสา สังวะโร สาธุ ( อ่าน ) การสำรวมระวังใจ เป็นสิ่งที่ดี ..............................................................
11 กุมภาพันธ์ 2548 18:17 น. - comment id 424001
แวะมาดู ไม่ขอท่องครับ :)
11 กุมภาพันธ์ 2548 19:11 น. - comment id 424052
มาส่งค่ะ แต่ไม่ไปด้วยนะคะ
11 กุมภาพันธ์ 2548 22:11 น. - comment id 424185
...ขุมที่เก้า เล่าไว้ เพื่อให้รู้ มีที่อยู่ ในใจ ใครเจ้าขา ก็ไฟโกรธ งี่เง่า เผากายา คือมหา นรก ในอกคน
12 กุมภาพันธ์ 2548 13:19 น. - comment id 424416
คุณ ทิฆัมพร เป็นเรื่องจริงที่ว่าประตูสวรรค์เปิดกว้างทางนรกสุดคับแคบแต่กระนั้นคนเรายังพยายามเดินและพยายามแทรกตัวเข้าไปยังประตูนรกกันมากว่าทางสู่สวรรค์น้อยคนที่จะได้เดินเข้าไปครับ เหมือนสภาพจิตของคนเราย่อมอยากรู้อยากเห็นเป็นนิสัยสันดานที่ต้องการทราบ สิ่งใดยิ่งไม่บอกก็ยิ่งอยากรู้กว่าสิ่งใดที่เห็นครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
12 กุมภาพันธ์ 2548 13:23 น. - comment id 424418
คุณ กุ้งหนามแดง เพื่อนเอ๋ยหากจะพูดแล้วเรื่องกรรมดีกรรมชั่วที่ระบาดยิ่งกว่าระบาดใดๆทั้งสิ้นมีมานับอนันตกาลแล้วล่ะ ยังที่ผมกล่าวกับคุณ ทิฆัมพรนั่นแหละว่าสภาพจิตและเจตสิกนั้นย่อมกระวนกระวายเสมอมาหากใจมิข่มไว้ย่อมนำมาในสิ่งต่างๆทั้งที่ดีและเสียหายได้นะครับเพื่อนรัก แก้วประเสริฐ.
12 กุมภาพันธ์ 2548 13:25 น. - comment id 424419
คุณ carot เรื่องแบบนี้เป็นอนันตจินต์ครับแล้วแต่คนจะเชื่อหรือไม่ แต่ผมเชื่อมั่นแม้ว่าจะไม่เหมือนใครก็ตามเถอะ เพราะเป็นเครื่องสังวรห์ให้เราละได้ซึ่งกรรมไม่ดีครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
12 กุมภาพันธ์ 2548 13:29 น. - comment id 424420
คุณ คนเมืองลิง 555 ผมเพียงแค่อยากจะให้ไปทัศนามิอยากให้เพื่อนๆไปอยู่หรอกจ๊ะ เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนสติและใจเท่านั้นเองแหละครับ การได้ชมในสิ่งที่ไม่รู้ไม่เห็นและเป็นประโยชน์แก่สภาพจิตเรานั่นแหละดี หากมิฉนั้นอาจจะพลาดพลั้งแล้วมารำลึกในภายหลังย่อมเสียใจไปอีกนานแสนนานนะครับ ขอบคุณมากในสุภาษิตที่ล้ำค่าเป็นการสร้างกุศลของคุณไว้อนุโมทนาด้วยครับ แก้วประเสริฐ.
12 กุมภาพันธ์ 2548 13:32 น. - comment id 424421
คุณ หมึกมรกต ผมอยากจะให้เพื่อนๆได้อ่านในการท่องเที่ยวครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจไว้เท่านั้นมิต้องการจะให้ไปอยู่หรอกครับ แต่เขียนไว้เพื่อจะสร้างสติแก่ผู้อ่านเท่านั้นเองแหละครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
12 กุมภาพันธ์ 2548 13:34 น. - comment id 424422
คุณ เพียงพลิ้ว อยากให้ไปแต่ไม่อยากให้อยู่ครับ เพื่อศึกษาเอาไว้เองเท่านั้นครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
12 กุมภาพันธ์ 2548 13:37 น. - comment id 424423
คุณ dark side of mind อ่านเรื่องนี้แล้วคิดว่าส่วนในจิตใจด้านมืดคงจะมีแสงสว่างเกิดขึ้นนะครับ ดังกลอนคุณที่ว่ามีขุมที่เก้า ซึ่งเป็นความรู้ใหม่แต่เคยได้ยินมาเหมือนกันครับ ขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
12 กุมภาพันธ์ 2548 15:01 น. - comment id 424458
นอกจากที่คุณแก้วกล่าวไว้...นรกมีอยู่ทุกที่..ถ้าจิตใจ..เราไม่ดี..นั่นก็คือความทุกข์..หากปรับที่..จิตใจ..ให้ผ่องใส...เราก็จะมีความสุข... ..ราชิกา..อยากจะบอกว่า...นรกหรือสวรรค์...อยู่ไม่ไกล...ขึ้นอยู่ที่..ใจเรา..เท่านั้นเอง...นะคะ..
12 กุมภาพันธ์ 2548 18:31 น. - comment id 424579
แต่งได้งดงามมากครับ ผมยังไม่กล้าเขียนเรื่องนิรยะภูมิเลยครับ กลัวว่าจะตราไว้ในจิต จำจนขึ้นใจ แต่ก็เป็นพุทธคติให้กลัวบาปให้อย่างชะงัดเลยครับ
12 กุมภาพันธ์ 2548 23:54 น. - comment id 424628
คุณ ราชิกา ครับจะกล่าวเช่นนั้นก็ว่าได้ เพียงแต่ว่าในโลกที่เรายังมีสังขารห้าอยู่นั้นเขาเปรียบเทียบว่านรกนั้นอยู่ที่การเกิดขึ้นในจิตใจเรา นรกสวรรค์นั่นอุปมาดังความสุขและทุกข์ที่เกิดแก่สภาพกายจิตเราครับ แต่หากเราพ้นจากสังขารห้าไปแล้ว สิ่งที่จะนำไปได้ก็คือ เวทนา สัญญาและวิญญาณครับ ส่วนสัญญานั้นจะค่อยๆเลือนหายไปในที่สุด เพราะเหตุดังนี้คนเราจึงลืมภพและภาพที่เกิดขึ้น หากมีสัญญาก็จะทำให้โลกเรานี้วุ่นวาย ยกเว้นผู้ที่ได้ฌานสมาบัติเท่านั้นที่จะสามารถระลึกภพชาติได้ครับ เมื่อคงเหลือแต่ที่กล่าวมาแล้วนั่นแหละ นรกสวรรค์ตามที่ผมกล่าวไว้จะเกิดขึ้นจริงตามกรรมที่สร้างไว้ ผมเขียนเรื่องนรกไว้เพื่อเตือนสติเพื่อนมนุษย์ไว้ ส่วนด้านสวรรค์ คุณลำน้ำน่านท่านได้เขียนไว้และคิดว่าคงจะเขียนจนจบถึงชั้นพรหมทั้งหมดอันเป็นที่สูงสุดของสวรรค์ อันนี้ไม่รวมนิพพานนะครับเพราะจะแยกไปอีกด้านหนึ่ง เพราะพรหมถึงแม้ว่าจะมีอายุนานนัปอสงไขยปีก็ตามแต่ก็ต้องมาเกิดอีกยกเว้นผู้ที่ได้ฌานสมาบัติแล้วไปเกิดเป็นพรหมหากยังปฏิบัติธรรมต่อเนื่องในชั้นนี้แล้วยังไม่บรรลุนิพพานแต่มีจิตตั้งมั่นในองค์นิพพานก็สามารถจะไปนิพพานในชั้นพรหมได้โดยไม่ต้องมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครับ ผมเขียนมาเพื่อเพื่อนแฝดที่รักจะได้เข้าใจ หากผิดไปขออภัยด้วยนะครับ ขอบคุณมากที่ให้อะไรดีๆไว้เสมอ แก้วประเสริฐ.
13 กุมภาพันธ์ 2548 00:04 น. - comment id 424633
คุณ ลำน้ำน่าน ผมมาถึงขั้นนี้แล้วไม่เกรงกลัวอะไรหรอกครับหากเราทำดีไว้เสมอๆ สามข้อที่ผมหมั่นพยายามอย่างสุดฤทธิ์คือ สักกายทิฏฐิ สีลัพพตปรามาสและวิจิกิจฉา ตอนนี้ผมมั่นใจว่าสักายก็ดี วิจิกิจฉานั้นแน่นอน คงเหลือ สีลัพฯบางข้อเท่านั้นเองที่ยังขาดไปบ้าง หากพยายามก็คงจะทำได้แล้วแต่วาสนาครับ คิดหากหากทำได้ครบถ้วนและต่อเนื่องคงปิดอบายฯได้ครับ ขอบคุณมากนะครับที่แวะมาเยี่ยมผมของยอดนักกวีกลอนชายครับ แก้วประเสริฐ.
14 กุมภาพันธ์ 2548 22:00 น. - comment id 425534
ไม่ขออยู่สักขุมให้รุ่มร้อน ยังอยากนอนความสบายในใจนี้ จึงขอทำแต่สิ่งที่ดีดี เพื่อให้ตนนั้นหนีพ้นทุกขุม *-*แต่งได้ดีค่ะ*-*
14 กุมภาพันธ์ 2548 22:21 น. - comment id 425550
คุณ ผู้หญิงไร้เงา 555 ผมเองยังไม่อยากอยู่เลยครับ เพียงแต่ว่าเอามาให้เพื่อนทัศนากันเท่านั้นเองแหละ เฮ่อะเฮ่อเหอๆๆๆอาจไม่แน่นะเราอาจไปอยู่ก็ได้ใครจะรู้แต่ที่รู้ๆใจเราไม่ไปแน่นอน 555 ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
28 กุมภาพันธ์ 2548 16:16 น. - comment id 432701
อืม... ชัดเจน!!!
6 มีนาคม 2548 14:49 น. - comment id 434899
คุณ ฟา ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.