เสียงไก่โต้งโก่งคอขันรับวันใหม่ รีบตื่นไวหุงหาเตรียมอาหาร ก่อไฟนึ่งข้าวเหนียวใหม่ไว้ทำทาน เช้ามีงานเพิ่มสายรักสามัคคี ทำอาหารปราณีตเพื่อฮีตสาม จัดแต่งงามหวานคาวและข้าวจี่ เพื่อนำไปถวายพระตามประเพณี โดยที่มีวัดศูนย์รวมความร่วมใจ พอข้าวเหนียวสุกนั้นปั้นเป็นวง โรยเกลือลงให้มีรสดีไว้ ไม้เสียบวงตรงกลางแล้วย่างไฟ ทาไข่ไก่แล้วขางย่างอีกที หากอยากทานหวานนำใส่น้ำอ้อย หอมอร่อยอาหารนี้มีเดือนสาม เชื่อโบราณอีสานจัดปฏิบัติตาม ทุกเขตคามเสริมส่งตรงตามคอง ภัตตาหารมากมายถวายพระ ฟังธรรมะล้างใจให้หายหมอง แกงหน่อไม้ป่นปลาทูคู่ผักดอง อีกแจ่งบองลาบคั่วย่างวางเคียงกัน ชาวบ้านมารายล้อมกันพร้อมพรั่ง หลังจากฟังธรรมะพระเณรฉัน นำอาหารจัดแจงมาเบ่งปัน ร่วมวงปั้นข้าวเหนียวคุยเกี่ยวใจ บุญข้าวจี่ประเพณีที่เก่าแก่ กำเนิดแต่พุทธกาลสมัย มีเรื่องเก่าเล่ามาว่ากันไว้ นางทาสได้ถวายทานแด่ศาสดา นางทาสนั้นนามว่าบุณณทาสี ถวายข้าวจี่ผู้เป็นใหญ่ในศาสนา คราวเดือนสามฟังธรรมไปใจตรึงตรา บรรลุโสดาด้วยอานิสงฆ์ทาน เพ็ญเดือนสามถูกยึดมั่นเป็นวันดี บุญข้าวจี่จัดไว้ให้สืบสาน ฮีตที่สามงดงามตามเทศกาล ให้ชาวบ้านฟังธรรมชี้นำทาง ครั้งหนึ่งสมัยพุทธกาล นางทาสชื่อบุณณทาสีได้ออกไปตักน้ำที่อยู่ไกลจากบ้านมาก นางจึงเตรียมข้าวจี่เพื่อไปรับประทานระหว่างทาง วันหนึ่งนางได้พบสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นางจึงถวายข้าวจี่แด่พระองค์ และได้ฟังพระธรรมเทศนาจนบรรลุโสดาบัน ชาวบ้านจึงได้ยึดวันนั้นเป็นวันทำบุญข้าวจี่ คือจัดในเดือนสามนั่นเอง คนอีสานมีอะไรดีๆ ก็อยากนำไปถวายพระ ข้าวจี่ของแต่หมู่บ้านอาจจะไม่เหมือนกัน บางบ้านใส่เฉพาะเกลือ ไม่ใส่ไข่ บางบ้านใส่ทั้งไข่และน้ำอ้อย ข้าวจี่ใส่น้ำอ้อยนั้นว่ากันว่าอร่อยมากจนมีผญากล่าวว่า เดือนสามค้อยเจ้าหัวคอยปั้นข้าวจี่ ข้าวจี่บ่มีน้ำอ้อยจั่วน้อยเซ็ดน้ำตา แปลว่า พอถึงเดือนสามมาพระเณรรอฉันข้าวจี่ ถ้าข้าวจี่ไม่ใส่น้ำอ้อยเณรน้อยก็ร้องไห้
31 มกราคม 2548 08:48 น. - comment id 417460
ป.ล. ถ้าอาจารย์แจกไม้มะยมเกินสามอัน งดเสิร์ฟน้ำใบบัวบกนะคะ จะก็บไว้กินเองค่ะ
31 มกราคม 2548 10:03 น. - comment id 417489
ชอบมาข้าวจี่ ทาน้ำมัน หอม ๆ ๆ จี่ไฟ แดงๆๆ หมอ ทาเกลือ สักนิด อุว๊าววววววววววววววว หิวววววววววววววววววว
31 มกราคม 2548 10:20 น. - comment id 417493
ยังไม่เคยไปทำบุญอย่างนี้เลยค่ะ..อยากไปเหมือนกันน่ะ คุณกานต์. ..
31 มกราคม 2548 10:33 น. - comment id 417500
เคยทานอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนเรียนแล้วอยู่หอพัก เพื่อนคนหนึ่งทำให้ทาน..อร่อยดีชอบ พึ่งรู้ว่ามันมีที่มาแบบนี้ ดีใจที่ได้อ่าน..เพิ่มความรู้ให้ตัวเอง
31 มกราคม 2548 11:51 น. - comment id 417522
555 .... อิอิ ... กลอนเพราะจังเลยค่ะพี่กานต์ มีสาระและความรู้ด้วยนะคะเนี๊ย อุ๊ม่ายเคยทราบมาก่อนเลยค่ะถึงความเปนมา รุแต่เพียงว่าบุญข้าวจี่ .... อยากไปม่างจัง พี่กานต์พาไปหน่อยจิค่ะ นะนะ ....
31 มกราคม 2548 12:03 น. - comment id 417531
ที่บ้านจิ๊บเองก็มีบุญข้าวจี่เหมือนกันนะคะ สนุกดีค่ะ แถมกินข้าวจี่ของญาติพี่น้อง จนสารละลายดั้งทำงาน ณ ปัจจุบันไม่ดั้งไว้ตั้งจมูกเลย คิ คิ คิดถึงนะคะ
31 มกราคม 2548 12:41 น. - comment id 417565
อืม มาบความรู้ค่ะ พี่กานต์ อิ อิ...
31 มกราคม 2548 13:21 น. - comment id 417605
พอเดือนสาม นกกาเหว่า ขั่นเร่าร้อง แม่นวลน้อง ปั้นข้าวจี่ มาถวาย สีกางาม พระแตกตื่น ยืนเยี่ยมกราย ต่างมองหมาย สึกออกมา จะคว้าใคร ได้ฉันชิม ข้าวจี่ มีรสหวาน น้ำผึ้งรวง หอมซ่าน เค็มหวานได้ ฉาบไข่แดง กลมกล่อม หอมกลิ่นไฟ แม่ทรามวัย พระขอจอง อยากดองเธอ.... พระก็มีหัวใจ สาว ๆ ก็รู้หมายตาจะสึกพระเหมือนกัน อิอิ
31 มกราคม 2548 13:23 น. - comment id 417609
แต่งานบุญฮีตเดือนสาม จัดขึ้นในจังหวัดใดในภาคอีสานเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ เหมือนอย่างเทศกาลผีตาโขน ก็จัดที่จังหวัดเลย ชอบบทนี้นะคะ...เขียนดีจังค่ะ... ............................................................................................................................ ลี่...ผู้มาเยือน .
31 มกราคม 2548 13:25 น. - comment id 417611
เยี่ยมเลยครับ ธรรมในภาษา
31 มกราคม 2548 14:17 น. - comment id 417662
รีบมาอ่าน รีบไปครับ มาเป็นกำลังใจให้ด้วย
31 มกราคม 2548 14:57 น. - comment id 417686
............หิวเลยค่ะ............... มาให้กำลังใจค่ะ
31 มกราคม 2548 15:33 น. - comment id 417705
-*จี่ให้ทีพี่กานต์น้องจะกิน อย่าจุ่มดินด้วยน้องกลัวท้องเสีย จี่ให้ทีจี่ดีดีพี่ผมเชียร์ อย่าจี่เสียเดี๋ยวกองเชียร์ไม่เชียร์เอย-* ฮี่ฮี่...
31 มกราคม 2548 15:39 น. - comment id 417712
แวะมาขอข้าวจี่ทานครับ........แบบว่าหมดแรง...
31 มกราคม 2548 16:24 น. - comment id 417766
คุณพูดถึงข้าวจี่ผมเห็นเป็นเพียงข้าวเหนียวใส่เกลือแล้วนำไปย่างไฟ ซื้อมาทานไม่เห็นจะอร่อยอย่างคุณบรรยายหรือว่าผมเองยังไม่เคยได้ทานที่ใส่น้ำอ้อยเลยครับ หากเมตตาส่งมาให้ผมทานหน่อยซิครับ แก้วประเสริฐ.
31 มกราคม 2548 16:29 น. - comment id 417769
แค่ได้ยินคำว่าแจ่วบองก็น้ำลายไหลแล้วครับพี่กานต์ ^o^
31 มกราคม 2548 19:11 น. - comment id 417847
เข้าวัดวาหาใส่บาตรบุญเดือนสาม เจอคนงามยกหามกันปันข้าวจี่ น้ำลายสอขอรับทานคงหวานดี แต่ติดขัดบาตรหลวงพี่น้องใส่ลง ช่างเรียบร้อยกริยาพาทีแต่ง เห็นแก้มแดงหอมข้าวจี่พี่ลุ่มหลง อยากจาจ้อจ่อลุยคุยอนงค์ แต่ขัดตรงไม่ตามติดใกล้ชิดนาง
31 มกราคม 2548 19:13 น. - comment id 417848
บรรทัดสุดท้ายสงสัยจะใจลอยไปหาคนถือข้าวจี่ ขัดข้องตรงแม่ตามติดใกล้ชิดนาง
31 มกราคม 2548 19:28 น. - comment id 417862
อยากหม่ำข้าวจี่ ไม่เคยกินเลยนะคะน้องกานต์ เอาแบบใส่น้ำอ้อยเยอะๆหน่อย ส่วนน้ำใบบัวบกน่ะ 555 น้องเก็บไว้รับประทานเองเถิด พี่ไม่แย่งหรอก ที่บ้านพี่มีเป็นขวด ?? ขอตัวไปธุระเรื่องปากท้องก่อนนะคะ แล้วจะเข้ามาใหม่เมื่อ กายพร้อม ใจพร้อม...หิวข้าววววววจ้า
31 มกราคม 2548 19:32 น. - comment id 417865
บุญข้าวจี่ คือบุญที่เขาเอาข้าวเหนียวมาปั้น แล้วทาน้ำมันไข่ไก่ เอาเกลือโรย แล้วย่างไฟป่ะครับน้องกานต์ ถ้าใช่นะ เมื่อปีที่แล้วพี่เมกก็ได้หม่ำนะ อาหย่อยอย่าบอกใครเลยแร่ะ ฮิๆๆ สงสัยปีนี้คงต้องไปหม่ำที่โคราชแร้นจ้า อย่าลืมทำเผื่อพี่เมกด้วยนะครับ +-*-+ +-*-+-*- ปู๊ชายอารมดี๊ดี -*-+-*-+ +-*-+
31 มกราคม 2548 20:18 น. - comment id 417918
สวัสดีค่ะคุณดาหลา & ปะการัง งั้นเชิญทานด้วยกันเลยนะคะ ใส่น้ำอ้อยด้วยนิดนึงนะคะ จะได้อร่อยๆมากขึ้น กานต์ทำอร่อยน้า(บ้านใกล้สมรักษ์) ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะคุณกุ้งหนามแดง เป็นงานบุญเล็กๆค่ะคุณกุ้ง ทำกันทั่วไป สมัยนี้ถ้าใครไม่สะดวกไปวัด ก็ทำข้าวจี่ใส่บาตรตอนเช้าก็พอค่ะ ถ้ามีโอกาสจะพาคุณกุ้งไปสัมผัสบรรยากาศจริงๆนะคะ ขอบคุณค่ะคุณกุ้ง สวัสดีค่ะพี่เมจิค ข้าวจี่เป็นอาหารง่ายๆ ไม่ได้มีความยุ่งยากอะไรเลยค่ะ ตอนที่นางบุณณทาสีจะถวายข้าวจี่ นางก็กลัวค่ะว่าพระพุทธเจ้าจะรังเกียจอาหารของนาง ขอบคุณนะคะพี่หยก สวัสดีค่ะน้องอุ๊ สาวดำ รำพัน ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะน้องสาว เดี๋ยวพี่กานตืพาไปทำบุญด้วย รับรองต้องรำพันหาข้าวจี่ล่ะทีนี้ อิอิ สวัสดีค่ะน้องจิ๊บ ไอติมรสต้มยำ คิดถึงนะคะน้องจิ๊บ หายไปนานเลย พี่กานตืก็ชอบทานข้าวจี่ค่ะ จนตอนนี้จะนอนตะแครงไม่ได้แล้วสิคะ เดี๋ยวตาจะสามัคคีกัน ขอบคุณนะคะ สวัสดีค่ะน้องแวว รับไปได้เลยค่ะข้าวจี่หนึ่งปั้น และกำลังใจหนึ่งกระติ๊บ ขอบคุณค่ะ
31 มกราคม 2548 20:28 น. - comment id 417923
สวัสดีค่ะสมีฤกษ์ ชัยพฤกษ์ ทำข้าวจี่ใส่น้ำอ้อยอร่อยล้ำ เพื่อน้อมนำถวายแด่พระสงฆ์ เดือนสามมามอบแด่ผู้ศีลมั่นคง บุณเสริมส่งจิตใจให้เจริญ ไปถึงวัดคนเนืองแน่นฉันแสนกลุ้ม พระหนุ่มหนุ่มเมียงมองจ้องจนเขิน อายฉันอายอยากบอกขานท่านเหลือเกิน ว่าขอเมินไม่สนพระเพราะชอบเณร บังเอิญสีกากานต์ชอบหน้าใสๆมากกว่าค่ะ อิอิ (บาปใดที่จะเกิดขึ้น ขอให้ตกแก่ผู้เริ่มต้นคนเดียว อิอิ) ขอบคุณค่ะคุณฤกษ์ สวัสดีค่ะคุณลี่ ชวนมาเยือน ขอบคุณนะคะคุณลี่ ประเพณีนี้เป็นงานเล็กๆค่ะ จัดกันแทบทุกหมู่บ้านทุกจังหวัด ไม่ได้จัดยิ่งใหญ่ เหมือนงานบุญบั้งไฟ บุญกฐิน สงกรานต์ เอาไว้ คราวหน้ากานต์จะเขียนบุญอท่นๆในฮีต 12 คอง14 ให้อ่านอีกนะคะคุณลี่ สวัสดีค่ะคุณแม่จิตร ขอบคุณค่ะ ลองทานข้าวจี่ก่อนไหมคะ สวัสดีค่ะคุณผลิใบสู่วัยกล้า ถ้ารีบไปก็ห่อข้าวจี่กับหมูทอดให้ไปทานระหว่างทางนะคะ ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะคุณยายฟ้าใส ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ ทานข้าวจี่ด้วยกันก่อนนะคะแล้วค่อยไปค่ะ
31 มกราคม 2548 20:35 น. - comment id 417927
สวัสดีค่ะน้องดอกข้าว มีข้าวเหนียวสูตรใหม่ให้น้องเรา คลุกขี้เถ้าแทนไข้ให้หอมหวาน ขาดน้ำอ้อยไม่เดือดร้อนใส่ก้อนถ่าน ลงโทษฐานป้ายสีพี่ตัวเอง ไงจ๊ะพ่อตัวดี หายไปหลายวัน มารับไปเลยข้าวจี่สูตรใหม่เพื่อน้องชายคนดีโดยเฉพาะนะคะ ขอบคุณนะคะพ่อกองเชียร์ดีเด่น สวัสดีค่ะคุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ ให้หมูทอดไปทานกับข้าวจี่ด้วยนะคะ แถวยิ้มหวานอีกทีนึง จะได้มีแรงบินต่อไงคะ ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะคุณแก้วประเสริฐ ข้าวจี่ที่คุณเห็นก็อร่อยค่ะ นานาจิตตัง สำหรับกานต์อร่อยที่สุดเลยค่ะ เอาไว้มีโอกาสจะทำให้ทานค่ะ ข้าวจี่ใส่น้ำอ้อย ส่งไปให้คงไม่ได้มั้งคะ กว่าจะถึงมือคนรับคงแข็งเป็กเลยค่ะ ขอบคุณที่แวะมานะคะ สวัสดีค่ะน้องกอล์ฟ extreme life จ้า นี่จ๊ะแจ่วบ่อง ข้าวจี่ ทานให้อร่อยๆนะคะ ขอบคุณจ๊ะ
31 มกราคม 2548 20:59 น. - comment id 417931
สวัสดีค่ะพี่ชัยชนะ เมื่อมองบ่าวคนนั้นน่ารักจริง เดินกึ่งวิ่งมาใส่บาตรบุญข้าวจี่ ยิ่งยามแย้มยิ้มกว้างช่างดูดี แม่น้องนี้บอกว่าเขานั้นเข้าตา เห็นพี่ชายเมียงมองจ้องอยู่นาน พ่อตาหวานมัวเขินไปไม่เข้าหา ขอบอกไว้แม่ไม่ดุหรอกพี่ยา มาสิมาทายทักรู้จักกัน ขอบคุณนะคะพี่ชัย สวัสดีค่ะพี่จ๋อ คนเมืองลิง เดี๋ยวกานต์ทำให้ทานนะคะ ตอนนี้อ่อนหวานอยู่หรือไงคะพี่จ๋อ เดี๋ยวกานต์เพิ่มน้ำอ้อยให้เป็นพิเศษล่ะกันนะคะ เผื่อด้วยล่ะค่ะ ไปทานข้าว วันนี้กานต์เผื่อพี่จ่อแล้วน้า ABC ซุปหมากมี่ ลาบปลา 4567 ซุปเห็ด ผักดอง ป.ล.จุดธูปแล้วเด้อ อิอิ ขอบคุณค่ะพี่จ๋อ สวัสดีค่ะพี่เมกกะ แม่นแล้วค่ะพี่เมก เห็นมั้ยล่า กานต์บอกแล้วว่าอร่อย จะไปกินโคราชเหรอคะ บ้านน้องฟ้า ไม่รู้จะทำหรือเปล่าน้อ ลองถามกันเองล่ะกัน อิอิ ขอบคุณค่ะพี่เมก
31 มกราคม 2548 22:04 น. - comment id 417976
เห็นคอมเม้นท์แล้วเน้นย้ำนำมาให้ จะเอาไม้คำนิยมชมชอบนั้น แต่หากไม้ไม่ให้ใจผูกพัน เพราะทุกวันอาจารย์ให้ไว้เพียงพอ *-*โอ๊ย มีรับน้ำใบบัวบกค่ะ เพราะพี่เคยได้ไม้มะยมตั้งหกอัน อิอิ ขอบอกเก็บจนไม่ลืมเลยหละ เอาแน่งานนี้ไม่น่าได้นะจ๊ะถึงสามอันนะ เพราะไม่งั้นอาจารย์ต้องอดดื่มน้ำใบบัวบกแน่ อิอิ แต่งได้ดีค่ะ*-*
1 กุมภาพันธ์ 2548 08:11 น. - comment id 418191
สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่ตูน ขอติดกลอนไว้ก่อนนะคะวันนี้ งั้นเสิร์ฟพี่ตูนพิเศษ 2 แก้วนะคะ ที่เหลือเก็บไว้ดื่มเองค่ะ ถ้าอาจารย์มา กานต์ว่าท่านคงไม่โปรดน้ำใบบัวบกแน่ๆค่ะ ขอบคุณค่ะพี่ตูน
1 กุมภาพันธ์ 2548 15:14 น. - comment id 418338
ข้าวจี่คงอร่อยจังหากได้นั่งมองตากัน เธอและฉันรักสัมพันธ์กันแน่นเหนียว ขอพี่สุดหล่ออย่าได้ละเลี้ยว น้องกานต์ใจเดียว..ไม่แลเหลียวใคร...อิอิ มาทำหน้าที่เป็นกองเชียร์ดีเด่นเช่นเพื่อนว่า..จะหัวแตกมะหนอเรา.... มีความสุขมากๆนะค่ะ.....
1 กุมภาพันธ์ 2548 22:25 น. - comment id 418546
มาตามกรุ่นกลิ่นหอมของหมูทอดกระเทียมและข้าวจี่ร้อนๆนุ่มๆหอมๆฯที่ลอยไปเตะปลายจมูกเข้าอย่างจังครับ -คิดถึงครับ :]
2 กุมภาพันธ์ 2548 08:14 น. - comment id 418726
สวัสดีค่ะพี่กัลลดา บุญข้าวจี่บ้านกานต์หวานยิ่งนัก ได้พบรักหนุ่มคนนี้ช่างดีเหลือ เฝ้าคอบหวงห่วงใยในทุกเมื่อ ไม่เคยเบื่อแม้กานต์นี้ไม่ดีพอ ขอบคุณนะคะพี่ดา พี่ดาน่ารักจังค่ะ รู้ด้วยว่ากานต์รักเดียวใจเดียว มาบ้านกานต์ รับรองไม่มีใครทำร้ายพี่ดาแน่นอนค่ะ อิอิ สวัสดีค่ะคุณลักษมณ์ สบายดีไหมคะ คิดถึงเหมือนกันค่ะ กำลังทานข้าวจี่ ไก่ทอดค่ะ หมูทอดหมดแล้ว มาช้าจัง ทานด้วยกันนะคะ ขอบคุณนะคะคุณลักษมณ์
28 มีนาคม 2548 20:12 น. - comment id 445763
วันนี้ไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่ อากาศเปลี่ยน นอนดึกลุกเช้า เป็นหวัดนิดหน่อย ต้องทานน้ำต้ม ทั้งที่อากาศร้อนอบอ้าว เปิดพัดลมก็ไม่ได้ เรื่องเมล์ พี่ว่าได้ตอบไปแล้ว คงจะมีเหตุผิดพลาดเกิดขึ้นเป็นแน่ เพราะน้องกานต์ ไม่ได้รับ พี่จึงคิดว่า น้องกานต์อาจจะไม่ชอบ พี่ก็เลยไม่ได้เขียนไปหาน้องอีก เรื่องกลอนคงจะเป็นสิ้นเดือนจริง ๆ ขอน้องกานต์กำกับอีกที่ในรายละเอียด พี่ชัยจะได้เตรียมตัวไว้แต่แต่เนิ่น ๆ หรือจะเอาพระเอกนัดพบนางเอกที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแถวอนุสาวรี(ล้อเล่นจ้า) ต้องขออภัยด้วยที่ วันนี้พี่ชัยพูดน้อย ไปหน่อย เอาไว้แก้ตัววันหลังนะครับ
29 มีนาคม 2548 22:00 น. - comment id 446392
สวัสดีค่ะพี่ชัย เย้ กานต์ดีใจที่สุดเลยค่ะที่พี่ชัยมาคุยกับกานต์ กานต์มาช้าหน่อยนะคะเพราะว่าเมื่อคืนติดงานกลับดึกอีกแล้ว คงได้กลับดึกประมาณอาทิตย์นึงค่ะ แล้ววันอาทิตย์ก็ไม่ได้หยุด ค่อยหยุกยาวสงกรานต์ทีเดียวเลยค่ะ แต่ยังกานต์ก็มาคุยกับพี่ชัยแน่นอนค่ะ เมื่อคืนฝันว่าได้คุยโทรศัพท์กับคนเสียงหล่อด้วยค่ะ ไม่สบายเหรอคะพี่ชัย เดี๋ยวน้องจะแปลงร่างเป็นนางฟ้าใจดีไปเช็ดตัวให้นะคะ รักษาสุขภาพนะคะพี่ชัย เห็นไหมคะท่านประธานว่าผลเสียของการเป็นหนุ่มโสดเป็นยังไง ไม่มีคนดูแลตอนไม่สบายไงคะ (ล้อเล่นนะคะ) น้องเป็นห่วงนะคะ ขอให้หายไวๆนะคะ ตั้งแต่วันที่12 กานต์ไม่เคยได้รับเมล์จากพี่ชัยเลยนะคะ กานต์ก็คิดว่าพี่ชัยไม่ชอบเหมือนกันค่ะ ก็เลยไม่กล้าส่งไปอีก ได้แต่แอบน้อยใจเงียบๆ แต่ตอนนี้หายแล้วนะคะ กานต์ชอบพี่ชัยอยู่แล้วค่ะ ทำไมจะไม่ชอบพี่ชายใจดีล่ะคะ เอ พี่ชัยเขียนถึงกานต์ว่าไงบ้างน้า ถึงคิดว่ากานต์จะไม่ชอบ อยากรู้จัง เรื่องกลอนที่บังคับให้พี่ชัยเป็นพระเอก ก็เป็นเรื่อง สงกรานต์นัดสรงใจ ให้พี่เป็นพระเอกทำงานอยู่บ้านเรา เขียนกลอนถึงนางเอกที่มำงานอยู่บางกอกให้กลับบ้านวันสงกรานต์ตามสัญญากันไว้ แต่จะมาทำอะไรบ้างให้พี่ชัยกำกับบ้างค่ะ เอาแบบหวานๆนะคะ แล้วกานต์จะตอบเอง ให้พี่ชัยรออ่านค่ะ ไม่เอานัดที่อนุสาวรีย์นะคะ เดี๋ยวพระเอกตกใจที่เห็นตัวตลกมาแทนนางเอก อ้อ กานต์ไม่ได้กินล้างกินผลาญคนเดียวน้า เป็นกันทุกคนเลยค่ะ คือว่า เห็นแก่ของฟรีค่ะ ที่ร้านเขาบอกว่า โต๊ะไหนที่สั่ง 20 ชาม ขึ้นไปจะแถมเป๊ปซี่ 1 ขวด ก็เลยสั่งกันค่ะ ได้โควต้าคนละ 5 ชาม ไม่เห็นมีใครกินเหลือเลยค่ะ ก็ชามละคำเองค่ะ (จริงๆน้า) กานต์มาเรื่องที่จะเขียนกับพี่ชัยเต็มไปไหมด แต่ว่าเอาเรื่องนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวกานต์ไปตอบกลอนที่บ้านกานต์กับพี่จ๋อก่อนนะคะ แล้วกานต์จะมาคุยต่อคืนพรุ่งนี้ค่ะ ดึกๆหน่อยนะคะ ฝันดีค่ะพี่ชัย
30 มีนาคม 2548 18:56 น. - comment id 446831
พี่พึ่งอยู่ช่วงกำลังฟักฟื้นไข้ ก็ไม่ได้ไปหาหมอ รู้ตัวเองว่าวันนั้นตื่นแต่ตี ๓ ไปช่วยงานบ้านเพื่อน จนเที่ยง ก็ไปช่วยงานเพื่อนอีกราย ค่ำเกือบสองทุ่ม ถึงได้กลับ กว่าจะได้นอน ก็เกือบ ๕ ทุ่ม ทำให้ไม่สบายเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นหวัดนิดหน่อย ข้อเสียของหนุ่มโสด ก็เป็นแบบนี้แล้ว พี่นอนไข้ ยังนึกขำตนเอง ที่มาไม่สบายตอนออกกลอนนี้พอดี สำหรับเรื่องกลอน เอาเป็นว่าตามที่ว่าไว้ คงจะไม่เกินวันอาทิตย์เป็นอย่างช้า จะส่งไปให้อ่านทางอีเมล์ ก่อน แล้วให้น้องตอบมา หลังจากนั้นพี่ชัยจะเขียนต่ออีก ตอนพระเอกมารอนางเอกที่สถานี ตอนนางเอกเดินทางมา ตอนพบกันจึงมาแต่งเป็นกลอนสดสลับกัน ไม่ทราบว่าจะงงหรือเปล่า สรุปตามผู้กำกับอย่างนี้นะจ๊ะ พระเอกเขียนจดหมายหานางเอก(ประมาณ ๔ บท) นางเอกเขียนจดหมายตอบ พระเอกมาคอยนางเอก(ประมาณ ๒ บท) (เอาแบบเป็นเรื่องยาว ลงที่บ้านน้องกานต์ นางเอกเดินทางมาถึง พระเอกนางเอกพูดคุยกันชวนกันไปเที่ยว เอาพล็อตเรื่องให้น้องกานต์พิจารณาดู ถ้าจะเอาอย่างไรเหมาะสมสมควร ก็บอกมาได้ พี่ชัยเอาตามอย่างน้องกานต์ เรื่องกลอนหวานพี่ชัยไม่ได้เขียนนานแล้ว ไม่ทราบว่าจะหวานหรือเปล่า ขอพักแค่นี้ เพราะต้องแวะไปเยี่ยมๆ เพื่อน ๆ ก่อน อย่างว่าพี่ชัยมีคนรู้จักเยอะ ถ้าหายไปวันหนึ่ง ดินพอกหางหมู ต้องตอบเพิ่มขึ้น นอนหลับฝันดีเช่นกันครับ
30 มีนาคม 2548 22:56 น. - comment id 446946
สวัสดีค่ะพี่ชัย กานต์ตามใจพี่ชัยนะคะ เป็นน้องนี่คะ ต้องตามใจพี่อยู่แล้วค่ะ จะรอจดหมายพระเอกค่ะ ไม่หวานไม่เป็นไรค่ะ เดี่ยวกานต์จะหัดหวานดูบ้างก็ได้ค่ะ วันนี้กวนพี่ชัยแค่นี้ก่อนนะคะ พักผ่อนเยอะๆนะคะพี่ชัย ราตรีสวัสดิ์นะคะ
1 เมษายน 2548 09:06 น. - comment id 447584
อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ชัย ตื่นแต่เช้าซักผ้าเสร็จแล้วมาชวนพี่ชัยไปเที่ยวก่อนไปทำงานค่ะ วันที่ 21-22 พ.ค. นี้ พี่ชัยว่างไหมคะ พี่ปรายฝากกานต์เชิญพี่ชัยไปเที่ยวระยองค่ะ ที่จริงพี่ปรายว่าจะเชิญด้วยตัวเอง แต่ไม่รู้จะติดต่อพี่อย่างไร ก็เลยฝากกานต์ค่ะ เห็นบอกว่ามีคนที่บ้านกลอนไปเยอะเหมือนกันค่ะ อาจารย์ผู้เฒ่าก็ไปนะคะ เห็นบอกว่าอยากเจอพี่ชัยเหมือนกันค่ะ แต่กานต์ไม่แน่ใจนะคะ เจอคนเยอะๆ กานต์เขินค่ะ ต้องรอดูอีกทีค่ะว่าจะไปไหม แต่อยากเจอพี่ชัยคนหล่อเหมือนกันค่ะ กานต์จะรอกลอนพี่ชัยนะคะ อยากรู้ว่าจะน่ารักขนาดไหน แต่เอาไว้ใกล้ๆสงกรานต์ค่อยลงดีกว่านะคะ พี่ชัยมาตอบเพื่อนๆที่บ้านกานต์นะคะ ห้ามมาเยี่ยมกานต์ สงกรานต์กานต์ก็กลับบ้านค่ะ ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย พี่ชัยไปไหนหรือเปล่าคะ เที่ยวให้สนุกนะคะ ไปแหละค่ะ สายแล้ว รักและคิดถึงพี่ชัยเสมอค่ะ น้องกานต์ ป.ล.อันนี้จะส่งเมล์ไปค่ะ แต่เข้าเมล์ไม่ได้ค่ะ
3 เมษายน 2548 16:33 น. - comment id 448654
สวัสดีครับน้องกานต์ พี่เป็นคนที่รักษาคำพูด พี่ไม่อยากจะเจอใคร ทั้งที่พี่ก็รู้ดีว่าคนบ้านกลอนมีอัธยาศัยใจคอที่ดีต่อกัน พี่ดีใจด้วยที่น้องกานต์ได้เพื่อนมาก อาจจะเป็นเพราะพี่ไปแซวเขาไว้ค่อนข้างมาก อาจจะเป็นเพราะพี่ถนัดพูดเฉพาะภาษาอีสาน พี่คงจะยังไม่เจอใครในช่วงปีนี้ พี่ไม่ได้เป็นคนเล่นตัวอะไรหรอกครับ แต่พี่ได้ลั่นสัจจะวาจาเอาไว้ว่า ยังไม่ต้องการพบใคร เอาเป็นว่าคุยกันทางอินเตอร์เนตนี้ไปก่อน อย่าไปคิดอะไรมากเลยครับ คิดว่ามาเขียนหยอกเย้ากันสนุกสนาน หากำไรใส่ชีวิต สำหรับคำสั่งจาก บก.พี่ชัยได้อ่านแล้ว จะอย่างไรค่อยคุยกันทางเมล์อีกครั้งหนึ่งนะครับ
3 เมษายน 2548 22:20 น. - comment id 448780
สวัสดีค่ะพี่ชัย กานต์ส่งต้นฉบับกานต์คืนนี้นะคะ รอแป๊บนะคะ กานต์เข้าใจพี่ชัยค่ะ คิดไว้แล้วค่ะ พี่ปรายฝากเชิญค่ะ ไปส่งต้นฉบับแล้วนะคะ ฝันดีค่ะพี่ชัย
4 เมษายน 2548 06:42 น. - comment id 448870
วันนี้แวะมาหาเช้าซักหน่อย เมื่อคืนไม่ได้เข้าเน็ต ได้แต่ลองแต่งเป็นคำโคลงดู อีกสักครู่จะส่งไปให้น้องกานต์อ่าน เผื่อว่าจะได้มีเวลาเตรียมตัวซักหน่อย เนื้อเรื่องเพียงแต่เปลี่ยนบรรทัดสุดท้ายของน้องบ้างเล็กน้อย เพื่อให้เข้ากับเรื่องที่พี่แต่งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน น้องกานต์อย่าลืมบอกโปรแกรมมาบ้างนะครับ ว่าอยากไปเที่ยวไหนบ้าง แล้วค่อยมาวางแผนกันอีกครั้งหนึ่ง ว่าต้องการแต่งคำประพันธ์แบบไหนดีครับ
20 พฤศจิกายน 2549 17:32 น. - comment id 628881
เสียงไก่โต้งโก่งคอขันรับวันใหม่ รีบตื่นไวหุงหาเตรียมอาหาร ก่อไฟนึ่งข้าวเหนียวใหม่ไว้ทำทาน เช้ามีงานเพิ่มสายรักสามัคคี ทำอาหารปราณีตเพื่อฮีตสาม จัดแต่งงามหวานคาวและข้าวจี่ เพื่อนำไปถวายพระตามประเพณี โดยที่มีวัดศูนย์รวมความร่วมใจ พอข้าวเหนียวสุกนั้นปั้นเป็นวง โรยเกลือลงให้มีรสดีไว้ ไม้เสียบวงตรงกลางแล้วย่างไฟ ทาไข่ไก่แล้วขางย่างอีกที หากอยากทานหวานนำใส่น้ำอ้อย หอมอร่อยอาหารนี้มีเดือนสาม เชื่อโบราณอีสานจัดปฏิบัติตาม ทุกเขตคามเสริมส่งตรงตามคอง ภัตตาหารมากมายถวายพระ ฟังธรรมะล้างใจให้หายหมอง แกงหน่อไม้ป่นปลาทูคู่ผักดอง อีกแจ่งบองลาบคั่วย่างวางเคียงกัน ชาวบ้านมารายล้อมกันพร้อมพรั่ง หลังจากฟังธรรมะพระเณรฉัน นำอาหารจัดแจงมาเบ่งปัน ร่วมวงปั้นข้าวเหนียวคุยเกี่ยวใจ บุญข้าวจี่ประเพณีที่เก่าแก่ กำเนิดแต่พุทธกาลสมัย มีเรื่องเก่าเล่ามาว่ากันไว้ นางทาสได้ถวายทานแด่ศาสดา นางทาสนั้นนามว่าบุณณทาสี ถวายข้าวจี่ผู้เป็นใหญ่ในศาสนา คราวเดือนสามฟังธรรมไปใจตรึงตรา บรรลุโสดาด้วยอานิสงฆ์ทาน เพ็ญเดือนสามถูกยึดมั่นเป็นวันดี บุญข้าวจี่จัดไว้ให้สืบสาน ฮีตที่สามงดงามตามเทศกาล ให้ชาวบ้านฟังธรรมชี้นำทาง ครั้งหนึ่งสมัยพุทธกาล นางทาสชื่อบุณณทาสีได้ออกไปตักน้ำที่อยู่ไกลจากบ้านมาก นางจึงเตรียมข้าวจี่เพื่อไปรับประทานระหว่างทาง วันหนึ่งนางได้พบสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นางจึงถวายข้าวจี่แด่พระองค์ และได้ฟังพระธรรมเทศนาจนบรรลุโสดาบัน ชาวบ้านจึงได้ยึดวันนั้นเป็นวันทำบุญข้าวจี่ คือจัดในเดือนสามนั่นเอง คนอีสานมีอะไรดีๆ ก็อยากนำไปถวายพระ ข้าวจี่ของแต่หมู่บ้านอาจจะไม่เหมือนกัน บางบ้านใส่เฉพาะเกลือ ไม่ใส่ไข่ บางบ้านใส่ทั้งไข่และน้ำอ้อย ข้าวจี่ใส่น้ำอ้อยนั้นว่ากันว่าอร่อยมากจนมีผญากล่าวว่า เดือนสามค้อยเจ้าหัวคอยปั้นข้าวจี่ ข้าวจี่บ่มีน้ำอ้อยจั่วน้อยเซ็ดน้ำตา แปลว่า พอถึงเดือนสามมาพระเณรรอฉันข้าวจี่ ถ้าข้าวจี่ไม่ใส่น้ำอ้อยเณรน้อยก็ร้องไห้