ฟังพระสวด อภิธรรม นำให้คิด ว่าชีวิต นี้ไม่แน่ ย่อมแปรผัน มีเกิดแก่ เจ็บตาย ในชีวัน ต้องอาสัญ อำลา พารำพึง เห็นกันอยู่ หลัดๆ กลับพลัดพราก เหลือเพียงซาก รอยอาลัย ให้คิดถึง คือความดี ที่ทำไว้ ให้คำนึง เพื่อซาบซึ้ง ความหมาย ในกายตน อนิจจัง ความไม่เที่ยง เยี่ยงฉะนี้ ทุกชีวี หลบลี้ หนีไม่พ้น ตาลปัตร เขียนไว้ ยามได้ยล เป็นเหตุผล ข้อคิด สะกิดใจ ไปไม่กลับ ลาลับ ไม่กลับหวน จงใคร่ครวญ หลับไม่ตื่น ฝืนได้ไหม ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น ทุกคนไป ไม่มีใคร พ้นบท กฏแห่งกรรม
19 มกราคม 2548 23:20 น. - comment id 409440
เห็นชื่อเรื่อง นึกว่าปลงสังขาร ไขมันพอกพูน ปลงเสียเถอะ แม่จำเนียร อิอิ
19 มกราคม 2548 23:25 น. - comment id 409444
******เห็นด้วยค่ะ ว่าทุกสิ่งไม่แน่นอน แม้แต่วันเวลาก็ยังเดินอยู่ทุกวินาที
19 มกราคม 2548 23:50 น. - comment id 409460
จริงดังว่ามาเป็นคนล้นความคิด เพ่งพินิจชิดความตายไม่ไกลหนี มรณะมรณาตั้งให้ดี วันเผาผีมิสับสนบนความจริง
19 มกราคม 2548 23:53 น. - comment id 409462
ก่อนเกิดก็มิใช่เรา ตายแล้วก็มิใช่เรา ทุกวันนี้เราเองก็มิใช่เรา จริงแล้วไม่มีเราอยู่แล้ว อดีตผ่านไปทุกขณะ อนาคตกำลังเคลื่อนเข้ามา ปัจจุบันย่อมไม่มี ใดๆล้วนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
20 มกราคม 2548 00:56 น. - comment id 409468
-*มีไหมที่ไหนเที่ยงแท้ เกิดแล้วแก่เจ็บแล้วตายก็เห็น สิ่งใดเล่าที่เราจะได้เป็น นรกเห็นสวรรค์รู้ให้เรียนทำ-*
20 มกราคม 2548 08:25 น. - comment id 409493
ปลงก็ปลงค่ะ สาธุนะคะพี่จ๋อ
20 มกราคม 2548 08:36 น. - comment id 409497
... ทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมเป็นไปตามธรรมชาติ ... หากเราเปิดใจยอมรับ ก็จะไม่ทุกข์ใจ
20 มกราคม 2548 10:08 น. - comment id 409547
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม.....อยากปลงเหมือนกันแต่ก็ยังไงยังไงอยู่.......
20 มกราคม 2548 10:19 น. - comment id 409558
อนิจจัง วัฏสัง ขารา สังขารไม่เที่ยงจ๊ะ.. ...
20 มกราคม 2548 11:00 น. - comment id 409576
ขอมาปลงด้วยคนจ้าาาาา...คนเรื่องลิง
20 มกราคม 2548 11:46 น. - comment id 409591
อ่านแล้วก็เศร้า ไม่ชอบงานศพเลยนะคะ แต่ชอบงานพี่ อิอิ มาเป็นกำลังใจจ้า
20 มกราคม 2548 12:52 น. - comment id 409627
อามิตาพุด ค่ะ .... เปงไรอ่ะเจ๊ ...... วันนี้มาแบบธรรมมะธรรมโม เชียว .... อ๋อ .... หรือปลงความอ้วน .. 55
20 มกราคม 2548 13:52 น. - comment id 409666
ฟังพระสวด อภิธรรม ทำให้คิด.. ธรรม-ทำ..เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง เวลาอ่านไม่เพราะ.. เรื่องนี้แนวคิดดี ใช้คำได้ดี..เดี๋ยวไปดูเรื่องข้างล่าง
20 มกราคม 2548 19:08 น. - comment id 409828
มนุษย์ต่างกันกับสัตว์ตรงสามารถตักบาตรทำบุญ และสร้างกรรมดีค่ะ ชีวิตไม่เที่ยง ตายไปเอาอะไรไปไม่ได้ เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้กันดี แต่อาจเผลอลืมไป ขอบคุณที่นำสิ่งดี ๆ มาให้อ่านค่ะ :)
20 มกราคม 2548 19:15 น. - comment id 409831
เสียงพระสวดกุศลาพาใจหวั่น ดวงชีวันแวะจอดทางที่สุดท้าย หันหัวซุกเชิงตะกอนนอนสะบาย ป่วยไข้หายหมดไปแล้วไร้วิญญาณ พองหนอ..พองหนอ..พองหนอ..
20 มกราคม 2548 20:31 น. - comment id 409906
หวัดดีค่ะคุณฤกษ์ ก็ปลงสังขารเหมือนกันค่ะ ไขมันพอกพูนเหลือเกิน ต้องปลงว่า ยุบหนอ พองหนอ หิวหนอ กินหนอ อิอิ .............................................................. หวัดดีค่ะคุณเมฆปุยอ้วน ....ความแน่นอนคือ ความไม่แน่นอนค่ะ สังขารก็ย่อมร่วงโรยเป็นธรรมดา คิดแล้วเศร้าค่ะ อามิตตาพุทธ .............................................................. หวัดดีค่ะคุณดาวอังคาร เห็นด้วยค่ะ ที่คนเราสักวันต้องพบจุดจบที่มรณาทุกคน มันเป็นความจริงที่หลีกไม่พ้น แต่ที่ไม่รู้แน่นอนคือวันไหน ที่เราจะหมดลมหายใจ วันเผาผี หนีไม่พ้น บนอนิจ ทุกชีวิต ต้องตาย มลายสูญ ทิ้งความดี ที่ทำ ครั้งจำรูญ ไว้เทิดทูน อาลัย ตอนวายวาง ..................................................................
20 มกราคม 2548 20:51 น. - comment id 409924
ปลง ทุกวันนี้ หาความจริง ที่เราต้องการ ก่อนที่จะสาย และทำความดีด้วยนะครับ มาปลงด้วยคน เพราะว่า ปลงอยู่แล้ว เอาไปบ้างไหม ครับ พี่ อุ๊
20 มกราคม 2548 20:56 น. - comment id 409925
หวัดดีค่ะคุณแก่นไผ่ ใจจันทร์ เขียนได้ดีจังเลยค่ะ ก่อนเกิดก็ไม่ใช่เรา ทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เรา เป็นความจริงที่เราสมมุติขึ้นมา โลกหมุนเวียน เปลี่ยนผัน ทุกวันนี้ เป็นโลกที่ สมมติ ปรากฏเห็น ดั่งละคร ย้อนแสดง แสร้งให้เป็น ดาราเล่น คือเรา เฝ้าหลอกลวง ................................................................. หวัดดีค่ะคุณดอกข้าว ไม่เที่ยงแท้ แน่นอน สะท้อนจิต ว่าชีวิต คนเรา ก็เท่านี้ ถือกำเนิด เกิดแก่ แลตายมี ไม่อาจหนี ต้องประสบ พบทุกคน.. ................................................................. หวัดดีค่ะน้องกานต์เพียงพลิ้ว ปลง เป็นระยะ ระยะค่ะ สาธุ อนิจจัง วัฏฏะสังขารา .....เป็นไง อ่านแล้วปลงหรือยังแม่จำเนียร อิอิ .........................................................
20 มกราคม 2548 21:20 น. - comment id 409938
หวัดดีค่ะคุณพายุ สุริยะและมัดหมี่ ใช่ค่ะเหมือนธรรมชาติจะกำหนดกฏเกณฑ์ไปซะทุกเรื่องเลยนะคะ ไม่มีใครเหนือธรรมชาติเลยจริงๆ ................................................................... หวัดดีค่ะคุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ แต่ยังไง ยังไงอยู่นี่ฟังแล้วมันแปลกๆนะคะ สรุปว่ายังไม่ปลงใช่ไหมคะ เอาแบบจ๋อก็ได้ค่ะ ปลงเป็นระยะ ระยะ สาธุ อิอิ .................................................................. หวัดดีค่ะคุณกุ้งหนามแดง โอม พุทโธ ธัมโม สังโฆ ทุกชีวิตที่เกิดมาแล้วจะต้องแตกสลายในที่สุด สพฺพํ เภทปริยนฺตํ เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ........สาธุ ...........................................................
20 มกราคม 2548 21:23 น. - comment id 409940
ในจำนวนงานที่ต้องไป พี่ชอบไปงานศพมากที่สุด.. เพราะพี่มีความคิดว่า เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะแสดงออกถึงความจริงใจต่อเขาได้.. และก็มีโอกาสนั่งปลง.. ไม่มีอะไรเป็นของเราสักอย่างเดียวนะคะ.. ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง 3 ปิ๊ง ทำใจปลง สวัสดีค่ะ
20 มกราคม 2548 21:41 น. - comment id 409947
หวัดดีค่ะคุณแก้วนีดา ขอเชิญมาปลงกันให้เยอะๆค่ะ...สาธุ แต่ งง ตรงคนเรื่องลิงนี่แหละ ไม่เข้าใจเลยค่ะ อิอิ ........................................................................ หวัดดีค่ะเจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ ใครๆก็ไม่ชอบงานศพกันทั้งนั้นแหละค่ะ แต่ก็ไม่มีใครหนีพ้นสักคนไม่ว่าจะรวย จนหรือมีอำนาจแค่ไหนสุดท้ายก็ที่เดียวกัน อิอิ ปลงไหมคะ แต่ตอนแรกอ่านแล้วต๊กกะใจเหมือนกันค่ะที่คุณบอกไม่ชอบงานศพ แต่ชอบงานคุณ มันหมายฟามว่าไง อ๋อ ผลงานใช่ไหมคะ อิอิ ใจหาย...แว๊ปปปปปปเลยค่ะขนาดปลงแล้วนะเนี่ย .............................................................. หวัดดีค่ะสาวดำ-รำพัน อามิตาพุทธ ปลงทุกอย่างค่ะน้องอุ๊ ทั้งสังขาร ทั้งไขมันด้วย โดยเฉพาะไขมันนี่ ขอปลงเป็นพิเศษเลย ยุบหนอ พองหนอ แซ่บหนอ หม่ำหนอ หมูหนอ ช่างมันเถิดหนอ อิอิ ...................................................................
20 มกราคม 2548 21:57 น. - comment id 409961
ไม่มีใครหลีกได้ความตายนั้น แต่ความดีในชีวันที่ฉันเห็น แม้กายจากพรากไปใช่ประเด็น ทุกวันเห็นความดีไม่ลี้ไกล *-*ปลงเสียเถิด อิอิ แต่เอ อย่าปลงเลย เดี๋ยวไม่ได้ชนแก้ว อิอิ ปิ๊งๆๆ บทนี้พี่จ๋อไม่ได้ไม้มะยมหละค่ะ อิอิ*-*
20 มกราคม 2548 22:00 น. - comment id 409964
สวัสดีค่ะคุณครูเจ้าขา มาถึงก็บ่นๆ ให้ปลงค่ะ ไม่ได้ให้มาบ่น อิอิ ขอโทษค่ะครูที่ทำให้เสียงอ่านของครูสะดุด อ้าว ไม่เพราะหรอกเหรอค่ะ ความจริงตั้งใจใช้สองคำนี้เลยนะเนี่ย กะจะลองใจครูดูสิว่าจะมาแจกไม้มะยมไหม แล้วไม่แจกไม้มะยมหรือคะเดี๋ยวน้อยใจแย่เลยนะครู ขอบอกยิ่งเป็นคนใจน้อย.. นิดเดียวเอง..ขอสักสองสามไม้เถอะแก้เหงาค่ะ อิอิ ............................................................. หวัดดีค่ะคุณSonyaBeauty จริงด้วยค่ะ มนุษย์นี่จะแตกต่างจากสัตว์ตรงที่สามารถตักบาตร ทำบุญได้อยากทำความดีก็อยู่ที่ตัวเรากำหนด ถ้าเรารู้จักบาป บุญคุณโทษ คงมีแต่กรรมดีนะคะ พูดแล้วอยากให้โลกนี้สงบสุขจังเลยค่ะ .................................................................. หวัดดีค่ะพี่ชัยชนะ เวรของกรรมค่ะ แหม มาถึงก็พองหนอ พองหนอ พองหนอ ระวังมันจะแตกตายนะ.. ก็พี่ชัยเล่นไม่ยุบเลยนี่คะ เอิ๊กๆๆ ไปไม่กลับ.....ลับหายเพราะตายจาก หลับไม่ตื่น......จำพราก จากหลับไหล ฟื้นไม่มี..........ตามกรรมที่ทำไป หนีไม่พ้น.......วันไหนไม่รู้ตัว.........กุศลาธรรมา อกุศลาธรรมา สาธุ ..................................................................
20 มกราคม 2548 22:17 น. - comment id 409978
หวัดดีจ้ะแม่จิตร ปลงอยู่แล้วเหรอก็ดีนะ ขนาดปลงนะเนี่ย อิอิ เอาไปบ้างไหมพี่อุ๊ ? ตักบาตรอย่าถามพระ จะให้อะไรก็ให้มาอย่าถามค่ะ ให้อะไรเหรอ อ๋อ ให้พี่ปลง ได้ค่ะ อนิจจัง อนิจจา สังขารไม่เที่ยงหนอ ............................................................. หวัดดีค่ะพี่ปราย นานๆจะเจอคนที่ชอบไปงานศพค่ะ สำหรับอุ๊ก็ชอบไปงานศพเหมือนกันมันทำให้เราได้ข้อคิดเยอะเลยค่ะ ว่าสุดท้ายก็เอาอะไรไปไม่ได้เลยสักอย่าง ทำให้คิดมุมกลับว่าทำไมคนเราต้องแก่งแย่งแข่งขัน ชิงดีชิงเด่นกันทำไม เพื่ออะไร ในเมื่อสุดท้ายก็ไปแต่ตัวเปล่าๆ เฮ้อ กลุ้มค่ะ หาอะไรกินก่อนดีกว่า ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง ก่อนบอกว่าอามิตตาพุทธ นะโยม ................................................................ หวัดดีค่ะน้องตูน แหมๆๆจะมาปลงหรือจะมาซ้ำเติมพี่จ๊ะน้องสาว ไม้มะยมตอนนี้พี่ทำใจรักได้แล้ว อิอิ ไม่กลัวรุ่นนี้ต้องหวายลงอาคมค่ะ555 ไปดีกว่า คิกๆๆ อันความตาย คือสุดท้ายของชีวิต ถูกลิขิต มาแต่เกิดกำเนิดนั้น ไม่มีใคร หลีกพ้นบนทางตัน ต้องอาสัญ แน่นอนโปรดย้อนครวญ... สาธุ สาธุ สาธุ3 ครั้งก่อนอนุโมทนา
20 มกราคม 2548 22:51 น. - comment id 410035
มาปลงค่ะ ไม่คิดถึงคงไม่มาหา ไม่อยากเจอคงไม่มา คิดถึงจังแต่เน็ตต่อไม่ได้คิกๆๆๆ ฝันดีค่ะ
21 มกราคม 2548 13:01 น. - comment id 410434
หวัดดีค่ะน้องหวาน มาปลงเหรอคะ เชิญตามสบายค่ะ ต่อเน็ทไม่ได้บางครั้งก็ต้องปลงเหมือนกันนะคะ
21 มกราคม 2548 23:04 น. - comment id 410777
ควันเขม่าคละคลุ้งพลุ่งตลบ อัคคีโหมเร้ารบเร่งเผาผลาญ เสียงสะอื้นแผ่วไห้ใจร้าวราน คำนึงผ่านม่านน้ำตา.หน้าแสงไฟ เคยพันผูกปลูกฝันทุกวันวาร เคยขับขานเคลียคลอพ้อผลักไส เคยห่วงหาอาทรพร่ำพิไร เคยระกำช้ำใจหลายครั้งคราว เสียงหัวเราะร้องไห้เคยได้ยิน บัดนี้สิ้นสำเนียงเสียงสืบสาว ถามไถ่สุข-ทุกข์เข็ญเช่นเมื่อคราว อดีตร้าวใจราญเพลิงผลาญทรวง เหลืออะไรไว้ให้ใครดูต่างหน้า มีอะไร.ให้ไขว่คว้าและแหนหวง สดุดีเกียรติยิ่งใหญ่ให้ทั้งปวง มิอาจล่วงโสตไปให้ได้ยิน เพลิงละลายร่างกายสลายแล้ว ผอบแก้วรับใส่ไว้จนสิ้น แลอังคารเถ้าถ่านแห่งชีวิน ต้องดับดิ้นสิ้นท่าหายั่งยืน เมื่อสักครู่แวะไปที่..มนุษย์..ของน้องปราย มาตรงนี้มีสวดพระอภิธรรมด้วย...
22 มกราคม 2548 11:55 น. - comment id 410947
หวัดดีค่ะพี่ดอกแก้วจ๋า แงๆๆๆเมื่อกี๊ตอบพี่ไปจนเสร็จแล้วแต่ยังไม่ซัมมิธ ไฟฟ้าดันดับ อุ๊เลยโมโหค่ะ แต่งกลอนตอบพี่ตั้งหลายบท แต่มันหายไปหมดเลย เดี๋ยวลองพยายามใหม่ อีกทีนะคะ แต่คงไม่ดีเท่าไหร่ สู้ของพี่ไม่ได้ แต่น้องจะพยายามค่ะ.. ควันเขม่า คละคลุ้ง ฟุ้งตลบ จากซากศพ ที่เขา ไปเผาผี ไม่รู้สึก รู้สา ประดามี เป็นร่างที่ ร้างวิญญา คราจาบัลย์ คนโศกเศร้า โศกี อยู่ที่ไหน มิใช่ใคร ญาติมิตร สนิทนั่น ร่ำไห้หวน ครวญคร่ำ พร่ำรำพัน เฝ้าโศกศัลย์ กำสรด สลดใจ คือเลือดเนื้อ เชื้อไข ในสายเลือด ไม่แห้งเหือด สัมพันธ์ ให้หวั่นไหว ร้องระงม อาวรณ์ ก่อนจากไกล น้ำตาไหล พรากนอง ทั้งสองตา ต่อแต่นี้ ไม่มี ร่างนี้แล้ว ที่ผ่องแผ้ว ความดี ที่รักษา เหลือความหลัง ฝังตรึง ซึ้งวิญญา คือคุณค่า งดงาม ยามจากกัน เหลือเพียงแค่ อัฐิ อย่างที่เห็น เก็บไว้เป็น นิยาม ความอาสัญ กับคุณงาม ความดี เป็นนิรันดร์ สถิตมั่น ดำรง วงศ์ตระกูล.. ตอนแรกไม่ได้แต่งเป็นแบบนี้ แบบว่ามันเพี้ยนนิดหน่อยค่ะ ขอบคุณมากนะคะพี่ดอกแก้ว สำหรับกลอนที่ไพเราะ น้องขออนุญาติปริ๊นท์เก็บไว้ดูนะคะ..สวัสดีค่ะ
24 มกราคม 2548 15:33 น. - comment id 412214
ลมระเรื่อยโชยผ่านในงานเศร้า ...กลิ่นธูปเคล้าอบอวลชวนโศกศัลย์ ......เธอมาด่วนลาลับดับนิรันดร์ .........ด้วยวัยอันสดใสให้รำพึง เสียงระงมร่ำร้องของญาติมิตร ...เธอยังติดตรึงใจให้คิดถึง ......ภาพความหลังฝังอยู่ห้วงคำนึง .........ยังซาบซึ้งถึงอยู่ไม่รู้คลาย ไม่มีแล้วแววตาที่แสนเศร้า ...ไม่มีเงาของน้องล่องลอยหาย ......ต่อไปนี้ไม่มีแม้ร่างกาย .........ต้องสลายกายลับกับกลุ่มควัน ไม่มีใครห่วงหาเวลาทุกข์ ...ไม่มีใครคอยปลุกยามหลับฝัน ......ไม่มีใครคอยงอนให้ง้อกัน .........ไม่มีใครคอยรั้นให้ฉันเคือง ไร้รอยยิ้มสดใสไปทั้งโลก ...ไร้คนร่วมทุกข์โศกยามมีเรื่อง ......ไร้คนคอยเคียงข้างยามรุ่งเรือง .........เธอปลดเปลื้องทุกข์ไปไกลลับตา พี่แคร์มาปลงด้วยคนนะคะ..น้องจ๋อ สูญเสียคุณน้าไปได้...แค่ 7 วัน มาสูญเสียน้องสาว..อีก...สังขารไม่เที่ยงหนอ... กลอนน้องจ๋อโดนใจพี่แคร์มากเลยค่ะ... คิดถึงน้องจ๋อเสมอนะคะ
24 มกราคม 2548 17:53 น. - comment id 412322
สวัสดีค่ะพี่แคร์ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะพี่แคร์ ที่สูญเสียคุณน้าและน้องสาว...ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกค่ะ ความตายอยู่แค่ปลายจมูกนี่คะ กลอนของพี่ก็ถูกใจน้องจ๋อเหมือนกันค่ะพี่.. น้องขอตอบด้วยกลอนของน้องที่แต่งไว้ แต่ไม่เข้าหน้าตัวเองมาฝากพี่แล้วกันนะคะ วัฏจักรแห่งชีวิต คนเมืองลิง ๑ แรกเกิดเป็นทารกใครปกป้อง หิวก็ร้องอิ่มก็หลับนับประสา เฝ้าถนอมทุ่มเททุกเวลา ไร้เดียงสาน่าเอ็นดูชื่นชูใจ ๒ พอเป็นเด็กเล็กเล่าเข้าประถม ใครเพาะบ่มอบรมข่มนิสัย ให้เป็นเด็กที่ดีมีวินัย จงตั้งใจพากเพียรเรียนวิชา ๓ พอย่างเข้าวัยรุ่นของหนุ่มสาว มีเรื่องราวมากมายให้ค้นหา ทั้งเรื่องเรียนเขียนอ่านตามตำรา เป็นวิชาหาเลี้ยงชีพให้รีบจำ ๔ ครั้นถึงวันที่ฝันไว้ได้เป็นจริง ยินดียิ่งถ้วนหน้ากับงามขำ รับปริญญาค่ายิ่งใหญ่ให้จดจำ ดีเลิศล้ำสำเร็จเคล็ดวิชา ๕ อาชีพงานการใดไม่เคยเกี่ยง ขอแค่เพียงให้ได้ทำนำฝันหา หนักก็เอาเบาก็สู้อยู่ทุกครา ตามตำราว่าไว้ให้อดทน ๖ ได้พบคนที่ถูกใจใฝ่ครองคู่ ให้เชิดชูคู่ชีวิตคิดฉงน จากสองต้องข้องเป็นหนึ่งจึงอดทน รู้ผ่อนปรนหนักเบาเข้าใจกัน ๗ มีโซ่ทองคล้องใจให้ชีวิต เหมือนได้คิดมีลูกผูกรักมั่น ให้ครอบครัวสมบูรณ์อบอุ่นพลัน แสนสุขสันต์หรรษาพาเปรมปรีดิ์ ๘ ครั้นนานวันผันแปรแก่ชรา สังขารา มันไม่เที่ยงเยี่ยงฉะนี้ จะให้ไปทางไหนแรงไม่มี หูตาดีก็พร่ามัวสลัวเลือน ๙ ความเจ็บไข้ได้ป่วยเข้าช่วยแทรก กายใจแหลกเจ็บระบมดั่งคมเฉือน ทั้งร้อนรุ่มกลุ้มอุราโรคาเยือน เหมือนย้ำเตือนวันสุดท้ายใกล้เข้ามา ๑0 อันความตายฉากสุดท้ายของชีวิต ใครลิขิตขีดเกณฑ์ชะตาหนา ทั้งกำหนด ชาตะ มรณะมา ทุกชีวาหนีไม่พ้นทุกคนไป ๑๑ เคยมีอำนาจวาสนามหาศาล ทรัพย์ศฤงคารมากล้นขนได้ไหม มีก็แต่ความดีชั่วติดตัวไป ทำอย่างไรได้อย่างนั้นนิรันดร...
25 มกราคม 2548 11:20 น. - comment id 412745
อ่านแล้วเศร้าจังค่ะ พี่อุ๊ อนิจจา...
25 มกราคม 2548 19:11 น. - comment id 413008
หวัดดีน้องแวว อนิจจัง อนิจจา ไม่เที่ยงค่ะ สาธุ
28 มกราคม 2548 06:02 น. - comment id 413506
สวัสดีค่ะ..น้องจ๋อ..ขอบคุณน้องจ๋อมากนะคะ ตอนนี้พี่แคร์ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาเลยค่ะ กลอนน้องจ๋อไพเราะมากค่ะ งามค่ะ..พี่แคร์ ขอเก็บไว้ปลงนะคะ รักและคิดถึงน้องจ๋อเสมอค่ะ
28 มกราคม 2548 12:58 น. - comment id 413545
สวัสดีค่ะพี่แคร์ ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาส่งข่าว..ถ้าพี่ว่างๆก็แวะมาทักทายน้องจ๋ออีกนะคะ เขินจังเลยค่ะ มาชมกลอนน้องจ๋อ อิ อิ ถ้าพี่แคร์อยากเก็บไว้ปลง ได้เลยค่ะ..จ๋อจัดให้ ไม่หวงค่ะ และขอแลกกับกลอนพี่แคร์ที่แต่งไว้ที่นี่ด้วยนะคะ.ชอบ 2 บทสุดท้ายโดนใจมากเลยค่ะ มันเห็นภาพเลยค่ะ ไม่มีใครห่วงหาเวลาทุกข์ ...ไม่มีใครคอยปลุกยามหลับฝัน ......ไม่มีใครคอยงอนให้ง้อกัน .........ไม่มีใครคอยรั้นให้ฉันเคือง ไร้รอยยิ้มสดใสไปทั้งโลก ...ไร้คนร่วมทุกข์โศกยามมีเรื่อง ......ไร้คนคอยเคียงข้างยามรุ่งเรือง .........เธอปลดเปลื้องทุกข์ไปไกลลับตา พี่แคร์ ทำให้จ๋อนึกถึงพ่อกับแม่เลยค่ะ ตอนนี้ไม่รู้จะไปดื้อรั้นกับใครได้ เวลาทุกข์ก็ต้องเก็บงำไว้คนเดียว เศร้าค่ะ