จิตฺตวิสุทฺธิ ๒

แก้วประเสริฐ


                          จิตฺตวิสุทฺธิ  ๒
             (ขยายความ ใน วิสุทฺธิสังคหะ ๗)
            ดูกรสาธุชนคนทั้งหลาย
โลกพลันกลายเปลี่ยนกลับทุกสถาน
ตามแนวโน้มโถมสิ่งที่เบิกบาน
เพื่อสำราญไม่คำนึงถึงสิ่งมา
            อะไรเล่าเป็นเหตุให้เกิดผล
คลุกเคล้าปนจนเกิดซึ่งตัณหา
จนลุ่มหลงมัวเมาเฝ้ากามา
แล้วชักพาให้ปัญหามาเกิดมี
          ด้วยขันธ์ห้าพาอายตนะประสบ
นอกในครบทุกกระบวนล้วนสรรค์สี
อันรึงเร้าเฝ้าพะนอสร้างชีวี
แต่สิ่งที่นำไปให้คือจิต
          จิตนั้นเป็นอย่างไรใครรู้บ้าง
อาศัยร่างกายเราเป็นที่สถิต
อยู่ที่ใดเหตุไฉนให้มาคิด
จงน้อมพิจารณาไว้ใคร่ไตร่ตรอง
          อันวิสัยจิตนั้นพลันสัดส่าย
ช่างวุ่นวายซอกซอนห่อนมาสนอง
เหมือนลิงในแหให้ไม่สมปอง
ย่อมจะต้องดิ้นรนขนขวายไป
           สิ่งใดรู้ด้วยอายตนะภายนอก
จิตนั้นบอกอยู่ที่นั่นมิสงสัย
เกิดอารมณ์เจตสิกพลิกนำไว้
ส่งให้ใจไปปรุงแต่งแจ้งวิญญาณ
          นี่คือที่ไปมาจิตพาเตลิด
เป็นบ่อเกิดของอารมณ์ผสมผสาน
เมื่อทราบเหตุแห่งผลหนทางผ่าน
ใช้สติหมั่นพลันบังคับระงับสิ้น
           กำหนดแล้วเฝ้าไว้จงให้พิสุทธิ์
ความบริสุทธิ์เป็นพิเศษเหตุผลผลิน
ดุจกระแสสินธุสะอาดปราศราคิน
พ้นมลทินคือนิวรณ์ที่คลอนอารมณ์
           อันได้แก่อุปจารและอัปปนาสมาธิ
แกร่งกล้ามิบกพร่องปองใจสม
ขจัดล้างนิวรณ์นอนนิ่งสิ่งอาจม
เพราะมันข่มความดีมิมีมา
          ส่วนขณิกสมาธิที่เกิดสุทธิวิปัสสนายานิกะ
โดยโยคีจะกำหนดนามรูปหรรษา
จัดอยู่ในอุปจารสมาธิเพราะปัญญา
อนุโลมมาเป็นจิตตวิสุทธิเหมือนกัน
           อุปจารสมาธินี้อยู่ในมหากุศล
อีกน้อมดลมหากริยาพาเกษมสันต์
มีกัมมัฏฐานเป็นอารมณ์อันสำคัญ
น้อมนำพลันให้สว่างทางปัญญา
           อัปปนาสมาธินี่อยู่ในมหัคคตฌานเก้า
เป็นบัญญัติเข้าปรมัตถ์ที่แสวงหา
กัมมัฏฐานเป็นอารมณ์บ่มวิชา
จักนำมาให้ใสสะอาดปราศมลทิน
           ทั้งขณิก-อุปาจารและอัปปนาสมาธิ
เมื่อมีนิวรณ์สงบได้จากใจสิ้น
ย่อมระงับนิวรณ์ไว้ได้เป็นอาจินต์
ย่อมเข้าถิ่นแห่งความจิตฺตวิสุทฺธิ
           ท่านผู้เจริญได้อ่านผ่านนี้แล้ว
ขอจงแผ้วผ่องใสจิตให้พิสุทธิ์
จะทำการสิ่งใดให้เร่งรุด
อย่างให้ฉุดชีวิตปลิดกรรมครอง
           เรื่องจิตฺตวิสุทฺธิขอยุติเพียงเท่านี้
โปรดเปรมปรีดิ์ในธรรมนำสนอง
ขออวยพรจงแคล้วคลาดสมใจปอง
ข้าพเจ้าต้องขอลาวันหน้าเจอกัน.
            ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙
                ขอขอบคุณที่ทนอ่านครับ
				
comments powered by Disqus
  • เพราะรัก

    1 ธันวาคม 2547 16:55 น. - comment id 381826

    มาอ่านค่ะได้เมล์พี่แก้วแล้วนะคะขอบคุณมากๆเยยค่ะ เดียวว่างๆจะอ่านเวปที่พี่แก้วแนะนำนะคะคิดถึงเสมอค่ะ
  • สาวดำ - รำพัน

    1 ธันวาคม 2547 17:03 น. - comment id 381834

    เอ... มันเป็นไรอ่ะค่ะ 
    เม้นท์ลุงแก้วแล้วอ่ะค่ะ 
    แต่ไม่ติดกะเลยมาอิกรอบนะคะ
    คิดถึงนะคะ ลุงแก้ว ฮี่ๆ ๆ
  • แมงกุ๊ดจี่// ไม่ได้ล๊อกอิน

    1 ธันวาคม 2547 17:53 น. - comment id 381862

    สวัสดีค่ะ...พี่แก้วฯ
    สมาธิปัญญานำพาชีวิต
    ช่วยลิขิต ทางเดิน เพลินสดใส
    สะอาดสวยหมดจดทั้งกายใจ
    ใจผ่องใส  น้อมนำ พาจำเริญ
    
    ู^__^ ......
    
    
  • เมกกะ

    1 ธันวาคม 2547 18:31 น. - comment id 381875

    สาธุ  สาธุ  พระพุทธศาสนาจงเจริญรุ่งเรืองตราบนานเท่านาน  สาธุ สาธุ  
    
    
    
    +-*-+  +-*-+-*- ปู๊ชายอารมดี๊ดี -*-+-*-+  +-*-+
    
  • เมกกะ

    1 ธันวาคม 2547 18:31 น. - comment id 381876

    สาธุ  สาธุ  พระพุทธศาสนาจงเจริญรุ่งเรืองตราบนานเท่านาน  สาธุ สาธุ  
    
    
    
    +-*-+  +-*-+-*- ปู๊ชายอารมดี๊ดี -*-+-*-+  +-*-+
    
  • อัลมิตรา

    1 ธันวาคม 2547 23:12 น. - comment id 382102

    อันวิสัยจิตนั้นพลันสัดส่าย
    
    .... สัดส่าย ?? น่าจะเป็นสอดส่ายนะคะ หมายถึง จิตไม่อยู่นิ่ง วอกแวก ประมาณนั้น ค่ะ
    
    
  • คนเมืองลิง

    1 ธันวาคม 2547 23:22 น. - comment id 382114

    ^__^ สติมา ปัญญาเกิดใช่ไหมคะ 
    ขอบคุณมากนะคะสำหรับธรรมะบทนี้ อิอิ ก็จิตมันชอบฟุ้งซ่านอ่ะค่ะ
  • พุด

    1 ธันวาคม 2547 23:44 น. - comment id 382131

    พุดอ่านงานงามบรรเจิดของคุณแก้ว
    แล้วอยากบวชชีเร็วขึ้นทุกทีค่ะ
    
    ซึ้งใจในสัจจธรรม
    และเบื่อโลกวนๆมากค่ะ
  • )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

    2 ธันวาคม 2547 07:00 น. - comment id 382196

    เดี๋ยวนี้รู้สึกว่า จะเข้าซึ้งไปแล้วนะยินดีด้วย
    มาทักทายยามเช้า  และมาเป็นกำลังใจให้นะครับ
    
    
  • แก้วประเสริฐ

    2 ธันวาคม 2547 09:43 น. - comment id 382283

    คุณ  เพราะรัก
    
                ครับไม่เป็นไรครับอย่างไรก็ได้ครับ  ขอบคุณมากนะครับที่แวะมาเยือนผมสม่ำเสมอครับ
    
                            แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    2 ธันวาคม 2547 09:44 น. - comment id 382285

    คุณ  สาวดำ
    
               เป็นบางครั้งครับ เพราะเวปฯนี้คนใช้กันมากครับ บางครั้งผมก็เป็นเหมือนกันขอบใจหลานมากนะ
    
                                แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    2 ธันวาคม 2547 09:46 น. - comment id 382288

    คุณ  แมงกุ๊ดจี่
    
               ครับใช่แล้วล่ะครับ สมาธิ สติ ปัญญา นำพาชีวิตแน่นอนครับ   ขอบคุณมากนะครับ
    
                             แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    2 ธันวาคม 2547 09:47 น. - comment id 382289

    คุณ  เมกกะ
    
              ครับ อนุโมทนาด้วยคนครับ  หากพวกเราช่วยกันก็ย่อมนำพาให้ศาสนารุ่งเรือง สาธุ
    
                           แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    2 ธันวาคม 2547 09:48 น. - comment id 382291

    คุณ เมกกะ
    
               อ้อลืมบอกไปครับ ยังอีกหลายตอนนะครับ ต้องครบทั้ง เจ็ด แหละครับ  แล้วยังมีบทสรุป  นี่เป็นแค่ธรรมเบื้องต้นนะครับ ขอบคุณ
    
                           แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    2 ธันวาคม 2547 10:09 น. - comment id 382306

    คุณ  อัลมิตรา
    
               ขอบคุณมากครับที่กรุณาผมมาก  ผมน้อมรับฟังเสมอแหละครับ  อันที่จริง คำว่า ซัดส่าย  สัดส่าย และคำว่าสอดส่าย  ก็เป็นการแสดงอาการของจิตที่ไม่อยู่นิ่ง  คือส่ายไปส่ายมา ว๊อกแวก นั่นเองครับ  เพราะไม่มีในพจนานุกรมฯ  เพียงเอามาโอ้โลมปฏิโลมเท่านั้น โดยแปลแยกคำกันครับ  
      ซัด แปลความหมายคือการ สาดไปอย่างแรง เหวี่ยงตัวไปมา
      สัด  แปลความหมายคือเครื่องตวงที่เป็นรูปทรงกระบอก   เครื่องตวง  ใช้สำหรับ ตวงข้าว เป็นต้น
      สอด  แปลความหมาย คือ แทรกเข้าไปในระหว่างกลาง  สอดใส่ในช่อง
          ที่นี้เรามาดูความหมายของสิ่งเหล่านี้เพื่อใช้สำหรับจิต  
       ซัด กับ ส่าย  ซัดเหวี่ยงตัวไปมากับ ส่าย ซึ่งแกว่งไปมา  น่าจะเข้ากันได้ดีกว่า แต่ต้องอยู่ที่ลักษณะอาการ  พระท่านบางองค์รจนาว่า ซัดส่าย  แต่ผลนั้น หมายถึงจิตโดยตรงแต่ไม่มีหน้าที่อะไร
       สัด กับส่าย  สัด เป็นเครื่องตวงใช้สำหรับ ตวง เก็บเอาไว้แล้วมีลักษณะคล้ายหัวใจ หรือใจเรา   ส่ายดั่งที่แจ้ง  เมื่อเอามารวมกัน จะหมายถึงว่า จิตที่แกว่งไปมาแล้วเก็บผลการที่ออกไปเข้ามาไว้ในอารมณ์เพื่อแจ้งให้ใจนำไปปรุงแต่ง  
      สาด กับ ส่าย    สาดนั้นคือการสอดแทรก กับส่ายที่แกว่งไปแกว่งมา  ผล เมื่ออยู่ในอายตนะแล้วเพียงแค่ไปคั่นเอาไว้เท่านั้นเอง  หรือเก็บไว้ในนั้นเอง  แต่มีผลคล้ายคลึงกัน
          สรุปแล้วใช้ได้ทั้งสามอย่างครับคือลักษณะอาการของจิตที่ต่างวาระกัน  หากตาเรามองไปยังสิ่งใดแล้วไม่นำกลับมาปรุงแต่ง ก็สามารถใช้กับ ซัด หรือ สาด ได้  หากนำมาปรุงแต่งและผูกพัน ย่อมน่าจะใช้กับ สัดส่าย  ครับ
               ผมเองก็งงเหมือนกัน พระท่านบางองค์ใช้ ทั้งสามอย่าง  แต่ผมมาสังเกตุดูพิจารณาจึงเข้าใจของอาการนั้นๆ ครับ จะผิดถูกอย่างไรขอช่วยๆกันพิจารณาด้วยครับ หรือถ้าผมผิดไปก็โปรดแจ้งให้ทราบด้วย   
    
               อ้อ ที่ผมพูดมานี้เพื่อจะได้ให้คนที่ผ่านมาได้อ่านได้เข้าใจอาการของจิตไปได้ มิได้มีเจตนาจะขัดแย้งกับยอดหญิงที่ผมให้ความนับถือตลอดมานะครับ  ผมผิดผมขออภัยด้วยครับ    ขอบคุณมากในความกรุณานะครับ
    
                        แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    2 ธันวาคม 2547 10:13 น. - comment id 382311

    คุณ  คนเมืองลิง
    
              อันที่จริง สติคือการระลึกได้  ระลึกอะไรระลึกถึงความดี เพื่อใช้ในการเชื่อมต่อ กับสมาธิ  เพื่อยังผลให้เกิดปัญญาครับ  ฉนั้นจึงพูดกันเสมอๆว่า   สมาธิ สติ ปัญญา ครับ ขอบคุณมากครับ
    
                         แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    2 ธันวาคม 2547 10:16 น. - comment id 382315

    คุณ  พุด
    
             หากงานผมทำให้คุณพุด อยากบวชชีเร็วยิ่งเพิ่มกุศลของผมอีกครับขอบคุณล่วงหน้านะครับ แต่ว่าอย่าพึ่งดีกว่าครับ  การบวชนั้นไม่พระ เณร ชี หรือ อุบาสกอุบาสีกา หากไม่พร้อมจิตไม่หนักแน่นพอ สู้เป็นคฤหัสถ์ไม่ได้หรอกครับ  เพราะอาจจะพลาดแล้วทำให้ขาดศรัทธามากขึ้นครับ  ขอบคุณมากนะครับ
    
                       แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    2 ธันวาคม 2547 10:19 น. - comment id 382318

    คุณ  ผลิใบสู่วัยกล้า
    
                ขอบคุณมากครับที่มาเยี่ยมเช้าๆนี้ครับ  ผมก็เพียงรู้งูๆปลาๆเท่านั้นแหละครับ หากเทียบก็เหมือนกับแค่เกาที่คัน หรือแกะเสก็ดแผลเท่านั้นเองแหละครับ  
    
                           แก้วประเสริฐ.
  • ลำน้ำน่าน

    2 ธันวาคม 2547 12:18 น. - comment id 382382

    บทนี้เพื่อนแก้วเขียนได้ละเอียดขึ้นมามากครับ เวลาอ่านแล้วก็เข้าใจได้ง่ายขึ้น  คราวหลังลองเขียนแบบถอดความดูซิครับ นำมาอธิบายในรูปแบบง่ายๆ ทิ้งบาลีออกไป  
    
    ผมเป็นกำลังใจให้ครับ
  • แก้วประเสริฐ

    2 ธันวาคม 2547 12:32 น. - comment id 382392

    คุณ ลำน้ำน่าน
    
             ขอบคุณมากครับยอดกวีชาย  ผมเองคิดเหมือนกันว่าจะถอดคำบาลีออก แต่มาคิดอีกอย่างหนึ่งว่าผมยังไม่สันทัดกับคำบาลีมากลึกซึ้งเท่าใดเพียงแต่แค่พอรู้เท่านั้น  หากเอาออกเสียก็จะทำให้บางครั้งอรรถรสเสียไปเพราะย่อมมีผู้รู้กว่าเข้ามาอ่าน  แล้วจะหาว่าผมยกเมฆขึ้น จึงกังขา จำต้องควบคู่กันไปครับ   ขอบคุณในแนวความคิดครับ  ส่วนใหญ่แล้วผมจะอธิบายไว้ตลอดถึงคำบาลีนั้นๆครับ ตามความเข้าใจผมนะครับ  ขอขอบคุณอีกครั้งที่มาให้กำลังผม เพียงเห็นชื่อคุณผมก็แสนจะดีใจแล้วมีพลังในการเขียนขึ้นอีกมากครับขอขอบคุณ
    
                         แก้วประเสริฐ.
  • กัลลดาค่ะ.....

    2 ธันวาคม 2547 13:47 น. - comment id 382443

    คุณแก้วค่ะ...
    
    ขออภัยนะค่ะอยากถามว่า...
    
    ตรงบทที่ 2  บรรทัดสุดท้าย...อ่านแล้วสดุดนิดนึงค่ะ..
    
    ..แล้วชักพาให้ปัญหาหาเกิดมี..
    
    น่าจะเป็น...แล้วชักพาให้ปัญ..ญา..หาเกิดมี...รึป่าวค่ะ...
    
    ขอโทษนะค่ะที่ถามมา..
    
    กลอนบทนี้อ่านแล้วจิตใจสะอาดขึ้นมากค่ะ...
  • แก้วประเสริฐ

    2 ธันวาคม 2547 15:17 น. - comment id 382488

    คุณ  กัลลดา ครับ
    
               ขอบคุณมากนะครับนี่ผมกลับไปทบทวนอีกทีครับ....แล้วชักพาให้ปัญหามาเกิดมี..   ครับ
    หมายถึงจะนำมาซึ่งปัญหาให้เกิดให้มีครับ  ขอบคุณมากนะครับ ผมต้องไปรีบแก้ไขต้นฉบับผมนี่แย่จริงๆผิดพลาดจนได้  ต้องขอขอบคุณอีกทีนะครับ
    
                      แก้วประเสริฐ.
  • พี่ดอกแก้ว

    3 ธันวาคม 2547 15:33 น. - comment id 383053

    จิตวิสุทธิ์หยุดอารมณ์ที่โหมพา 
    ให้ฟุ้งซ่านหัทยาจนหวั่นไหว 
    ไปในกามฉันทะละพอใจ 
    หรือเกรี้ยวในพยาบาทอาฆาตครอง 
    
    พ้นความง่วงโงกงุนพ้นฟุ้งซ่าน 
    พ้นรำคาญสงสัยให้หม่นหมอง 
    รวมจิตใจในอารมณ์บ่มไตร่ตรอง 
    ให้แน่วแน่ถูกต้องเอกัคคตา 
    
    ตามระดับจับจองหมายปองผล 
    ฟอกกมลให้ดำดิ่งทิ้งปัญหา 
    แบ่งระดับความนิ่งจากอุปจาร์ 
    สู่อัปปนายังฌานตระการใจ 
    
    อีกระดับจับวางอย่างขณะ 
    ขณิกสมาธิที่ครวญใคร่ 
    มุ่งเจริญวิปัสสนารูปนามไป 
    มีสติกำหนดในหกทวาร 
    
    จิตวิสุทธิหยุดงานที่ซ่านจิต 
    สร้างนิมิตกุศลผลถักสาน 
    ข่มอารมณ์คือมุ่งบำเพ็ญฌาน 
    หมายประหารต้องวิปัสสนาพาพ้นจริง 
    
  • แก้วประเสริฐ

    7 ธันวาคม 2547 21:16 น. - comment id 384603

    คุณ  พี่ดอกแก้ว
    
                ขอบคุณมากในความกรุณาครับที่ช่วยเหลือผมตลอดเวลา  ซึ้งใจที่สุดครับ
    
                             แก้วประเสริฐ.

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน