สมุทัยอริยสัจ (ภาคพิเศษ ๒) ดูกรอริยชนสนใจในธรรมยิ่ง ด้วยทุกสิ่งย่อมทราบตามเหตุผล ทุกข์เกิดหาเหตุไว้แจ้งในกมล เพื่อจะค้นหนทางระหว่างทุกข์ สิ่งทั้งหลายเกิดด้วยจิตตัณหา จะนำมาเกิดใหม่มิได้สุข ประกอบนันทิราคะจะมาคลุก เข้ารบรุกเพลิดเพลินในอารมณ์ ตัณหานี้มีเกิดได้สามอย่าง กามตัณหาสร้างราคะเพื่อสะสม ภวตัณหาไม่อยากเข้าปรารมภ์ วิภวตัณหาข่มบ่มไว้ให้วางเฉย เหตุนั้นเกิดจากตาหูจมูกลิ้น กระทบสิ้นกายใจขอได้เฉลย เป็นส่วนนอกของกายจนรำเพย แล้วเข้าเกยรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ ล่วงลึกเข้าเร้าในธรรมารมณ์ ก่อเกิดผสมวิญญาณมิลดละ จากจักขุวิญญาณที่พลันพบปะ จนถึงสระมโนวิญญาณพลันเข้าใน ก็เพราะด้วยเหตุจักขุมาสัมผัส มโนสัมผัสจัดสร้างกระจ่างใส เข้าผสมผสานขันธ์ห้าแล้วพาไป รวมตัวในเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ ทั้งนอกในอายตนะจะคลุกเคล้า เหตุเพราะเจ้าเจตนาพากระสานติ์ ตั้งแต่รูปสัญญาถึงธัมมสัญญาประจาน สร้างผูกพันด้วยเหตุในเจตนา แล้วนำรูปสัญเจตนาแกร่งกล้าไว้ จนเข้าไปในธัมมสัญเจตนาหนา รวมความอยากในรูปตัณหาส่งมา ร่วมนำพาถึงธัมมตัณหาเข้ามาจร อีกทั้งรูปวิตกตลอดธัมมวิตกยิ่ง ในทุกสิ่งรูปวิจารเข้ามาสอน ก่อกำเนิดสัททวิจารสานเป็นตอน คันธวิจารอ้อนรสวิจารอันโผฏฐัพพะ รวมที่รักเจริญใจอยู่ในโลก เป็นโฉลกโกรกตัณหาเข้าเคล้าคละ ตัณหาจะเกิดย่อมเป็นที่นี้มิลดละ เพราะมันจะตั้งไว้ในที่นี่ ปิติสุขทุกข์เกิดได้ด้วยจิตตัณหา มันนำมาซึ่งความไม่เกษมศรี เป็นบ่อเกิดเข้าอยู่สู่ในชีวี ทั้งหมดนี้เรียกว่าทุกขสมุทัยอริยสัจ. ขอสาธุชนทั้งหลายอยากหน่ายทุกข์ เพื่อเกษมสุขอยู่ในธรรมให้สงัด โปรดบำเพ็ญรู้เหตุทุกข์อย่างชงัด แล้วขจัดหาหนทางดับทุกข์ไป. ๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
15 พฤศจิกายน 2547 13:23 น. - comment id 370611
มาอ่านพระธรรม ไปทำงานต่อแล้วค่ะคิดถึงค่ะ
15 พฤศจิกายน 2547 14:12 น. - comment id 370644
สวัสดีพี่....แก้ว ตัณหาและกิเลิสจักเลิกยาก อยากได้มากหลากหลายสิ่งที่ฝัน หลอกล่อมากมายนักแต่ละวัน ยังไม่ทันภาพมายาที่ลวงตา ู^___^ มารับธรรม ข่มใจให้สงบ
15 พฤศจิกายน 2547 14:46 น. - comment id 370661
มารับคำสอน คำอวยพรในชีวิต มารับคำทำให้คิด พาชีวิตให้ปลอดภัย มาทักทายคุณแก้วประเสริฐค่ะ
15 พฤศจิกายน 2547 15:14 น. - comment id 370674
ดีขึ้น
15 พฤศจิกายน 2547 15:19 น. - comment id 370677
^_^ มาอ่านงานธรรมเพื่อทำใจให้สงบค่ะ
15 พฤศจิกายน 2547 15:56 น. - comment id 370701
เขียนภาษาบาลีเป็นกลอนนี่ยากเหมือนกันเนอะ.. ถ้าเลือกความเพราะและคงฉันทลักษณ์ คำ (บาบลี) ก็จะขาดหาย .. ถ้าเลือกคำไว้ ก็จะตะกุกตะกัก... แต่เพื่อนก็พยายามทำได้ดีค่ะ.. ขอยกย่อง...และเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ.. ..
15 พฤศจิกายน 2547 16:15 น. - comment id 370718
อยากจะหนีจากทุกข์.(ไม่สบายคงต้องพักผ่อน)..แต่เป็นห่วงงานที่ยังทำไม่เสร็จ...ยิ่งทุกข์มากกว่าเดิมอีก....2 เท่า...บางครั้งต้องตัดใจ..ปล่อยวางชั่วขณะ...แล้วค่อยกลับมาลุยงานต่อ...นี่คือ..สัจจธรรม..ของโลกจริงๆค่ะ... แวะมาเยี่ยมจ๊ะ...ยังสบายดีอยู่นะคะ...
15 พฤศจิกายน 2547 16:36 น. - comment id 370757
แวะมาอ่านผลงานครับ รักษาสุขภาพนะครับอากาศเริ่มเย็นแล้ว
15 พฤศจิกายน 2547 17:48 น. - comment id 370808
มาเป็นกำลังใจจ้า
15 พฤศจิกายน 2547 20:04 น. - comment id 370855
คุณลุงค่ะ....หลานสาวมาเยี่ยมค่ะ อิอิ มาอ่ากลอนธรรมะ ของลุงอ่าค่ะ ปายรีก่า...อิอิ
15 พฤศจิกายน 2547 20:28 น. - comment id 370874
เหตุแห่งทุกข์ปลุกใจให้สร้างโลก อย่างโชนโชกเชี่ยวชาญสานกรงขัง คือตัณหาพาใจให้ติดตัง แล้วไหลหลั่งสู่แม่น้ำความโสมม วันนี้ติดตามมาอ่านทุกบท ครบทุกรสจนอิ่มแปล้เลยค่ะ กราบอนุโมทนามนกุศลจิตที่สร้างสรรค์งานพระศาสนานะคะ ขอให้จำเริญในธรรมยิ่งๆยึ้นไปด้วยค่ะ
15 พฤศจิกายน 2547 20:55 น. - comment id 370887
ไพเราะ .. มากเลยนะคะ.. สื่อ ..ความหมายในบทกวี .. ได้ดีมากเลยคะ.. เรน ...แวะมา ..ชื่นชม .นะคะ..
16 พฤศจิกายน 2547 00:31 น. - comment id 371027
มาศึกษางานกลอนและธรรมะค่ะ
16 พฤศจิกายน 2547 07:08 น. - comment id 371069
มองท้องฟ้านภาอุษาสาง ภาพเลือนลางลักษมีหลากสีสันต์ เปี่ยมคุณค่าอบอุ่นคุณอนันต์ ก่อนตะวันวสันต์กลบจันทรา ยืนริมชานด้านนอกเห็นหมอกขาว มองดวงดาวลางเลือนค่อยเคลื่อนหาย ธรรมชาติร่วมแรงแต่งลวดลาย มาทักทายข้างเคียงเรียงร้อยใจ ทับสะแก
16 พฤศจิกายน 2547 10:10 น. - comment id 371135
มาอ่านและเป็นกำลังใจให้พี่แก้วครับ ธรรมะของพระพุทธองค์ เป็นอกาลิกธรรม ล้ำสมัยอยู่ทุกเมื่อครับ เป็นสันทิฏฐิกธรรม ผู้ปฏิบัติย่อมประจักษ์แจ้งด้วยตน ถ้าอ่านแล้วไม่นำไปปฏิบัติ ธรรมก็ย่อมไร้ผลครับพี่ ปฏิบัติธรรมกันเถิดครับชาวพุทธ อย่างเมกก็จะถือศีล 5 ทุกวัน พยายามจะไม่ให้ผิดศีล และฝึกสมาธิพิจารณาไตรลักษณ์ก่อนนอนทุกวันครับ และอีกสิ่งหนึ่งที่เมกถือมาตลอด คือ การรู้จักกตัญญู รู้คุณคน และกตเวที ตอบแทนในโอกาศที่ควร เราชาวพุทธ มีแก้วอันหาค่ามิได้อยู่ในมือแล้ว อย่าชื่นชมอย่างเดียวนะครับ หมั่นปฏิบัติธรรม เพื่อตัวเราเอง +-*-+ +-*-+-*-+ปู๊ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+ +-*-+
16 พฤศจิกายน 2547 17:43 น. - comment id 371468
:D
17 พฤศจิกายน 2547 02:51 น. - comment id 371814
สาธุ....เข้ามาอ่านได้คติดีค่ะ ยินดีด้วยนะคะ
17 พฤศจิกายน 2547 10:40 น. - comment id 371949
คุณ เพราะรัก ขอบคุณมากครับ แล้วเอาธรรมไปทำงานด้วยนะครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 10:41 น. - comment id 371950
คุณ แมงกุ๊ดจี่ ครับอ่านกลอนคุณแล้วดีจัง แสดงถึงว่าธรรมเข้าซึ้งในจิตใจคุณแล้วครับ อนุโมทนาด้วยครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 10:43 น. - comment id 371952
คุณ มัดหมี่ คำสอนของพระพุทธองค์หากเราไม่พิสูจน์ด้วยตัวเราเอง ก็จะไม่ค่อยเกิดผลเท่าไหร่หรอกครับ บางครั้งอาจจะทำให้ไขว่เขวได้ครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 10:44 น. - comment id 371953
คุณ คอยมอง ขอบคุณมากครับ แล้วช่วยติชมด้วยนะครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 10:45 น. - comment id 371954
คุณ คนเมืองลิง ขอให้ธรรมได้สอดแทรกเข้าในจิตที่ว้าวุ่นของคุณ ขจัดให้สบายใจขึ้นนะครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 10:49 น. - comment id 371957
คุณ กุ้งหนามแดง เพื่อนรักผมคนนี้ผมเชื่อมากว่า หากได้กระทำสิ่งใดแล้วย่อมสำเร็จ และดีด้วยซิความรู้สึกผมนะ ครับเป็นงานยากพอสมควรที่ต้องเข้าใจคำบาลีด้วยว่าความหมายเป็นอย่างไรถึงจะสอดแทรกให้เป็นกลอนได้ บางคำผมไม่รู้จริงๆจะไปค้นหาก็ไม่รู้จะค้นอย่างไร เคยมีหนังสือไว้เล่มหนึ่งแต่สูญหายไปแล้วเกี่ยวกับคำแปลภาษาบาลีสันสฤตดิ์ ฉนั้นจึงต้องเอาความรู้ดั่งเดิมประสานกับการอ่านงานมากๆด้วยถึงจะทำได้ครับ ขอบใจเพื่อนรักมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 10:59 น. - comment id 371966
คุณ ราชิกา แฝดเพื่อนรัก ตอนที่ผมทำงานนั้นนะผมแบ่งแยกใจออกเป็น 3 อย่างด้วยกันโดยต่างวาระ เมื่ออยู่บ้านจะไม่คำนึงถึงสิ่งภายนอก ในการเดินทาง หรือที่ทำงาน เมื่อเดินทางก็ไม่คำนึงถึงบ้านและที่ทำงาน เมื่อถึงที่ทำงานผมจะมุ่งมั่นเพียงแต่งานไม่เอาการเดินทาง และงานในบ้านมาปะปนกัน จะทำให้เรารู้สึกว่าสบายใจคือเราทำงานด้านเดียวครับ เมื่อเลิกงานก็เหมือนกันครับ ผมทำมาตลอดจนกระทั่งออกจากงาน ถึงแม้ว่าผมตอนนี้อยู่บ้านก็จะไม่คำนึงถึงสิ่งภายนอก อยู่ภายในเขตหมู่บ้านสร้างสิ่งประโยชน์ให้แก่หมู่บ้าน ช่วยงานเขาจิปาถะ ช่วยเสริมสร้างสนามเปตอง ควบคุมจัดการเรื่องแอโรบิคให้พวกแม่บ้านหมู่บ้าน จนปัจจุบันนี้ครับ พอกลับบ้านหลังเล่นเปตองหรืองานอื่นๆสิ้นสุดลง ทานข้าว ไหว้พระ นั่งสมาธิ แล้วเล่นคอมฯ หากกลางวันวันไหนไม่ไปช่วยก็ดูแลภายในบ้านซึ่งผมปลูกต้นไม้ เลี้ยงปลา นก ไปตามเรื่องตามราวเพื่อให้มีงานทำเล็กๆน้อยๆ หรือเล่นคอมฯฝึกสมองตนเองป้องกัน อัมไซเมอร์ ครับ เพื่อนรักลองแบ่งแยกดูซิจะรู้สึกว่าสบายใจแล้วเอาธรรมสอดแทรกเข้าไปด้วยนะครับ รักเพื่อนเสมอ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 11:03 น. - comment id 371971
คุณ บินเดี่ยวหมื่นลี้ ขอบคุณเพื่อนมากครับที่ห่วงใยสุขภาพผม ครับเข้าหน้าหนาวแล้วแต่กรุงเทพฯอากาศเปลี่ยนแปรมาก กลางวันร้อนมากเหมือนหน้าร้อน กลางคืนค่อยยังชั่วหน่อยจะมาเย็นก็ประมาณตีห้านั่นแหละครับ ทำให้คนกรุงเทพฯอ่อนแอมากไหนอากาศมวลพิษจากรถยนต์มากต้นไม้ก็น้อยเหลือเพียงป่าคอนกรีตที่มากหน่อย จึงทำให้ร่างกายคนกรุงเทพฯแย่ขึ้นทุกวัน ผมทนไม่ไหวมาซื้อบ้านแถวชานเมืองอยู่เพื่อหลบตอนแรกก็ดีๆแหละครับมีทุ่งนา อากาศแสนสบาย แต่ตอนนี้ชักแย่แล้วล่ะ เจริญขึ้นมากทำให้เปลี่ยนไป เห่อๆๆนี่แหละหนอเกิดมาจนก็อย่างนี้แหละครับ และคุณก็ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 11:04 น. - comment id 371972
คุณ เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ ขอบใจกี้คนสวยมากนะ ที่มาให้กำลังใจเสมอมา แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 11:06 น. - comment id 371974
คุณ สาวดำ หลานเอ๊ย...ไม่ใช่อ่านอย่างเดียวนะปฏิบัติวันละนิดจิตแจ่มใสนะ ทำด้วยจ้า แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 11:10 น. - comment id 371977
คุณ น้องกิ๊ฟ ภาระกิจของคุณนั่นมากมายด้วยช่วยดูและสำนักธรรม สร้างกุศลผลบุญตลอดย่อมมีจิตใจผ่องแผ้ว ผมซิทำได้แค่งานเผยแพร่ธรรมพระองค์แค่ธรรมดาเท่านั้นเอง ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 11:13 น. - comment id 371980
คุณ rain ขอบใจมากคุณ เรน ศิษย์เอกครูผู้เฒ่า ผมก็เพียงแค่คนเขียนเล็กๆเท่านั้นเมื่อคุณชมมาผมก็ปลาบปลื้มยินดียิ่ง จะพยายามเผยแพร่ธรรมคำสอนไว้ ซึ่งน้อยคนจะทำครับ เพื่อตัวเองและคนทั้งหลายด้วย ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 11:18 น. - comment id 371987
คุณ เพียงพลิ้ว ผมเองไม่ใช่จะเก่งแค่คนเขียนกลอนเล็กๆธรรมดาเท่านั้นเพียงแต่มีความรักมุ่งมั่นรักงานด้านนี้พยายามทำเท่าที่ทำได้ครับ ดีเหมือนกัน เรามาช่วยกันเผยแพร่พระธรรมซึ่งนับวันจะเลือนหายไปจากใจคนไทยมาก เพราะเหตุปลายประการ ช่วยกันเถอะครับผมขอร้องคุณไว้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 11:19 น. - comment id 371988
คุณ ทับสะแก งานกลอนคุณไพเราะมากนะครับ ขอบคุณครับที่แวะมาเยือนผมครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 11:21 น. - comment id 371991
คุณ เมกกะ ดีมากเลยน้องที่เราสองมาช่วยกัน ผมเขียนกลอนไว้คุณช่วยบรรยาย เพราะคำบาลีบางคำผมยังไม่ซึ้งเท่าไหร่ หากน้องมาช่วยขยายจะทำให้คนอ่านเข้าใจมากครับ ขอบใจมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 11:22 น. - comment id 371994
คุณ ลักษมณ์ ขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 11:24 น. - comment id 371998
คุณ carot เป็นงานที่ผมภูมิใจมากครับ เพราะสร้างคุณประโยชน์แก่สังคมคนไทยครับ ขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤศจิกายน 2547 21:27 น. - comment id 372409
ผู้บงการงานกรรมที่นำเกิด พระพุทธองค์ทรงเปิดถึงโฉมหน้า คือโลภะเจตสิกสมุทยา เป็นต้นเหตุนำมาซึ่งทุกข์ภัย ความติดข้องในอารมณ์บ่มยางเหนียว ให้ติดเกลียวอุปาทานพิสมัย ไม่อิ่มความต้องการในงานใด จึงร้อยไว้ด้วยภพสบผลกรรม อนุโมทนานะคะคุณแก้วประเสริฐ
17 พฤศจิกายน 2547 22:47 น. - comment id 372433
คุณ พี่ดอกแก้ว ขอบคุณมากครับได้รับการเสริมต่อทำให้งานผมกระจายไปอีกครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.