๏ ราตรีงาม กรุงเทพฯศิวิไล ๚ คำโคลง.. ราตรีเป็นสุขแม้.........ชีวิต เจ็ดค่ำงามสนิท.................โศกหล้า แสงไฟพร่างยามพิศ..........ยนต์ผ่าน...พราวนอ มองสะพานลอยฟ้า............วาบริ้วปลิวราย... ลมหนาวราวย่างเยื้อง........ยอใจ วาบหมู่แสงยนต์ไฟ................วาบฟ้า ลีลาแล่นรถไป........................ล่องลิ่ว ...ทิวเฮย งามแอร่มอร่ามหล้า...............โลกนี้แสนงาม ในคืนเดือนมืดรางฟ้าสีเทาหม่นแกมดำ แต่ไฟแห่งรถยนต์งามล้ำแล่นบนทางด่วนอุตราภิมุขสาดไฟ แสงสีวูบวาบจรุงใจชวนให้รื่นเริงในกิจกรรมแล่นไฟไปมา เสมือนเทพลีลาล่องลิ่วโลดทะยาน.. นึกครึ้มถึงเทพยดาบนวิมานร่ายฟ้าอารมณ์ดี หากเห็นแสงไฟวิบวับกระนี้ ...งามตา ๏ ทิกิ_tiki ๚ เคาะหน้าจอจาร ณ คืนแรม เจ็ดค่ำ เดือนสิบเอ็ด ๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ กรุงเทพฯราตรีฟ้าวูบวาบแสงไฟ เห็นตึกราม กระพริบวาบอุ่นใจไฟงาม ๏ ราตรีงาม กรุงเทพฯศิวิไล ๚ คำโคลง.. นำลงหน้าจอคอมพ์๑๘:๕๐ นาฬิกา คืนแรม ๘ ค่ำเดือน ๑๑ พระศุกร์ ๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
5 พฤศจิกายน 2547 19:40 น. - comment id 364610
เพราะมากๆเลยค่ะชอบค่ะ หวานไปอ่านรายอะเอียดที่พี่ทิกให้อ่านแล้วนะคะ คิดถึงค่ะ
5 พฤศจิกายน 2547 19:40 น. - comment id 364612
เมื่อคนเรามีความสุขในใจ แม้นปลาร้าในไหก็ยังดูดี แต่เมื่อคนเราหงุดหงิดเหลือที่ ปลาร้าไหนี้ก็มีสิทธิ์แตกกระจาย 5555555555555 พระเจ้า แต่งเองขำเอง ผมก็เคยมองว่าแสงไฟรถรามากมายว่าสวยนะพี่ทิกิ แต่ไฟมากก็แสดงว่ารถมากและเมื่อรถมากมันก็เลยรถติดแล้วมันก็เลยหงุดหงิดเพราะรถติดรถมาก 5555555 บ่นไรเนี่ยะผม ^o^
5 พฤศจิกายน 2547 19:46 น. - comment id 364618
แล้วก็ พี่ทิกิครับ ผมสงสัย ว่า ฉันทลักษณ์ของโคลงสี่เกี่ยวกับเอกโทนี่มันยืดหยุ่นได้ใช่มั้ยครับพี่ทิกิ ถ้าได้ ยังไง ช่วยบอกให้น้องฟังที แบบว่าขี้เกียจหาอ่านเอง พูดไปไม่อายปากเนาะเรา ^o^ ?
5 พฤศจิกายน 2547 19:49 น. - comment id 364620
เพราะมากๆเลยค่ะชอบค่ะ หวานไปอ่านรายอะเอียดที่พี่ทิกให้อ่านแล้วนะคะ คิดถึงค่ะ : 8964 - เพราะรัก : 371808 - 05 พ.ย. 47 - 19:40 ขอบคุณน้องน้ำหวานมากค่ะ
5 พฤศจิกายน 2547 20:07 น. - comment id 364637
เมื่อคนเรามีความสุขในใจ แม้นปลาร้าในไหก็ยังดูดี แต่เมื่อคนเราหงุดหงิดเหลือที่ ปลาร้าไหนี้ก็มีสิทธิ์แตกกระจาย 5555555555555 พระเจ้า แต่งเองขำเอง ผมก็เคยมองว่าแสงไฟรถรามากมายว่าสวยนะพี่ทิกิ แต่ไฟมากก็แสดงว่ารถมากและเมื่อรถมากมันก็เลยรถติดแล้วมันก็เลยหงุดหงิดเพราะรถติดรถมาก 5555555 บ่นไรเนี่ยะผม ^o^ : 9532 - extreme life : 371810 - 05 พ.ย. 47 - 19:40 ความคิดเห็น : แล้วก็ พี่ทิกิครับ ผมสงสัย ว่า ฉันทลักษณ์ของโคลงสี่เกี่ยวกับเอกโทนี่มันยืดหยุ่นได้ใช่มั้ยครับพี่ทิกิ ถ้าได้ ยังไง ช่วยบอกให้น้องฟังที แบบว่าขี้เกียจหาอ่านเอง พูดไปไม่อายปากเนาะเรา ^o^ ? : 9532 - extreme life : 371816 - 05 พ.ย. 47 - 19:46 ในขั้นอนุบาลนี้ เขียนโคลงสี่ก็จำหลักไว้ให้แม่นเรื่อง เอกเจ็ดโทสี่และ จำแค่ คำเอก คือคำ ใช้ไม้เอก หรือสามารถแทนได้เป็นคำ เอกโทษ คือ คำตาย ที่สะกดด้วย แม่กก กด กบ เป็นคำตาย ส่วน คำโท คือคำ ที่สะกด ด้วยไม้โท ส่วนจะเสียงโท เช่น กล้า บ้า จ้า หล้า อ้า ก็ถือว่าดี แต่บางที คำโท ใช้วรรณยุกต์โทกับอักษรสูง ก็ได้เสียง โท เช่น ข้า ฉ้า ผ้า ห้า ส้า แต่ถ้าใช้วรรณยุกต์โทกับอักษรต่ำ ก็จะกลายเป็น เสียงตรี เช่น ล้า น้า ค้า ม้า ก็ไม่ต้องตกใจ บางคนมาเถียงกันกับเสียง โท ไม้โท กับพี่ จนเซ็ง อีกหน่อยสงสัยต้องไปเปลี่ยน วรรณยุกต์เป็นไม้ตรีอีกละซี เอาของเก่าๆ หลักๆให้แม่นไม่ต้องไปเล่นกลบท หรือไป เล่น โคลงพิศดารอะไรหรอกค่ะ ลองดูที่นี่ค่ะ โคลงสี่ยกมาเรียนที่นี่ http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=2464 : 4895 - tiki : 371823 - 05 พ.ย. 47 - 19:56 : อ่อ ลืม เสียงเอก ก็อนุโลมให้ใช้พวก รัสสะสระ คือ สระเสียงสั้นแทนไม้เอก คือ อะ อิ อึ อุ เอะ แอะ โอะ เอาะ อัวะ เอิยะ ลองเข้าไปดูอ่านเอาแล้วกันนะคะ :
5 พฤศจิกายน 2547 20:40 น. - comment id 364676
โคลงเพราะจังเลยค่ะ อิ อิ แวะมาอ่านค่ะ...
5 พฤศจิกายน 2547 20:57 น. - comment id 364702
เอ่อ...สอนกันอยู่เหรอครับ...?? .ผมกะว่าแวะมาชมว่า.. กลอนน่าพิสมัย(วิลัยศักดิ์)มากครับ... .......เขียนได้ไง...เก๊งเก่ง....!!~
5 พฤศจิกายน 2547 21:10 น. - comment id 364713
คิดถึงภาพ วิ่งผ่านสนามหลวง เขาประดับไฟตามต้นไม้ วิบวับจับตา...เค้าถึงคนต่างบ้านมักหลงแสงสีในเมืองกรุงฯ.. แวะมาทักทายจ้า วีนัสก่ะเจ้า
5 พฤศจิกายน 2547 21:12 น. - comment id 364716
ไม่ได้สอนค่ะ เขียนไว้แต่เมื่อคืนนั่งมองทางด่วน ดึกๆ ก็เฮ้อ ไฟสวยจังน้อ แบบพวกเทวดาจะรื่นเริง เล่นไฟบ้างไหมนะ ก็เลยเขียนชมทางด่วนเสียหน่อย ไม่เก่งหรอกค่ะ อารมณ์ดีธรรมดา แต่เผลิญได้รับคำชมจากเหล่าท่านอาจารย์บางท่านที่อ่านหนังสือ ชีวิตสอนชีวิตเล่ม ๑ (พระคุณแม่) แล้วบอกว่า เออ คุณทิกิ นี้เขียนโคลงเก่งจัง แหะ แหะ ก็เลยมาปัดฝุ่นตัวเองเสียหน่อยเกรงจะ เป็นมือปืนโคลงเคลงอีก ขอบคุณที่มาชมมายอนะคะ เป็นคนบ้ายอซะด้วยซี
5 พฤศจิกายน 2547 21:14 น. - comment id 364718
โคลงเพราะจังเลยค่ะ อิ อิ แวะมาอ่านค่ะ... : 8434 - ลอยไปในสายลม : 371876 - 05 พ.ย. 47 - 20:40 ขอบคุณที่มาชมนะคะ มาอ่าน มาลองเขียนได้ค่ะ
5 พฤศจิกายน 2547 21:17 น. - comment id 364720
คิดถึงภาพ วิ่งผ่านสนามหลวง เขาประดับไฟตามต้นไม้ วิบวับจับตา...เค้าถึงคนต่างบ้านมักหลงแสงสีในเมืองกรุงฯ.. แวะมาทักทายจ้า วีนัสก่ะเจ้า : 7883 - =_+ VeNuS +_= : 371913 - 05 พ.ย. 47 - 21:10 แสงสียามค่ำนั้นมันโรแมนติคมากค่ะ โดยเฉพาะถ้าเราไปยืนอยู่เหนือตึกสูงในเมืองใหญ่..หรือมองจากยอดผาเช่นทางลงเขาริม เมืองใหญ่ ยกตัวอย่าง พัทยา มองเห็นไฟ ว้อบแวบ ริมหาด สวยอะไรอย่างนั้น... เป็นความงามที่บรรยายยากยิ่ง ในความงามแห่ง คบไฟ ดวงไฟ ที่ตามไว้ ตามที่ต่างๆ กวีบรรยายแสงไฟไว้ในเรื่องต่างๆนั้นดึงจินตนาการได้ล้ำเลิศนักแหละค่ะ ขอบพระคุณมาเยือนนะคะ
5 พฤศจิกายน 2547 21:20 น. - comment id 364722
..เค้าถึงว่า ยามค่ำคืน หากจุดไฟตามที่ต่างๆ มองจากที่สูงลงมา คล้ายหมุ่ดาวระยิบระยับตา โรแมนติกเหลือใจเลยอ่ะพี่ทิกิ..แต่เสียดายที่ขาดอยู่อย่างเดียว..คือไม่มีคนดูด้วยนี่สิ คิคิ แวะมาอีกทีนะคะ... แสงสีในเมืองกรุง เราก็เหมือนยุงที่บินไปหาหลอดไฟ...เพราะมันสวยอ่ะนะ คิคิ แบวค่ะ
5 พฤศจิกายน 2547 21:42 น. - comment id 364730
..เค้าถึงว่า ยามค่ำคืน หากจุดไฟตามที่ต่างๆ มองจากที่สูงลงมา คล้ายหมุ่ดาวระยิบระยับตา โรแมนติกเหลือใจเลยอ่ะพี่ทิกิ..แต่เสียดายที่ขาดอยู่อย่างเดียว..คือไม่มีคนดูด้วยนี่สิ คิคิ แวะมาอีกทีนะคะ... แสงสีในเมืองกรุง เราก็เหมือนยุงที่บินไปหาหลอดไฟ...เพราะมันสวยอ่ะนะ คิคิ แบวค่ะ : 7883 - =_+ VeNuS +_= : 371922 - 05 พ.ย. 47 - 21:20 โห นึกถึงแสงสี ละก้อ ไม่ได้เลยพวกหลงแสงสี จนตามัวเนี่ยข้าพเจ้าเองแหละ แหะ แหะ พวกตระกูลนกเค้าแมวนกฮูกน่ะ งามแท้แหละค่ะ ไฟแว้บวับระยิบระยับนั้น โอ้ละเหนอ งามซะ
6 พฤศจิกายน 2547 11:20 น. - comment id 364944
แวะมาอ่านและให้กำลังใจครับพี่ +-*-+ +-*-+-*-+ปู๊ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+ +-*-+
6 พฤศจิกายน 2547 13:41 น. - comment id 365032
ขอบคุณคะเมกกะ
6 พฤศจิกายน 2547 21:26 น. - comment id 365207
ชนบทค่ำคืนแล้ว มืดมา คืนแรมไร้จันทรา ไป่แจ้ง เพียงดาววาวนภา ริบหรี่ รำไร กบอึ่งจักจั่นแย่ง เร่งร้อง เสียงดัง ไกลห่างความเจริญแม้ ห่างไกล ไกลห่างเธอเพียงไร กว่ากว้าง ไกลตาบ่ไกลใจ เราแนบ ไกลนักจักเอ่ยอ้าง ดาวนี้ คือเรา เมฆเคลื่อนเลื่อนปิดไว้ กำบัง ดาวน้อยหมดกำลัง ส่องได้ รักแท้แพ้ใกล้ชิดดัง คำบอก หมั่นแวะหมั่นเวียนใกล้ แน่แท้ คนเมือง ******************* เมื่อmadoo มาเรียน แล้วเขียนบ้าง เอาแบบอย่าง โคลงสี่ ที่พี่สอน เมื่อคุณครู เหนื่อยนัก ไปพักนอน ศิษย์ก็ย้อน ลักจำ ลองทำดู .. ว่าจะเขียนโคลงให้สัมพันธ์กับของพี่ แต่ไปๆมาๆ โคลงมันโค้งออกไปยังไงก็ไม่รู้ครับ
6 พฤศจิกายน 2547 21:49 น. - comment id 365226
อิ่มในอรรถรสแห่งโคลงกวี งามแท้
6 พฤศจิกายน 2547 21:59 น. - comment id 365235
คุณมาดูคะเป็นบทโคลงจากใจงามค่ะ แต่จะช่วยเรื่องฉันทลักษณ์ เอกเจ็ด โทสี่นิดหนึ่งนะคะ คราวหน้าจะได้แต่งคล่องจำแม่นค่ะ ชนบทค่ำคืนแล้ว มืดมา คืนแรมไร้จันทรา ไป่แจ้ง เพียงดาววาวนภา ริบหรี่ รำไร กบอึ่งจักจั่นแย่ง เร่งร้อง เสียงดัง โคลงบทหนึ่ง บังคับ เอก 7 โท 4 ดังนี้ ก่ ข้ 0 0 0 ก่ข้ 0 x 0 ก่ 0 0 x ก่ ข้ 0 0 ก่ 0 x 0 ก่ (0 0) 0 ก่ 0 0 ข้ ก่ ข้0 0.... (0 0) ลองปรับดูนะคะ ชนบทคืนค่ำแล้ว ...มืดมา คืนดับไร้จันทรา ..ไป่แจ้ง เพียงดาววาบวาวนภา ริบหรี่......รำไร กบอึ่งจักจั่นแย้ง เร่งร้อง เสียงดัง ขอขมว่าเขียนได้เก่งมากค่ะ ใช้คำได้ดี ปรับไม่กี่คำ งานดีมากค่ะ ลองค้อปี้ไปทำดูนะคะ
7 พฤศจิกายน 2547 11:50 น. - comment id 365403
มาแอบ Doo คน เก่ง มาเรียนกับคน เก่ง กลอน แล้ว แต่ง ส่งครู อแนนอีกนะคะ นิ่มจะมาแอบ doo
10 พฤศจิกายน 2547 02:21 น. - comment id 367136
มาแอบ Doo คน เก่ง มาเรียนกับคน เก่ง กลอน แล้ว แต่ง ส่งครู อแนนอีกนะคะ นิ่มจะมาแอบ doo : 9584 - ดาหลา & ปะการัง : 372621 - 07 พ.ย. 47 - 11:50 เห็นแต่วันก่อนแล้วลืมตอบค่ะ
20 พฤศจิกายน 2547 10:08 น. - comment id 373887
มาดูความเรียบร้อยค่ะ