อานาปานบรรพ. ดูกรผู้ประพฤติธรรมอันล้ำเลิศ สิ่งประเสริฐมิห่างหายข้างกายเขา หากจำแนกแยกแยะหนักและเบา ประกอบเข้าเป็นอนุสัมมาสติ เพียงสังเกตเหตุผลกลการสร้าง ให้สล้างวางกำหนดกฎแหล่งปิติ แล้วเสริมทางดำเนินอย่าเกินนิติ เพื่อเป็นคติประจำใจทั้งในนอก เป็นกรอบร่างสร้างขึ้นเป็นนัยบท แล้วกำหนดรู้ไว้ใช้เป็นระลอก ไม่ว่าสถานที่แห่งใดดั่งจับกรอก อย่าให้ยอกหลอกหลอนแก่ใจเรา นั่งคู้บัลลังก์กายตรงดำรงสติ มีดำริพิจารณาหาทางเขา ลมหายใจเข้ารู้หนักหรือเบา หายใจยาวว่ายาวก้าวพ้นไป ทั้งในนอกออกเข้าเฝ้าเรียนรู้ ดุจชายผู้กลึงไม้ทำได้ไฉน จะสั้นยาวผ่อนหนักเบาอย่างไร เขารู้ได้แจ้งจบครบกระบวน ล้วนเปรียบเทียบลมหายใจเข้าออก เป็นระลอกหนักเบาเฝ้าสอบสวน จนหายใจละเอียดหายมาทบทวน ด้วยสติล้วนหวนกำหนดแหล่งลมปราณ ชำนาญสำเหนียกรู้กองลมแล้ว กำหนดแน่วแผ่วเบากายในสังขาร แล้วพิจารณากายในนอกทุกวาร ในทุกกาลสติตั้งมั่นเพื่อความรู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น สติตั้งมั่นว่ากายสังขารมิของกู ทิฎฐิตัณหาพาหลบหนีออกกรู เพราะเรารู้ไม่ยึดมั่นอะไรโลกนี้ จักชื่อว่าพิจารณากายในกายอยู่ เป็นผู้รู้ธรรมสังขารอันเป็นศรี บังเกิดฌานสมาธิที่มากมี ใช้เป็นที่ระงับดับทุกข์ตามพัวพัน. ๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
23 ตุลาคม 2547 22:23 น. - comment id 356489
เพราะเหมือนเคยนะคะพี่แก้วซึ้งถึงรสพระธรรมเลยค่ะแวะมาทักทายพี่แก้วนะคะ คิดถึงค่ะ
23 ตุลาคม 2547 23:37 น. - comment id 356506
สวยค่ะ ชอบมาก
24 ตุลาคม 2547 11:55 น. - comment id 356582
ขอบคุณ สำหรับ คำสอน เอื้ออาทร จะพยายาม เอา สิ่งที่ ตั้งใจ บอก มา ปรับเปลี่ยน ค่ะ เวลาคงต้องให้มากสักหน่อย เพราะว่า ทิ้งร้างไปนาน
24 ตุลาคม 2547 12:04 น. - comment id 356589
อาณาปานสติ....กำหนดลมหายใจเข้าออก...เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เกิด...จิตสงบ...มีสมาธิ... ชื่นชมในความตั้งใจที่ดีของแฝดเพื่อนค่ะ.. แวะมาเยี่ยมค่ะ.(พึ่งกลับจากประชุมวิชาการ 3 วัน..เหนื่อยพอสมควรจ๊ะ)...คิดถึงเพื่อนนะจ๊ะ..
24 ตุลาคม 2547 18:50 น. - comment id 356735
ธรรมะ ธรรมชาติ มีสาระประโยชน์ ต่อสติและจิตใจมาก ๆ ดีที่ได้แวะมาอ่าน...
25 ตุลาคม 2547 06:38 น. - comment id 356859
มานั่งสมาธิด้วยคนนะ รู้สึกได้บุญจัง
25 ตุลาคม 2547 11:38 น. - comment id 356954
คุณ เพราะรัก คนเรานั้นย่อมมีช่วงดีและเลว ฉนั้นสิ่งใดที่เราคิดว่าดี หากได้สร้างไว้วันละเล็กละน้อยย่อมดีกว่าไม่สร้างจ้า แก้วประเสริฐ.
25 ตุลาคม 2547 11:40 น. - comment id 356956
คุณ ทรายกะทะเล ผมเองเขียนทั้งทางโลกและทางธรรม สองแนวไว้ ทางหนึ่งเพื่อชีวิตในทางโลก อีกทางหนึ่งสร้างกุศลไว้ในทางธรรม เพื่อให้พอเหมาะแก่กันครับ หากว่างๆก็แวะมาอ่านด้วยนะครับขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
25 ตุลาคม 2547 11:41 น. - comment id 356957
คุณ ดาหลาฯ ทุกๆสิ่งในโลกนี้ย่อมจะหาทางลงตัวของมันเองได้เสมอแหละครับ หากเราเป็นผุ้จุดชนวนไว้และมีความเพียรประกอบด้วย ไม่วันใดวันหนึ่งย่อมจะพบในสิ่งที่ปราถนาแหละครับ แก้วประเสริฐ.
25 ตุลาคม 2547 11:44 น. - comment id 356959
คุณ ราชิกา ความปราถนาในการสร้างสิ่งดีย่อมจะมีขึ้นแก่ทุกผู้นาม แต่ก็ด้วยโอกาสและความพยายามด้วย ฉนั้นเพื่อนของเธอเมื่อได้โอกาสย่อมจะหาทางสร้างไว้แหละเพื่อน บุญกุศลนี้ขอมอบให้เพื่อนรักไว้ด้วยครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
25 ตุลาคม 2547 11:46 น. - comment id 356961
คุณ ฟา ครับ ธรรมชาติย่อมมีในจิต จิตย่อมอาศัยธรรมชาติเป็นสิ่งเริ่มต้น เพราะการกำเนิดย่อมมาจากธรรมชาติ ทั้งสองสิ่งนี้ย่อมคู่กันเสมอมา โดยโอ้โลมปฏิโลมซึ่งกันและกัน หากฝึกจิตขาดธรรมชาติจิตย่อมพัฒนาตัวเองได้ยากฉันท์ใดฉันท์นั้นแหละครับ ขอบคุณมากนะครับที่แวะมาเยือนอ่าน หากว่างเชิญอีกนะครับ แก้วประเสริฐ.
25 ตุลาคม 2547 11:50 น. - comment id 356962
คุณ ผลิใบฯ ผมทราบว่าคุณก็เป็นหนึ่งในทางธรรมฯ ธรรมถึงได้คุ้มครองคุณเสมอมา แล้วธรรมย่อมนำแสงสว่างให้แก่ผู้ประพฤติธรรมด้วย สิ่งที่ดีทำได้ยาก สิ่งชั่วย่อมเกิดได้ง่ายถึงแม้เราจะไม่สนใจใยดีมันกลับสร้างตัวของมันเองให้แก่เรา การทำสมาธิเป็นสิ่งหนึ่งให้ไม่เกิดความประมาท เมื่อไม่ประมาทการกระทำสิ่งใดๆย่อมง่ายขึ้น อนุโมทนาในผลกุศลของคุณในครั้งนี้ครับ แก้วประเสริฐ.
25 ตุลาคม 2547 18:52 น. - comment id 357157
มาซึมซับรับธรรมะ เป็นวาระของคนมุ่งคำสอน จับคัดตัวอักษรเป็นบทกลอน จึงขจรไกลกลิ่นไอธรรม มาอ่านแล้วจิตสงบขึ้น... ^__^
26 ตุลาคม 2547 10:12 น. - comment id 357453
คุณ แมงกุ๊ดจี่ ครับผมเองพยายามอย่างยิ่งในการแต่งกลอนธัมมะขึ้น เพื่อที่จะเผยแพร่แก่สาธุชนที่ใฝ่ในธรรมต้องประสานกับคำบาลี แต่ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นจึงทำได้เพียงแค่นี้แหละครับ เพราะผมเองยังไม่เก่งในเรื่องกลอนจึงบางครั้งอาจสะดุดก็ได้ต้องขออภัยด้วย ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
26 ตุลาคม 2547 22:22 น. - comment id 357894
กลางเปลวร้อนผ่อนเผาเร้าใจรุม ให้กลัดกลุ้มสุมพอกกรอกอกไหม้ แว่วสำเนียงเสียงพระธรรมมาไกลไกล ระงับใจสดับตรองครรลองธรรม เมื่อมีเหตุเลศแล้วไม่แคล้วผล ทั้งดีชั่วเปรอปรนให้อิ่มหนำ เพียงเพราะใจไม่รู้การกระทำ จึงถลำลงลึกตรึกโซ่ตรวน ถ้อยวาจาวาทีมีกลเล่ห์ มากด้วยเพทุบายไร้ถูกถ้วน มุ่งประโยชน์แห่งตนจนเกินควร ก็เพราะล้วนกิเลสเหตุแห่งมาร สดับธรรมล้ำค่าคราทุกข์ยาก ความชื่นฉ่ำไหลหลากจนแผ่ซ่าน ซึมซับใจจนสิ้นไร้วาจามาร สงบคำฉ่ำหวานกับพระธรรม
26 ตุลาคม 2547 22:37 น. - comment id 357899
คุณ พี่ดอกแก้ว สำเนียงถ้อยร้อยธรรมลำนำยิ่ง ล้วนแต่สิ่งแปรปรวนจนเหหัน ดั่งชีวิตใฝ่ปองผองแก่นกัน ล้วนเสกสรรคำถ้อยร้อยวจี ทั้งในนอกตอกไปใช่สาเหตุ สิ่งปริเฉจในธรรมล้วนเลิศศรี สร้างแก่นแท้แน่นอนสิ่งที่ดี หากใครที่ละมารได้ไร้กังวล. แก้วประเสริฐ.
27 ตุลาคม 2547 15:56 น. - comment id 358224
^_^ มารับธรรมะสิ่งดีให้ชีวิตตัวเองค่ะ ขอบคุณค่ะ
27 ตุลาคม 2547 23:21 น. - comment id 358511
คุณ คนเมืองลิง ครับขอบคุณมากที่แวะมาเยือนอีกนะครับ หวังว่าสิ่งเล็กๆน้อยๆอาจจะช่วยไม่มากก็น้อยของผู้ที่ได้อ่านเช่นคุณครับ แก้วประเสริฐ.
28 ตุลาคม 2547 17:12 น. - comment id 358958
เพียงสิ้นสุด..หยุด..รู้ดูห้วงลม คอยเคลื่อนปมให้จังหวะละฉาบฉวย ทุกขณะที่ลมยังระรวย ต้องรู้ด้วยว่าเข้า-ออกบอกตนเอง แจมนิดนึงนะคะ
29 ตุลาคม 2547 23:17 น. - comment id 359940
คุณ น้องกิ๊ฟ สำนักนี้เชื่อได้เลยครับเก่งทั้งอภิธรรมฯและกลอน ทั้งเจ้าสำนักเก่งอย่างนี้แล้วศิษย์ในสำนักหรือจะไม่เก่ง ย่อมเป็นไปมิได้หรอกครับ ไพเราะครับ ขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.