ครืนครืนกู่เสียง....ลมพัดลำเลียง....ใบเบี่ยงแกว่งไกว จิ๊บจิ๊บจ๊าบจ๊าบ....กระจาบตกใจ....ชวนกันกลับไพร....เพราะใกล้ฝนพรำ ครื้มฟ้ามาเยือน....เสียงร่ำพร่ำเตือน....เสมือนคมขำ นั่งอยู่เดียวดาย....อย่าหมายกรายกล้ำ....ฝ่าทุกข์กระหน่ำ....จดจำฝึกตน จงอยู่อย่างสงบ....เตรียมรับปรับรบ....ยอมจบจำนน รอเวลาบ้าง....คิดค้างสับสน....เรียนรู้อดทน....จักพ้นภัยพาล ฟ้าร้องกระหึ่ม....เร่งเร้าฮึ่มฮึ่ม....วิหกคืนสถาน จวนแล้วคราวนี้....ลมตียอดตาล....สะบัดจัดจ้าน....ถึงกาลฝนโปรย..
17 กันยายน 2547 14:26 น. - comment id 333235
ไชโย ฝนจะตกแล้ว ดีใจจัง แต่บรรยากาศก่อนฝนตกน่ากลัวนะคะ
17 กันยายน 2547 15:04 น. - comment id 333248
มองฝนโปรยปราย.. ปะ ปะ ปลิ้วไป.. ฤทัยเย็นฉ่ำ.. ฟ้าส่งน้ำทิพย์.. ลิบ ลิบ ฝน พร่ำ.. ฉันรีบก้าวย่ำ.. กลับรัง..หลับนอน .................................. มาเยือนเหมือนเคย เพื่อนเอ๋ยคนดี แม้กลอนไม่เข้าที แต่..คิดถึงเหลือที จับใจ ..................................... ปากหวานไปมั๊ย อิอิ
17 กันยายน 2547 15:24 น. - comment id 333258
ไม่ค่อยชอบฟ้าร้อง หรือฝนตกเพราะว่าไฟฟ้าที่บ้านเรามันชอบดับนะสิคะ เป็นโรคกลัวฝนอ่ะ
17 กันยายน 2547 16:03 น. - comment id 333286
คุณเพียงพลิ้ว: อืม! บรรยากาศก่อนฝนตก บางครั้งก็น่ากลัวค่ะ บางทีมีฟ้าแลบด้วย..นกหนูกระเจิง... xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณเมจิค: ฝนโปรยเย็นฉ่ำ จึงเขียนลำนำ อาจขำบางครา คือความอ่อนไหว คือทำตามใจ หรือคือไร้ค่า ฝึกฝนต่อไป แม้มีเวลา พบมิตรจิตพา ผูกพันธ์เหมือนเดิม.. ไม่เคยเขียนอะไรอย่างนี้ เลยไม่ทราบเขาสัมผัสกันตรงไหนบ้าง เอาเป็นว่าเขียนตามที่ใจบอกแล้วกันน่ะค่ะ... xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณคนเมืองลิง: นั่นสิค่ะ บ้านกุ้ง (ลพบุรี) ก็จะเป็นอย่างนี้ไฟตก ไฟดับ ยิ่งถ้ามีงานที่วัดด้วยแล้ว.... ถ้าไม่ไปทำบุญที่วัดน่ะค่ะ ต้องนอนอยู่บ้านเลย... xxxxxxxxx
17 กันยายน 2547 16:38 น. - comment id 333312
มองฝนโปรยปราย.. ปะ ปะ ปลิ้วไป.. ฤทัยเย็นฉ่ำ.. ฟ้าส่งน้ำทิพย์.. ลิบ ลิบ ฝน พร่ำ.. ฉันรีบก้าวย่ำ.. กลับรัง..หลับนอน .................................. มาเยือนเหมือนเคย เพื่อนเอ๋ยคนดี แม้กลอนไม่เข้าที แต่..คิดถึงเหลือที จับใจ ..................................... ปากหวานไปมั๊ย อิอิ คุณเมจิค: ฝนโปรยเย็นฉ่ำ จึงเขียนลำนำ อาจขำบางครา คือความอ่อนไหว คือทำตามใจ หรือคือไร้ค่า ฝึกฝนต่อไป แม้มีเวลา พบมิตรจิตพา ผูกพันธ์เหมือนเดิม.. ไม่เคยเขียนอะไรอย่างนี้ เลยไม่ทราบเขาสัมผัสกันตรงไหนบ้าง เอาเป็นว่าเขียนตามที่ใจบอกแล้วกันน่ะค่ะ... ..................................................... คุณกุ้ง คือว่า ที่บอกว่ากลอนไม่เข้าทีนะ ของเราเองจ๊ะ ไม่ใช่ของคุณกุ้ง อย่า..เข้าใจผิดนะค่ะ ....................................................
17 กันยายน 2547 23:17 น. - comment id 333561
...น้ำตาฟ้าหล่น....กลายเป็นน้ำฝน....เหมือนคนโอดโอย ลิ้มรสความช้ำ...ระกำรักโรย....เจ็บกว่าถูกโบย....ให้โหยอาลัย.... ............................สวัสดีครับ..........................
17 กันยายน 2547 23:29 น. - comment id 333570
ฝนหลั่งถั่งริน ฝนไร้ราคิน ฝนโปรยปรายมา ฝนตกรวมกลุ่ม ฝนชุ่มพสุธา ฝนพรำน้ำฟ้า ฝนพาสุขใจ
18 กันยายน 2547 00:31 น. - comment id 333612
แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ แวะมาชื่นชมในผลงานนะค่ะ
19 กันยายน 2547 11:26 น. - comment id 334249
คุณเมจิค: เข้าใจตั้งแต่แรกแล้วหนา..แบบว่ากุ้ง หลงตัวเองนิดหน่อยอยู่แล้ว..อิอิ.. และที่บอกว่าไม่เคยเขียนมาก่อน คือลำนำตอบกลอนที่คุณ เมจิค เขียนมาค่ะ... เพื่อนกันน่า อย่าคิดมาก..น่ะค่ะ.. xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณใบบอนแก้ว: น้ำตาฟ้าหล่น กลายเป็นน้ำฝน ใครพ้นระทม อาจต้องทนทุกข์ ล้มลุกระงม หายจากระบม อาจชมชื่นเชย.. xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณชัยชนะ; ฝนหลั่งถั่งริน ฝนคือทรัพย์สิน ของธรรมชาติ น้ำฝนโปรยปราย ผืนทรายสะอาด พิไลพิลาส จิตปราศหมองมัว xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณผู้หญิงไร้เงา: ขอบคุณค่ะ xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx ..