มิถิลานครก่อนมีกฏ เป็นแม่บทดำรงเผ่าวงศา กษัตริย์ใดสืบสมบัติวัฒนา จนเกศาหงอกขาวหมดคราวกัน (๑) ต้องยกราชบัลลังก์ยังโอรส ตนถือพรตในไพรสณฑ์จนสิ้นขันธ์ ได้ยึดถือปฏิบัติเคร่งครัดครัน จนถึงวันขัตติย์วงศ์องค์สุดท้าย (๒) คราครั้งนั้นเทพบุตรเนมิราช เห็นจะขาดราชนิกูลสูญสลาย จึงจุติลงมาหาดูดาย เพื่อสืบสายเผ่าพงศ์วงศ์ไวกูณฐ์ (๓) เหล่าบรรดาโหราต่างเห็นพ้อง พระบุตรต้องสืบสานผ่านไอศูรย์ ตามแบบแผนกำหนดบทประยูร จึงกราบทูลถวายนามตามตำรา (๔) พระโอรสปรากฏนามเนมิราช บำรุงราษฏร์มิขาดศาสนา ครั้นราชาภิเษกเฉกก่อนมา มีศรัทธาให้ตั้งศาลาทาน (๕) ทั้งห้าแห่งคือประตูเมืองทั้งสี่ และอีกที่กลางนครยังย้อนขาน บริจาคผู้ขัดสนจนกันดาร บริบาลประชาศีลาธรรม (๖) ทรงตั้งมั่นในกฎทศพิธ ราชธรรมนำจิตติดเนกขัม โปรดสั่งสอนทั้งหมดกฎแห่งกรรม ราชกิจประจำสอนทำดี (๗) ครั้นบุคคลเหล่านั้นสิ้นอายุ ก็บรรลุเทวโลกโศลกศรี ต่างไม่ทราบเนื้อบุญหนุนจิตตี ทำความดีอะไรไต่ถามกัน (๘) เมื่อต่างทราบว่าเคยฟังคำสั่งสอน ของบวรเนมิราชมิพลาดผัน ใคร่ขอเฝ้าพระองค์เห็นตรงกัน ทูลทราบพลันท้าวสักกะอินทรา (๙) ท้าวสักกะองค์อินทร์ครองถิ่นสรวง ทราบทั้งปวงมีดำรัสจัดรถา มาตุลีเจ้าลงไปเชิญท่านมา สมศักดาไพชยนต์ขับพ้นไป (๑๐) เมื่อมาถึงจึงเชิญดำเนินเสด็จ จึงแจ้งเจตนาพาสดใส ทิพย์วิมานมิเคยเห็นเป็นเช่นไร ตกลงใจเดินทางระหว่างภพ (๑๑) มาตุลีสารถีมีฤทธิ์เดช ทั่วทุกเขตเคยไปได้ประสบ จึงทูลเชิญเนมิราชด้วยเคารพ ดูให้ครบทั้งนรกพระตกลง (๑๒) แล้วจึงขับราชยานสู่ลานบาป ก็เห็นภาพเหล่ามนุษย์สุดโลภหลง บ้างเปลือยกายล่อนจ้อนต้อนขึ้นลง งิ้วเป็นดงหนามแหลมทิ่มแทงกาย (๑๓) หมาใต้ต้นคอยรบไล่ขบกัด เห็นชัดชัดเลือดสาดไม่ขาดสาย พอหนีถึงยอดต้นมิพ้นตาย อีการ้ายบินโฉบโอบไปกิน (๑๔) เหลือกระดูกทิ้งครืนพื้นนรก ก็เวียนวกเป็นชีวิตนิจศีล ต้องขึ้นงิ้วหนีหมาอีกากิน กว่าจะสิ้นกรรมนั้นตั้งพันปี (๑๕) ทอดพระเนตรพื้นเพลิงระเริงลุก คนล้มลุกคลุกคลานกระซ่านหนี ภูเขาเหล็กกลิ้งทับดับชีวี เนื้อหนังดีแหลกเหลวเปลวเครื่องใน (๑๖) ตายแล้วเกิดมาหนีคีรีกลิ้ง มิอาจทิ้งกรรมเก่าร้อนเร่าไหว เนมิราชเอ่ยถามถึงความนัย กรรมอะไรทำผิดจึงติดตัว (๑๗) เป็นหมอความเจ้าเล่ห์ช่างเป๋ปัด เป็นคนตัดสินคดีวจีชั่ว ผิดเป็นถูกถูกเป็นผิดไม่คิดกลัว หลงเมามัวอามิสติดสินบน (๑๘) แล้วเบื้องหน้าคืออะไรใช่คนไหม ตัวสูงใหญ่ไร้ปากทุกข์ยากผล มือสองข้างมโหฬารบานพิกล แถมเปลือยตนอุจาดขาดอาภรณ์ (๑๙) มาตุลีบอกองค์พระทรงเดช นั่นคือเปรตใช้กรรมตามหลอกหลอน เคยทำร้ายพ่อแม่แลต่อกร ด่ายอกย้อนไม่ละแม้พระเณร (๒๐) ปากจึงเท่ารูเข็มเล็มโลหิต ทั้งชีวิตอดโซมือโตเห็น ต้องลากแขนทั้งสองร้องลำเค็ญ โหยหวนเป็นอาจินต์จนสิ้นกรรม (๒๑) ฝ่ายสักกะองค์อินทร์ถิ่นสวรรค์ ไปรับกันถึงไหนไยถลำ เกรงจะหมดอายุขัยพระทรงธรรม ทิพย์เนตรส่องนำตามทำนอง (๒๒) เห็นสององค์ทัศนาแดนนรก จึงวิตกตรัสให้ตามปรามทั้งสอง เวลาโลกเนมิราชจะขาดครอง ชวนะเจ้าลองไปตามมา (๒๓) ชวนะเทพบุตรสุดขยัน เร่งรุดพลันส่งความให้ตามหา มาตุลีแสดงฤทธิ์ประสิทธา นรกมาอยู่ตรงหน้าทุกอาการ (๒๔) แล้วทูลเชิญสู่วิมานผ่านทุกชั้น ก็ลดหลั่นตามบุญอุดหนุนฐาน เป็นไปตามกุศลผลบุญทาน เมื่อเสร็จการจึงตรงองค์อินทรา (๒๕) เหล่าปวงเทพเข้าเฝ้าเนมิราช เชิญครองอาสน์แดนสวรรค์ให้หรรษา เนมิราชไม่ประสงค์คงเมตตา จะตั้งหน้าสอนธรรมจงทำดี (๒๖) เพื่อประโยชน์มวลรวมแก่ชาวโลก จะหลุดโศกทิ้งทุกข์เป็นสุขขี พระตั้งใจบำเพ็ญบารมี สละพลีประโยชน์ตนเพื่อผลรวม.. (๒๗) ..จบเรื่องเนมิราช..
16 กันยายน 2547 10:39 น. - comment id 332406
ภพภูมิ หมายถึงสถานที่เกิดของคน สัตว์ทั้งหลาย หลังจากที่ตายจากโลกนี้ไปแล้ว ซึ่งมีทั้ง สุคติภูมิ และทุคติภูมิ สุคติภูมิ คือที่อยู่ของสัตว์ที่มีความสุขมากกว่าความทุกข์ เป็นภูมิที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจของบุญ หรือบุญนำเกิด เช่น มนุษยภูมิ หรือ เทวภูมิ ทุคติภูมิ เป็นภูมิที่อยู่ของสัตว์ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ความทรมาน ต้องอดอยากหิวโหยอยู่ตลอดเวลา ด้วยอำนาจของบาปที่ได้กระทำไว้ ดังนั้น บุญ-บาป จึงเป็นตัวผลักดัน ให้ต้องโคจรไปเกิดยังภพภูมิดังกล่าว ข้อมูลจาก - อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่มา:- http://www.watkoh.com/forum/show.php?Category=dhamma&No=364
16 กันยายน 2547 10:58 น. - comment id 332413
เก็บอีกแล้วว่าจะเก็บให้ครบทศชาติเลยนะ อย่าลืมล่ะเพื่อนรัก แก้วประเสริฐ.
16 กันยายน 2547 15:04 น. - comment id 332553
ห่างหายไประยะหนึ่ง กลับมาแล้ว ความพยายามเยี่ยมยอดจริง ฝีมือด้วย ผมว่าถ้าครบสิบแล้วนอกจากได้งานที่ดีชุดหนึ่งแล้ว ยังได้บุญด้วยนะ ;)
16 กันยายน 2547 16:58 น. - comment id 332628
ดีมากจ้ามาเป็นกำลังใจให้เพียบเพียบ
16 กันยายน 2547 20:05 น. - comment id 332778
กำเนิดเพียงชาตินี้ .......ที่เห็น ฤาจักหมายว่าเป็น........ สิ่งแผ้ว นิสัยที่หลบเร้น..............ชาติอื่น ตามติดจิตเสพแล้ว........สั่งซ้ำชำนาญ มาอ่านด้วยความสุขใจ...ไพเราะมากค่ะ
16 กันยายน 2547 21:19 น. - comment id 332806
คราวนี้พาเจาะเวลาแวะทัวร์นรก ได้อย่างหวาดเสียว ได้ข้อคิดสอนใจแก่คนที่กำลังจะทำผิด ให้คิดละจากบาป เพื่อที่จะไม่ต้องไปชดใช้กรรมที่ตนก่อ งานหน้าน่าจะบอกว่าแต่ละชาติที่มาเกิดบำเพ็ญบารมีอะไรบ้าง คงจะได้รับความรู้เพิ่มเติมอีกนะครับ
16 กันยายน 2547 22:15 น. - comment id 332834
สุดยอดอีกเรื่องหนึ่งที่พึงจะเก็บสะสม อิอิ แว๊บ อิ๊บ อุ๊บ อุ๊บ อิ๊บ แว๊บ
17 กันยายน 2547 09:41 น. - comment id 333026
คุณแก้วประเสริฐ: กำลังดูเรื่อง มโหสถ ชาติที่สี่อยู่น่ะค่ะ รออ่านจบก่อนแล้วจะเริ่มเขียนค่ะ... xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณม.ปณิธาน: ช้าหน่อยค่ะ เรื่องนี้มัวไปตีความอยู่ ตอนแรกอ่านเรื่องแล้วเกิดความไม่เข้าใจว่า ทำไมบนเทวโลก จึงไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ได้ขึ้นสวรรค์ จึงได้ศึกษาเพิ่มเติม เรื่องภพภูมิ...และก็ได้ปัญญาคิดได้ว่าแม้แต่โลกภพ... มนุษย์ยังแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นนั่นคือคำตอบว่าทำไม.... ได้บุญทั้งคนอ่านคนเขียนค่ะ ...จะพยายามเขียนให้ครบน่ะค่ะ...ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ.. xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณ tiki: ขอบคุณค่ะ เป็นกำลังใจให้พี่สาวสอนต่อไป อิอิ. xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx พี่ดอกแก้ว: ขอบคุณมากค่ะพี่...หนูก็พยายามเขียนให้จบอยู่ค่ะ...ชาติที่สี่จบไปแล้ว..ไชโย.. รักษาสุขภาพด้วยค่ะ.. xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คณชัยชนะ: นั่นสิค่ะ สยองพอสมควรทีเดียว สำหรับแดนนรก... สำหรับความคิดเห็นจะรับไว้พิจารณาค่ะ.. xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณคนเมืองลิง: เชิญเลือกเก็บได้ตามใจชอบ ถ้าเรื่องใดจะเป็นประโยชน์ก็เชิญคัดเอาไปตามสะดวกค่ะ ไม่สงวนลิขสิทธิ์แต่อย่างใด....แต่ถ้าจะเอาไปพิมพ์เป็นเล่มช่วยบอกผู้เขียนสักหน่อยน่ะคะ จะได้ร่วมอนุโมทนาบุญ.. ฯลฯ.. xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
13 ตุลาคม 2547 20:08 น. - comment id 350353
สวัสดีค่ะ พี่ดอกแก้วมาขออนุญาตินำไปลงที่เว็ปธรรมของพี่นะค่ะ เพื่อเป็นธรรมทานนะค่ะ ขออนุญาติไว้ทุกตอนเลยนะค่ะคุณกุ้งหนามแดง ..ที่เคาระ