อนงค์นางนวลไหนจะได้เท่า เสมอเจ้าร่วมเรียงเคียงคู่ข้า แม้เอนกายทอดลงตรงกายา หาใครมาเทียบเท่าเจ้าไม่มี อรชรงามพิสุจน์ดุจอัปสร ชะแอ้นอ้อนยามเยื้องย่างงามสมศรี สุรเสียงเพียงรำเพยเอ่ยวจี ดวงฤดีรำพึงเก้อเพ้อถึงนาง ณ ราตรีค่ำหนึ่งคนึงอยู่ เคียงพธูดูดารานภากว้าง ตะวัดแขนเชื้อชวนเนื้อนวลปราง มาอยู่ข้างเบียดชิดติดตัวช้า ดั่งน้ำหยดลงหินยังสิ้นแกร่ง ข้าไร้แรงเข็งขืนฝืนปรารถนา เจ้าคงเป็นเช่นสายน้ำไหลในธารา เซาะศิลาให้ละล้าเป็นอาจิณ เจ้าคงเปรยเปรียบไว้อย่างสายชล ไหลเวียนวนเข้าซอกตามตรอกหิน บางก็เอื่อยเฉื่อยชะระรวยริน คอยถวิลถั่งโถมเข้าโรมรัน เลี้ยวลัดเลาะโยกซ้ายย้ายไปขวา ไหลเรื่อยมาผ่านช่อชุมปทุมถัน ผ่าดงไม้ท่วมพฤกษานานาพรรณ กระแทกพลันถาท้นเอ่อล้นมา ครั้นมาถึงที่ต่ำกระหน่ำไหล ลื่นลงไปเรื่ยวแรงไม่อ่อนล้า ยิ่งยาวไกลถาโถมโหมตามมา ถึงหน้าผาตกแตกแยกละออง แต่ราตรีคืนนี้ไม่มีเจ้า มองเดือนดาวคราที่ไม่มีน้อง ช่างซบเซาเหงาหงอยค่อยประครอง มีเจ้าของไปเป็นอื่นคืนนี้ตรม คงลืมฝันวันวานหวานหวามไหว ยอดดวงใจแช่มชื่นข้าขื่นขม คงไปอยู่กับเขาคงเฝ้าชม น้ำตาพรมระรินรอบขอบดวงตา
14 กันยายน 2547 17:51 น. - comment id 331392
------------------------------------------------- เมื่อเดือนแรมไม่แจ่มมาแซมฟ้า ท้องนภาไร้ประกายมาพรายคู่ ดาวดวงน้อยไม่ร้อยเรียงเคียงโฉมตรู พี่ไม่อยู่น้องจึงช้ำเซาะซ้ำใจ ------------------------------------------------- แต่งได้ดีจังค่ะ...ไพเราะมาก ๆ เลย ขอให้แต่งอีกนะคะ*****
14 กันยายน 2547 19:20 น. - comment id 331457
อึ้งๆ เพราะมากๆเลยครับ
14 กันยายน 2547 21:05 น. - comment id 331536
งานงามค่ะ
15 กันยายน 2547 06:50 น. - comment id 331711
สวัดีครับ............. ผมเข้ามาอ่านกลอนเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่แสนดี หาก ผลิใบ ยังอยู่ก็จะคอยให้ความอบอุ่นเช่นนี้ตลอดไป กำลังใจจากข้างในส่วนลึก ไม่ต้องฝึกต้องหามาให้เห็น จะแดดร้อนตอนสายจนบ่ายเย็น จะคอยเป็นกำลังใจให้ดนดี
15 กันยายน 2547 12:35 น. - comment id 331854
แม้จะไม่ชอบการเขียนงานแนวนี้ แต่อยากบอกว่า..... งานชิ้นนี้เป็นงานที่สวยงามด้านภาษาที่ดีมาก ๆ ชิ้นหนึ่ง..... ................ ยอมรับว่า อ่านไป ผิดตาไปค่ะ (แต่ข้างเดียวนะ)
15 กันยายน 2547 13:52 น. - comment id 331883
เขียนดีนะคุณ แต่ทำไมไม่ขยันเขียนเลย.. ผมยังนึกมองหาคุณบ่อยๆ งานมากหรือครับ.. ก็ขอให้มีความสุข สวัสดีนะครับ...
5 เมษายน 2548 02:01 น. - comment id 414399
คืนอ้างว้างเดียวดายกายไร้คู่ ใจหดหู่ห่อนหายคลับคล้ายขม คืนน้ำค้างพร่างพรายพริ้วพายพรม ทุกข์ระทมครวญคะนึงถึงนวลนาง... แอบมาอ่านกลอนในตอนดึก งานงามมากค่ะ