เส้นทางน้ำสุดสิ้นแผ่นดินหาย เทพสรรค์สร้างหรือไรให้ฉงน ดูเวิ้งว้างสุดสายตาได้มายล น้ำตกล้นเรืองอร่ามงามตระการ ซ่านกระเซ็นเป็นฟองละอองปลิว แลลิบลิ่วระลอกกระฉอกฉาน เสียงกึกก้องอลอึงถึงบาดาล ผืนฉากม่านสายน้ำงามล้ำล้น ม่วงเหลืองแดงเขียวครามน้ำเงินฟ้า เส้นสายรุ้งงามตาเหมือนคราฝน สุดจะเปรียบเทียบได้ในสกล น้ำหมุนวนไหลหลั่งประดังมา น้ำตกงามเพริศพริ้งแสนยิ่งใหญ่ ขนานนามเรียกไนแองการ่า งามสองฝั่งสหรัฐแคนาดา มาเยี่ยมชมติดตาตรึงหัวใจ ....
11 กันยายน 2547 12:07 น. - comment id 328964
จากนิวยอร์คเราจะไปเที่ยวเมือง บัฟฟาโล่ น้ำตกไนแองการ่า เลยเข้าไปแคนนาดา ขับรถตามเส้นทาง ซุปเปอร์ไฮเวย์ ตรงจากนิวยอร์ถึงบัฟฟาโล่เลย เหมือนทางมอเตอรเวย์บ้านเรา เข้าแล้วไม่ต้องอออกไปไหนตลอดระยะทาง ช่วง 50 ถึง 60 ไมลล์ จะมีจุดพัก มีร้านอาหาร ปั้มน้ำมัน ร้านค้า พักไปเรื่อย ๆ ประมาณสิบกว่าชั่วโมงที่ขับรถถึงเมืองบัฟฟาโล่ ตอนห้าทุ่มพอดี เข้าที่พักเป็นบ้านเช่าของเพื่อน เขาเป็น ของไกด์ของเรา กำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัย นิวยอร์ค State University of Newyork At Buffalo ไกด์กิติมศักดิ์ของเรามาจากำวอชิงตันด้วยกัน ก็จบปริญญาโทด้าน สถาปัตย์กรรม จากที่นี่ บ้านอยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัย ส่วนใต้ เรียก เซ๊าท์แคมปัด ส่วนเหลือ นอร์ธแคมปัด อยู่ห่างไปประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งเป็นหอพักการเดินทางมีรถโดยสารของมหาวิทยาลัยวิ่ง เราพักผ่อนกันสบายดีแล้วตอนใกล้เที่ยงก็ต้องไปเที่ยวชมเมืองบัฟฟาโล่กันหน่อย เป็นเมืองไม่กว้างใหญ่มากนักแต่เป็นเมืองเก่ามีความเจริญมาตั้งแต่การล่าควายป่ายังรุ่งเรือง ตอนนี้ควายป่าของอเมริกาเหนือมีให้ดูตามสวนสัตว์ถูกล่าจนเกือบสูญพันธุ์ สิ่งก่อสร้างที่งดงามตามแบบสมัยเก่ายังมีอยู่มาก เขตแดนของ อินเดียนแดงที่ทางการเขา สงวนไว้มีมากที่เมืองนี้ อภิสิธิ์ของชนอินเดียน เขาไม่ต้องเสียภาษี ไม่ว่าจะมีรายได้จากการประกอบะรกิจใด ๆ ร้านค้าของคนอินเดียน ส่วนใหญ่ก็ขายของคล้าย ๆ คนขาว เขาก็ ซื้อเอาจากคนขาวไปขายอีกต่อหนึ่งแต่ไม่ต้องเสียภาษี สินค้าที่ผลิตเองมีบ้างไม่มากโดยมากผลิตด้วยมือผู้หญิง ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบดื่มเหล้า คงจะเป้นนิสัยที่ถูกครอบงำมาจากคนขาวสมัย บุกเบิกยึดครองดินแดน มอมเมาเอาไว้แต่เก่าก่อน อาหารเย็นเราตรงไปกิน บัฟฟาโล่วิง ขนานแท้ดั้งเดิม ต้องเข้าคิวนานเป็นชั่วโมงกว่าจะได้เข้าไปกิน ก็ ปีกไก่เหล้าแดงบ้านเรานั่นแหละ แต่เขาอร่อยกว่า ใช้พริกแมคสิกันเผ็ดมาก กินแล้วปากร้อนเลย เย็นนั้นเราไปชมวิวน้ำตกไนแองการ่าฝั่ง สหรัฐอเมริกาดูก่อน เพราะอยู่ไม่ไกลนักขับรถพักเดียวก็ถึง ได้กินเสียงแต่ไกลมีสวน สาธารณะติดแม่น้ำก่อนถึงน้ำตกเข้าไปดูสายน้ำกว้างใหญ่สุดลูกตาไหลหลั่งพุ่งตรงไปหาน้ำตก บริเวณที่จัดให้ชมน้ำตกด้านนี้ เขาเรียกว่า Horseshoe Falls เวิ้งโค้งของบริเวณน้ำตกเหมือนกับรูปเกือกม้าจริง ๆ กว้างใหญ่มาก เห็นฝั่งแคนาดาอยู่ลิบ ๆ เมืองฝั่งนั้นเขาเจริญคนไปเที่ยวมากเพราะเห็นน้ำตกได้ใกล้ชิดสวยงามกว่าฝั่งนี้ มีหอคอยคล้าย ๆ หอคอย บรรหาญ ศิลปอาชา ที่สุพรรณบุรีแต่ใหญ่กว่าอยู่ด้วย กะว่ารุ่งขึ้นจะข้ามไปเที่ยวด้านแคนาดา เช้าขึ้นเราพากันเดินข้ามถนนหน้าบ้านพักไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน อยู่ตรงหน้ามหาวิทยาลัยนั่นแหละเป็นสถานีต้นทางเพื่อเข้าไปเที่ยวในเมืองแบบเดินเที่ยวบ้างเมื่อวานไปแบบบ นั่งรถเที่ยว รถใต้ดิน คนที่ใช้ส่วนใหญ่ ผิวดำ เมืองบัฟฟาโล่เริ่มมีคนดำมากขึ้นทุกที คนขาวย้ายหนีไปไหนหมดก็ไม่ทราย เขาบอกกันว่าน้อยลง ๆ เนื่องจากเศรษกิจเมืองนี้ตกต่ำมานาน และก็เงียบเหงาจริง ๆ ด้วย สรรพสินค้าคนไม่ค่อยมีเดินร้านอาหารก็กร่อย สายหน่อยเราก็นั่งรถใต้ดินกลับบ้านขึ้นรถพากันไปแคนาดาทางเดิมกับเมื่อวาน เรามีวีซ่าเข้าแคนาดาทำมาจาก กรุงเทพฯแล้วไม่มีปัญหาใด ๆ ผ่านด่านตรวจสดวกมากคนที่ทำงานอยู่ที่อเมริกาเขาติดต่อตรวจผ่านด้วยอะไรเราก็ไม่เข้าใจไม่ได้ถามเหมือนกัน ผ่านเมืองเล็ก ๆเดี๋ยวเดียวก็ถึงบริเวณที่จะดูน้ำตก มีการชักรูป หน้า Table Rock House กับป้าย Journey Behind The Falls แล้วจึงผ่านประตูเข้าไปดูน้ำตก ยิ่งใหญ่จริง ๆผู้คนมากมายแน่นขนัด พยายามเข้าใกล้ชิดมากที่สุดบางคนปีนราวเหกล็กที่เขาขึ้นไปยืนถ่ายรูปน่าเสียวใส้ ตกลงไปคงไม่เหลือ ได้เข้าใกล้จริง ๆ ละอองน้ำกระเว็นปลิวเปียกแทบจะเอื้อมมือไปถึงสายน้ำที่ไหลหลั่งสนั่นหวั่นไหวได้เลย ความสูงจนถึงผิวน้ำเบื้องล่างสักสองสามร้อยเมตรได้มั้ง มองเห็นคนข้างล่างตัวไม่ใหญ่เลย คนที่ลงไปข้างล่าง หมายถึงพวกที่เต็มใจที่จะลงเรือไปเสี่ยงอันตรายในแอ่งน้ำ ต้องเสียสตางค์ด้วย เราไม่มีใครยอมกล้าเสียตังลงไปก็เลยชมอยู่ข้างบนซื้อของที่ระลึกบ้างนั่งดูรุ้ง สวย ๆบ้างดูสาวสวย ๆ บ้างไปตามเรื่อง เสร็จแล้วเข้าอุโมงค์ข้างใต้ เดินลอดไปถึงใต้น้ำตก น่าตื่นใจเมื่อแผ่นสายน้ำตกวิ่งลิ่วลงผ่านหน้าตรงปากอุโมง๕น้ำปลิวฟุ้งไปหมดเปียกกันทุกคน พักเดียวเราก็พร้อมขึ้นรถมุ่งไปเมืองโตรอนโตใช้เวลาสักสามชั่วโมงได้มั้งเมืองเขาเจริญรุ่งเรืองเหมือนกัน คนเวียตนามกับคนจีน มายึดครองตลาดการค้าเกือบหมดแล้ว
11 กันยายน 2547 12:09 น. - comment id 328966
เรามีเวลาน้อยมุ่งไปที่ CN TOWER หอคอยบรรหาญ หรือ หอคอยที่ใกล้น้ำตกไนแองการ่าชิดซ้ายไปเลย ที่นี่สูงเท่าไรก็ไม่รู้ ขึ้นไปแล้วมองลงมาเห็นรถยนต์คันนิดเดียว เขามีพื้น กระจกให้เดินบางคนไม่กล้าเหยียบเดิน มันเสียวขึ้นไปถึงหัวขมอง ลองเดินผ่านเหมือนกันเสียววูบ ๆ ไปทั้งตัว ไปเจอคณะทัวร์คนไทย เจี๊ยวจ๊าวกันใหญ่ เย็นแล้วเรารีบกลับเจอรถติดในเมือง โตรอนโตเข้าอีก กลุ้มกันแทบแย่กว่าจะพ้นออกมาก็เกือบมืด กลับมาถึงบ้านพักที่บัฟฟาโล่ก็หลายทุ่ม เข้าไปแล้ว พอแค่นี้ก่อนนะ มีโอกาศจะเล่าอะไรให้ฟังอีก
11 กันยายน 2547 13:07 น. - comment id 329003
ว๊าวววว... อิจฉาคนจังเลย... .....ได้ไปเที่ยว....ที่สวยๆๆด้วย... เก็บภาพงามๆๆมาฝากน้องๆด้วยนะจ่ะ +++++++++++++++++++++++ ^____^
11 กันยายน 2547 13:17 น. - comment id 329012
อ่านแล้วเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยนะคะ น่าอิจฉาจัง
11 กันยายน 2547 13:50 น. - comment id 329035
สวยงามมาก...ครับตอนเดินลอด ใต้น้ำตกที่สูงที่สุดในโลก ๚ะ๛ size>
11 กันยายน 2547 14:30 น. - comment id 329078
ตามมาเที่ยวต่อ...ขอให้เดินทางปลอดภัยและมีความสุข...และสามารถลงภาพให้ชมได้สักทีนะคะ ..เพี้ยง!
11 กันยายน 2547 14:41 น. - comment id 329091
ดาวฤกษ์สุกใส หายไปจากฟากฟ้านานมากค่ะ จนพุดเหว่ว้าเหลียวมองหาไม่มี กำลังจะตามหา พอดีราวใจตรงกันกลับมาพอดีค่ะ เราทุกดวงใจในร่มรักเรือนไทยเรือนทอง ฝากหวานหอมแห่งห้วงหัวใจ ส่งใจผ่านฟากฟ้าไกล มหาสมุทรข้ามขอบฟ้ากว้าง ตามไปกับฤกษ์แล้วค่ะ เราดีใจที่ฤกษ์ได้มีโอกาสพาดวงใจดวงใจที่สุกใสแสนงาม ไปสัมผัสร้อยรัดประสบการณ์ในโลกกว้างค่ะ บอกหน่อยนะ จะกลับมาเมืองไทยเมื่อไร จะไปรับค่ะ คิดถึงมากกว่า
11 กันยายน 2547 15:50 น. - comment id 329149
แวะมาทักทายกับความตื่นตาตื่นใจที่ได้พบเห็น แองการ่าน้ำตกที่สาดกระเซ็นสวยงาม พร้อมกับเรื่องราวที่ได้พบผ่านพานพบ เที่ยวให้มีความสุขนะครับ
11 กันยายน 2547 16:02 น. - comment id 329159
จะมีวาสนาเห็นของจริงกะเขามั๊ยน๊อ .. เงินในกระปุกมีอยู่กระจิ๊ดเดียว .. ว่าจะหาเรื่องโป้งคุณฤกษ์บ้าง นึกก่อน อ้อ รู้แล้ว .. ไปไม่ชวน ..นี่เอง
11 กันยายน 2547 16:36 น. - comment id 329195
กลับมาเล่าเรื่องต่างเมืองให้ฟังอีกครั้ง ..หลังจากหายไปนาน .. คุณฤกษ์สบายดีนะคะ .. อืมมม .. ยังไงก็อย่าลืมน้ำตกบ้านเราซะล่ะ .. สวย ๆ น่าตรึงใจก็มีไม่น้อย อาจไม่ใหญ่โต .. ขึ้นชื่อเท่าของเค้า .. แต่ความงดงามที่ซ่อนเร้นไกลหูไกลตาผู้คน .. หากได้ไปยล .. คงจับใจไม่รู้ลืมค่ะ .. เพราะหาดูได้ไม่ง่าย .. ^____^ ส่วนเรื่องชอบกินเหล้า .. ชายไทยเราใช่ย่อยเสียที่ไหน .. หรือคุณฤกษ์จะเถียงคะ .. อิอิ แล้วมาเล่าอีกนะคะ .. ว่าแต่ .. เมื่อไหร่จะกลับเมืองไทยเหรอคะ .. ..........................
11 กันยายน 2547 16:58 น. - comment id 329207
อยากไปบ้างจัง แต่คงยังไม่มีโอกาส ทำไงดี ;)
11 กันยายน 2547 18:24 น. - comment id 329250
ไม่ชวนไปด้วยแล้ว....ยังมาบรรยายให้เขาอิจฉาอีก... ไม่เป็นไรค่ะ...เด๋วรอของฝากอยู่เมืองไทยก้อได้อ่ะ...
11 กันยายน 2547 18:25 น. - comment id 329251
อ้อ...ถ่ายรูปมาให้เพื่อนๆๆๆ ในโพเอมได้ยลด้วยนะคะ..คุณฤกษ์จ๋า.... หวานซะขนาดนี้...เพื่อรูปไนแองการ่านะเนี่ย...
11 กันยายน 2547 19:15 น. - comment id 329260
เห็นภาพจากที่บรรยายเลยค่ะ .............................................. ลี่...ผู้มาเยือน .
11 กันยายน 2547 21:03 น. - comment id 329280
ประเทศไทยมีสภาพภูมิศาสตร์ที่ดีเยี่ยม ไม่มีภัยธรรมชาติที่รุนแรง (อาวาสเป็นที่สบาย) อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ (อาหารเป็นที่สบาย) แต่ที่ยังขาดอยู่คือ คนของเรายังขาด วินัย ยังมีความมานะพากเพียรไม่เพียงพอ (บุคคลไม่เป็นที่สบาย) แม้เราชาวไทยจะมี พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ทว่าเรายังเห็น แก่ความสะดวกสบายส่วนตัวอยู่มาก นำพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธ เจ้ามาประพฤติปฏิบัติเพียงบางส่วน เช่น มีน้ำใจ มีเมตตา แต่ขาดความพากเพียรและ วินัย (ธรรมะเป็นที่สบายแต่บุคคลไม่เป็นที่สบาย) ทำให้แม้ประเทศไทยจะน่าอยู่กว่า หลายๆ ประเทศ ผู้คนมีความเอื้อเฟื้อต่อกัน แต่ความเจริญของเรายังล้าหลังประเทศ อื่นอยู่ ดังนั้น ถ้าพวกเราร่วมใจกันพัฒนาตนเองให้เป็นคนดี มีระเบียบวินัย มีความขยัน ขันแข็ง ใฝ่หาความก้าวหน้าอยู่เสมอ โดยนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาประพฤติ ปฏิบัติ ก็เป็นที่หวังได้ว่า ชาติไทยของเราจะมีความรุ่งเรืองก้าวหน้า ทัดเทียมอารย ประเทศทั้งหลายได้ในอนาคตอันใกล้นี้ ต้นโพธิ์ต้นไทร หากปลูกไว้ในกระถาง ถึงจะไม่ตาย ก็ต้องกลายเป็นไม้แคระแกร็น แต่ถ้านำไปปลูกในที่ดินดี มีบริเวณกว้างขวาง น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ ก็โตวันโตคืน กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ แผ่กิ่งก้านสาขาเต็มที่ เช่นกัน คนเราหากตกอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เลว ถึงจะมีความรู้ความสามารถ ก็ยากที่จะเอาดีได้ แต่ถ้าอยู่ในถิ่นที่เหมาะสมแล้ว ก็สามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าได้โดยง่าย +-*-+-*-+ +-*-+-*-+เพื่อคุณพ่อผู้ล่วงลับ+-*-+-*-+ +-*-+-*-+
12 กันยายน 2547 20:12 น. - comment id 329829
งามเลิศล้นน้ำหลากมากมายนัก อยากจะเห็นให้ประจักษ์ตาคู่นี้ หากคุณว่างช่วยหน่อยนะคนดี ส่งมาทางเมล์นี้จะขอบคุณ *-*สงสัยรูปจะมีขนาดไฟล์ใหญ่เกินไป ก็ลองใช้โปรแกรม Paint ย่อรูปให้เล็ก แล้วลอง save ใหม่นะค่ะ อาจจะสำเร็จ แต่ถ้าคุณทำไม่สำเร็จหละก็ ด้วยความที่ผู้หญิงไร้เงาอยากเห็น อิอิ ขอทางเมล์ก็ได้ toontoone@thaimail.com ขอบคุรล่วงหน้าในความกรุณาอันยิ่งใหญ่คะ อิอิ อ้อ อย่างลืมดูแลสุขภาพตัวเองด้วยหละ ห่วงใยเสมอนะคะ*-*
13 กันยายน 2547 13:02 น. - comment id 330259
นึกว่าคุณฤกษ์กลับมาแล้วซะอีก... อุตส่าห์ดีใจ อิอิ แต่มะเป็นไร เที่ยวต่อให้สนุกนะคะ ^_^
13 กันยายน 2547 13:56 น. - comment id 330281
โหย ไปเที่ยว. . .ไม่เห็นรู้เรื่องเลย (แม่มดไปหลบฝนอยู่แถวไหนก็ไม่รุ) งั้นๆจะปีนรุ้งตามไปนะ. . .รอด้วย =^__________^=
14 กันยายน 2547 20:23 น. - comment id 331496
กะว่าจะไม่มาเยี่ยมแล้วนา...แต่กลัวจะโดนต่อว่า...เอาเป็นว่า...มาเยี่ยมเพราะ.......ก็ละกาน.....
14 กันยายน 2547 21:36 น. - comment id 331560
นี่ตัวเอง นำเที่ยวได้ดีนะ ขอเรื่องมาลงหนังสือ เราเล่มสองหน่อยสิ เมล์มาคุยกันหน่อยนะ
17 กันยายน 2547 16:06 น. - comment id 333289
อ่านแล้วทำให้นึกถึงเพื่อนตอนไปที่นั้นขึ้นมาเหมือนกัน สดชื๊น สดชื่น
19 กันยายน 2547 16:35 น. - comment id 334348
คิดถึงเสมอมาเป็นกำลังใจจ้า
29 ตุลาคม 2547 14:16 น. - comment id 359553
ขอบคุณทุกท่านที่มาเยบี่ยมเยือนครับ ทิกิ อยากให้เขียนเรื่องนำเที่ยว ผมคงไม่มีความสามารถหรอกครับ อายเขา แค่เขียนเล่าแค่นี้ก้เขินจะแย่แล้ว คนอื่นเขาไปรู้ไปเห็นมามากมายกว่าเยอะแยะ เราแค่หางอึ่งเอง อิอิ