เส้น ..ชีวิต เบื้องปลาย ที่รับคือวิบาก ที่ทำอยู่คือกรรม** อายุย่างเข้าเกณฑ์หมดปลดเกษียณ งานเคยเพียรทางระบอบตอบปัญหา ให้ยืดถือเป็นคนดีมีราคา สำนึกว่าตัวตนคนทำงาน อย่าปล่อยว่างกลางมือถืองานไว้ ทำทุกอย่างที่ทำได้เป็นแก่นสาร ทำเล็กน้อยอดิเรกเสกทำการ เพียงเผาผลาญเวลาอยู่หน้าตน สืบอายุสืบชะตาบ่ารอยซ้ำ มองกระทำ กรรมผลิต จิตฉงน ที่รับอยู่คือวิบาก..มากด้วยกล กรรมทำอยู่เฉพาะตน..บน..ชั่ว..ดี ฝีกตามคำ *พ่อเสือ* ท่านสั่งสอน รับทุกตอน*คือวิบาก*ไม่พรากหนี กำลังทำคือกรรม..ทำทันที ชั่วหรือนี่ ดีหรือนั่น...ทันจับความ **ที่รับคือวิบาก ที่ทำอยู่คือกรรม** นี้เป็นคำสอนของ หลวงพ่อเสือ พระวิรุณหผล วัดไผ่สามกอ ฉะเชิงเทรา -ปราจีณบุรี ซึ่งก็ได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือ มากมายหลายเล่ม สำหรับการปฏิบัติสายรูปนาม อภิธรรมนี้ ท่าน ก็สามารถไปปฏิบัติได้ที่อภิธรรมมูลนิธิ ถนน พุทธมณฑลสาย ๔ อันมีการอบรมธรรมะปฏิบัติ รวมไปถึงที่สำนักปฏิบัติอ้อมน้อยด้วย ทิกิ_tiki จารเมื่อเพลาบ่าย ๑:๓๐ นาฬิกา วันแรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๙ สยาม ราชอาณาจักรไทย พระศุกร์ ๑๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ September 10th,2004 สยาม ราชอาณาจักรไทย Siam, The Kingdom of Thailand. สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติ พุทธศักราช ๒๕๓๗ Copy rights All rights reserved. ทิกิ_tiki เส้น ..ชีวิต เบื้องปลาย ที่รับคือวิบาก ที่ทำอยู่คือกรรม**
10 กันยายน 2547 14:19 น. - comment id 328365
สืบถ่ายปรัชญา ออกมาเผยแผ่ ได้ดี มีสาระ.......ควรจดจำครับ ๚ะ๛ size>
10 กันยายน 2547 14:20 น. - comment id 328366
อ่านแล้วรู้สึกกระตือรือล้นครับ คุณอาแงอีกครับผมจะรออ่าน
10 กันยายน 2547 14:25 น. - comment id 328370
-ขอบคุณคุณ โรเบิร์ท ทิงน็องนอยนะคะ
10 กันยายน 2547 14:56 น. - comment id 328388
.......กะแอมก่อนเกษียณได้ไหมหนอ.......
10 กันยายน 2547 14:59 น. - comment id 328390
.......กะแอมก่อนเกษียณได้ไหมหนอ....... : 23 - kOrOkOsO : 334723 - 10 ก.ย. 47 - 14:56 มาได้แล้วเหรอ เห็นอกหักอยู่หยกๆ อิอิ
10 กันยายน 2547 15:15 น. - comment id 328399
งามครับท่านว่าไว้หากให้ความรู้ด้านธรรมจะได้รับทั้งผู้รับและผู้ให้สะสมไว้เป็นปัญญาในภพหน้าครับ แก้วประเสริฐ.
10 กันยายน 2547 15:33 น. - comment id 328415
สุดยอด กวรค่ะ อ่านแล้วเห็ สัจธรร เลยค่ะ
10 กันยายน 2547 15:40 น. - comment id 328424
ตอบคุณแก้วประเสริฐ ขอบคุณในความเอื้ออารีเสมอมา
10 กันยายน 2547 15:42 น. - comment id 328426
ตอบคุณ ดาหลา ฿ ปะการัง ถ่ายทอดการผลาญเวลาให้มีค่าแต่ละวัน ของเส้นทางผู้ที่เริ่มชราทุกท่านให้สรรค์หา ทางอันเป็นสุข ดับทุกข์ ดับเส้นทางอบายค่ะ
10 กันยายน 2547 15:50 น. - comment id 328437
หลายครั้งที่นั่งมองคุณแม่...แล้วเศร้าที่ ไม่สามารถถ่ายทอดความคิดด้านธรรมอัน เป็นเส้นทางปฎิบัตินี้ให้คุณแม่ท่านยึดมั่น ไว้ได้....... ได้แต่รำพึงถึงโอกาสที่เคยมีหลาย ครั้ง ตั้งใจว่าจะพาคุณแม่ไปเข้ากลุ่มผู้ปฏิบัติ ธรรม จำได้ว่าท่านเคยไปฝึกปฎิบัติกับพระ อาจารย์ขาวแห่งวัดชลประทานมาระยะหนึ่ง เมื่อข้าพเจ้ายังเด็ก และ ครั้งหนึ่ง ท่านก็ตามเพื่อนคนหนึ่ง ขึ้นไปสวดมนต์ในวัดแห่งหนึ่งทางอีสานซึ่งมีการ สวดมนต์ปลุกเสกพระฉลองสิ่งก่อสร้างในวัดนั้น ซึ่งสามารถสื่อวาระที่ท่าน แผ่เมตตาได้ คือได้ เห็นท่านมาปรากฎกายในฝัน โดยไม่รู้ว่าท่าน ได้เดินทางไปต่างจังหวัดในขณะนั้นเลย จึงเป็นความลำบากใจที่จะเขียนเกี่ยว กับธรรมะเป็นอย่างยิ่ง แต่สำหรับผู้ที่สู่เส้นทาง อายุสูงมากแล้ว อันเป็นสัญญานบอกถึงวาระอีก ไม่นานที่จะต้องละกายสังขารไปสู่ภพชาติใหม่ การระลึกหนทางปฏิบัติที่ถูกที่ควรนั้นเป็นเรื่อง ควรกำหนดไว้เสียแต่เมื่อยังมีสติสัมปชัญญะดี อยู่ เมื่อสังขารยังไม่ร่วงชรามากเกินไป
10 กันยายน 2547 16:36 น. - comment id 328486
ได้ความรู้ดีจังครับ.. (เมื่อก่อนไม่เคยรู้หรอกว่า วิบาก ต่างกับ กรรม เอ้อ พูดแล้วก็อาย..) :)
10 กันยายน 2547 16:48 น. - comment id 328501
เป็นธรรมดาค่ะ พหูสูตรก็รู้มาก รู้ไปหมด แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะปกิบัติได้ดีเท่านักปฏิบัติ ซึ่งท่านอาจไม่อ่านอะไรมาก รู้แต่ กว้างศอก ยาววานี้ กายไปไหน จิตไปตาม ด้วยดูรูป นาม อย่างที่คุณดอกแก้วเพียรบอกมานานับประการ แต่หาคนเข้าใจความยากยิ่ง ต้องให้ตามขึ้นไปอ่านที่อภิธรรมออนไลน์นั้น...การรู้มากก็ไม่ได้ แปลว่าเก่งอะไรนะคะ แค่รู้กว่าใครอีกคน อีก นิดหนึ่งเท่านั้นเอง เพียงแต่ ที่นำมาเขียน กลอนไว้เพื่อให้ผู้อ่านได้พอเข้าใจแนวทาง ปฎิบัติที่คุณดอกแก้วมีใจกรุณามาชี้ชัดหนทาง ให้หลายบทหลายตอน.... ก็ขออนุโมทนาบุญให้คุณดอกแก้วไป นะที่นี่ ถ้าเธอไม่กระทุ้งบ่อยๆ ข้าพเจ้าก็ไม่ อยากจะเขียนหรอกค่ะ ก็ขนาดคุณแม่ตนเอง ท่านยังไม่เคยได้ยิน ได้ฟัง อะไรจากเราเป็นชิ้นเป็นอันเลย เฮ้อ เศร้าค่ะ
10 กันยายน 2547 17:03 น. - comment id 328513
รักงานงามบทกวีธรรมจ๊ะ คิดถึงนะ
10 กันยายน 2547 17:19 น. - comment id 328546
ขอบคุณมากค่ะพุด
10 กันยายน 2547 17:45 น. - comment id 328571
สวัสดีค่ะคุณทิกิ.. มาอ่ายงานงามให้ปรัชญาในการดำรงชีวิตนะคะ ขอบคุณค่ะ
10 กันยายน 2547 18:25 น. - comment id 328596
พระวิรุณหผล วัดไผ่สามกอ นั้น ท่านมรณะภาพไปแต่ พุทธศักราช ๒๕๐๐ และยังมีข้ออบรมธรรมฝากไว้ในหนังสือและบทความ ในสถานที่ต่างๆอยู่ให้เห็นได้ สำหรับคุณดอกแก้วเธอได้เสนองานออกมา ทั้งหน้าเว็บไซท์ในบทกลอน บทความ และ ได้ตีพิมพ์ เป็นหนังสือไว้หลายเล่ม เป็นสิ่งที่ล้ำเลิศใน ทางการตัด เส้นทางอบาย ในขณะจิตอันรับ ทุกข์ของมนุษย์ มิให้คร่ำครวญไปทาง พิลาปพิไลรำพันลง เมื่อมีสติยั้งคิดได้ถึงเหตุ*-ผล ของกรรม คือสิ่งที่ตนกระทำไว้ในอดีต ตนต้องรับผล ของตนเอง ก็ทำตัวเสมือนนักโทษยินดีอยู่ ในเรือนจำของตน รับผลแห่งกรรมไป แต่ในปัจจุบันขณะ ก็พิจารณาตนว่า อยู่ บนการพิจารณา รูป-นามอันเป็น ปัจจุบันธรรม คือทางสายกลาง อยู่หรือไม่ ไม่ตกไปข้างหลัง คืออดีตอันแส่ส่าย ไม่ ตกไปข้างหน้าคือความเพ้อเจ้อไร้สาระคือ อนาคตที่ยังมาไม่ถึง ก็ดับนามฟุ้งได้อย่างฉับพลันทันด่วน คุณดอกแก้วจึงมาลงบทกลอนเดือนสติ ไว้ให้เห็นในบทกลอน ชุด รูป-นาม คือการ เจริญสติ ให้พ้น สัญญาวิปลาส ต่างๆนั้น เชิญเข้าไปพบ งานคุณดอกแก้วได้ที่ http://board.thaimisc.com/dokgaew13 นะคะ มาอ่านคำแนะนำของคุณทิกิ_tiki ได้ที่นี่ แต่ไม่ได้ส่งเมล์ให้ใครนะคะ : 4895 - tiki 334709 - 10 ก.ย. 47 - 14:32
10 กันยายน 2547 18:29 น. - comment id 328598
สวัสดีค่ะพี่ทิกิ ตอนนี้พี่ดอกแก้วไปโรงพยาบาล ก็เลยแอบมาเยี่ยมพี่ทิกิค่ะ .... ขอบพระคุณมากนะคะที่นำงานดีๆไปลงไว้ที่บ้านพี่ดอกแก้วเสมอๆ... และก็เป็นบุคคลตัวอย่างในการสร้างงานเพื่อพระพุทธศาสนาด้วยค่ะ ... สิ้นปีนี้ (ถ้ามีงบประมาณ...แหะ.แหะ.)จะมอบรางวัลน้องกิ๊ฟอวอร์ด...ประเภทบุคคลดีเด่นด้านการจารจรดบทกวีธรรมเพื่อสาธารณกุศลให้พี่ทิกินะคะ ..สาธุๆๆ ค่ะ
10 กันยายน 2547 18:36 น. - comment id 328601
โอ๊ย น้องกิฟท์เจ้าขา เผอิญงานนี้พี่รำพึง ถึงว่าความใจเย็นของเราไม่บอกแม่สักที ไม่น้อมนำแม่ไปปฏิบัติสักที เมื่อแม่เป็นเช่น นี้ ใจผู้รับทุกข์ที่สุด คือลูกนี้เองค่ะ และ ก็ ต่อเนื่อง ด้วยความระลึกถึงข้อธรรม ที่คุณพี่ดอกแก้วเธอกระทุ้งเสมอๆ แต่หาคนเข้าใจซึ้งจริงก็น้อย เช่นพูดถึงการปฎิบัติไปใน บางจริต ก็เลย อดนำมาเขียนเสียมิได้ค่ะ ขอน้อมกุศลจิตให้คุณดอกแก้ว เธอหาย ป่วยอย่างรวดเร็วนะคะ เพิ่งมาเขียนตอบกัน เมื่อวานแท้ๆ หนอ ... น้องกิ๊ฟ อย่ายกพี่ไปเป็นตัวอย่างนั้นเลยค่ะ พี่ไม่เอาไหนเลยจริงๆ ค่ะ
10 กันยายน 2547 18:54 น. - comment id 328610
สวัสดีค่ะคุณทิกิ.. มาอ่ายงานงามให้ปรัชญาในการดำรงชีวิตนะคะ ขอบคุณค่ะ : 8413 - กอกก : 334919 - 10 ก.ย. 47 - 17:45 คุณกอกก ขอบพระคุณค่ะ มัวแต่นำบทแก้ไขมาเปลี่ยนลงไม่ทันดูชื่อคุณนะคะ คนเรานี้มันไม่มีอะไรแน่นอน สังขาร เราก็ควบคุมไม่ได้ แต่ใจเรานี้ เราควบคุมไม่ ให้มันฟุ้งไปฟุ้งมาด้วย วิธีหนามยอกก็เอาหนามบ่ง มัน อยากฟุ้งไปอนาคต ไปอดีต ไม่ยอมอยู่ กับปัจจุบันนัก ก็เรียกความคิดฟุ้งซร่านกระ เจิดกระเจิงนันว่ามัน เป็น นามฟุ้ง เสียให้ชัดเจน สติ มันก็เกิด ละอายได้เองว่า เอ๊ มันยังไง ถึงต้องไปวุ่นวายกับอดีต แต่บางที อดีตมันก็ จำเป็นอย่างในการเขียนลำดับเหตุการณ์โน่นนี่ หากไม่ตามอดีตมาเขียนมันก็ ไม่สามารถลำดับ เหตุการณ์อันเป็นมาได้ แต่ไม่จำเป็นก็ไม่ควรไปอยู่กับอดีต หรือ ฟุ้งไปอนาคตให้มากนักให้อยู่กับปัจจุบัน ธรรม โดยอิริยาบทสี่อันมีการยืนเดินนั่งนอน หรือ นั่งหน้าจอ นี้ก็กำหนดได้ว่า กำลังอ่านดี หรือ อ่านไม่ดี กำลัง เคาะเขียนดี หรือ เคาะเขียนไม่ดี เป็นต้น บางทีไปอ่านบทรักชาวบ้านเขามากก็ แส่ส่ายไปทางราคะจริตไปได้เหมือนกันเป็นต้น ดังนี้แล้ว คนมีอายุ แล้ว ก็กำหนดไว้ว่า เมื่อเราจะชราจนไม่รู้เรื่องนั้แล้วนั้น ขณะปัจจุบันอันมีชีวิตอยู่นี้ เราทำประโยชน์ตน และ ประโยชน์ท่านไว้หรือยัง ขอบคุณมากค่ะ
10 กันยายน 2547 19:01 น. - comment id 328617
เมื่อเร็วๆ นี้ เห็นภาพฝรั่งนั่งบนเศียรพระ แล้วรู้สึกใจหายเลยครับ พี่ติกิ งานงามเช่นเดิมนะครับ :)
10 กันยายน 2547 19:11 น. - comment id 328624
คุณหมึกมรกต ได้ยินข่าวเช่นนั้นก็ไม่อยากไป มอง ด้วยคนไทยเรากันเอง เห็นแก่เงินถึงตัด เศียรพระ องค์พระ พระหัตถ์ ไปขาย กลายเป็น แองทิคเป็นเงินเป็นทอง ฝรั่งมันก็มองเหมือน หอบหิ้ว ชิ้นส่วนสฟิงค์ หรือ มัมมี่ไปโชว์ว่าข้าฯ นี้รวยนักหนาสามารถซื้อของพรรค์นี้มาไว้บ้าน ข้าฯ ทำอุจาดต่างๆนานา ใดก็ได้ พระฯที่วัด สุพรรณบุรี ที่แวะไปเยี่ยม ท่านต้องจัดเวรยามสลับกันเฝ้าองค์พระพุทธรูป โบสถ์ แทบจะต้องมีอาวุธไว้ อัดกับโจรขโมย ลักตัดเศียรพระ ยิ่ง ต่างจังหวัด พื้นไม้กระดานนี้พวกเดนนรกนี้ ก็ เอาเลื่อยมาเจาะ ควักล้วงไป องค์พระไปอย่างสบายอารมณ์ คนไทยเราไม่เคารพพระพุทธรูปเราเอง ผ่าไปถ่ายรูปอุจาดหน้าพระพุทธรูปเป็นประจำ เหมือนไม่เคารพแม่ตัวเอง พูดคำ ด่าแม่ คำ ใครก็ไม่เคารพเช่นกัน ดังนี้แล้ว ก็ปลุกนิสัยกันเองไปเถิดค่ะ เราก็สลดใจเป้นปกติ เค้าเรียกว่า มันด้านชากับความไม่ค่อยดีพรรค์นี้ไปแล้ว
10 กันยายน 2547 22:19 น. - comment id 328751
มาอ่านธรรมะก่อนนอนค่ะ
11 กันยายน 2547 01:57 น. - comment id 328833
ขอบคุณค่ะคนเมืองลิง ขอให้ร่มเย็นเป็นสุขใจนะคะ