รักหวานมิรู้โรยลา หวนคำนึงแว่วหวานซาบซ่านจิต สั่นชีวิตพลิกข้างในฤทัยฉัน ช่างซึมทราบวาบหวิวสุดจำนรรจ์ ให้ผูกพันผ่านลึกตรึกใจจำ ลำนำถ้อยร้อยคำร่ำเล่าขาน ช่างแปรผันหันหวนให้ชวนขำ อ้อยอิ่งไปในหลากเรื่องเธอนำ สุดเลิศล้ำพร่ำบอกตอกฝังลึก วัยพิสุทธิ์บุบผาคราแรกแย้ม อร่ามแช่มแย้มสรวลชวนให้ตรึก ดั่งจันทร์โพยมโน้มส่องคล้องใจนึก ชวนรำลึกผนึกไว้พร่างพรายตา อนิจจาเวลาวันพลันหมุนเปลี่ยน สุดวกเวียนหวนนับลับแลหา ความหวานซึ้งตรึงใจของนัยนา ยากคืนมาสู่ฉันพลันกลับกลาย ฉันรักเสมอเธอพร่ำร่ำคำบอก เป็นระลอกหวานหูมิรู้หาย บัดนี้ร้างห่างจำคำละลาย เขาสิ้นสลายหายไปกับสายลม ถ้อยรสคำผ่านลิ้นแล้วสิ้นซาก ร้อยรักฝากหากมาคิดมิเหมาะสม ฉันเพียงจำคำหวานผ่านอารมณ์ ไม่เคยตรมลมรักหวานที่แรมลา เพียงเสี้ยวหนึ่งพึงคิดในรสรัก ช่างหวานนักพาให้ได้ใฝ่หา คนกล่าวถ้อยร้อยคำชักนำมา แสนสิเสน่หาพาให้มิรู้โรย. ๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
8 กันยายน 2547 14:19 น. - comment id 326971
รักหวานยังลึกซึ้งตรึงดวงจิต ยังคงแนบสนิทไม่ห่างหาย ใจยังมั่นพร่ำเตือนไม่เคลื่อนคลาย ไม่เว้นวายรักยังซึ้งตรึงดวงใจ ...อืม...หวานจัง จน...ยอมให้กลอนมันพาไปค่ะ...
8 กันยายน 2547 15:01 น. - comment id 326991
เขียนออกมาได้หวานงดงามมากๆครับ ๚ะ๛ size>
8 กันยายน 2547 16:18 น. - comment id 327037
ทำไมใจตรงกันค่ะ พุด..หันมารจนากลอนอกหักรักร้าว คั่นธรรมะ เหมือนกันค่ะ วันนี้เปิดจอคลอใจทั้งวันค่ะ ต้องไปเต้นแล้วค่ะ ว่าแต่ว่าพายุมาแรงจังค่ะ จะได้ตะริ๊ดติ๊ดชึ่งมั้ยละนี่ และ ด้วยความรักงานคุณแก้ว ต้องแอบมาอ่านเอาละมุนใจนะคะ ใช้ภาษาใจได้ละไมละเมียดมากค่ะ น่ารักจริงๆเลย
8 กันยายน 2547 16:23 น. - comment id 327041
..จะเก็บดาวทั้งฟ้า..มาสานฝัน แล้วรวบรวมทุกคืนวันอันอบอุ่น..สดใส มาเรียงร้อยถ้อยคำว่า..ห่วงใย ฝากสายลมหอบเอาไปให้คนไกลที่..ห่างกัน. แทนความรักของฉันด้วย..ผืนฟ้า... แทนความห่วงหาด้วยแววตา..ของฉัน... มีสายรุ้ง ณ โค้งฟ้าแทนความ..ผูกพัน... ความฝันของฉันจะแทนทุกความฝัน..ของเธอ +-*-+-*-+ +-*-+-*-+ผู้ชายอารมณ์ดี +-*-+-*-+ +-*-+-*-+
8 กันยายน 2547 18:15 น. - comment id 327121
รักหวานมิรู้โรยรา ดั่งเดือนดาราเฉิดฉัน แม้นกายห่างไปไกลกัน ใจฉันนั้นอยู่คู่เธอ......ฯ มาร่วมแจมกลอนด้วยค่ะ...อาจจะไม่ค่อยหวานนะคะ...แต่มาแจมด้วยใจจ๊ะ...อิอิ..
8 กันยายน 2547 18:42 น. - comment id 327145
เปลี่ยนแนวมาอ่านกลอนหวานๆ บ้างทานก๋วยเตี๋ยวจะได้ไม่ต้องใส่น้ำตาล.. ชื่นชมผลงานมากๆ ค่ะ
8 กันยายน 2547 18:58 น. - comment id 327157
รสน้ำหวานหรือชานมดยังหอม รักยังออมส่งตรงคงเสมอ ลองค้นหารู้ว่าอยู่เคียงเธอ ใจมิเก้อเพ้อถึงผู้พึงใจ เป็นบันไดให้ปีนไปหัวเราะ แล้วก็เคาะระฆังให้เสียงใส สวรรค์เกิดร่วมเพลินอารมณ์ใน กล่อมแก้วไว้ทุกคราถ้าใจจำ แล้วก็หยิบดนตรีมีเห่กล่อม แก้วจงน้อมใจรับฤาจะขำ พระอภัยแกเปลี่ยนปี่สีดำ มาขับลำเครื่องฮอ..ล้อ..ครึนครึน
8 กันยายน 2547 19:03 น. - comment id 327159
รักหนอรักหวานนักสลักจิต อยากใกล้ชิดอิงแอบแนบไออุ่น รักหนอรักหวานนักรักละมุน ได้ชิดคุณรักได้ไม่โรยรา
8 กันยายน 2547 20:26 น. - comment id 327204
พอจะเขียนกลอนธัมมะ ก็เหมือนพึ่งลาสิกขามา... พอจะเขียนกลอนรัก...ก็เหมือนมีรักที่เหนือชั้น.. ช่างมีพรสวรรค์จิงๆ แวะมาทักทายค่ะ วีนัสก่ะเจ้า
8 กันยายน 2547 22:16 น. - comment id 327285
คุณ นางสาวใบไม้ ความรักนั้นพลันคิดติดผนึก หวนรำลึกนึกหาพาหวั่นไหว ช่างซาบซ่าส์น่ารักสุดวิไล หวนทีไรให้ผวามาคร่ำครวญ. แก้วประเสริฐ. ขอบคุณมากครับ
8 กันยายน 2547 22:18 น. - comment id 327287
คุณ Robert TingNongNoi เมื่อเล่นสิ่งที่ขมจนหนักแล้ว ลองเปลี่ยนมาเล่นของหวานบ้าง เพื่อชดเชยแก่เพื่อนๆครับ ขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2547 22:20 น. - comment id 327288
คุณ พุด ครับคุณกับผมช่างใจตรงกันเสียจริงๆนะครับ คิดแบบเดียวกันเลยครับ เมื่อเราเสนองานหนักสมองให้แล้ว ก็ควรจะหาสิ่งชดเชยโดยให้เขาหวาบหวานใจเสียบ้าง จะได้ไม่รังเกียจผมมากกว่านี้ครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2547 22:22 น. - comment id 327292
คุณ เมกกะ แฮะๆๆเล่นเก็บดาวหมดฟ้าเลยหรือแล้วไม่คิดแบ่งผมบ้างเชียวหรือครับ อกหักแล้วต้องมาให้อกตรมอีกหรือครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2547 22:23 น. - comment id 327293
กลอนเพราะมากเลยค่ะ แวะมาทักทายค่ะ แค่เพียงเธอสบตาฉัน ใจเธอไหวหวั่นบ้างไหม เธอคงไม่เคยใส่ใจ ก็ไม่เป็นไรยังรอ....
8 กันยายน 2547 22:24 น. - comment id 327294
:-)
8 กันยายน 2547 22:28 น. - comment id 327299
คุณ ราชิกาเพื่อนแฝด หากยังมีดาวเฝ้าเคล้าคลอจันทร์ แสงสุริยันยังส่องหล้านภาใส ดวงใจน้อยคอยอยู่มิไปไกล เฝ้าเพื่อนไว้มิหายกลายลับตา. แก้วประเสริฐ. เพื่อนมาด้วยใจที่น่ารักบริสุทธิ์ผมเองก็นึกผุดกลอนด้วยคนจ้า
8 กันยายน 2547 22:31 น. - comment id 327305
คุณ กอกก ผมเองเสนองานที่หนักสมองไว้มากพอสมควรกลัวเพื่อนๆจะเอียนเสียก่อน เลยต้องมาเขียนสิ่งหวานๆไว้ให้เพื่อนคลายเคลียดกันบ้างจ้า หากเป็นดั่งคุณว่าก็ดีซิครับเพื่อนพวกเราจะได้ไม่เป็นโรคเบาหวานกันจริงไหมครับ...อิอิ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2547 23:01 น. - comment id 327311
คุณ......0...... เสียงปี่แว่วแผ่วหวานพลันกระชั้น พระอภัยนั้นพลันเขม้นดูต้นเสียง โอ้ละเหว่ยเคยอยู่เป็นคู่เคียง ปี่จะเดี่ยงหรืออย่างไรให้สีดำ เมื่อก่อนนั้นมันเป็นแก้วสีสด ขาวหมดจดงดงามอร่ามล้ำ ทั้งนอกในไป่รู้เป็นผู้ทำ เขาอาจขำร่ำร้องว่าแสนเพลิน ปีนบันไดหวังไปในแดนสรวง เผอิญตกล่วงพบกระดิ่งแล้วยิ่งเขิน ระฆังดังกังวานแว่วด้วยบังเอิญ แต่ก็เพลินเจริญจิตเลยคิดทำ เสียงระฆังดังประสานปี่แจ้ว เพริศพริ้งแพร้วแว่วหวานแต่ยังขำ เพราะเหตุว่าเพื่อนบอกนอกในนำ แม้นจะช้ำเสียงแหบแสบทรวงใน. แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2547 23:11 น. - comment id 327315
คุณ คนเมืองลิง อ่านกลอนไปให้หวาบหวามในจิต ยิ่งเพ่งพิศติดไออุ่นละมุนหา ช่างหยดย้อยหวานซึ้งตรึงอุรา โอ้วาสนาคราพบโศกคงจาง. แก้วประเสริฐ. ขอบคุณครับ
8 กันยายน 2547 23:15 น. - comment id 327317
คุณ VeNuS ขอบคุณมากครับแต่ทว่ามีพรสวรรค์ผมคิดว่าขอวางไว้ก่อนนะครับเพราะผมรู้ตัวดีเพียงแค่มีเพื่อนๆมาคุยด้วยก็แสนจะปลาบปลื้มเป็นล้นพ้นแล้วครับ ยิ่งคุณ วีนัสด้วยแล้วแสนปลื้มเลยครับ แก้วประเสริฐ.
8 กันยายน 2547 23:33 น. - comment id 327322
คุณ ลอยไปในสายลม โอ้ใจนั้นลอยไปในสายลม เพราะได้ชมนัยตาพาหวั่นไหว ช่างสวยสดงดงามเสียกระไร จนหัวใจอยากใกล้ได้พบเจอ บุญอาจมีมาพบสบได้เนตร ไม่ใช่เจตจำนงค์คงไผลเผลอ ทำให้ช้ำนำให้จิตคิดละเมอ เพียงพบเธอเป็นไฉนใจจึงลอย. แก้วประเสริฐ ขอบคุณมากครับ
8 กันยายน 2547 23:34 น. - comment id 327323
คุณ สีน้ำฟ้า ขอบคุณมากเลยครับ ที่แวะมาเยี่ยมผม ซึ้งใจครับ แก้วประเสริฐ.
9 กันยายน 2547 11:42 น. - comment id 327546
..ย่องๆๆๆ.......*-*....... ...อิอิ..........
9 กันยายน 2547 13:21 น. - comment id 327704
คุณ น้องสาว ขอบใจมากนะครับ ผมคิดว่าผมรู้นะว่าเป็นใคร..555 แก้วประเสริฐ.
24 กันยายน 2547 01:20 น. - comment id 337107
อันถ้อยพร่ำคำหวานแต่ปางก่อน เดี๋ยวนี้จรจากไกลใจถวิล รสเคยลิ้มมิเคยจางจากไปสิ้น อยู่ในจินต์อันรำลึกสุดหัวใจ ................................. อย่างนี้หรือเปล่านะ....รสรักหวานอมขมกลืน ข้าพเจ้ามาทักทายคุณแก้วประเสริฐค่ะ
27 กันยายน 2547 17:07 น. - comment id 339252
คุณ แว่นดอย ใช่แล้วครับที่กลอนของพูดรจนาไว้แหละครับเพราะยังติดในรสของมันอยู่จึงเป็นแบบนี้แหละครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.