มิถิลานครย้อนประวัติ องค์กษัตริย์มหาชนกปกครองหนา มีโอรสสององค์ทรงนามา พระพี่ยาอริฏฐชนกยกอุปรา (๑) อนุชาโปลชนกตกตำแหน่ง เสนาบดีแสดงแบ่งวงศา มหาชนกสวรรคตหมดบุญญา อริฏฐาชนกปกเกล้าแทน (๒) แล้วเลื่อนชั้นโปลชนกยกอุปราช ช่างสามารถคุมพลชนนับแสน เสนาฉ้อทูลเล่าเจ้าครองแดน อนุชาคิดแผนแย่งบัลลังก์ (๓) หลักศิลายังสั่นเพราะหวั่นไหว จึงตรัสให้จับกุมน้องคุมขัง เพราะเจ้านั้นมั่วสุมกุมกำลัง ต้องระวังจองไว้ใส่เรือนจำ (๔) โปลชนกตกที่นั่งแสนลำบาก ด้วยว่าหากเป็นจริงยิงให้หนำ ถ้าเป็นเท็จเด็ดสลักหลุดจากจำ มิขาดคำอธิฐฐานดาลลั่นปึง (๕) อิสระพระหนีไปซุ่มซ่อน กาลครั้งก่อนสัตย์ซื่อกลับยื้อขึง จึงรวบรวมไพร่พลจนอื้ออึง ยกมาถึงนคเรศมิถิลา (๖) แล้วว่าความตามคิดมิปิดปัด พระดำรัสขัดข้องหมองหนักหนา คราครั้งนั้นไม่คิดคดซดอาชญา มานี่มาท้ารบครบเรื่องจริง (๗) อริฏฐชนกตกตะลึงถึงสะท้าน เข้าในม่านชายาว่าน้องหญิง เจ้าทรงครรภ์อยู่หลังระวังระวิง อาจถูกชิงบัลลังก์พลาดพลั้งไป (๘) แล้วพระองค์ทรงสงครามสนามรบ พบจุดจบในศึกนั่นดังหวั่นไหว พระเทวีทราบข่าวคราวมีภัย หนีปลอมไปกาลจำปาสามัญชน (๙) ด้วยบุญญาธิการของทารก แม้ระหกตกพลัดไม่ขัดสน เทวดาแปลงเฒ่าเข้าช่วยชนม์ นำเกวียนกลผ่านทางนั้นพอดี (๑๐) นางโดยสารนานหลับคอพับอ่อน มาถึงตอนเย็นเย็นดังเข็นหนี หกสิบโยชน์ทำไมเร็วปานนี้ เฒ่าว่ามีทางลัดตัดเส้นทาง (๑๑) แล้วแยกย้ายกันไปไม่เคืองขัด นางผู้พลัดธานีรีรีขวางขวาง อาจารย์หนึ่งผ่านถึงจึงถามนาง จึงตอบอย่างจริงใจหนีภัยมา (๑๒) ครูชักชวนอยู่ด้วยช่วยสงเคราะห์ เรียกให้เหมาะน้องสาวกันกังขา จวบกระทั่งครบครรภ์กัลยา คลอดบุตราสมญา*มหาชนก* (๑๓) เมื่อวัยเยาว์เล่นกันฉันท์เด็กเด็ก ถึงตัวเล็กก็สู้หูหัวหก เด็กอื่นใดสู้ไม่ได้ไห้งันงก ช่วยป้องปกลูกไร้พ่อมันรังแก (๑๔) มหาชนกถามแม่ใครแน่พ่อ นางมิต่อความยาวเข้าใจแก้ พระอาจารย์คือพ่ออย่างอแง ไม่เปลี่ยนแปรโดนล้อพ่อไม่มี (๑๕) ในวันหนึ่งดื่มนมชมจากถัน สุดอัดอั้นตอบมาอย่าช้านี่ จริงไม่กัดถ้าขัดกัดทันที ว่าพ่อนี้เป็นใครใยปิดบัง (๑๖) พระมารดาตอบเล่าเจ้ายังเล็ก ยังเป็นเด็กแม่จึงไว้นัยความหลัง พ่อของเจ้าอริฏฐชนกปกครองวัง ต้องภินท์พังเชื่อใจไอ้สอพลอ (๑๗) พระได้ฟังเข้าใจไม่ต่อว่า ฝึกวิชาครบครันขยันหนอ ครั้นพระชนม์สิบหกปีไม่รีรอ เข้าไปขอสมบัติจัดหาทุน (๑๘) จะไปทำการค้าเพื่อหาทรัพย์ รวบรวบสรรพไพร่พลคนอุดหนุน เพื่อกอบกู้บ้านเมืองทดแทนคุณ แม่การุนย์มอบแก้วแววสามดวง (๑๙) นำแก้วนี้ไปขายได้หลายอยู่ คงเชิดชูทัพได้ไม่ใหญ่หลวง ออกทะเลเหหันแม่หวั่นทรวง เพราะแม่ห่วงเจ้ามากลำบากกาย (๒๐) ไม่เปลี่ยนใจคำไหนก็คำนั้น ดำเนินพลันทันตาจะค้าขาย แม่บอกอย่าจองเวรเป็นสบาย มิแพร่งพรายความนัยขายอย่างเดียว (๒๑) ในขณะออกทะเลเห่ลมคลื่น พระผู้ยืนมิถิละประชวรเสียว ใกล้อาสัญพลันห่วงธิดาเดียว ให้หลอนเหลียวบาปกรรมเคยทำมา (๒๒) ลอยนาวาเจ็ดวันประจัญคลื่น มรสุมครืนครืนเข้าโถมถา มหาชนกยกรั้งน้ำมันทา เสวยกายาหารให้อิ่มไว้ (๒๓) สละซึ่งสินค้าและข้าทาส ความพินาศสาดแผ่เกินแก้ไข จึงกระโจนเสากระโดงโผงทันใด ว่ายออกไปให้ไกลในบัดดล (๒๔) มิทดท้อรอตายด้วยหมายรอด ว่ายตลอดหลายเฮือกกระเสือกกระสน ทั้งเจ็ดวันเจ็ดคืนฝืนสู้ทน ตั้งจิตตนอธิฐฐานผ่านเทวา (๒๕) ด้วยเดชะบารมีแต่ปางก่อน ก็ให้ร้อนถึงนางเมขลา พนักงานอารักษ์สมุทรตรา เหาะเหินมาพาขึ้นฝั่งยังอุทยาน (๒๖) ของพระเจ้าโปลชนกครั้งกระนั้น พระทรงธรรม์สลบไสลไม่กล่าวขาน โปลชนกสวรรคตเจ็ดวันวาน ในวังวารจัดหาคู่สู่ธิดา (๒๗) แต่โบรานขานกฏบทบัญญัติ ถ้ากษัตริย์องค์ใดไร้สังขาร์ และไม่มีโอรสสืบศักดา จัดรถาเสาะหาผู้มีบุญ (๒๘) ตั้งพิธีเซ่นสรวงเทพพิทักษ์ แล้วจัดชักราชรถปรากฎหนุน อธิฐฐานขอพรพุทธคุณ จงค้ำจุนให้เจอเธอเสี่ยงทาย (๒๙) ม้ามงคลนำเทียมราชรถกิจ มุ่งสู่ทิศตะวันออกบอกที่หมาย มหาชนกหลับสลบพบเดียวดาย อาชาวนเวียนปลายพระบาทา (๓๐) ปุโรหิตติดตามว่างามแท้ จึงเชื่อแน่มีอำนาจวาสนา ถวายเครื่องทรงกษัตริย์ขัตติยา กลับพาราเวียงชัยในทันที (๓๑) พระธิดาสีวลีมีดำรัส มิเคืองขัดตัดลามารศรี แล้วทูลถามอนงค์ประสงค์ดี บิดามีคำสั่งใดก่อนวายปราณ (๓๒) นางจึงว่าข้อแรกมิแปลกนัก ถ้าน้องรักผู้ใดยกให้สถาน มอบสมบัติอภิเษกเฉกประทาน พระว่าผ่านนางยื่นหัตถ์มิปัดเรา (๓๓) ข้อที่สองต้องรู้บัลลังก์สี่ แยกให้ทีไหนศรีษะไหนเท้าเล่า พระยื่นปิ่นให้นางวางเบาเบา มิขาดเขลาตรงที่นางชี้ทาง (๓๔) ข้อต่อไปลองธนูรู้ฤทธิเดช พระปกเกศมีแรงมิแกล้งขวาง ธรรมดาร้อยคนยังบ่นคราง พระโก่งกางคันศรมิร้อนองค์ (๓๕) เรื่องต่อไปเล่าว่าหาสมบัติ ทรงดำรัสทรัพย์หนึ่งอาทิตย์ส่ง อำมาตย์ขุดตะวันออกบอกว่าปลง พระว่าคงผิดแล้วจึงแคล้วกัน (๓๖) แล้วตรัสถามความว่าพารานี้ คงเคยมีนิมนต์พระถวายนั่น ตรงที่ใดเป็นที่ยืนพระทรงธรรม์ ขุดตรงนั้นจะเจอมิเก้อลวง (๓๗) เหล่าเสนาอำมาตย์ขุดราชทรัพย์ คนานับนำใส่ในคลังหลวง พระตรัสเปรียบเทียบฟังคนทั้งปวง พระปัจเจกโชติช่วงดังดวงรวี (๓๘) ทรัพย์ที่สองกองอยู่อาทิตย์ลับ จึงกำชับไปขุดตรงสงฆ์กลับนี่ ดำเนินการสานต่อขุดพอดี สมบัติมีตามกล่าวมากเอาการ (๓๙) ทรัพย์สามสี่อยู่ในและอยู่นอก พระจึงบอกประตูหลวงมิลวงขาน และอีกหนึ่งไม่ในนอกธรนีดาน ทั้งสามสถานขุดพบนบน้อมทูล (๔๐) ปริศนาขุมทรัพย์นับน้อยใหญ่ ขุดลงไปเจอลาภมิสาบสูญ ปัญญาก้องท้องทรัพย์นับเพิ่มพูน พระอนุกูลจัดตั้งทั้งโรงทาน (๔๑) ส่งให้รับพระมารดากลับมาด้วย อาจารย์ช่วยรับรางวัลปันให้ท่าน จัดสมโภชน์เสวยราชมิช้านาน พระกุมารฑีฆาวุบังเกิดมา (๔๒) ในวันหนึ่งพนักงานถวายสรร ทั้งพืชพรรณผลไม้ขมฝาดหนา ทรงเสด็จประพาสอุทยาน์ สุขอุราทานมะม่วงแล้วล่วงไป (๔๓) ครั้นกลับมาแปลกจิตมิผิดต้น หมดทั้งผลใบแตกถูกแหวกไหว จึงตรัสถามเสนาว่าทำไม โทรมทันใจไม่ทันจะข้ามวัน (๔๔) ทูลให้ฟังครั้งเห็นพระองค์ลิ้ม ประชาชนมาชิมดังอิ่มสวรรค์ พระสดับรับทราบเหตุผลครัน บรรลุพลันต้นเหตุของความทุกข์ (๔๕) อันสมบัติก็เหมือนผลมะม่วง มันคือบ่วงแห่งโลภถ้าโอบขลุก ใครก็ปองหนองน้ำมีปลาชุก ควรจะลุกเดินปลีกหลีกหนีภัย (๔๖) แล้วตรัสว่าพระองค์จะทรงพรต เราจะงดทางเสื่อมด้วยเลื่อมใส งดบันเทิงหยุดหลงเข้าพงไพร ครองผ้าไตรดำเนินออกจากวัง (๔๗) ฝ่ายชายาเห็นหายมิวายห่วง เวลาล่วงห้าเดือนถ้านับหลัง จึงแวะมาหาองค์ทรงกำลัง ออกจากวังสวนทางไยร้างลา (๔๘) เส้นเกษาหล่นพาดอยู่กลาดเกลื่อน อีกทั้งเหมือนละวางห่างภูษา เป็นปัจเจกบุคคลพ้นพารา พระชายาคิดตามมิคร้ามเลย (๔๙) ทรงอุบายแกล้งเผาเมืองเรืองระอุ เชิญภิกษุมาดับกลับเฉยเฉย บอกว่าเราไร้ทรัพย์มิรับเกย ด้วยมิเคยใยดีสิ่งที่ลวง (๕๐) ฟังอ้อนวอนมเหสีคนนี้บ้าง อย่าทิ้งห่างน้ำมิตรตะขิดตะขวง พระขีดเส้นห้ามไพร่ใครทั้งปวง ใครข้ามล่วงมิพลาดในอาชญา (๕๑) สีวลีทุกข์ตกสะทกสะท้าน ออกอาการกลิ้งเกลือกเลือกเส้นสา ลายเส้นกลบลบรอยค่อยข้ามมา ถึงพารานามถุนันนคร (๕๒) เห็นสุนัขแย่งเนื้อมาจากเขียง คนขายเลี่ยงตีขับขยับขอน ความตกใจทิ้งเนื้อแล้ววิ่งจร พระน้อมกรหยิบปัดเข้าบาตรไป (๕๓) นางชายาเห็นหมดสลดนัก พระที่รักสละวางทางไสว แม้เนื้อเดนยังเสวยเอยกระไร แต่อาลัยยังตามด้วยความดี (๕๔) เห็นเด็กหญิงมือหนึ่งกำไลเดี่ยว อีกมือเกี่ยวสองกำไลทำไมนี่ เกาะเกี่ยวกันเกิดกระทบบรรจบมี สองท่านนี้จะไปในทางใด (๕๖) พระตรึกตรองฟังคำกุมารา ดำริว่าพรหมจรรย์ต้องหวั่นไหว เพราะมลทินนารีควรลี้ไกล ควรแยกไปสองแพร่งแบ่งให้ทาง (๕๗) จงเลือกทางสักเส้นเป็นของเจ้า ทางของเราก็จะไปอย่าได้ขวาง นางเลือกซ้ายพระขวาเลิกลาวาง พระทิ้งห่างนางครวญหวนอาลัย (๕๘) แล้วสลบซบองค์อยู่ตรงนั้น นางกำนัลนวดจับกลับลมใหม่ ครั้นทรงฟื้นคืนร่างคิดข้างใน หมดฝันใฝ่ในทรัพย์กับราชันย์ (๕๙) จึงเรียกข้าราชะบริพาร จงจัดงานฑีฆาวุสู่ไอศวรรย์ บรรพชาเราเสียทีเดียวกัน สู่สวรรค์หลังดับขันธ์ทั้งสององค์ (๖๐)
2 กันยายน 2547 19:35 น. - comment id 322181
อะจ้าคุณกุ้งจ๋า มาเก็บไว้ไปอ่านก่อนนะคะ ขอบคุณเรื่องดีๆมีคุณค่าค่ะ
2 กันยายน 2547 19:54 น. - comment id 322198
ยาว ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ....มาก งานคุณภาพคับแก้ว.. แอบ..มาชื่นชม..
2 กันยายน 2547 21:32 น. - comment id 322283
ยังไม่เคยอ่านฉบับที่เป็นเล่มเลยค่ะ ได้โอกาสอ่านจากกลอนนี้ พอดีเลย :) ขอบคุณค่ะ
2 กันยายน 2547 22:16 น. - comment id 322331
เขียนได้ดี นับเป็นมือกลอนแปด ที่ดีอีกหนึ่งคนของบ้านกลอนไทย.. ขอให้เจริญ ด้วย อายุ วัณโณ สุขัง พลัง..มีปัญญาแจ่มใส..เขียนงานดีๆ มาให้เพื่อนพ้องได้อ่านอีก ..สวัสดีนะ ขอให้มีความสุข..
2 กันยายน 2547 23:07 น. - comment id 322395
เขียนได้ดีเยี่ยมเลยค่ะ อ่านจนตาลายเลยยาวมากๆ แต่ก็ติดตามจนจบค่ะ อนุโมทนาด้วยค่ะ
2 กันยายน 2547 23:31 น. - comment id 322419
เพื่อนรัก....เก็บอีกแล้วนะสองตอน เหลือที่ให้สัญญาอีก แปดนะจ๊ะอย่าลืมนะ. แก้วประเสริฐ.
2 กันยายน 2547 23:39 น. - comment id 322432
เยี่ยมจริง ๆค่ะ
3 กันยายน 2547 00:50 น. - comment id 322474
สุดยอดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ แต่งแนวแบบนี้อีกนะค่ะ ชอบจังเลยค่ะ ชื่นชมในผลงานนะค่ะ เก่งจริง ๆ ค่ะ
3 กันยายน 2547 06:50 น. - comment id 322594
มาอ่านเป็นกำลังใจให้ครับ เขียนได้น่าอ่านจังเลย
3 กันยายน 2547 07:46 น. - comment id 322640
พึ่งอ่านได้๑๐กว่าบท คงวันหยุดคงจะแวะมาอ่านอีกครั้งให้จบ เห็นแค่ตอนต้น ๆ ยุ่งยากชื่อคนชื่อเมือง นับว่ามีความเพียรอย่างมากครับ นับว่าเป็นกลอนยาวที่สุดในตอนเดียวจบเท่าที่ผมได้พบเจอ อยากทราบว่าสงวนลิขสิทธิ์หรือเปล่าครับ
3 กันยายน 2547 09:50 น. - comment id 322708
ตอบกลับค่ะ: คุณ tiki: เชิญเก็บได้ตามความเหมาะสมค่ะ xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณภูตะวัน: กุ้งแอบตัดตอนขุดสมบัติออกหลายบ่อเลยค่ะ ...นำเสนอเฉพาะตอนต้นๆ เพื่อความกระชับค่ะ xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณอัลมิตรา: อืม! เรามีตัดต่อด้วยน่ะ คือ :- ตัด :) ตอนหาสมบัติออก ความจริงมีหลายขุมกว่าที่นำเสนอค่ะ... ต่อเติม :) ส่วนที่พระโปลชนก ใกล้สิ้นพระชนม์ให้คิดถึงบาปบุญคุณโทษ (แทรกธรรมมะนิดนึง) ต่อเติม :) ปลาในบ่อ ส่วนต่อรำพึงถึงต้นมะม่วง...ลาภนั้นใครๆ ก็แสวงหา.. ...อาจไม่สมบูรณ์นัก โปรดพิจารณา..ค่ะ xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณลุงผู้เฒ่า: ขอบพระคุณค่ะ ขอให้คุณลุงมีความสุขเช่นกันค่ะ xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณคนเมืองลิง: ขอบคุณค่ะ...ขออนุญาตตัดต่อบางส่วนตามที่ได้ตอบคุณอัลมิตราไปแล้ว... xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณแก้วฯ รักแล้วรอหน่อยน่ะจ๊ะ... xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณผู้หญิงไร้เงา: เหลืออีก ๘ ชาติ (ทศชาติ) ยังไงเรียนเชิญติดตามน่ะค่ะ...ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณผลิใบสู่วัยกล้า: ขอบคุณค่ะ...สำหรับกำลังใจ xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx คุณชัยชนะ: ค่อยๆ อ่านน่ะค่ะ ตัวละครตอนต้นจะมากนิดนึง... เรื่องลิขสิทธิ์ ตอนนี้ยังไม่คิดค่ะ ..คุณชัยชนะ..
3 กันยายน 2547 09:52 น. - comment id 322709
คุณขลุ่ยขลิบ: ขอบคุณที่แวะมาค่ะ... :)
3 กันยายน 2547 10:16 น. - comment id 322735
แต่งได้งดงาม สมศักดิ์ศรีกับความ ที่นำเสนอ มีคุณค่าเลิศเลอเมื่อยาม อ่าน แต่สมควรขยายความให้ครบ สมบูรณ์ เพื่อเพิ่มอรรถรสให้ครบถ้วน ๚ะ๛ size>
3 กันยายน 2547 10:45 น. - comment id 322773
คุณทิงนองนอย: :) จะรับไว้พิจารณา เพื่อปรับปรุง แก้ไข ต่อไปค่ะ... ขอบคุณที่แวะชมค่ะ... ....