เล่าเรื่องทศชาติ....เตมีย์ใบ้

กุ้งหนามแดง


๑) แต่ก่อนกาลพาราณสีธานีใหญ่
    เจ้ากรุงไกรกาสิกราชร้อนอาสน์รุ่ม
    เรียกสนมมเหสีที่ประชุม
    มีเรื่องกลุ้มขาดทายาทสืบศักดา
๒) ทำพิธีบวงสรวงปวงเทพไท้
    บันดาลให้จันทเทวีมีครรภ์หนา
    ลุเก้าเดือนประสูติกุมารา
    พระบิดาดีพระทัยหาใดปาน
๓) จัดสมโภชน์ทันทีดนตรีเสนาะ
    ฝนแปะเปาะทั่วนครดังพรขาน
    พระนามาเตมีย์ศรีกุมาร
    พระโปรดปรานโอรสยศไกร
๔) อุ้มออกว่าราชการผสานผล
    หวังฝึกฝนกลการสานสมัย
    วันข้างหน้าด้วยหวังบัลลังค์ชัย
    สืบต่อไปเตมีย์ศรีแผ่นดิน
๕) แล้ววันหนึ่งถึงกิจวินิจฉัย
    นำโจรไพรสี่นายหมายตัดสิน
    ลงอาญาในความตามกระบิล
    ลงโทษสิ้นมรณังบ้างขังคุม
๖) พระกุมารเห็นแล้วไม่แคล้วบาป
    ด้วยทรงทราบภาพหลังครั้งไฟสุม
    ตกนรกแน่นอนต้องร้อนรุม
    ยามเมื่อหนุ่มสืบสานงานบุรี
๗) เทพธิดาอารักษ์เขตเศวตฉัตร
    แนะปฏิบัติทางปลีกเพื่อหลีกหนี
    สามประการกำหนดหมดราคี
    พระเตมีย์ฟังคำนางจำนรรจ์
๘) จงเป็นง่อยปล่อยองค์ปลงสังขาร
     เรียกไม่ขานหูดับสรรพสิ่งสรร
     จงเป็นใบ้ไร้เสียงหลบเลี่ยงพลัน
     ไอศวรรย์จะพ้นอดทนเอย
๙) นับแต่นั้นปฏิบัติขัตติยะ
    ทุกกาละผละทิ้งอยู่นิ่งเฉย
    งดพูดจาปรารมภ์หมดชมเชย
    ช่างเฉยเมยเลยลิ้นคำยินยล
๑๐)พระชนกตกพระทัยให้แสนห่วง
     เชิญหมอหลวงตรวจอาการวานบอกผล
     ปกติทุกอย่างปรางกมล
     จึงนึกกลอุบายให้หายดี
๑๑)ทดลองจุดเพลิงพรายหมายจะเผา
     มิร้อนเร่าหลบละผละวิถี
     คชสารไล่ล่าคุมท่าที
     จรลีสักนิดไม่คิดทำ
๑๒)อสรพิษคิดร้ายหมายกัดขบ
     ยังสงบกลบปิดมิคิดขำ
     มโหรีปี่ล้อมพร้อมนางรำ
     มิถลำรู้เหตุเจตนา
๑๓)ครบเจ็ดปีเสนีย์และอำมาตย์
     ไม่สามารถแก้ไของค์พระพงศา
     เจริญวัยใคร่ลวงบ่วงกามา
     ไร้ที่ท่าตอบสนองประคองโลม
๑๔)ล่วงสิบหกชันษาหาเคลื่อนไหว
     เสนาในอำมาตย์ปราชญ์หักโหม
     แกล้งทำเสียงอึกทึกครึกครึกโครม
     พระทรงโฉมหาตกใจมิใยดี
๑๕)จึงกราบทูลทรงธรรม์ด้วยหวั่นไหว
     กาลกิณีเกินใครให้หมองศรี
     จะเป็นภัยในฉัตรปฐพี
     พระเตมีย์มีกรรมกำจัดไกล
๑๖)กาสิกราชเห็นดีมีดำรัส
     จงขจัดโพยภัยไม่สงสัย
     นำกุมารไปฝังยังพงไพร
     ขืนทรงไว้อันตรายวายวงศ์วาร
๑๗)จันทเทวีอัครมเหสี
     พระปรานีในบุตรสุดสงสาร
     จึงร้องขอพรเดิมเสริมประทาน
     ให้กุมารครองราชย์มาตรเจ็ดวัน
๑๘)แล้วให้ครองฉลององค์ทรงกษัตริย์
     ใต้ร่มฉัตรจัดเสด็จทุกเขตขัณฑ์
     ทั้งไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินยลยิลกัน
     มิแปรผันในองค์ทรงระวัง
๑๙)พระชนนีกำสรดหมดวาระ
     สุนันทะนำพระจะไปฝัง
     รถมงคลนำเทียบเลียบหลังวัง
     ป่าช้ายังที่หมายกลายอีกครา
๒๐)ลุไพรวัลย์สุนันทะผละจอดรถ
      พระทรงกลดขยับกายทั้งซ้ายขวา
      สารถีขุดคร่าวกว้างยาววา
      รอเวลาปลิดปลงองค์ภูมี
๒๑)พระหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์รู้ชัดแจ้ง
      มิสิ้นแรงกำลังดังราชสีห์
      ยกรถทรงกวัดแกว่งแฝงฤทธี
      พระเตมีย์ศรีชาติช่างอาจอง
๒๒)สารถีเร่งรุดขุดหลุมลึก
      มิคิดนึกการใดช่างไหลหลง
      พระตรัสถามทำการใดให้บรรจง
      สุนันทะดังลืมหลงความทรงจำ
๒๓)คิดว่าคนเดินทางผ่านมาเห็น
      ตอบแค่เป็นพิธีมิถลำ
      ข้าขุดหลุมฝังคนมิพ้นคำ
      พระถามย้ำฝังใครใคร่ชี้แจง
๒๔) *ลูกเจ้าเมือง*เคืองนักมาซักไซ้
         ทั้งเป็นใบ้หูดับจับแสลง
         ไม่เคลื่อนไหวในองค์ทรงแสดง
         ล้วนเคลือบแคลงคงแรงกาลกิณี
๒๕)   แล้วขยายหลายกลแต่หนหลัง
         แก้ไขยังไม่หายต้องหน่ายหนี 
         พระบิดาเกรงภัยกรุงไกรมี
         จึงได้มีราชโองการผลาญให้ตาย
๒๖)  พระเตมีย์ว่าสุนันท์ฉันโอรส
         มิปรากฎดังเจ้าเล่าถวาย
         สารถีดูพระประพิมประพาย
         มองยิ่งคล้ายร่างทุกข์บรรทุกมา
๒๗)   อัศจรรย์เหลือเกินดำเนินได้
         ไม่สิ้นไร้เรี่ยวแรงแกร่งหนักหนา
         สิบหกปีงดเคลื่อนไหวในกายา
         มิเฉื่อยชาพูดคล่องมิพร่องเลย
๒๘)   แล้วชวนองค์ตรงกลับทรัพย์สถาน
         ช่วยสืบสานงานเมืองเฟื่องเฉลย
         ข้าฯ จะได้อามิสที่คิดเคย
         พระตรัสเปรยเอ่ยว่าเราละวาง
๒๙)   บำเพ็ญเพียรสิบปีพลีเพื่อพ้น
         ประพฤติตนปล่อยปละละขนาง
         เครื่องร้อยรัดให้มัวหมองบ่อนกั้นกลาง
         ควรเหินห่างขว้างทิ้งไม่ยินดี
๓๐)   เราจะบวชรักษ์ศีลเลิกปีนทุกข์
        หยุดล้มลุกในวัฏฏะผละหลีกหนี
        ท่านจงกลับรับสารไปในบุรี
        บอกความนี้แก่องค์พระทรงธรรม์
๓๑)  เผื่อกลับองค์หลงผิดจะคิดได้
        ดำรงไว้เนื้อบุญหนุนไอศวรรย์
        อีกอาชาราชรถหมดหนี้กัน
        คืนโดยพลันสุนันท์ท่านรับไป
๓๒)  สุนันทะบอกองค์คงอยู่ที่
        สารถีรีบรี่มิไถล
        เผื่อบิดาเสด็จมามิช้าไกล
        ว่ามิได้ข้าปดลดมลทิน
๓๓)  พระรับคำอำลาสารถี
        ตั้งจิตตีดำรงคงรักษ์ศิล
        สุนันทะถึงพาราน้ำตาริน
        กราบทูลสิ้นสององค์สิ้นสงกา
๓๔)  จากกำสรวลซวนโทรมโทมนัส
         ตาลปัตรแปรผันเป็นหรรษา
         ทั้งชื่นชมโสมนัสขัตติยา
         อยากเห็นหน้าลูกยามาทันที
๓๕)   แล้วทูลว่าหากไปคงได้เห็น
        พระบำเพ็ญในพรตบทศรี
        ให้ชื่นจิตบิตุรงค์ทรงเปรมปรีด์
        พระชนนีก็เป็นเช่นเดียวกัน
๓๖)  มีดำรัสจัดพหลพลทหาร
         ดำเนินการเร่งรุดไปในไพรสันต์
         ทิศปราจีนมุ่งหน้ามิช้าวัน
         ถึงที่มั่นกันแสงแรงยินดี
๓๗)   เมื่อพบกันวันนี้พ่อมีกิจ
         จงสานกิจการเมืองรุ่งเรืองศรี
         เบญจราชกุธภัณฑ์นั่นพร้อมมี
         เตรียมมานี้รับเจ้าเข้านคร
๓๘)   สืบสมบัติขัตติยะไม่สิ้นสูญ
         สืบตระกูลเราไว้ไม่ถอดถอน
         เพื่อประโยชน์คนหมู่มากอย่าจากจร
         พระสั่งสอนวอนเว้าให้เข้าใจ
๓๙)   พระเตมีย์ว่าบวชต้องกวดขัน
          ควรจะบรรพชามิสาไถย
          สังขาระไม่เที่ยงจงเลี่ยงภัย
          ตายเมื่อไรไม่รู้คิดดูเอย
๔๐)   อย่าประมาทขลาดเขลาจงเข้าจิต
          เพราะชีวิตแสนสั้นทรงธรรม์เอ๋ย
          ยกเนื้อความธรรมะอย่าละเลย
          ด้วยเปิดเผยวิถีทางที่ควร
๔๑)   พระราชาเห็นชอบจึงตอบรับ
          ด้วยสดับความจริงทุกสิ่งสรวล
          ขอผนวชโดยตรงมิหลงรวน
          ตีฆ้องชวนประชามาบวชกัน
๔๒)   สิบสองคลังเปิดไว้ให้สะดวก
          เชิญพรรคพวกขนไปให้สุขสันต์
          ทั้งจารึกข้อความตามเสาพลัน
          เชิญแบ่งปันทรัพย์นั่นตามสบาย
๔๓)   เหล่าประชาตามบวชกันเป็นแถว
          ละทิ้งแล้วบ้านเมืองเรื่องค้าขาย
          เป็นดาบสดาบสินีมิวุ่นวาย
          และช้างม้าวัวควายปล่อยมันไป
๔๔)   พระราชาต่างถิ่นได้ยินเล่า
          จะยึดเอานครอมรไสว
          เห็นข้อความตามเสาไม่เข้าใจ
          เหตุอันใดทิ้งเมืองอันเลื่องลือ
๔๕)    ตรงเข้าป่าพบราชาปะฤษี
          พระเตมีย์ให้โอวาทปราศยึดถือ
          จึงเลื่อมใสในธรรมที่ร่ำลือ
          พลิกฝ่ามือถือบวชในรวดเดียว
๔๖)   บำเพ็ญฌาณสมาบัติขจัดทุกข์
          ดำรงสุขแดนสงบดังหลบเหลียว
          เมื่อตายไปเทวโลกล้วนโลกเดียว
          เพราะกลมเกลียวในธรรมที่ทำมา
๔๗)    เรื่องนี้ให้อะไรใช่สอนสั่ง
           เห็นพลังความเพียรมีเปลี่ยนหนา
           ความตั้งใจมิไหวหวั่นมั่นวิริยา
           จะนำมาซึ่งสำเร็จเสร็จสมบูรณ์
๔๘)     จึงจบเรื่องพระเตมีย์ศรีสถิตย์
           น้อมดวงจิตเขียนไว้มีให้สูญ
           หากผิดตกรกเรื้อจงเกื้อกูล
           หวังเพิ่มพูนเรื่องดีเป็นศรีเอย..
จบเรื่องเตมีย์ใบ้...แต่เพียงนี้..
				
comments powered by Disqus
  • กุ้งหนามแดง

    22 สิงหาคม 2547 19:25 น. - comment id 314818

    เล่าเรื่องทศชาติ..เรื่องพระเตมีย์เป็นชาติแรก..
    ยังมีต่อค่ะ แล้วจะทยอยลง..
    ..
    แต่ละชาติเรื่องยาวหน่อยคงไม่เบื่อกันเสียก่อนน่ะค่ะ..
    ..
    เป็นความตั้งใจว่าจะเขียนให้ครบทั้งสิบชาติไม่ทราบต้องใช้เวลานานสักเท่าไร เอาเป็นว่าค่อยๆ เขียนแล้วกัน คงจบในชาตินี้แน่นอน..
    ..
    (เต)  เตมีย์ใบ้
    (ขะ)  ชนก
    (สุ)    สุวรรณสาม
    (เน)  เนมิราช
    (มะ)  มโหสถ
    (ภู)    ภูริฑัต
    (จะ)   จันทกุมาร
    (นา)  นารท
    (วิ)    วิธูร
    (เว)  เวสสันดร
    ..
  • พู่กันของหูกวาง

    22 สิงหาคม 2547 19:50 น. - comment id 314833

    โห....อลังการมากครับ...พู่กันมาเยี่ยมคราวนี้ อึ้ง ทึ่ง เสียวครับ เป็นบทกลอนที่มีประโยชน์ น่ารัก เอ๊ย น่าอ่านมากครับ
  • คนเมืองลิง

    22 สิงหาคม 2547 21:16 น. - comment id 314878

    จะติดตามทั้งชาติเลยอิ อิ
    
    และน่าจะบอกด้วยว่าตอนต่อไปวันไหนจะได้ติดตามถูกอ่ะ
  • นางฟ้าซาตาน

    22 สิงหาคม 2547 21:58 น. - comment id 314909

    น่าติดตามมากๆ
    สนุกดีค่ะ
    
    จะรออ่านนะคะ
    
    
  • แก้วประเสริฐ

    22 สิงหาคม 2547 22:22 น. - comment id 314927

    เป็นงานที่สุดยอดสละสลวยด้วยอักษรงามจริงๆเพื่อนรัก  ขอให้ครบทั้งทศชาติด้วยนะและได้เก็บไว้แล้วนา อย่าลืมเสียล่ะเพื่อน
    
                             แก้วประเสริฐ.
  • เอกมาศ

    22 สิงหาคม 2547 23:35 น. - comment id 314978

    .........ดีครับ  ร่วม สนับสนุน.....
  • กุ้งหนามแดง

    23 สิงหาคม 2547 09:18 น. - comment id 315063

    ตอบกลับค่ะ:
    
    คุณพู่กันของหูกวาง
    
    ว่าไปแนะ เหมือนการแสดงกายกรรมกวางเจาเลยน่ะ อึ้งทึ่งเสียว เนี่ย..อิอิ..
    .....................................................................
    คุณคนเมืองลิง
    
    ค่อยๆ ชมไปแล้วกันน่ะค่ะ บอกหมดเดี๋ยวไม่สนุกนา..
    .....................................................................
    คุณนางฟ้าซาตาน
    
    มีหลายรสน่ะค่ะ ทั้งสิบชาติ  ว่าพระองค์จะบำเพ็ญบารมีทางด้านใด..ไม่เหมือนกันน่ะค่ะ บางชาติก็ใช้ปัญญาบารมีเข้าแก้ไขสถานการณ์, วิริยะ..และอื่นๆ โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
    ......................................................................
    คุณแก้วประเสริฐ
    
    ขอบคุณค่ะ เพื่อนรัก
    ......................................................................
    คุณเอกมาศ
    
    ขอบพระคุณค่ะ..
    ......................................................................
    
    ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่มีให้เสมอมา..
    
    ด้วยความเคารพ
    
    กุ้งหนามแดง
  • Robert TingNongNoi

    23 สิงหาคม 2547 11:48 น. - comment id 315131

     
    ใช้ภาษาได้งดงาม  จะ
    ขอตามอ่านต่อไปครับ ๚ะ๛
    
    size> 
    
  • tiki

    23 สิงหาคม 2547 12:27 น. - comment id 315180

    สนับสนุนคนตั้งใจทำงานค่ะ
  • คนจำแลง

    23 สิงหาคม 2547 13:24 น. - comment id 315224

    พักเที่ยง เข้ามาและคงมีเวลาไม่มาก..
    คงตอบตรงนี้ได้เรื่องเดียว..เห็นว่ามีความสำคัญ..อันนี้ฝากถ้อย..นะคุณกุ้ง...
    
    การเขียนกลอนแปดที่บังคับด้วย ชื่อสถานที่  และบุคคลยาวๆ  ค่อนข้างยาก..ยี่สิบกว่าบทข้างบน เชื่อว่าสามวันที่ผ่านมาคุณปวดหัวแย่..ต้องทุ่มเทมาก..
    
    กลอนแปด สัมผัสใน..ไม่บังคับ..แต่ถ้าไม่ใส่การอ่านก็จะไม่สละสลวย..
    
    ที่เคยพบ..บรรทัดที่2 และบรรทัดที่4 ในหนึ่งบท อาจจะตัดสัมผัสใน ที่5-7 ออกได้..เพียงแต่การใช้คำ เวลาอ่านอย่าให้เสียงสะดุด และส่วนมากจะตัดบรรทัดที่สอง...
    
    ชื่อบุคคลและสถานที่ยาวๆ จึงจะนำมาไว้ที่ บรรทัดที่สอง และสาม ได้ง่าย..ลองค่อยๆคิดดู...
    
    ทศชาติ..เคยอ่านในลักษณะกลอนแปดแล้ว เคยเห็นคนเขียนอยู่..ทำไมไม่ลองเลือกเขียนเฉพาะบทที่ คนคุ้นเคยกัน เช่น เวสสันดร และมโหสถ...ถ้าคุณกุ้งเขียนทั้งหมด..ใช้ทั้งเวลาและสมองมาก..บางทีการเขียนกลอนก็ไม่จำเป็นต้องทุ่มเทมากนะ..เพราะการดำรงอยู่ของเราอยู่ที่งานด้านอื่น...
    
    ผมแนะนำเฉยๆ ไม่ได้คัดค้าน ชอบก็เขียนไป มึนหัวก็หยุด หาอย่างอื่นทำ..สวัสดีครับ..
  • กุ้งหนามแดง

    23 สิงหาคม 2547 13:51 น. - comment id 315227

    คุณทิงนองนอย:
    
    ขอบคุณค่ะ แล้วจะทยอยนำลงน่ะค่ะ
    ....................................................................
    คุณทิกิ:
    
    ขอบคุณค่ะ ติดตามน่ะค่ะ..
    ....................................................................
    คุณคนจำแลง:
    
    ก่อนอื่นต้องขอบคุณมากที่คุณคนจำแลงได้ติดตามและแนะนำสิ่งดีๆ เสมอมา ให้กุ้งได้พัฒนาการเขียนกลอนไปได้มากกว่าจุดเริ่มต้นตั้งแต่เข้ามาในบ้านกลอนไทย..
    
    การเขียนเรื่องทศชาติเป็นงานที่ค่อนข้างจะใช้เวลาและความพยายามมากอยู่ค่ะ ต้องยอมรับพอสมควร กุ้งจะค่อยๆ เขียนค่ะ จะไม่เขียนรวดเดียวทั้งสิบเรื่อง เพราะจะเป็นการกดดันตัวเองเกินไป..แต่ก็จะพยายามเขียนเป็นเรื่องๆ แล้วแทรกด้วยเรื่องอื่นๆ ในระหว่างนั้นไปด้วย..เช่นธรรมะ  ความรัก ดอกไม้ใบหญ้า ฯลฯ ตามแต่จะเห็นสมควร
    
    เรื่องพระเวสสันดร กับ พระมโหสถ คิดว่าจะเขียนเป็นเรื่องท้ายๆ ค่ะ เพราะเรื่องค่อนข้างยาวมากๆ และกุ้งต้องทำความเข้าใจเรื่องทั้งหมดก่อนจึงจะนำมาเขียนได้..
    
    แต่มึนหัวก็หยุดค่ะ จะไม่เครียดใดๆ ตอนนี้งานที่รับผิดชอบที่บริษัทฯ ก็ไม่ได้รีบเร่งอะไร..เรื่องครอบครัวก็สงบดี เพื่อนฝูงก็คบกันราบรื่นเป็นปกติ ไม่มีอุปสรรคใดๆ มากางกั้น..
    
    ขอบคุณอีกครั้งในน้ำใจไมตรีที่คุณมีให้เสมอมา ตลอดเวลาได้รู้จักกัน..
    ..
  • ชัยชนะ

    23 สิงหาคม 2547 22:50 น. - comment id 315545

    มาโฆษณาไว้แบบนี้ไม่กลัวชัยชนะจะชิงตัดหน้าเขียนก่อนหรือครับ
    (ล้อเล่นนะครับ) จะคอยติดตามอ่าน
    นิทานมีคติเตือนใจชอบครับ
    
    อ่านนิทานเรื่องนี้แล้วสาว ๆ ที่ต้องการผิวพรรณเต่งตึง 
    ต้องไปสัมภาษณ์เตมีย์ซะแล้ว
    
    เพราะถนัดมากเรื่องตึง(หู)
    
  • Oracle

    24 สิงหาคม 2547 00:13 น. - comment id 315642

    ขอบคุณอย่างสูงที่เข้าไปอ่านงานเขียนของผมนะครับ คุณก็เขียนได้เยี่ยมจริงๆ
  • กุ้งหนามแดง

    24 สิงหาคม 2547 09:21 น. - comment id 315832

    คุณชัยชนะ:
    
    ไม่กลัวเลยค่ะ เพราะเป็นคนละสำนวนกันอยู่แล้วค่ะ..แกงอย่างเดียวกันแต่ปรุงต่างกันรสชาดย่อมต่างกันอยู่แล้ว
    
    คุณชัยชนะเขียนก็ดีค่ะ จะได้ตามอ่านน่ะค่ะ
    .....................................................................
    คุณOracle
    
    ไม่เป็นไรมิได้ค่ะ  ...ชอบอ่านธรรมะค่ะ จะได้พัฒนาชีวิตตนเองด้วย ...
    
    และจะได้ดูแนวว่าท่านอื่นนำเสนองานอย่างไร ได้ประสบการณ์ในตัวอีกต่างหาก..
    
    ขอบคุณค่ะที่เยี่ยมชมผลงาน..
    ...................................................................
  • กุ้งหนามแดง

    19 กันยายน 2547 11:47 น. - comment id 334260

    เนื่องจากผู้เขียนมีความประสงค์จะรวบรวม เตมีย์ใบ้ทั้งสองตอนให้อยู่หน้าเดียวกันดังนั้น เพื่อความสะดวกในการอ่าน... จึงขอคัดความคิดเห็นของเตมีย์ใบ้ ตอนที่ ๒ (บทที่ ๒๕- จบ) มาไว้ที่หน้านี้พร้อมกันเสียทีเดียว..
    
    จึงเรียนมาเพื่อทราบ
    
    ขอแสดงความนับถือ..
    
    กุ้งหนามแดง
    
    ..
    xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
     
     ความคิดเห็น : 
    งามมากครับในถ้อยรจนา
    ที่จำเรียงมานำเสนอ๚ะ๛
    
    
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 8650 - Robert TingNongNoi  
     รหัส - วัน เวลา : 321253 - 23 ส.ค. 47 - 17:30  
     
     
     
     ความคิดเห็น : 
    อ่านจบแล้วจ๊ะ คุณกุ้ง .. เก่งจังที่เรียงร้อยจนจบเรื่องและได้อรรถรสด้วยค่ะ  
     จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา  
     รหัส - วัน เวลา : 321260 - 23 ส.ค. 47 - 17:40  
     
     
     
     ความคิดเห็น : อ่านจบเหมือนกัน คืนนี้คงหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ  
     จาก : คนเมืองลิง  
     รหัส - วัน เวลา : 321415 - 23 ส.ค. 47 - 21:45  
     
     
     
     ความคิดเห็น : เยี่ยมจริงๆครับ ถ้าเขียนครบสิบชาติเมื่อไหร่ผมถือว่าเป็นบุญเป็นกุศลอย่างยิ่งทั้งคนเขียน และคนได้อ่าน
    
    ได้เพื่อนร่วมอุดมการณ์ เขียนงานแนวธรรมะแล้ว ;)  
     จาก : รหัสสมาชิก : 9022 - Oracle  
     รหัส - วัน เวลา : 321563 - 24 ส.ค. 47 - 00:11  
     
     
     
     ความคิดเห็น : ตอบกลับค่ะ:
    
    คุณทิงนองนอย
    
    ขอบคุณค่ะ เรื่องต่อไปรอสักนิดน่ะค่ะ
    ......................................................................
    คุณอัลมิตรา:
    
    ขอบคุณค่ะ..ยังมีอีกหลายเรื่องน่ะค่ะ..มีเวลาก็แวะชมได้เสมอค่ะ.. 
    ......................................................................
    คุณคนเมืองลิง
    
    อืม! กุ้งก็ฝันดีเหมือนกันน่ะค่ะ..
    ......................................................................
    คุณOracle
    
    ยินดีค่ะ...สำหรับเพื่อนร่วมอุดมการณ์..
    ......................................................................  
     จาก : รหัสสมาชิก : 7067 - กุ้งหนามแดง  
     รหัส - วัน เวลา : 321730 - 24 ส.ค. 47 - 09:26  
     
     
     
     ความคิดเห็น : มาอ่านพร้อมให้กำลังใจคนตึ้งใจทำงานนะคะ  
     จาก : ทิกิ_tiki ยังไม่ลงทะเบียน  
     รหัส - วัน เวลา : 321824 - 24 ส.ค. 47 - 12:42  
     
     
     
     ความคิดเห็น :            เรื่องนี้ให้อะไรใช่สอนสั่ง
               เห็นพลังความเพียรมีเปลี่ยนหนา
               ความตั้งใจมิไหวหวั่นมั่นวิริยา
               จะนำมาซึ่งสำเร็จเสร็จสมบูรณ์
    ขอแย้งหน่อยนะครับ คงไม่ว่ากัน
    เดี๋ยวคนอ่านจะเข้าใจสับสน
    (ผมมีหนังสือพระเจ้าสิบชาติเล่มเล็กอ่าน)
    
    ชาติแรกที่เป็นพระเตมีย์ บำเพ็ญ บารมีการออกบวช
    ส่วนชาติที่สอง ที่เป็นพระ มหาชนก บำเพ็ญบารมีความเพียร
    
    เพราะแต่ละชาติบำเพ็ญบารมีคนละอย่างกันครับ
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 5053 - ชัยชนะ  
     รหัส - วัน เวลา : 321849 - 24 ส.ค. 47 - 13:22  
     
     
     
     ความคิดเห็น : คุณ tiki:
    
    ขอบคุณค่ะ
    ...................................................................
    คุณชัยชนะ:
    
    อิอิ..ไม่เถียงค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีความเพียร (ความตั้งใจ) เพื่อที่จะหลุดพ้นจากไอศวรรย์นั้นก่อน เพื่อที่จะได้บำเพ็ญบารมีในการออกบวชตามมาน่ะค่ะ กุ้งฯ ก็ไปยกตรงจุดบำพ็ญเพียรซะเพราะเห็นว่าสิบปีมิใช่เวลาน้อยๆ เลยค่ะ..ขอบคุณค่ะ ที่แย้งมา..
    ..................................................................... 
     
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน