เพลงบทโศกบรรเลงวังเวงยิ่ง ทุกๆสิ่งเงียบเหงาดูเศร้าสร้อย สีแดงสดไหลเอ่อใจเหม่อลอย น้ำตาย้อยหมดหวังกำลังใจ ร่างนอนนิ่งไร้สติมิรับรู้ เพียงอยากอยู่แดนฝันอันหลับไหล ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างแล้วห่างไกล เหลือฝากไว้น้ำตาฆ่าผู้คน ด้วยเหตุว่าความรักโดนหักหลัง ถูกพลังความคิดสัมฤทธิ์ผล ชักจูงจิตเข้าทางที่มืดมน ทำร้ายตนด้วยมีดกรีดข้อมือ พ่อกับแม่มาเห็นเป็นแทบคลั่ง รีบฉุดยั้งชีวิตคิดยืดยื้อ ตื่นขึ้นมาอย่าทำตาพร่าพือ ขานเรียกชื่อกำชับรีบกลับมา ไม่มีวี่มีแววต้องแคล้วคลาด นุชนารถหลับไหลไร้กังขา ลมหายใจหยุดลงตรงนิทรา ดวงแก้วพร่ามืดดับลับนิรันดร์ เสียงสะอื้นร่ำไห้ชวนให้เศร้า เสียงคำเว้าคำวอนออดอ้อนฝัน ใจสลายอยากตายไปตามกัน เหลืออดกลั้นเป็นลมตรอมตรมใจ ................................................. แว่วยินเสียงเรียกขานกังวาลย์ก้อง หันไปมองแค่เพียงหทัยไหว เสียงคำหวานรอยยิ้มกรุ่มกริ่มไอ จากไปไกลสู่แคว้น...แดนสนธยา หลับฝันดีนะเธอ...
1 สิงหาคม 2547 16:28 น. - comment id 303974
สื่อถ่ายอารมณ์โศกออกมากับบทกลอน ได้อย่าง ดีเยี่ยม อ่านแล้วเสทือนใจมากครับ ยิ่งมาถูก กำกับด้วยกลอนที่เยือกเย็น ยิ่งเศร้าสร้อยไป ใหญ่เลย คนคิดสั้นคิดผิดโดยการฆ่าตัวตาย เพื่อหนีปัญหาโดยหาไม่รู้ว่า ในโลกนี้คนที่รักตัว เองที่สุดคือพ่อแม่และญาติมิตร หาใช่คนรักที่ตัว เองหลงแล้วยอมปลงชีวิตเพื่อเซ่นสรวงรัก ๚ะ๛ size>
1 สิงหาคม 2547 20:36 น. - comment id 304080
ลืมตาเพื่อฟังฉัน .. คนดี อย่าทิ้งร่างเยียบเย็นเช่นนี้ .. ใจหาย สิ่งดีๆอีกหลายอย่าง .. มากมาย รอเธอสัมผัสที่หัวใจ .. และศรัทธา รอยกรีดอาจฟ้องได้ .. ว่าเธอเจ็บ และน้ำตาที่ซ่อนเก็บ .. อาจบอกได้ถึงปัญหา แต่ความตายไม่ช่วยให้ .. อะไรดีขึ้นมา อยู่เพื่อพรุ่งนี้ดีกว่า .. ลมหายใจ ! ** แวะมาทักทายจ้า รุสึกเศร้าใจเล็กๆที่ได้อ่าน .. นางมารนึกไปถึงเพื่อนสนิทคนนึงที่เธอชอบกรีดข้อมือตัวเองประชดแม่ .. อยากให้เธอได้มาอ่านบทกลอนในหน้านี้ **
1 สิงหาคม 2547 22:11 น. - comment id 304117
ความเศร้าเป็นอย่างนี้นี่เอง อ่านกลอนเมจิคเชี่ยนถึงได้เข้าใจ
1 สิงหาคม 2547 22:12 น. - comment id 304118
ฤกษ์ นะ ชื่อไม่ขึ้น อิอิ
1 สิงหาคม 2547 22:37 น. - comment id 304130
เพราะมาก.. อ่านแล้วสะท้อนใจจัง... แวะมาทักทายน่ะ
2 สิงหาคม 2547 03:01 น. - comment id 304189
เขียนดีสะเทือนอารมณ์
2 สิงหาคม 2547 08:49 น. - comment id 304246
ยามสายัณรัญจวนชวนให้ฝัน ถึงคืนวันที่ผ่านมาน่าใจหาย หยิบปากกาขึ้นมาเขียนเพียรบรรยาย แล้วเรียงร่ายเป็นบทกลอนไว้สอนใจ ว่าครั้งหนึ่งเคยรักเป็นนักหนา แต่เวลาพาให้ใจหม่นหมอง ไม่เข้าใจใยไม่ถามตามครรลอง กลับมาต้องชอกช้ำระกำใจ คิดไปเองกับทุกสิ่งที่บังเกิด ใยไม่เปิดใจรับกับสิ่งใหม่ ฉันจึงต้องรับกรรมที่ทำไป ใยเธอไม่ใส่ใจในความจริง ให้ทุกสิ่งผ่านไปไม่หันหน้า มาพูดจาให้เข้าใจใช่หลบหนี ให้ฉันเศร้าเปล่าเปลี่ยวอยู่อย่างนี้ ด้วยวิธีของเธอฉัน.....ปวดใจ
2 สิงหาคม 2547 11:46 น. - comment id 304304
ถ้วงถ้อยคำ ยังคงความงดงามเหมือนเคยเลย มาอ่านเป็นกำลังใจให้...นะครับ
2 สิงหาคม 2547 13:00 น. - comment id 304387
ไม่ได้เข้ามาอ่านซะนานเลย..ท่านพี่เปายังคงตรึงอารมณ์ได้เรือ่ยเลยนะเจ้าคะ...เฮ่อ...คนเราไม่รู้คุณค่าของการเกิดมามีชีวิต จุดจบก็แค่นั้นแล....(มานพูดรายของมานหว่า..อีชั้นเป็นงงฮ๊า..) @^_^@
2 สิงหาคม 2547 15:17 น. - comment id 304456
ชีวิต หนอชีวิต ลิขิต ตนเอง ไม่ได้ จึงต้อง ปลิดชีพ วางวาย เสียใจ คือคน..สร้างมา พ่อแม่ รักลูก แสนรัก ไม่ประจักษ์ รักใคร เล่าหนา ให้กำเนิด ดั่งดวง ชีวา ต้องลา เพราะรัก ลวงใจ ............................................. งานเศร้าจัง .............................................
2 สิงหาคม 2547 21:02 น. - comment id 304664
โห..พี่เปาเรา สุดยอดจริง.. คิดถึงขอรับ..
2 สิงหาคม 2547 21:53 น. - comment id 304719
หลับไม่ตื่นไม่ฟื้นมา อีกคราครั้ง เจ้าหันหลัง จากโลกไป ใจสับสน คนอยู่หลัง ร่ำร้องหา ให้ทุกข์ทน แก้วกมล ตัดช่องน้อย แต่พอตัว
2 สิงหาคม 2547 22:50 น. - comment id 304780
เป็นเรื่องน่าเศร้ามากนะคะ คงเป็นอีกบทสะท้อนในสังคมปัจจุบัน หากพื้นฐานจิตใจไม่มั่นคงพอ ก็ยากเหลือเกินที่จะประคองให้ถึงฝั่ง ........................................................ ลี่...ผู้มาเยือน .