..๏ แดนดินถิ่นแว่นแคว้น........กันดาร ซากปรักประภาคาร.................ซ่อนเร้น ป่ารกปกครึ้มนาน....................นครสงบ แฝงซึ่งศิลปะเน้น.....................อยู่ใต้ธรณี ฯ ..๏ ภูผาหินตั้งเด่น..................อัศจรรย์ ช่างสลักแสนรังสรรค์..............ซับซ้อน รูปทรงบ่งพรสวรรค์.................ศิลป์ศาสตร์ นูนต่ำแกะจากค้อน.................เหล็กย้ำสะกัดทรง ฯ ..๏ อัปสรงามเลิศล้วน..............เริงระบำ จำหลักรูปนูนนำ....................ต่างฟ้อน หลากรูปลักษณ์ร่ายรำ.............เรียงส่าย- สะโพกเฮย ปรากฏดั่งควรย้อน.................อดีตครั้งเรืองสมัย ฯ ..๏ ลายนูนดุนขึ้นรูป...............เทวา เทียบทัศนะศิลป์พา.................ชื่นแท้ นารายณ์ลักษมีครา..................พิศเพ่ง งามดั่งคงชีพแล้.......................สถิตเบื้องเมืองแมน ฯ ..๏ หินทรายหลายขนาดตั้ง......ตามทรง ซ้อนทับรับเรียงคง...................เขตขั้น เป็นปราสาทดำรง....................เกินสหัส- สวรรษแฮ โดดเด่นเฉกชนชั้น.................เลิศด้วยบารมี ฯ ..๏ ขอบเขตอันกว้างใหญ่.......ไพศาล งามวิจิตตระการ.....................อวดอ้าง ยังแฝงซึ่งวิญญาณ..................ผู้เสก- สรรค์นา เคยถูกปล่อยรกร้าง.................เช่นนี้มานาน ฯ ..๏ พันหมื่นแสนล้านต่าง.......เรียงราย หินสลักจำหลักหลาย..............ขนาดนั้น กำเนิดจากพลังกาย................แลจิต เป็นปฏิมากรรมชั้น-...............เลิศล้ำงานศิลป์ ฯ ..๏ เทวาอารักษ์ล้วน................ดังคง- ชีพแล ปกปักษ์รักษ์ยืนยง...................คู่ฟ้า มวลมนุษย์ใดประสงค์.............ลักลอบ-ขายเฮย จงสาปชนชั่วช้า......................สู่ก้นอเวจี ๚ะ๛
24 ธันวาคม 2555 14:50 น. - comment id 171100
โคลงเพราะมากค่ะ
30 กรกฎาคม 2547 14:21 น. - comment id 302907
...โคลงชุดนี้ ..เขียนเกี่ยวกับปราสาทหินพนมรุ้ง ...ซึ่งแท้จริงแล้ว อยากเขียนถึงปราสาทหินนครวัดนครธมมากกว่า ...เพราะถือว่าเป็นสุดยอดของปราสาทหินทั้งหมด อันเกิดจากแรงศรัทธา วิริยะอุสาหะ ...และรวมถึงศิลปศาสตร์ในการคำนวนการก่อสร้าง และฝีมือช่างทั้งมวล ...ความเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด ก่อนที่จะล่มสลาย ...น่าทึ่งมากว่าในสมัยนั้น เขาสามารถทำได้เช่นไร และใช้ระยะเวลานานแค่ไหน ...ความยิ่งใหญ่และอารยะธรรมอันรุ่งเรื่องแห่งอาณาจักรในสมัยนั้น ...กับความอลังการของสิ่งปลูกสร้าง ...ก็เลยเก็บความรู้สึกชื่นชมบรรยายมาเป็นโคลงพอคร่าวๆ ...และถึงแม้ว่า การร้อยเรียงอาจจะเทียบไม่ได้เท่ากับความรู้สึกที่แท้จริง ...เปรียบเช่นผงฝุ่นบนทะเลทราย แต่ในแง่คิดแล้ว ...ก็พยายามอย่างยิ่งที่จะถ่ายถอดออกมาเป็นบทโคลง ...กระทั้งทุกวันนี้ เมื่อมีโอกาสไปเยือนปราสาทหิน ณ สถานที่ต่างๆ ...ทุก ๆ ครั้ง อดไม่ได้ที่จะปล่อยใจลอยไปในภวังค์ ...เสียงสังคีตดนตรี กลิ่นกำยาน และจินตภาพ ...ล้วนแต่อยู่ในมโนเท่านั้น ... สิ้นแล้ว สลายแล้ว อาณาจักรอันรุ่งเรืองในอดีต ...ควรแล้วหรือที่จะให้เป็นเยี่ยงนี้ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
30 กรกฎาคม 2547 14:27 น. - comment id 302909
ไพเราะและงดงามมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ มาชื่นชมผลงานนะค่ะ
30 กรกฎาคม 2547 17:15 น. - comment id 302999
ความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศใช่โคลงสี่สุภาพมา บรรยายความอลังการห์ของ ปราสาทหินพนม รุ้ง ทำให้เกิดภาพลักษณ์ของความสูงส่งของ สถาปัตยกรรมและความศักสิทธิ์ของสถานที่ฯ ได้ชัดเจน บวกกับความงดงามของภาษาที่ใช้ ทำให้สามารถที่จะจินตนาการตามไปได้อย่าง ชัดลึก โคลงส่อสื่อความหมายได้ดีเยี่ยม๚ะ๛ size>
30 กรกฎาคม 2547 20:43 น. - comment id 303054
...เยี่ยมครับ...หนึ่ง ในบรรดา ปราสาทหิน.ผมก็ว่านครวัดเป็นที่สุดแล้วนะครับ.....เขาว่าเป็น ศิลปะขอม ใช่ไหมครับ.......เยี่ยมจริง งานคุณนะครับที่เยี่ยม....ปราสาทหิน นั้นก็อลังการ ....พิษณุหริเกสวร บันดาล แค่ ชลันธรี....กัมพูชาลักษมี แห่ง สุริยวรมันต์ที่ ๒
30 กรกฎาคม 2547 21:24 น. - comment id 303071
ลายนูนดุนขึ้นรูป ฤาษี ริมต่างสลักชี กรอบกั้น คนมุงดูของดี เบียดแย่ง สาวแส้ปิดปากกลั้น หวีดว้ายส่ายหัว เคยไปหลายครั้ง มีคนพาดูตาฤาษีสลักริมหน้าต่าง อิอิ
30 กรกฎาคม 2547 21:55 น. - comment id 303092
สวัสดีค่ะคุณอัลมิตรา มาชื่นชมผลงานดีๆ ด้วยคนนะคะ กอกกเคยไปประสาทหินพนมรุ้งมาก็หลาย ครั้งเหมือนกันค่ะ แต่หากให้อธิบายรูปลักษณ์ ความรู้สึกเป็นภาษาพูด ยังทำไม่ได้ดีเท่าที่คุณ อัลมิตราบรรยายเป็นร้อยกรองเลย ขอชื่นชมอีกครั้งค่ะ
30 กรกฎาคม 2547 22:01 น. - comment id 303097
เป็นความคิดที่ถูกต้องที่สุด เพราะอย่างไรก็อยู่ในพื้นแผ่นดินไทย หากจะกระทำนอกแดนจะได้ชื่อว่าเป็นการไม่เคารพถิ่นเกิดจ้า ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับโคลงสี่สุภาพยากจะหาคนมาทัดเทียมได้ ผมเองยังเก็บไว้เป็นที่ระลึกเลยหวังว่าคงจะไม่ว่ากันนะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
31 กรกฎาคม 2547 13:00 น. - comment id 303295
ลี่ก็เป็นคนชอบเที่ยวเมืองเก่าเหมือนกันค่ะ ที่พนมรุ้ง และ เมืองต่ำ เป็นที่แรกๆ ที่ไปค่ะ ส่วนปราสาทที่เขมรก็มีโอกาสไปเยือนมาแล้วเหมือนกัน ตื่นตาตื่นใจจริงๆ ค่ะ ก็เกิดคำถามเหมือนๆ กับหลายคนว่า... *เขาสร้างได้อย่างไร* แต่ลี่เชื่อว่า...เบื้องหลังของสิ่งอัศจรรย์นั้น คือ *ศรัทธา* และ *รอยน้ำตา* ค่ะ บางครั้ง...อดคิดไม่ได้ว่า... สองสิ่งนี้ ดูเหมือนจะเป็นเงาอยู่คู่กันมาไม่เคยห่างหาย...จนแม้ทุกวันนี้ คุณอัลมิตราเขียนโคลงได้ไพเราะจริงๆ ค่ะ ..........................................................................................................
31 กรกฎาคม 2547 17:10 น. - comment id 303433
หินแต่ละก่อน มีที่มาครับ แต่ที่ไป ไม่รู้กระจัดกระจายไปอยู่บ้านเมืองไหนครับผม
31 กรกฎาคม 2547 21:54 น. - comment id 303599
ปราสาทหินเขาพนมรุ้ง...สวยงามมาก..ทั้งรูปลักษณ์..และความสำคัญ...ทางประวัติศาตร์.. คุณอัลมิตรา..เรียงร้อยให้เห็นอย่างไพเราะ..และงดงาม..ยากที่จะหาใครเหมือน..ชื่นชมมากค่ะ.... แวะมาเยี่ยมค่ะ..สบายดีมั้ยคะ.. .
1 สิงหาคม 2547 13:46 น. - comment id 303910
ขอบคุณค่ะ ทุกๆท่าน ปล . คุณราชิกา ..อัลมิตราสบายดีค่ะ
1 สิงหาคม 2547 22:31 น. - comment id 304127
มาเยี่ยมและชื่นชมนะ คุณอัลมิตรา ....http://203.146.250.87/unseen/i-san/panomrung.html
1 สิงหาคม 2547 23:16 น. - comment id 304149
ขอบคุณค่ะ คุณรัถยา ... หากมีโอกาสไปเที่ยวที่ไหน แล้วจะเขียนมาเล่าความอีกค่ะ :)
2 สิงหาคม 2547 06:01 น. - comment id 304215
เที่ยวแห่เทียนปีนี้ คงไม่มีอะไรมาเล่าให้เพื่อนฟัง เพราะอย่างว่าไปเที่ยวจริง ๆ ไม่ได้ไปเขียนได้แต่ความสนุก (ไม่ได้สาระมาด้วย) ปราสาทหินพนมรู้ง ผมยังไม่โอกาสได้ไป คงเป็นช่วงหนาว วางโครงการไว้แล้ว จะไปเที่ยวเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเล่าให้ทุก ๆ คนฟังครับ
2 สิงหาคม 2547 08:38 น. - comment id 304241
อื้อ .. คุณชัยชนะ ขอบคุณค่ะ .. อัลมิตราก็ไม่ได้ไปงานนี้เลย หลังจากเมื่อสองปีที่แล้วไปกับคุณพ่อ สวยนะ สวยมากๆ จำได้ว่า มีหัตถกรรมพื้นบ้านหลายชิ้นที่ซื้อติดกลับมาด้วย ค่ะ
14 สิงหาคม 2547 01:10 น. - comment id 311635
หูยยย เก่งนะครับเขียนบันยายได้เยอะขนาดนนี้
26 สิงหาคม 2547 22:18 น. - comment id 317296
ขอบคุณมากค่ะ คุณภาณวัฒน์ .. ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ