ลานขวัญ..

กุ้งหนามแดง


บนลานขวัญพรรณพร่างกระจ่างฟ้า
จากต้นกล้าสู่รวงสรวงสวรรค์
ทรัพย์ในดินสินเดิมเพิ่มผลพลัน
เป็นรางวัลนำส่งที่ลงแรง
ลมรำเพยพัดพริ้วแนวริ้วข้าว
ดังโน้มน้าวรวมตัวหัวระแหง
มาเก็บเกี่ยวเร่งรัดและจัดแจง
ร่วมปันแบ่งน้ำใจได้จุนเจือ
เป็นตำนานผืนดินถิ่นสยาม
เมื่อย้อนความนึกไปอาลัยเหลือ
เคยสัญจรสองฝั่งครั้งนั่งเรือ
ทั้งอาบเหงื่อต่างน้ำยามทำนา
เมื่อเมืองหลวงพร้อมรับขยับขยาย
ก็เริ่มขายหน่ายแหนงลำแข้งหา
สมบัติเดิมก่อร่างร่วมสร้างมา
ถูกตีค่าเป็นเงินเกินห้ามใจ
ไม่มีใครสืบสานงานเกษตร
เพราะสาเหตุเฉื่อยชาล้าสมัย
ผลตอบแทนน้อยนิดลองคิดไป
คนรุ่นใหม่ใครกันจะฝันครอง
งานแสนหนักเหนื่อยนักด้อยศักดิ์ศรี
ฝนไม่มีตาตอบเป็นรอบสอง
แม้น้ำหลากมากมาน้ำตานอง
บททดลองละเลยไม่เคยคิด
หรือนี่เป็นชะตาฟ้ากำหนด
แสนสลดหดหู่รู้ว่าผิด
จะหักห้ามรุ่งเรืองหรือเรืองฤทธิ์
ไม่มีสิทธิ์ห้ามโลกวิโยคครวญ..
..

......................................................................................

สืบเนื่องมาจากเรื่อง ผืนนาผืนสุดท้ายใจกลางกรุงเทพฯ..
..
ที่เห็นนี้เป็นทุ่งนา ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าเป็น ทุ่งนาแห่งสุดท้าย ที่อยู่กลางเมืองหลวง
อย่างกทม. นี่เอง ทุ่งนาแห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ อยู่ริมถนนใหญ่ โดยแทรก
อยู่ระหว่างร้านค้าที่จอแจ บนถนนอ่อนนุช (สุขุมวิท 77)
ทุ่งนาแห่งนี้เป็นของคุณแม่ อุบล อ. อายุ 61 ปี คุณแม่อุบล เล่าว่าทำนาที่นี่มา
30 กว่าปีแล้ว โดยเช่าที่ดินเขาทำ แต่ก่อนที่นี่ทุกคนก็ทำนากันหมดพอความเจริญมาถึง
ทุ่งนาก็เลยกลายเป็นตึกรามบ้านช่องไปหมด คนที่เคยปลูกข้าวก็ขายที่ดินให้เขาปลูกตึก 
ปลูกหมู่บ้าน คอนโดกันหมดแล้ว เพราะปลูกตึกได้กำไรดีกว่าปลูกข้าว
..
				
comments powered by Disqus
  • กุ้งหนามแดง

    9 กรกฎาคม 2547 15:31 น. - comment id 295632

    ข้อมูลเพิ่มเติม:
    
    ส่วนคนแม่อุบล ยังไม่ยอมเลิกลา ยังคงทำนา ต่อมาจนถึงทุกวันนี้ แถมยังทำนาได้ถึงปีละ 2 ครั้ง 
    ปีที่แล้วได้ข้าวตั้ง 15 เกวียน และก็ขายอยู่ที่บ้านนี่แหละ ทุกวันนี้ไม่ได้ลงมือทำนาเองแต่จ้างชาวนา
    จาก อ.บางน้ำเปรี่ยว จ.ฉะเชิงเทรา มาทำแทน และไม่ได้ใช้ควายไถนาหรอกนะ เปลี่ยนมาใช้ควายเหล็ก*
    เป็นเครื่องทุ่นแรงแทน เพราะเดี๋ยวนี้ในกรุงเทพฯไม่มีควายแล้ว (คงถูกคนเอาไปทำลูกชิ้นกันหมดแล้ว)
    ...
    ...
    ขอคารวะคุณแม่อุบล 
    จากลูกหลานชาวนาไทย คนหนึ่ง
    ..
  • Robert TingNongNoi

    9 กรกฎาคม 2547 16:37 น. - comment id 295647

    
    ทิงนองนอยก็อยากทำนาเหมือนกันคร๊าบ
    แต่คิดว่าถ้าเปลี่ยนที่นาผืนนี้เป็นโรงงานซึ่ง
    อาจมีคนงานเป็นร้อยคนมาทำประโยชน์กับ
    ที่นาผืนนี้ และ คุณแม่อุบลก็ไปซื้อที่นาผืน
    ใหม่ทำ ก็ไม่มีใครเสียประโยชน์
        อย่างนี้เค้าเรียกว่าการมองต่างมุมคร๊าบ
        คุณกุ้งหนามแดงคงไม่โกธรนะคร๊าบ๚ะ๛
    
    size>
  • กุ้งหนามแดง

    9 กรกฎาคม 2547 16:45 น. - comment id 295652

    ตอบคุณ กั้งฯ (อ้าว! เขาเปลี่ยนแล้วนี่)
    
    มองต่างมุมน่ะค่ะ...
    โกรธทำไม..เหรอค่ะ..
    ..
    ความรู้สึกของแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างเป็นธรรมดา...ค่ะ..
    ..
    ใช่ไหมค่ะ คุณRobert  TingNongNoi..
    ..
  • magic

    9 กรกฎาคม 2547 19:15 น. - comment id 295719

    ทุ่งท้องนา..เขียวขจี..ที่ได้เห็น
    ต้องหลบเร้น..แทรกระหว่าง..กลางตึกใหญ่
    ขึ้นระฟ้า..ดาษดา..ค่าเปลี่ยนไป
    แหล่งทรัพย์ไทย..อาหารกิน..ลืมสิ้นลือ
    
    ................................................................
    เขียนดีจังค่ะ
    ................................................................
  • ลี่...ชวนมาเยือน

    9 กรกฎาคม 2547 22:03 น. - comment id 295796

    เขียนได้ดีจังเลยค่ะ....
    ถ่ายทอดเรื่องราวได้เห็น และ เข้าใจ ในความรู้สึกได้ดีมากค่ะ
    ................................................................................................
    
    ลี่...ผู้มาเยือน
    .
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    10 กรกฎาคม 2547 08:32 น. - comment id 295894

    ลานขวัญ..สะกิดความทรงจำสมัยเด็กๆ
    เคยไปเห็นคุณตาคนหนึ่งแกทำนาของแกจนแกตายเดี๋ยวนี้เป็นตึกไปหมดแล้วตอนที่แกทำนาเกี่ยวข้าวเสร็จแกจะไม่นวดทันที จะกองไว้เต็มลานเป็นระเบียบแล้วก็จะทำขวัญข้าว เรียกถูกรึเปล่าก็ไม่ทราบ จะมีดอกไม้ธูปเทียนอาหารคาวหวานท่องบนอะไรคล้าย ๆ จะขอบคุณแม่โพสพอย่างนั้นและ จึงแบ่งข้าวมานวดด้วยควายย่ำนวดไปทุก ๆ วันจนหมด อิอิใครมีความรู้ความเข้าใจเรื่องอย่างนี้เล่าให้ฟังบ้างสิ อิอิ
  • หมึกมรกต

    10 กรกฎาคม 2547 13:37 น. - comment id 295968

    เขียนได้ดีครับ
    :)
  • ผู้หญิงไร้เงา

    10 กรกฎาคม 2547 23:36 น. - comment id 296195

    ยอดเยี่ยมจริง  ๆ เลยค่ะ มาชื่นชมในผลงานนะค่ะ
  • แก้วประเสริฐ

    11 กรกฎาคม 2547 11:50 น. - comment id 296505

    อุดมการณ์สานไว้ให้ลูกหลาน
    เป็นตำนานขานต่อมิหมดสิ้น
    เกลือจิ้มเกลือประชดไว้ในแผ่นดิน
    ฝูงแร้งรินกลิ่นทะเลาะหมาใน.
    
                        แก้วประเสริฐ.
  • กุ้งหนามแดง

    11 กรกฎาคม 2547 16:52 น. - comment id 296711

    คุณmagic:
    
    แสนเสียดายวันวารที่ผ่านพ้น
    ภาพปะปนย้อนมาพาถวิล
    มองตึกใหญ่ระฟ้าเป็นอาจินต์
    ทดแทนสิ้นผืนนาลาลบไป..
    
    ..เสียดายเนอะ...
    ....................................................................
    
    คุณลี่...ชวนมาเยือน
    
    ขอบคุณค่ะ..
    ....................................................................
    
    คุณฤกษ์ ชัยพฤกษ์:
    
    เคยเห็นเหมือนกันน่ะค่ะ ความเหนื่อยยากของชาวนา กว่าจะมาเป็นข้าวแต่ละเมล็ด..
    .....................................................................
    
    คุณหมึกมรกต:
    
    ขอบคุณค่ะ..
    .....................................................................
    
    คุณผู้หญิงไร้เงา:
    
    ขอบคุณค่ะ..ที่แวะมาค่ะ
    ......................................................................
    
    คุณแก้วประเสริฐ:
    
    ดีใจจัง กลับมาแล้ว..
    ......................................................................
    
    
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน