ปากกา...มิพร่อง...น้ำหมึก บันทึก...แห่งดาว...ร้าวไห้ สายธาร...เซาะฝั่ง...พังไป อักษร...เลือนได้...ฉับพลัน ด้วยรัก...ด้วยใช่...หมายวิชา ทุมเท...เหนื่อยล้า...เพราะมุ่งมั่น อ่อนแอ...ท้อแท้...เพิ่มทุกวัน ฝ่าฟัน...นานไหม...ไฟจะคืน พยายาม...ทบทวน...ไม่เคยข้าม ทั้งคัดตาม...ท่องจำ...ไม่เคยฝืน ได้ ม.ผ...คือผล...ทนกล้ำกลืน ปี๔๗...ขมขื่น...มิถุนา ขนตำรา...มาเปิดดู...อยู่คนเดียว แปลความหมาย...หลายหลายเที่ยว...ทั้งค้นหา กว่าเข้าใจ...ในเหตุผล...จนปัญญา ใช่หรือเปล่า...คำกล่าวลา...ภาษาเขียน ทั้งฤทัย...ให้หมดใจใต้อักษร รู้ตัวว่า...วิชาอ่อน...ต้องปรับเปลี่ยน ขีดเส้นใต้...สีแดงไว้...ในบทเรียน ถ้าไม่ใช่...ต่อให้เพียร...เกรดยังกลาย เรียนต่อไป...วิชาใหม่...ในเสียงเงียบ ภาษาเขียน...ค่าฤๅเทียบ...ความหวามไหว เสียงกมล...สนทนา...ภาษาใจ ใช่เดียวดาย...ในเสียงเงียบ...ถูกเติมเต็ม..... เวลาไม่เคย...ลบความทรงจำ
30 มิถุนายน 2547 20:47 น. - comment id 291758
ช่องความเงียบเสียบด้วยอักษรา รรักษาเรียนรู้ฤาอ่านเขียน ตั้งที่จิตคิดค้นวนเวียนเพียร รู้เพิ่มเปลี่ยนเรียนเริ่มจักเติมเต็ม
30 มิถุนายน 2547 23:54 น. - comment id 291810
เรียนวิชาครานี้ที่เพิ่งเริ่ม และต่อเติมความหมายให้คลายเศร้า เรียนวิชาความรักพักดั่งเงา จึงมีเราชิดใกล้ไม่ห่างกัน *-*กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ พี่เขาคงยังไม่ว่างมั้งค่ะ ถึงยังไม่ติดต่อมา แต่เชื่อความรักของพี่เขาและน้องยังมั่นคงต่อกันเสมอ คิดถึงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยนะค่ะ*-*
1 กรกฎาคม 2547 08:58 น. - comment id 291865
เขียนได้ดีมีแง่คิด หมั่นเขียนหน่อย
1 กรกฎาคม 2547 10:03 น. - comment id 291886
รูปสวย กลอนเพราะ... สวัสดีทะเลดาว ... ดีใจที่แวะไป พันดาวแวะมาอ่านกลอน สวยๆของทะเลดาวแล้ว ชอบจัง
1 กรกฎาคม 2547 12:49 น. - comment id 291922
อันกลอนหกกลอนแปดและกลอนเก้า ดูมันเข้าตำราหาใดจะเหมือน ทะเลดาวเรามิได้แชเชือน เปรียบเสมือนยกตำรามาแผ่กาง แก้วประเสริฐ.
2 กรกฎาคม 2547 16:21 น. - comment id 292223
ผิวเพลงไผ่ หอมดอกโมกขจรไกลกว้างไพศาล และตระการบานในหัวใจเหงา แว่วเสียงขลุ่ยแผ่วหวานมานานเนา เพลงขลุ่ยเลาลำไผ่ใต้ชายคา จับใจความบรรเลงเพลงขลุ่ยผิว เหมือนรอยริ้วพริ้วไหวของใบหญ้า และหอมโมกผลินานบานช้าช้า ในแววตาเจิดจ้าแม้พร่าลอย นิ้วที่พรมเพลงคล้อยล้วนรอยร่อง และสอดคล้องเพลงบอกดังดอกสร้อย บอกความหมายเอาไว้มิใช่น้อย ให้เพลงลอยล้อลู่สู่ผู้ฟัง ถึงยามเย็นชายป่าชลาชล เพลงขลุ่ยยังอึงอลปนความหวัง ไม่สามารถบรรเลงเพลงภวังค์ คุณต้องฟังเอาเองบทเพลงนั้น แต่วันนี้ในกมลของคนกล้า หวั่นเกรงว่าอ่อนเพลียจนเสียขวัญ เพลงขลุ่ยเคยพริ้วไหวไปด้วยกัน และรังสรรค์เพลงไว้ในลำเลา เสียงเพลงซึ่งพริ้มพรายคล้อยบ่ายค่ำ จวบเย็นย่ำลำพังยังเงียบเหงา อยากฟังเสียงขลุ่ยบ้างแม้บางเบา และจะเฝ้ารอฟังอย่างตั้งใจ.. ----- คิดถึงมากนะคนดี.... -----