ด้วยนิรันดร์นั้นหรือ...คืออะไร ..?..ลำน้ำน่าน ๏ งามพิสุทธิ์มากมายในงานเขียน ซึ่งพากเพียรบริจาคหากทำได้ ส่วนตัวฉันนั้นอนิจจังกับความตาย จะมาสายเช้าค่ำ..ถือธรรมมา ๚ ๏ คืนง่วงลา..ตาปิดสนิทก่อน ร่างจะพักจะผ่อนหย่อนบ้างหนา จึงอ่อนลู่คุดคู้หลับไปกับตา ต้องจากลาหน้าจอแห่งพ่อคุณ ๚ ๏ มิได้อ่านงานเสนาะอันเพราะพร้อง ถ้อยสนองปนิธานค้านวายวุ่น ถ้อยอันงามสงบใจในการุณย์ ยอผลบุญธรรมดีปริ จาคะ.. ๚ ๏ การบริจาค..ซากไปเชือด....เลือดเนื้อ..ผลคือกุศลขั้นสุดท้ายเสียสละ.. ให้ร่างกาย จากธาตุสี่ ..นี้..อวัยวะ ปริจาคะ ได้มอบเยื่อ...เผื่อทุกคน ๚ ๏ ให้เป็นแบบอย่างดีแก่พี่น้อง ความหมายคล้อง บริจาคเป็นกุศล ขอได้คิดถ้วนทั่วอย่ามัววน วันสุดท้ายแม้ร่างตนต้องทิ้งกัน ๚ ๏ แม้ฟัน...ทอง.สองสลึง..ตรึงในปาก ก็ลำบากเอาไปมิได้...ให้แปรผัน จะมุ่งแร่แห่วัตถุสิ่งใดกัน ของเรา.นิรันดร์?.แม้..วันสุดท้าย.....ตาย...แค่เมรุ.... ๚ ๏ คือสิ่งเดียวที่ตนหอบกอบไปได้ ผ่านนิรันดร์มากมายให้แลเห็น... คือ..บาป......บุญ......ธรรม..กระทำ..กรรม..... ร้อน.. เย็น ที่ตัวเป็น..เจ้าของ..จองชาติ..กรรม... ๚ ทิกิ_tiki งานตอบลำน้ำน่าน..กลับสู่ความหมายนิรันดร์ ชาติ ..ชรา...มรณะ...ชาติ.. ชรา..มรณะ. .โอ สังสารวัฏฏ์..ใครจะบอกได้ว่าชาติต่อไป..กรรมที่กระทำไว้นี้ จะนำส่งไปเกิดเป็นอะไร.สัตว์นรก.เปรต อสุรกาย สัตว์ติรัจฉาน มนุษย์ เทวดา_เทพ พรหม..? http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_55750.php ด้วยนิรันดร์นั้นหรือ...คืออะไร ..?.. จารหน้าจอ เมื่อ ๐๗.๐๐ นาฬิกา เพลาเช้าอาทิตย์สีเงินผ่านเมฆสีเทา วันพระพุธ.ที่ยี่สิบสาม...๒๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๘ สยาม..กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร....ประเทศไทย เด็กๆนั้น ปราถนาแค่ มนุษย์ ต่อ มนุษย์ รักกัน ไม่เกลียดกัน ไม่ทะเลาะ แย่งชิง ทรัพย์ ของรักของหวง กัน ไม่อาฆาต กัน ไม่พยาบาทกัน ไม่ อาฆาต มาดร้าย กัน พูดกันให้เพราะๆ ต่อกัน ให้ มีชีวิตสงบสุข สันติ โอ พูดไปก็เหมือน ยุคพระศรีอาริย์เมตไตร อีกไม่รู้กี่ล้านชาติ ข้างหน้าโน้น..อันไกลโพ้น ส่วน มนุษย์เราในปัจจุบัน ก็ยัง ถือครอง วิบากกรรม คือผลแห่งการกระทำ เก่า ของเราเองในภพชาติ อันใกล้ ส่งผลแรงสุด กับภพชาติอันไกลแต่กรรม-การกระทำอันแรงส่งมานั้นอยู่ ส่วนภพชาติปัจจุบันนี้ เราก็ยังส่งการกระทำแรงด้วยกรรม อันแปลว่า การกระทำ ทั้งดี ทั้งชั่ว กันอยู่ ตลอด ยี่สิบสี่ชั่วโมง ตลอด ทุกนาที ทุกวินาที เรายังมี บาป บ้าง บุญบ้าง ตลอดเวลา เปรียบ เรายังต้มน้ำด้วยไฟกิเลศตัณหาภวตัณหาความอยากได้โน่นได้นี่ วิภวตัณหา..ความอยากไม่เอาโน่นไม่เอานี่ เออหนอ เราจะพ้นภพชาติไปได้อย่างไรเล่า ลำน้ำน่าน ข้าพเจ้าจึงถึงได้บอกว่า ความเป็นนิรันดร์ นี้คือ สังสารวัฏฏ์ แห่งการเวียนว่ายตายเกิด นี้ อย่างแน่แท้ นะท่าน คนอย่างเรา อันเวียนว่ายอยู่ในทะเล วิบากกรรมของตนเอง นี้ จึงจะว่ายอยู่เรื่อยๆ ทั้งภพทั้งขาติ ทุกภพ ทุกชาติ มิขาดเลย ท่านจะมาประคองข้าฯ ขึ้นฝั่งใด ได้ไฉนเล่า ลำน้ำน่านผู้แสนดี ของข้าฯ เอ๋ย สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติ Copyright ..All rights reserved ๏-:*``*:--:*``*:- -:*``*:- -:*``*:- -:*``*:- -:*``*:- ๚ ทิกิ_tiki
23 มิถุนายน 2547 08:12 น. - comment id 288491
กลับสู่ความหมายนิรันดร์ ชาติ ..ชรา...มรณะ...ชาติ.. ชรา..มรณะ. .โอ สังสารวัฏฏ์..ใครจะบอกได้ว่าชาติต่อไป..กรรมที่กระทำไว้นี้ จะนำส่งไปเกิดเป็นอะไร..เปรต อสุรกาย สัตว์ติรัจฉาน มนุษย์ เทวดา เทพ พรหม..? http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_55750.php ด้วยนิรันดร์นั้นหรือ...คืออะไร ..?..
23 มิถุนายน 2547 08:23 น. - comment id 288492
ทีจริงทาง 7 สาย คือ เปรต อสุรกาย สัตว์ติรัจฉาน มนุษย์ เทวดา พรหม และ นิพพาน แต่ไม่นำนิพพานมาไว้ ณ ที่นี่ ด้วยมิอาจแตะต้อง ภาวะ ไร้ภาวะนั้นได้ ขออถัย นำมา เพียง 6 สาย เท่านั้น ท่านผู้รู้ อภิธรรม โดยเฉพาะ คุณดอกแก้ว ขอได้โปรด งดโทษข้าพเจ้า...ภาวะนั้น เป็น ultimate Desire ก็ จริง แต่เด็กๆนั้น ปราถนาแค่ มนุษย์ ต่อ มนุษย์ รักกัน ไม่เกลียดกัน ไม่ทะเลาะ แย่งชิง ทรัพย์ ของรักของหวง กัน ไม่อาฆาต กัน ไม่พยาบาทกัน ไม่ อาฆาต มาดร้าย กัน พูดกันให้เพราะๆ ต่อกัน ให้ มีชีวิตสงบสุข สันติ โอ พูดไปก็เหมือน ยุคพระศรีอาริย์เมตไตร อีกไม่รู้กี่ล้านชาติข้างหน้าโน้น..อันไกลโพ้น ส่วน มนุษย์เราในปัจจุบัน ก็ยัง ถือครองวิบากก รรม คือผลแห่งการกระทำ เก่า ของเราเองในภพชาติ อันใกล้ส่งผลแรงสุด กับภพชาติอันไกลแต่กรรม-การกระทำอันแรงส่งมานั้นอยู่ ส่วนภพชาติปัจจุบันนี้ เราก็ยังส่งการกระทำแรงด้วยกรรม อันแปลว่า การกระทำ ทั้งดี ทั้งชั่ว กันอยู่ตลอด ยี่สิบสี่ชั่วโมง ตลอด ทุกนาที ทุกวินาที เรายังมี บาป บ้าง บุญบ้าง ตลอดเวลา เปรียบ เรายังต้มน้ำด้วยไฟกิเลศตัณหาภวตัณหาความอยากได้โน่นได้นี่ วิภวตัณหา..ความอยากไม่เอาโน่นไม่เอานี่ เออหนอ เราจะพ้นภพชาติไปได้อย่างไรเล่า ลำน้ำน่าน ข้าพเจ้าจึงถึงได้บอกว่า ความเป็นนิรันดร์ นี้คือ สังสารวัฏฏ์ แห่งการเวียนว่ายตายเกิด นี้ อย่างแน่แท้ นะท่าน คนอย่างเรา อันเวียนว่ายอยู่ในทะเล วิบากกรรมของตนเอง นี้ จึงจะว่ายอยู่เรื่อยๆ ทั้งภพทั้งขาติ ทุกภพ ทุกชาติ มิขาดเลย ท่านจะมาประคองข้าฯ ขึ้นฝั่งใด ได้ไฉนเล่า ลำน้ำน่านผู้แสนดี ของข้าฯ เอ๋ย ทิกิ_tiki ทิกิ_tiki
23 มิถุนายน 2547 08:34 น. - comment id 288494
น้องมัทจะลาไปไหนคะ พี่ทิกิ จะอยู่คู่เคียงคอยให้กำลังใจอย่าสับสน ชีวิตมนุษย์มันช้ำอลวน เราก็คนเขาก็คนวนด้วยกรรม โปรดเข้ามาหาพี่พี่แม้นน้องจะไม่คิดว่าพี่นี้คอยตามติด คอยให้ทางสว่างทางกุศล รู้ด้วยรู้ว่าวทางรักมันมักจะอับจน แต่เราก็เป็นคน เขาก็เป็นคน..น้องเอ๋ย เรามาหาหนทางดี..นี้ด้วยกัน อย่าจากไปเลย ที่นี่ เราต้องมาปลงวิบาก กันทุกวันแหละค่ะน้องขา อ่าน งานคุณลำน้ำน่าน นั่นก็ทีรักอีกคนของเราเช่นกัน ท่านก็มาปลงวิบากแต่เช้า มาด้วยพี่ ก็มาเจอน้องมัทอีก โอหนอ วิบากของเราทั้งหลาย ราวสายโซ่ร้อยรัดมนุษย์ไว้ในสังสารวัฏฏ์ อย่างแท้จริง ทิกิ_tiki จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki รหัส - วัน เวลา : 292710 - 23 มิ.ย. 47 - 08:32 http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_55760.php
23 มิถุนายน 2547 08:52 น. - comment id 288499
โอ้ ลำน้ำน่านเพื่อนรักเอ๋ย เห็นทีคุณดอกแก้วจะมาว้ากให้เสียอีกละมังเนี่ย แล้ว หนทาง ไปสู่นรก หายไปไหน เอ้า เอาใหม่ ตายแล้วมีถนน 7 สายคอยรับ 1 นรก 2.เปรต อสุรกาย 3.สัตว์ติรัจฉาน 4 มนุษย์ 5. เทวดา เทพ 6.พรหม 7 .ไปนิพพาน เขียนแบบไม่เปิดตำราใดใดทั้งสิ้น แหละคุณดอกแก้วเจ้าขา เชิญมา อรรถาวิสัชนาได้แต่เช้าเลย ขอบิณฑบาตรธรรมเช้าน้หน่อยค่ะ ทิกิ_tiki
23 มิถุนายน 2547 09:01 น. - comment id 288502
แวะมาเยี่ยมชมครับผลงานที่เสนอผ่านงานเขียนอันมีค่า ยังล้ำค่าเหมือนเดิม
23 มิถุนายน 2547 09:16 น. - comment id 288506
ทีจริงทาง 7 สาย คือสัตว์นรก .. เปรต_ อสุรกาย สัตว์ติรัจฉาน มนุษย์ เทวดา พรหม และ นิพพาน แต่ไม่นำนิพพานมาไว้ ณ ที่นี่ ด้วยมิอาจแตะต้อง ภาวะ ไร้ภาวะนั้นได้ ขออถัย นำมา เพียง 6 สาย เท่านั้น ท่านผู้รู้ อภิธรรม โดยเฉพาะ คุณดอกแก้ว ขอได้โปรด งดโทษข้าพเจ้า. ..ภาวะนั้น เป็น ultimate Desire ก็ จริง แต่เด็กๆนั้น ปราถนาแค่ มนุษย์ ต่อ มนุษย์ รักกัน ไม่เกลียดกัน ไม่ทะเลาะ แย่งชิง ทรัพย์ ของรักของหวง กัน ไม่อาฆาต กัน ไม่พยาบาทกัน ไม่ อาฆาต มาดร้าย กัน พูดกันให้เพราะๆ ต่อกัน ให้ มีชีวิตสงบสุข สันติ โอ พูดไปก็เหมือน ยุคพระศรีอาริย์เมตไตร อีกไม่รู้กี่ล้านชาติ ข้างหน้าโน้น..อันไกลโพ้น ส่วน มนุษย์เราในปัจจุบัน ก็ยัง ถือครองวิบากก รรม คือผลแห่งการกระทำ เก่า ของเราเองในภพชาติ อันใกล้ ส่งผลแรงสุด กับภพชาติอันไกลแต่กรรม-การกระทำอันแรงส่งมานั้นอยู่ ส่วนภพชาติปัจจุบันนี้ เราก็ยังส่งการกระทำแรงด้วยกรรม อันแปลว่า การกระทำ ทั้งดี ทั้งชั่ว กันอยู่ ตลอด ยี่สิบสี่ชั่วโมง ตลอด ทุกนาที ทุกวินาที เรายังมี บาป บ้าง บุญบ้าง ตลอดเวลา เปรียบ เรายังต้มน้ำด้วยไฟกิเลศตัณหาภวตัณหาความอยากได้โน่นได้นี่ วิภวตัณหา..ความอยากไม่เอาโน่นไม่เอานี่ เออหนอ เราจะพ้นภพชาติไปได้อย่างไรเล่า ลำน้ำน่าน ข้าพเจ้าจึงถึงได้บอกว่า ความเป็นนิรันดร์ นี้คือ สังสารวัฏฏ์ แห่งการเวียนว่ายตายเกิด นี้ อย่างแน่แท้ นะท่าน คนอย่างเรา อันเวียนว่ายอยู่ในทะเล วิบากกรรมของตนเอง นี้ จึงจะว่ายอยู่เรื่อยๆ ทั้งภพทั้งขาติ ทุกภพ ทุกชาติ มิขาดเลย ท่านจะมาประคองข้าฯ ขึ้นฝั่งใด ได้ไฉนเล่า ลำน้ำน่านผู้แสนดี ของข้าฯ เอ๋ย ทิกิ_tiki แก้ให้ใหม่ ใส่ ทางแรกไว้ให้ก่อนเลย โอ้ ความห่างเหินพระธรรม ทำให้เราเขียนผิดจนได้นะ
23 มิถุนายน 2547 09:54 น. - comment id 288514
ไม่ได้มองอย่างใครๆหรอกว่างานนี้จะดีจะเลวเพียงใดแต่มองที่ความตั้งใจที่คิดจะทำงานมากกว่า ไม่เห็นเองคงไม่เชื่อหรอกว่าคนๆหนึ่งจะตั้งใจทำงานมากขนาดนี้ ผมว่านะกลอนไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำว่า ไพเราะ สวย มีความหมาย กินใจอะไรเลยจริง ความรักที่จะตั้งใจทำกลอนออกมาจากใจต่างหากคือ กลอนที่เป็นกลอนอย่างแท้จริง ตั้งใจทำงานนะครับ
23 มิถุนายน 2547 10:17 น. - comment id 288519
แวะมาเยี่ยมชมครับผลงานที่เสนอผ่านงานเขียนอันมีค่า ยังล้ำค่าเหมือนเดิม จาก : ก. บ้านไร่ รหัส - วัน เวลา : 292720 - 23 มิ.ย. 47 - 09:01 ขอบคุณ คุณ ก.บ้านไร่ค่ะ ทิกิ_tiki
23 มิถุนายน 2547 10:24 น. - comment id 288520
ไม่ได้มองอย่างใครๆหรอกว่างานนี้จะดีจะเลวเพียงใดแต่มองที่ความตั้งใจที่คิดจะทำงานมากกว่า ไม่เห็นเองคงไม่เชื่อหรอกว่าคนๆหนึ่งจะตั้งใจทำงานมากขนาดนี้ ผมว่านะกลอนไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำว่า ไพเราะ สวย มีความหมาย กินใจอะไรเลยจริง ความรักที่จะตั้งใจทำกลอนออกมาจากใจต่างหากคือ กลอนที่เป็นกลอนอย่างแท้จริง ตั้งใจทำงานนะครับ จาก : juan รหัส - วัน เวลา : 292732 - 23 มิ.ย. 47 - 09:54 ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ ทิกิ_tiki
23 มิถุนายน 2547 12:21 น. - comment id 288559
เหมือนได้อ่านธรรมบรรยายจริง ๆ ไม่เก่งอภิธรรม แต่ก็เคยได้อ่านธรรมมาบ้าง
23 มิถุนายน 2547 13:11 น. - comment id 288583
อันที่จริงแล้ว ก็ต้อง เป็นเช่นให้ถูกต้องเลยนะคะ ว่า สังสารวัฏฏ์ อันเป็นนิรันดร์ ก็ คือ ชาติ ชรา อาพาธ มรณะ เกิด แก่ เจ็บ ตาย แน่นอนทีเดียว บางที่ทิกิไม่เขียนธรรมเลย เพราะรู้ว่าเด็กๆรับไม่ค่อยได้ อยากให้ทุกคนได้อ่านข้อคุยกันเรื่องใครคนหนึ่ง ซึ่งเจ้าตัวจะได้มาอ่านไหม...ขอให้ทิกิ ได้ เขียนสักหน่อย...ขอเป็นธรรมทานได้ไหม... เอาไปทำเรื่องสั้นแล้วนะคะ http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=2689
23 มิถุนายน 2547 13:16 น. - comment id 288588
๏ เมื่อรากหยั่ง ..ดินชุ่ม...คลุมราก..ต้น ใบที่วน..สู้ลม..ก็พรมมั่น ปรับตัวเป็น ฝอยกระเซ็น..เส้นเล็กนั้น เพื่อฝ่าฟัน พายุลม...อันถ่มกระเซิง... เปรียบประดุจ..มนุษย์เรา..ในนาวา คลื่นลมกล้า....พายุร้าย...ร่ายสุดเหลิง ถูกคลื่นโยน...โจนกล้า...ท้าชั้นเชิง มิรู้หลบ...จะยืนเบิ่ง...จะบอกใคร ก็โยนตัวตามคลื่นลมอันพรมพร่ำ คลื่น และ ลม จะกระหน่ำ ..สักเพียงไหน ก็ก้มหน้า..งุดงุด มุดน้ำไป หวังให้โผล่ขี้นใหม่...ไกลคลื่นลม แต่เปรียบสน ทนไสว...เห็นใบแกว่ง รับลมแรง รับลมแย้ง ได้ทุกหน อยู่ที่การ...เปลี่ยนปรับ..รู้จับตน วิวัฒนาการ..อันเลอล้น..บนค่าธรรม ๚ งานดีเหลือเกินค่ะ คุณดอกแก้วคะ ทิกิ_tiki จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki รหัส - วัน เวลา : 292766 - 23 มิ.ย. 47 - 11:14 ตอบคุณดอกแก้วไว้ที่ http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_55767.php
23 มิถุนายน 2547 13:29 น. - comment id 288603
ด้วยตอนเราเกิดมาในครานี้ ก็ไม่มีอะไรที่ติดตัวได้ ฉะนั้นยามที่เราจากไป ขอให้ฝากสิ่งดีไว้ให้ได้ชม *-*กลอนไพเราะและความหมายดีมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชื่นชมในผลงานค่ะ*-*
23 มิถุนายน 2547 14:01 น. - comment id 288626
การบริจาค..ซากไปเชือด....เลือดเนื้อ..ผล คือกุศลขั้นสุดท้ายเสียสละ.. ให้ร่างกาย จากธาตุสี่ ..นี้..อวัยวะ ปริจาคะ ได้มอบเยื่อ...เผื่อทุกคน ๚ these words are nicely said. still beautiful and useful as usual. always lessons for everyone to learn.
23 มิถุนายน 2547 14:10 น. - comment id 288636
การบริจาค..ซากไปเชือด....เลือดเนื้อ..ผล คือกุศลขั้นสุดท้ายเสียสละ.. ให้ร่างกาย จากธาตุสี่ ..นี้..อวัยวะ ปริจาคะ ได้มอบเยื่อ...เผื่อทุกคน ๚ these words are nicely said. still beautiful and useful as usual. always lessons for everyone to learn. จาก : yaya รหัส - วัน เวลา : 292859 - 23 มิ.ย. 47 - 14:01 Thanks a lot yaya your complimentary words are everything to me.
23 มิถุนายน 2547 14:12 น. - comment id 288639
ด้วยตอนเราเกิดมาในครานี้ ก็ไม่มีอะไรที่ติดตัวได้ ฉะนั้นยามที่เราจากไป ขอให้ฝากสิ่งดีไว้ให้ได้ชม *-*กลอนไพเราะและความหมายดีมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชื่นชมในผลงานค่ะ*-* จาก : รหัสสมาชิก : 4521 - ผู้หญิงไร้เงา รหัส - วัน เวลา : 292832 - 23 มิ.ย. 47 - 13:29 รับทราบแล้ว แต่กำลังจะไปข้างนอกก่อนนะคะ
23 มิถุนายน 2547 20:58 น. - comment id 288829
ด้วยตอนเราเกิดมาในครานี้ ก็ไม่มีอะไรที่ติดตัวได้ ฉะนั้นยามที่เราจากไป ขอให้ฝากสิ่งดีไว้ให้ได้ชม ทำดีทำอย่างแท้...............ควรทำ หาใช่เพียงจำดำ.................ดิ่งด้น ดีจริงย่อมกอปร์กรรม.........ควรแก่....ชมนอ มิใช่เพียงทำพ้น.................แค่นั้นผักชี..โรยเฮย ทำดีที่สุดที่เราจะทำได้นะคะ ทิกิ_tiki มีเวลาตอบน้องตูนแล้วนะคะ
23 มิถุนายน 2547 21:28 น. - comment id 288849
คือสิ่งเดียวที่ตนหอบกอบไปได้ ผ่านนิรันดร์มากมายให้แลเห็น... คือ..บาป......บุญ......ธรรม..กระทำ..กรรม..... ร้อน.. เย็น ที่ตัวเป็น..เจ้าของ..จองชาติ..กรรม... ๚ ..จับหัวใจมากค่ะ.. นอนหลับฝันดีนะคะ
23 มิถุนายน 2547 22:22 น. - comment id 288890
..จับหัวใจมากค่ะ.. นอนหลับฝันดีนะคะ จาก : รหัสสมาชิก : 7256 - นางฟ้าซาตาน รหัส - วัน เวลา : 293122 - 23 มิ.ย. 47 - 21:28 ขอบคุณที่สุดค่ะ
24 มิถุนายน 2547 02:06 น. - comment id 288946
นั่นสิขอรับ การบริจาคเป้นสิ่งที่ดีเนอะ
4 กรกฎาคม 2547 09:58 น. - comment id 292930
.ใช่ค่ะ หลวงพ่อเสือท่านสอนไว้เสมอว่า ให้อนุโมทนาบุญแก่คนที่ทำบริจาค อย่างเดียวเลย ให้ใจเราเป็นบุญไปแก่การบริจาค ของผู้อื่น ทิกิ_tiki