รัตติกาลคนจน

แก้วประเสริฐ


     สุริยันช่างเลิศล้ำ		        นภาลม   แดงกร่ำ
รัศมีโชติช่วงงามชม		        แช่มช้า
ย่อแสงให้ภิรมย์		               เย็นค่ำ     สนธยา
รัตติกาลเยือนหล้า		            พาใจใฝ่ถวิล

     ทวิบาทวิหคกู่ก้อง	       จริงแฮ
แม้นบ่มีใครแล	               ไป่หวน
ฮักห่อหุ้มดวงแด	              หนอนก่อ     นอนเอย
ก่อกกใกล้เชิงควน	           ก่ายกอดคำราม.

       พอฟ้าค่ำชิงพลบสุดหดหู่
ดูดู๋ดูยุงน้อยคอยเรียกหา
เจ้านี้ช่างไม่แสนจะเวทนา
กลับเรียกหาเพื่อนฝูงมารุมเร้า

       ต้องหากาบมะพร้าวมาเฝ้าสุม
ก่อไฟรุมไล่เจ้าแม้ใจเหงา
ด้วยขาดคู่ชู้ชื่นเหลือเพียงเงา
ดีที่เรามีเพื่อนคอยปลอบใจ

       เจ้าด่างเอยเพื่อนยากไม่ยักหนี
เหมือนคู่ชีวีที่เขาหนีไปได้
ความเหนื่อยยากแสนจนไม่ทันใด
เขาหนีไปสู่เมืองฟ้าแห่งธานี

       พลางหยิบขลุ่ยขึ้นมาสู่ปากเป่า
ทอดลำเนาเพลงรักเคยสุขี
ร่วมชีวิตรักใหม่ด้วยไมตรี
สุดเปรมปรีดิ์หวานชื่นทุกคืนวัน

       เสียงขลุ่ยน้อยลอยผ่านละล่องแผ่ว
เจ้าด่างแว่วหอนรับจับใจฉัน
ทั้งนายบ่าวเคล้าคลออ้อล้อกัน
เหมือนวิมานคนจนต้องทนเอา

       จนเดือนต่ำดาวคล้อยลอยเลือนลับ
น้ำค้างจับใบหน้าทั้งนายบ่าว
ทั้งสองเดินลุกขึ้นก้าวเท้ายาว
เดินสู่เข้ากระท่อมวิมานปลายนา.

                    แก้วประเสริฐ. 				
comments powered by Disqus
  • อัลมิตรา

    18 มิถุนายน 2547 13:17 น. - comment id 286583

    กากากาก่าก้า .....กากา
    กาก่ากากากา......ก่าก้า
    กากาก่ากากา......กาก่า
    กาก่ากากาก้า......ก่าก้ากากา
    
    เอกเจ็ด โทสี่ ตามตำแหน่ง ค่ะ
  • แก้วประเสริฐ. รหัส 6104

    18 มิถุนายน 2547 15:25 น. - comment id 286623

    คุณ  อัลมิตรา
    
                 ขอบคุณมากครับจะจำไว้ เป็นครูเลยครับจะพยายามลองต่อไปครับ  เป็นอย่างไรแนะนำด้วยนะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
    
                        แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ รหัส 6104

    18 มิถุนายน 2547 15:33 น. - comment id 286629

    เรียน  คุณ  กวีหางแถว
    
             โอ้สุดซึ้งเลยครับขอบคุณมากเป็นอย่างยิ่งที่แนะนำผม เพราะผมพึ่งจะมาเล่นได้ไม่เท่าไหร่ครับ  ผมเป็นคนรักกลอนมากแต่ก็พยายามและถือคำแนะนำคุณเป็นหลักในการเขียนกลอนต่อไป  ครับหากผมแต่งกลอนก็ให้คุณช่วยพิจารณาก่อนนะครับ
              กลอนคุณสวยด้วยอักษรและระรื่นหูจังเลยครับ   ถูกต้องแล้วผมยังไม่ค่อยสันทัดเท่าไหร่ครับ ผมถือว่าการสอนผมนั้นเป็นพระคุณมากเลยครับจะได้วางแนวทางการเขียนใหม่ครับ  มิฉนั้นผมยังงมงายอยู่แบบเก่าๆครับ
                ผมขอบคุณคุณอีกครับที่รักและสงสารผมจนได้ช่วยเหลือผมแนะนำมาครับ  ขอบคุณอีกครั้งครับ
    
                         แก้วประเสริฐ.
  • tiki

    19 มิถุนายน 2547 02:32 น. - comment id 286645

    http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=2672
    
    รวมไปตอบไว้ให้ตอนช่วงเว็บหลุดนะคะ คุณแก้วฯ
  • แก้วประเสริฐ รหัส 6104

    19 มิถุนายน 2547 10:56 น. - comment id 286716

    แด่....ท่านผู้เขียนให้ข้อคิดเห็น
    
               ด้วยผมไม่สามารถเปิดข้อความของคุณได้ เนื่องจากเมื่อวานนี้เวปฯขัดข้องครับ เพียงทราบแต่ตัวเลขว่ามีคนมาให้กำลังใจผม 14 เท่านั้นแต่ไม่สามารถจะทำอะไรได้  แม้แต่เมื่อวานผมตอบไปก็หายไปครับไม่ขึ้นเลย  จึงขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  หวังว่าคงจะไม่ว่าอะไรผมเพราะผมพยายามแล้วไม่ได้ผลครับ ขอบคุณทุกท่านทางนี้นะครับ
    
                         แก้วประเสริฐ.
  • ทะเลดาว

    19 มิถุนายน 2547 13:08 น. - comment id 286796

    ทะเลดาว ไม่มีความรู้เรื่องการเขียนโคลงเลยค่ะ..แต่ตั้งใจมาชื่นชมผลงานของ แก้วประเสริฐ ขอเป็นกำลังใจให้ในทุกๆผลงานนะคะ.......
  • แก้วประเสริฐ

    19 มิถุนายน 2547 15:09 น. - comment id 286824

    คุณ  ทะเลดาว
    
            ขอขอบคุณมากครับ ในความมีน้ำใจยิ่งของคุณผมจะเก็บน้ำใจคุณไว้อย่างดียิ่งครับ  หากว่างๆผมจะแวะไปเยือนบ้างนะครับ  เพราะสิ่งที่มีความจริงใจของผมทำให้ผมได้รับความรู้เพิ่มเติมอีกมากครับ ขอบคุณมากนะครับ
    
                         แก้วประเสริฐ.
  • ลี่...ชวนมาเยือน

    19 มิถุนายน 2547 19:13 น. - comment id 286900

    มาให้กำลังใจด้วยคนค่ะ
    แถมได้ความรู้จาก *คุณกวีหางแถว* ด้วย
    
    อยากให้คุณกวีหางแถว  มาช่วยอ่าน และแนะนำให้บ้างจังค่ะ
    ...........................................................................................
    ลี่...ผู้มาเยือน
  • ราชิกา

    19 มิถุนายน 2547 19:58 น. - comment id 286926

    แฝดเพื่อน...ราชิกา..มาให้กำลังใจนะคะ...ได้ครูดีที่คอยชี้แนะ..เช่น..คุณกวีหางแถว...อีกไม่นาน..แฝดเพื่อน..ย่อมพบความสำเร็จแน่นอน..
    ขอเอาใจช่วยจ๊ะ..และจะติดตามผลงานต่อไปค่ะ..
    
    
  • แก้วประเสริฐ

    20 มิถุนายน 2547 13:44 น. - comment id 287220

    คุณ  ลี่......ชวนมาเยือน
    
             ครับเป็นความกรุณาของคุณกวีหางแถวที่เมตตาสงสารผมเดินในความมืดมนหาทางออกพบแสงสว่างไม่เจอ เกิดสงสารแนะนำในสิ่งที่มีสาระประโยชน์แก่ผมมากมาย ทั้งทางนี้และทางเมล์ให้ผมด้วย นับว่าเป็นคนมีคุณแก่ผมมากคนหนึ่ง   ฉนั้นคุณควรจะเอาไปศึกษาไว้ด้วยนะครับเพื่อนรัก   ขอบคุณมากจ้าที่มาเยี่ยมเยือนผมเสมอมาจ๊ะ
    
                         แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    20 มิถุนายน 2547 13:47 น. - comment id 287221

    คุณ ราชิกา เพื่อนรัก
    
              ครับคุณ กวีหางแถว  นับว่ามีคุณแก่ผมมากที่เมตตาสงสารผมให้ข้อคิดแนะแนวทางแก่ผมเพื่อดำเนินในทางกลอนต่อไป  แต่คงจะไม่ถึงดังเจตนาที่คุณว่าไว้หรอกครับ เพียงแค่ถูกต้องและให้ผมเกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินไปวันๆหนึ่งคลายความเคลียดเหงาในชีวิตนี้ ก็คงจะพอเพียงแก่ผมแล้วล่ะครับ   แต่ต้องขอขอบคุณเพื่อนรักที่รักผมมาอย่างสม่ำเสมอครับ  รักเพื่อนเสมอ
    
                              แก้วประเสริฐ.
    
  • แก้วประเสริฐ

    12 กันยายน 2547 12:28 น. - comment id 329545

    ไม่พูดถึงเรื่องโคลงนะ เพราะเขียนโคลงไม่เป็น ขออนุญาติ คอมเมทน์กลอนละกันเนอะ พอฟ้าค่ำชิงพลบสุดหดหู่ ดูดู๋ดูยุงน้อยคอยเรียกหา เจ้านี้ช่างไม่แสนจะเวทนา กลับเรียกหาเพื่อนฝูงมารุมเร้า ต้องหากาบมะพร้าวมาเฝ้าสุม ก่อไฟรุมไล่เจ้าแม้ใจเหงา ด้วยขาดคู่ชู้ชื่นเหลือเพียงเงา ดีที่เรามีเพื่อนคอยปลอบใจ -------พิจารณาแค่สองบทข้างบนนะในแง่ของคำก่อน คำว่า เรียกหา และคำว่า รุม ใช้ซ้ำสองสามที่เลยหล่ะ ฟังแล้วมันเหมือนกลอนพาไปจังเลย อันนี้ไมพูดถึงสัมผัสในนะ ไม่มีเลย ทำให้กลอนมันอ่านแล้วไม่รื่นหูหน่ะ ทีนี้มาถึงความหมาย ตีความยากจังเลย อย่างบทแรกนี้จะเขียนถึงยุงใช่หรือป่าว (เข้าใจว่า) ฟ้าค่ำ ไม่ควรใช้กับชิงพลบ อาการชิงพลบน่าจะใช้กับดวงตะวันมากกว่า ยุงน้อย คอยเรียกหา เอ้อ มีด้วยเหรอยุงน้อยเรีกหาคนเนี๊ยะนะ ดูอีกทีนะ เจ้านี่ช่างไม่แสนจะเวทนา กลับเรียกหาเพื่อนฝูงมารุมเร้า อันนี้ไม่แน่ใจว่า จะว่าให้ยุงหรือเปล่า หรือว่าให้สาวๆ ที่ห่างไปไกล ลองแบบนี้แล้ว ความหมายจะเป็นเอกภาพนะ ลองดูมั้ย พอตะวันชิงพลบจิตหดหู่ นั่งมองดูยุงน้อยค่อยบินหา ไต่ตอมวัวตัวควายเวทนา อีกไม่ช้าคงมุ่งมารุมเรา ค่อยเก็บกาบมะพร้าวมาเฝ้าสุม ก่อกองชุมไฟฟืนฝืนความเหงา ด้วยขาดคู่ชู้ชื่นระรื่นเงา มีเพียงเสาควายน้อยคอยปลอบใจ เจ้าด่างเอยเพื่อนยากไม่จากหนี แม้ราตรีเหนื่อยหน่ายไม่กลายไหน ต่างแต่เจ้าเหนื่อยยากกลับจากไป สู่เมืองฟ้าศิวิไลซ์ในธานี พลางหยิบขลุ่ยบรรเลงเพลงลมเป่า ทอดลำเนารักเอยเคยสุขี ร่วมจมทุกข์สุขมากฝากไมตรี เจ้าเปรมปรีด์พี่ชื่นคืนก่อนวัน ครวญขลุ่ยน้อยลอยผ่านละหานแนว เจ้าด่างแว่วหอนโหยโรยเสียงสรร แค่นายบ่าวเคล้าคลอฝืนล้อกัน สุขแค่ฝันด้วยจนจำทนเอา จนเดือนต่ำดาวคล้อยไม่คอยนับ พระจันทร์ลับริบหรู่สู่ยอดเขา น้ำค้างพรมหนาวเหน็บเจ็บอกเรา ในร่มเงากระท่อมตายปลายท้องนา แต่งแก้แบบนี้ พออ่านแล้วน่าจะรื่นหูกว่ากลอนไม่มีสัมผัสในและความหมายไม่เป็นเอกภาพนะ เวลาเราเขียนกลอนสิ่งหนึ่งที่คำนึงถึงคือเสียงท้ายวรรค และสัมผัสใน และที่สำคัญอีกอย่างให้เรานึกถึงความเป็นจริงในธรรมชาติ เช่น กลอนบทนี้ที่จะสื่อความเศร้ารันทดของคนจน แต่เหตุไฉนต้องบอกว่า กระท่อมปลายนาเป็นวิมาน อย่างนี้แสดงว่า เรามีวิมานอยู่แล้ว เป็นกระท่อมปลายนา ไม่จำเป็นต้องเศร้าอีกเพราะวิมานคือถิ่นที่อยู่แล้วมีความสุข อะไรทำนองนี้นะ กลอนที่แก้ให้ใหม่นั้นเป็นภาพที่คนคนหนึ่งเศร้าเพราะสาวทิ้งไปอยู่เมือง เหลือเพียงเพื่อนยากคือ หมา ทุกๆ อย่างดูเศร้าไปหมด เหลือกระท่อมปลายนาเท่านั้น ที่เปรียบเสมือนที่ตาย อ่านแล้วสะเทือนอารมณ์และสิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นได้ด้วยใช่ป่าว อีกอย่างนึง เรื่องสัมผัสระหว่างบท มีที่ผิดอยู่สองสามที่ด้วยนะ ลองทบทวนดูอีกที แล้วเรื่องการใช้คำซ้ำไปซ้ำมา อันนี้ถ้าไม่จำเป็นหรือเล่นกลบทแล้วก็ไม่น่าจะใช้ จะทำให้กลอนดูด้อยลงไปเลย หรือถ้าเราจะแทนตัวเองว่า เรา ก็ให้ใช้เราไปทั้งหมด หรือจะแทนตัวเองว่า ฉัน ก็ให้ใช้ ไปทั้งหมด การใช้ เราเรา ฉันฉัน ผสมกัน เหมือนว่า กลอนพาไปหน่ะ แต่งเสร็จแล้วอ่านทวนดูอีกทีก็ได้ ว่าอ่านแล้วมันรื่นหูมั้ย ความหมายเป็นเอกภาพหรือป่าว อันไหนที่บิดเบือนไปจากธรรมชาติ มันอ่าแล้วจะขัดๆ มั้ย เป็นต้น ใจเย็นๆ เขียนไปอย่ารีบร้อน จะทำให้กลอนจะพาไปเสียหน่ะ เอ้อ ลองดูนะ ขอโทษด้วยที่คอมเมนท์เสียยาวเลย แต่เห็นเขียนมาหลายบท มีความพยายามมากในการเขียน แต่ก็อยากจะให้เขียนให้ดีขึ้นไปหน่ะ คงไม่เป็นไรแนะ แนะนำกันในนี้เพื่อนๆ กันทั้งนั้น อยากจะให้เขียนกลอนดีดีกัน ตัวเองก็ใช่ว่าจะเก่งกาจ แต่ก็พอจะเขียนได้หน่ะ ลองเขียนใหม่นะ ถ้ามีอะไรสงสัยอยากจะสอบถามส่วนตัวก็เขียนอีเมล์มาคุยได้ ยินดีนะ 
                    กวีหางแถว 
    IP Address : 203.151.217.160 | |

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน