๏ ๏ชลอพจน์..คำโคลง..จรรโลง.. ไทย.. ๏ ๏ โคลงสี่สุภาพ ๏ จรรโลงโคลง ค่าล้ำ.............คำครู....คาดเฮย จารแต่งพินิจดู...........................หมู่ไม้ เอกตำแหน่งแจงหู.....................เสียงแห่ง...กานท์ฤา โคลงว่ายำโยกย้าย.....................แย่งยื้อยกยอด....ไทยจาร . ๚ ......๑ ๏ บรรเลงเพลงก่องแก้ว..........กานท์กลอน....เกลือกแล สืบต่อวงศ์วรรณวอน............... ว่าไว้ ไทยเอยอย่า ลืมคอน...................ครูคร่ำ ...ครึเฮย เพียงพร่ำพจน์พากย์ไล้............พร่างแพร้วพรรณราย.. ๚ ........๒ ๏ นานาจิตแต่งล้วน................มีหลัก คนต่างจดจำจัก........................จ่างแจ้ง ปรานีช่วยนำชัก.......................เชิญช่อง สารส่งมิเสแสร้ง....................สั่งสร้อยรอยโคลง .. ๚ ........๓ ๏ สยายเกศคลี่คล้าย..............ปูรอง....บาทเอย ชาติหม่นมิอาจวาง....................คู่เคล้า เพียงภพผ่านจิตจาง.................เจียนดับ...ดวงแด รักซ่อนรอนฤทธิ์เศร้า................ส่ำซึ้งอาวรณ์. ๚ ............๔ ๏ บรรจงคงค่าเคล้า.................คอยเคียง..คำนอ บรรพ์ย่อมเยงโยงเรียง.............ร่ำร้อย บันดาลพ่างพจน์เพียง...............พึงพ่อ...พิศนา บุญแม่ทำฤาน้อย......................ชาตินี้ชวดเชย...ชมฤา. ๚ะ๛- ......๕ ๏๏ชลอพจน์.คำโคลงจรรโลงไทย.. ๏ ๏ ๑... รูปแบบโคลง ในบทที่ ๑ ๒ และ๕ เป็นรูปแบบเต็ม โคลงสี่สุภาพ มีสร้อยร้อยท้ายบาท 0 0 0 ก่ ข้ 0 x ( 00) 0 ก่ 0 0 x ก่ ข้ 0 0 ก่ 0 x 0 ก่ (0 0) 0 ก่ 0 0 ข้ ก่ ข้ (0 0) ๒ บทที่๓ เป็นโคลงสี่ ไว้จดจำง่าย ไม่ใส่สร้อย ใส่แต่หลักบังคับ ค่ำที่ต้องมี บทที่ ๔ มีสร้อย บาทที่ หนึ่ง และ บาทที่สาม แต่ ไม่มีสร้อยใน บาทสุดท้าย ๓ ..บังคับรูป เอก โท ในบทที่ ๑. ๒ ๓ วางตำแหน่งรูปเอกเจ็ด โทสี ครบถ้วน 0 0 0 ก่ ข้ 0 x ( 00) 0 ก่ 0 0 x ก่ ข้ 0 0 ก่ 0 x 0 ก่ (0 0) 0 ก่ 0 0 ข้ ก่ ข้ (0 0) ๔ ในบทที่ ๔ วางครบทุกบาท ยกเว้นบาท สามในวรรค ท้าย จะใช้คำ สวม ตัว สะกด ก จ ด ต ฎ ฏ บ พ ป ตาม แม่ กก แม่กด แม่กบ และใช้ รัสสะสระ สระเสียงสั้น คือ คำว่า ดับ.. แทนคำเสียงเอก ๕ ในบทที่ ๕ วางครบทุกบาท ยกเว้นบาท สี่ในวรรค ท้าย จะใช้คำ สวมตัว สะกด ก จ ด ต ฎ ฏ บ พ ป ตาม แม่ กก แม่กด แม่กบ แต่ใช้ ทีฆสระ สระเสียงยาว (อนุโลม) คือคำว่า ชาติ.. แทนคำเสียงเอก ๖ คำแทนเสียงเอก ยังสามารถใช้ คำที่สะกด รัสสะสระ เสียงสั้น ไม่ลงตัวสะกด ได้ เช่น นะ กะ อิ อุ ทิ วะ ยิ เทะ เบะ ๗ ส่วน คำสัมผัสในบท ก็ดูตามผังที่แสดงไว้ ขอขอบคุณ คุณอัลมิตราอีกรอบในเรื่องภาพ ผังโคลงที่เธอนำมาลงไว้ให้ ขอให้เพื่อนพี่น้องทุกท่านที่ต้องการประพันธ์โคลง ใช้หลักและตัวอย่างเบื้องต้นได้ ตามใจชอบ แบบง่ายๆไปก่อน ส่วน เรื่องเก่าที่ลงไว้ ในการแต่ง โคลง ยังกลับไปอ่าน ได้ที่ ส่วนเรื่องสั้น http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=2464 อนึ่ง ทิกิ_tiki มิใช่ครูบาอาจารย์มาแต่ไหน แต่เห็นหลายท่าน ไม่ทราบจะตั้งต้นโคลงสี่อย่างใด ด้วยว่าตนเอง ก็เคยเขียนมาแต่เด็กๆ นับแต่เรียน กับท่านอาจารย์ในวัยต้น อีกทั้งมีหนังสือหนังหา บรรพบุรุษ บ้าง กวีเอกรัตนโกสินทร์บ้างในวาระนั้น ไว้อ่านประเทืองปัญญา จึงเขียนได้ แต่เมื่อมาที่นี่ใหม่ ก็ปราถนาจะเขียน ก็ได้เขียน โดยมีคุณ อัลมิตราและ คุณสดายุ คอยกำกับข้างอยู่สักบทสองบท จากนั้นก็ เดินเดี่ยวมาพอจะเห็นว่า เบื้องต้นโคลงนั้นควรจักเริ่มตรงไหนก่อน ก็ขอให้ทุกท่าน ได้ ทดลอง เรียนด้วยความตั้งใจ ทุกสิ่งสำเร็จได้ด้วยความรัก นะคะ มีอะไรผิดพลาด ก็ขออภัย เชิญแจ้งมาจะแก้ไขตามควรค่ะ ขอขอบคุณ ขอเชิญท่านบรรเลงตามใจชอบ ทิกิ_tiki จาร..เคาะแป้นพิมพ์ .. จารจดลงเวลา.ณ. หน้าเครื่อง กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร...ประเทศไทย ณ.ฯ เพลา..๑๓:๓๐ นาฬิกา เที่ยงพระอาทิตย์ ๓๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ วัน ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๗ สงวนลิขสิทธิ Copyright ..All rights reserved ๏ ๏ชลอพจน์..คำโคลง..จรรโลง..ไทย.. ๏ ๏ ทิกิ_tiki
13 ธันวาคม 2551 16:01 น. - comment id 147134
ขอบคุณมากค่ะ แต่สงสัยแอนนี่จะโง่จริงๆค่ะ อ่านที่เขียนอธิบายไว้แล้วก็ยังไม่เข้าใจ งงๆว่ามันสัมผัสกันยังไง ทำไมกฏมันเยอะจังเลย แต่เพราะมากเลยนะคะโคลงสี่ฯเนี่ย จำได้ว่าสมัยเด็กๆจะชอบอ่านมากกว่า กาพย์ยานี หรือกลอนแปดด้วยซ้ำ แต่มันก็แต่งยากสุดๆไปเลยเหมือนกันค่ะ
6 กันยายน 2550 11:34 น. - comment id 256488
ดีมากค่ะ เจ๋งสุดๆ แจ๋ว โดนใจขาโจ๋ จบข่าว
6 กันยายน 2550 11:38 น. - comment id 256489
คิดถึงพี่นกโค-ต-ร ๆ
30 พฤษภาคม 2547 14:17 น. - comment id 276903
อนึ่ง ทิกิ_tiki มิใช่ครูบาอาจารย์มาแต่ไหน แต่เห็นหลายท่าน ไม่ทราบจะตั้งต้นโคลงสี่อย่างใด ด้วยว่าตนเอง ก็เคยเขียนมาแต่เด็กๆ นับแต่เรียน กับท่านอาจารย์ในวัยต้น อีกทั้งมีหนังสือหนังหา บรรพบุรุษ บ้าง กวีเอกรัตนโกสินทร์บ้างในวาระนั้น ไว้อ่านประเทืองปัญญา จึงเขียนได้ แต่เมื่อมาที่นี่ใหม่ ก็ปราถนาจะเขียน ก็ได้เขียน โดยมีคุณ อัลมิตราและ คุณสดายุ คอยกำกับข้างอยู่สักบทสองบท จากนั้นก็ เดินเดี่ยวมาพอจะเห็นว่า เบื้องต้นโคลงนั้นควรจักเริ่มตรงไหนก่อน ก็ขอให้ทุกท่าน ได้ ทดลอง เรียนด้วยความตั้งใจ ทุกสิ่งสำเร็จได้ด้วยความรัก นะคะ มีอะไรผิดพลาด ก็ขออภัย เชิญแจ้งมาจะแก้ไขตามควรค่ะ ขอขอบคุณ ขอเชิญท่านบรรเลงตามใจชอบ ทิกิ_tiki
30 พฤษภาคม 2547 15:26 น. - comment id 276935
ที่ลงให้ดูนี้ เป็น เรื่องการเริ่มต้น เขียนโคลงจริงๆ สำหรับท่านที่ลืม หรือไม่ชำนาญ ก็ยังมาดูได้ ส่วน เรื่องถัด ไป ประเภทอนุโลมสลับที่ เอก-โท ฯลฯ อีกมากมายยังไม่ไปถึงตรงนั้น ท่านผู้ใดจะกรุณามานำลงร่วม ให้ภายหลัง จะเป็นพระคุณอย่างสูง แต่ขณะนี้ ต้องการให้ เหล่าน้องที่มีใจใคร่จะเขียนโคลง ได้ ฝึกจำหลักเกณฑ์คร่าวๆนี้ให้แม่นก่อนค่ะ ทิกิ_tiki
30 พฤษภาคม 2547 15:34 น. - comment id 276938
ได้ทั้งเนื้อหาสาระ บันเทิง ความรู้ ครบครันจริง ๆ ครับ อรินคงต้องไปลองหัดแต่งโคลงอย่างคุณทิกิบ้าง
30 พฤษภาคม 2547 15:47 น. - comment id 276941
ได้ทั้งเนื้อหาสาระ บันเทิง ความรู้ ครบครันจริง ๆ ครับ อรินคงต้องไปลองหัดแต่งโคลงอย่างคุณทิกิบ้าง จาก : รหัสสมาชิก : 7746 - ยโส รหัส - วัน เวลา : 281482 - 30 พ.ค. 47 - 15:34 -ขอบคุณที่มาอ่านมาให้กำลังใจเสมอค่ะ คุณอริน คะ ยินดีมากเลย จะเห็นว่า ผู้ชายที่มี อารมณ์ดุเดือดแรงแรง มักจะเขียนโคลงได้ดี กว่าหญิงมากกว่ามาก คอยดูไปนะคะ
30 พฤษภาคม 2547 15:48 น. - comment id 276943
ได้ทั้งเนื้อหาสาระ บันเทิง ความรู้ ครบครันจริง ๆ ครับ อรินคงต้องไปลองหัดแต่งโคลงอย่างคุณทิกิบ้าง จาก : รหัสสมาชิก : 7746 - ยโส รหัส - วัน เวลา : 281482 - 30 พ.ค. 47 - 15:34 -ขอบคุณที่มาอ่านมาให้กำลังใจเสมอค่ะ คุณอริน คะ ยินดีมากเลย จะเห็นว่า ผู้ชายที่มี อารมณ์ดุเดือดแรงแรง มักจะเขียนโคลงได้ดี กว่าหญิงมากกว่ามาก คอยดูไปนะคะ
30 พฤษภาคม 2547 18:09 น. - comment id 277022
แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ มาชื่นชมในผลงานนะค่ะ
30 พฤษภาคม 2547 20:40 น. - comment id 277104
เรน.. ขออนุญาต.. ก๊อปฯเก็บไว้ .. ในไดฯ..สีฟ้า ..ของเรน..นะคะ.. เรน.. ขอบคุณค่ะ...
30 พฤษภาคม 2547 21:04 น. - comment id 277120
แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ มาชื่นชมในผลงานนะค่ะ จาก : รหัสสมาชิก : 4521 - ผู้หญิงไร้เงา รหัส - วัน เวลา : 281567 - 30 พ.ค. 47 - 18:09 ขอบคุณ น้องตูนมากนะคะ เป็นกำลังใจจริงค่ะ
30 พฤษภาคม 2547 21:06 น. - comment id 277121
ถ้าเป็นผมแต่งก็เป็นแบบไม่มีครูบาอาจารย์ที่ไหน แต่ผมใช้ความรู้สึกต่อโคลงมากกว่าครับ ยังไงก็ยืนยันครับว่า กวีเป็นนายของภาษาและเป็นผู้สร้างวัฒนธรรมภาษา ครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูล
30 พฤษภาคม 2547 21:06 น. - comment id 277122
น้องเรน เชิญค่ะ
30 พฤษภาคม 2547 21:08 น. - comment id 277124
เอาแบบลงตัวเลยหรือครับ จะลองลองดู คงเลือกเรื่องถนัดมาแต่งนะครับ ดวงหทัยพี่ให้ ครอบครอง เพียงหนึ่งเดียวจับจอง สี่ห้อง สองตาส่องเมียงมอง หมายมุ่ง สวมใส่มาลัยคล้อง เกี่ยวก้อยจดทะเบียน
30 พฤษภาคม 2547 21:09 น. - comment id 277127
ถ้าเป็นผมแต่งก็เป็นแบบไม่มีครูบาอาจารย์ที่ไหน แต่ผมใช้ความรู้สึกต่อโคลงมากกว่าครับ ยังไงก็ยืนยันครับว่า กวีเป็นนายของภาษาและเป็นผู้สร้างวัฒนธรรมภาษา ครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูล จาก : เอกมาศ รหัส - วัน เวลา : 281668 - 30 พ.ค. 47 - 21:06 อุ๋ย ชนกันไม่เป็นไรนะคะ แต่ที่คุณเขียนมาก็ถูกนะคะ เพราะเคยมีน้องคนหนึ่งเขาเขียนโคลง อะไร ชื่อเพราะๆ แบบ ไม่บังคับเอกโท ก็มีค่ะ ขอบคุณที่มาอ่านและให้ คำฝากค่ะ
30 พฤษภาคม 2547 21:18 น. - comment id 277143
เอาแบบลงตัวเลยหรือครับ จะลองลองดู คงเลือกเรื่องถนัดมาแต่งนะครับ ดวงหทัยพี่ให้ ครอบครอง เพียงหนึ่งเดียวจับจอง สี่ห้อง สองตาส่องเมียงมอง หมายมุ่ง สวมใส่มาลัยคล้อง เกี่ยวก้อยจดทะเบียน จาก : รหัสสมาชิก : 5053 - ชัยชนะ รหัส - วัน เวลา : 281671 - 30 พ.ค. 47 - 21:08 555 คุณชัยชนะกะจดทะเบียนซ้อนเหรอคะ เอ๊ย แหม ยุคจรวด จริงๆ สาวกลัวกันวิ่งจู๊ดหนี คุณรู้ไหม ไม้ตายบอกรักแบบนี้ เขาเอาไว้ไล่คนตามจี้ติดมากเกินไป ให้ชะงักกึกกักกันมากกว่าคะพี่ท่าน เขียนได้แรงดี อีกจริงๆ คะคุณชัยชนะคะ ไปลงทะเบียนเขียนส่วนตัวเถอะค่ะ จะคอยอ่าน
30 พฤษภาคม 2547 21:58 น. - comment id 277174
ดีครับ..เป็นวิทยาทาน
31 พฤษภาคม 2547 00:25 น. - comment id 277274
เวลาผมเขียนกลอน สองสิ่งที่ผมคำนึงและจักต้องเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งเสมอ นั่นคือการคำนึงถึงจิตวิญญาณและความสุขในการเขียน และการคำนึงถึงรูปแบบกฎเกณฑ์ ผมมักเลือกย่างแรกเสมอ ในโอกาสและสถานการณ์ที่ไม่บังคับเอาจริงเอาจริงกับฉันทลักษณ์ แต่ให้ความบรรเจิดในแง่การพัฒนาด้านในอย่างอิสระเสรี และไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ จิตนาการ ในแง่การเขียนตามกฎคำไม่มีผิดแม่แต่น้อย ก็เหมาะสมกับบางโอกาส ผมเชื่อเช่นนั้น
31 พฤษภาคม 2547 00:47 น. - comment id 277291
บรรจงคงค่าเคล้า.................คอยเคียง..คำนอ บรรพ์ย่อมเยงโยงเรียง.............ร่ำร้อย บันดาลพ่างพจน์เพียง...............พึงพ่อ...พิศนา บุญแม่ทำฤาน้อย......................ชาตินี้ชวดเชย...ชมฤา. แปลว่าไรเนี่ย เมล์มาบอกหน่อยจิเนี่ย งง งง งง งง
31 พฤษภาคม 2547 03:07 น. - comment id 277319
บรรจงคงค่าเคล้า.................คอยเคียง..คำนอ บรรพ์ย่อมเยงโยงเรียง.............ร่ำร้อย บันดาลพ่างพจน์เพียง...............พึงพ่อ...พิศนา บุญแม่ทำฤาน้อย......................ชาตินี้ชวดเชย...ชมฤา. แปลว่าไรเนี่ย เมล์มาบอกหน่อยจิเนี่ย งง งง งง งง จาก : รหัสสมาชิก : 4264 - รดา รหัส - วัน เวลา : 281842 - 31 พ.ค. 47 - 00:47 บทนี้ ฝากความถึง หนุ่มบางคน ที่ แสดงความชื่นชอบขื่นชม คุณทิกิ_tiki ไว้แต่เนิ่นนานมาในอันจะขอร่วมภิรมย์ชมชืนเป็นคู่ตุนาหงันไว้ จึง เขียนว่า บรรจงเขียน ถ้อยคำ อันมีค่า ดุจที่เธอนั้นคอย ว่าจะเคล้าคลอเคียงฉันไว้นั้นว่า ในบางบรรพ์อันผ่านมา อาจเคย โยงใยย่อมเรียง โยงเยงกันมาด้วยกรรมที่ร่ำร้อยถ้อยกันมา จึงบันดาลให้ ต้องมาเขียน ตอบวางไว้บน หน้าสโมสรกวีไทยแห่งนี้ ให้ พ่อหนุ่มพ่อแก่ นั่นดูเพ่งพิศเอาเถิด นาว่า... ด้วยเหตุที่แม่สาวไม่สาวคนนี้ คงทำบุญมาน้อยในอดีตชาติปางบรรพ์ นั้น ดูจะไม่สบสรรค์สร้างชาตินี้ให้ได้ชื่นชมภิรมย์สมาน ก็จะให้ทิ้งคุณคนที่บ้านไปหาใครที่ไหนได้กระไรเล่า ยกเว้นว่าเธอจะหาเงินมากองสัก สิบห้าล้านบาทเป็นอย่างน้อยในความเก่า คงจะไถ่ตัวไปได้ละกระมัง เป็นไง คุณรดา หายงง ไหม ทิกิ _tiki อันไม่ชอบใจ ไม่อ่าน ก็ไม่ว่า แต่ดีแล้วที่ถามมาก็จะตอบไปนะคะ
31 พฤษภาคม 2547 03:13 น. - comment id 277320
ดีครับ..เป็นวิทยาทาน จาก : suprapai รหัส - วัน เวลา : 281721 - 30 พ.ค. 47 - 21:58 ขอบคุณที่มาอ่านให้เกียรติฝากความไว้ค่ะ
31 พฤษภาคม 2547 10:44 น. - comment id 277405
ไม่ได้เจอกันนานเลยคิดถึงครับ..พอดีช่วงนี้งานเยอะอ่ะครับ ยังคอยเป็นกำลังใจอยู่นะครับ เขียนได้เก่งเหมือนเดิมครับ
31 พฤษภาคม 2547 11:02 น. - comment id 277420
ไม่ได้เจอกันนานเลยคิดถึงครับ..พอดีช่วงนี้งานเยอะอ่ะครับ ยังคอยเป็นกำลังใจอยู่นะครับ เขียนได้เก่งเหมือนเดิมครับ จาก : รหัสสมาชิก : 5564 - )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**((( รหัส - วัน เวลา : 281962 - 31 พ.ค. 47 - 10:44 -ขอขอบคุณ คุณ5564 - )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**((( อย่างยิ่งค่ะ ที่กิช่วยทำชื่อให้ใหม่ อย่างที่คุณอยากได้ อันนี้ใข่ไหมคะ... . คุณค้อปี้ไปแทนตรงหน้าส่วนตัวได้นะคะ 5564 - )**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**( ขอบคุณในกำลังใจค่ะ ทิกิ_tiki
31 พฤษภาคม 2547 13:02 น. - comment id 277499
เวลาผมเขียนกลอน สองสิ่งที่ผมคำนึงและจักต้องเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งเสมอ นั่นคือการคำนึงถึงจิตวิญญาณและความสุขในการเขียน และการคำนึงถึงรูปแบบกฎเกณฑ์ ผมมักเลือกย่างแรกเสมอ ในโอกาสและสถานการณ์ที่ไม่บังคับเอาจริงเอาจริงกับฉันทลักษณ์ แต่ให้ความบรรเจิดในแง่การพัฒนาด้านในอย่างอิสระเสรี และไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ จิตนาการ ในแง่การเขียนตามกฎคำไม่มีผิดแม่แต่น้อย ก็เหมาะสมกับบางโอกาส ผมเชื่อเช่นนั้น จาก : รหัสสมาชิก : 4309 - ลำน้ำน่าน รหัส - วัน เวลา : 281825 - 31 พ.ค. 47 - 00:25 ขออภัย ลำน้ำน่านคะเห็นแล้วเมื่อคือ แต่ไปตอบคุณเสียยาวอีกกระทู้ จึงลืมว่า ยังไม่ได้ตอบงานคุณหน้านี้ อย่างเคยเรียนให้ทราบว่า เราก็มิได้คัด ง้างครูโคลงกลอนใดใดนี่นา อดีตชาติเราก็เขียนปะฝากพื้นพิภพไว้แน่นอนอยู่แล้ว จะไปคัดง้างงานอดีตภพ ของตนไปทำไมให้คนหัวร่อเยาะได้หรือ แต่เราก็จะพัฒนาตนไปเรื่อยๆค่ะ ขอบคุณค่ะ ทิกิ_tiki
31 พฤษภาคม 2547 15:56 น. - comment id 277617
:) ไม่รู้จะเขียนอะไร นอกจากบอกว่า ชื่นชมคนที่อนุรักษ์ร้อยกรองไทย ถึงแม้ว่าจะเริ่มต้นจากศูนย์ก็ตามแต่ ก้าวเล็กๆสั้นๆ แต่มั่นคง ก็จะค่อยๆแกร่งกล้าตามลำดับ .. ขอบคุณค่ะ
31 พฤษภาคม 2547 16:52 น. - comment id 277656
:) ไม่รู้จะเขียนอะไร นอกจากบอกว่า ชื่นชมคนที่อนุรักษ์ร้อยกรองไทย ถึงแม้ว่าจะเริ่มต้นจากศูนย์ก็ตามแต่ ก้าวเล็กๆสั้นๆ แต่มั่นคง ก็จะค่อยๆแกร่งกล้าตามลำดับ .. ขอบคุณค่ะ จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา รหัส - วัน เวลา : 282175 - 31 พ.ค. 47 - 15:56 -ขอบคุณน้ำใจคุณอัลมิตราค่ะ ยินดีรับไว้เป็นพลังให้คนรุ่นต่อไป สืบกล้าวรรณกรรม ทิกิ_tiki
31 พฤษภาคม 2547 19:27 น. - comment id 277715
แวะมาให้กำลังใจพี่นะครับ ชื่นชมผลงานของพี่เสมอครับ ไม่มีกลอนไหนที่เมกจะไม่เชอบเลยครับ เมกจะคอยเข้ามาอ่านเรื่อย ๆ ครับ ** จากเมกน้องชายผู้อาภัพ
31 พฤษภาคม 2547 19:34 น. - comment id 277723
ค่ะ เมกกะคะ ขอบคุณค่ะ