บางระจัน

กุ้งหนามแดง

ตอนที่หนึ่ง: ประวัติ
บางระจันตำนานที่ขานกล่าว
เป็นเรื่องราววีรชนคนกล้าหาญ
ร่วมรักษาแดนไทยมีให้ราน
ศัตรูผลาญฤๅสยบร่วมรบรา
ปีสองพันสามร้อยแปดเป็นเบื้องต้น
รวบรวมพลเสบียงเวียงหงสา*
เจ้ามังระคิดตีกรุงศรีอยุธยา
จึงส่งมาเนเมียว*เพื่อเกี่ยวการ
มังมหานรธาเป็นแม่ทัพ
มุ่งเข้าขับลุกไล่ไฟเผาผลาญ
เริ่มเข้าตีที่เขตวิเศษชัยชาญ
ผู้กล้าหาญหกท่านเล่าขานคือ
มีนายอินนายโชติและนายแท่น
ล้วนแนบแน่นช่วยกันมั่นยึดถือ
อีกนายเมืองนายดอกที่เลื่องลือ
ร่วมรับมือโดยทองแก้วเป็นแนวตรึง
เร่งฆ่าฟันพวกมันบรรลัยลิบ
ล่วงยี่สิบจึงถอยร่นมาจนถึง
บางระจันสิงห์บุรีเป็นที่พึ่ง
นิมนต์ซึ่งพระสงฆ์จงคุ้มครอง
นามท่านนั้นพระอาจารย์ธรรมโชติ
ท่านได้โปรดลงอาคมระดมสมอง
ช่วยชาวบ้านคุ้มกันตามครรลอง
นับทั้งผองก็มีสี่ร้อยคน
อันผู้นำหกท่านเมืองวิเศษฯ
ได้แจ้งเจตน์ขุนสรรค์พันเรืองสน
ทองแสงใหญ่จันทร์หนวดเขี้ยวร่วมปะปน
และอีกคนนายทองเหม็นล้วนเป็นชาย
ร่วมปะทะดุเด็ดถึงเจ็ดครั้ง
มันก็ยังไม่ห่างวางสลาย
อีกยังมีสุกี้ที่ลวดลาย
มันมุ่งร้ายลอบอาศัยไทยเพื่อลวง
ชาวบ้านเริ่มอ่อนแรงแถลงถ้อย
จึงเรียงร้อยขอปืนใหญ่ในเมืองหลวง
ไม่อาจฝืนโชคชะตาหรือว่าดวง
ความฝันกลวงส่งเลี่ยงเพียงนายกอง
ได้รวบรวมเศษทองเหลืองประเทืองนัก
ปัญญาชักหล่อปืนสะอื้นสอง
มันแตกร้าวเกินรับถึงกับมอง
บ้านนี้ต้องถึงคราวก็คราวนี้
สุกี้เห็นดังนั้นมันเริ่มซ้อน
อุบายร้อนขุดอุโมงค์โกงศักดิ์ศรี
เข้ามาใกล้ค่ายข่มล่มราวี
ปืนใหญ่ที่เตรียมมามันกล้าทำ
ต้องสูญเสียความเป็นไทในครั้งนั้น
เป็นวันจันทร์เดือนแปดแรมสองค่ำ
ปีสองพันสามร้อยเก้าเราจดจำ
คุณค่าคำหน้าที่พลีเพื่อไทย

ตอนที่สอง:  หน้าที่ไทย
ยอมเสียเลือดเสียเนื้อก็เพื่อชาติ
เอกราชดำรงไทยคงอยู่
ไม่ก้มหัวอ่อนข้อต่อศัตรู
ท่านต่อสู้เต็มกำลังทั้งหญิงชาย
สละสิ้นทรัพย์สินประทินโฉม
เข้าจู่โจมประจันบานประสานสาย
รักษาบ้านเมืองรอดไม่วอดวาย
ชีพสลายชื่อเสียงเคียงแผ่นดิน
อนุสรณ์สถานงานที่ก่อ
ปู่ทวดพ่อท่านเล่าเศร้ากองหิน
ปกป้องแท้แม้ต้นหญ้ามิราคิน
เหลือเพียงวิญญ์สิ้นร่างละวางไป
น้อมดวงจิตสักการะนฤโฆษ
น้อมเกล้าโปรดจักรีศรีสมัย
ทศพิธราชธรรมนำจิตใจ
ปกครองไทยไพร่ฟ้าประชาชี
พระสยามเทวาธิราชล้ำ
เป็นเมืองธรรมยุตพิสุทธิ์ศรี
ไทยเป็นไทยสมัครสมานสามัคคี
วาระนี้ขอเชิดเพื่อเทิดทูน
วีรชนบางระจันท่านหาญกล้า
กอบกู้หล้าศักดิ์ศรีฤาหนีสูญ
เลือดที่หลั่งแลกดินถิ่นจำรูญ
ยังอาดูรทุกหนที่ยลยิน
สายเลือดเดียวสั่งสมอุดมคติ
ที่ได้ผลิบานแผ่กระแสสินธุ์
ต้องยืนหยัดสืบสานงานแผ่นดิน
สมดังจินต์คงไว้ในแดนทอง
วันที่สี่กุมภาพันธ์วันเล่าขาน
เป็นวันงานวีรชนคนทั้งผอง
ร่วมรำลึกวีรกรรมตามทำนอง
ร่วมแซ่ซ้องสรรเสริญเจริญรอย..
..

..

ที่มา:...
http://www.bandhit.com/History/History.html
ศึกบางระจัน วีรชนผู้รักชาติ ..... ในปีพศ.๒๓๐๘ พระเจ้ามังระคิดจะตีกรุงศรีฯให้ได้ จึงส่งกองทัพซึ่งมีเนเมียวสีหบดีและมังมหานรธาเป็นแม่ทัพ ( ฝ่ายไทยพระเจ้าเอกทัศน์ขึ้นครองราชย์ต่อจาก พระอนุชา พระบิดาคือ สมเด็จพระเจ้าบรมโกศ ก่อนที่พระบิดาจะสวรรคตได้ทรง ดำรัสไว้ว่า  เจ้าฟ้ากรมขุนอนุรักษ์มนตรี (พระเจ้าเอกทัศน์ หรือ ขุนหลวงขี้เรื่อน) นั้นโฉดเขรา ไร้สติปัญญา ถ้าได้ครองแผ่นดินจะทำให้แผ่นดินเกิดภัยพิบัติ จึงมีรับสั่งให้ไปบวชเสียอย่ามายุ่งราชการแผ่นดิน  ) 
ที่เมืองวิเศษชัยชาญมีคนไทยชื่อ นายแท่น นายโชติ นายอิน นายเมือง นายดอก (บ้านกลับ) นายทองแก้ว(บ้านโพธิ์ทะเล) ได้ช่วยกันสู้กับพม่าและฆ่าพม่าตายไป ๒๐ คน แล้วหนีมาที่บ้านบางระจัน ได้ร่วมกับชาวบ้านบางระจันนิมนต์พระสงฆ์พระอาจารย์ธรรมโชติ(วัดเขานางบวช)มาปลุกเสกคาถาอาคมให้หนังเหนียวมีกำลังใจสู้ ศึกกับพม่า ชาวบ้านรวมกันได้ประมาณ ๔๐๐ คน มีหัวหน้าคือ ขุนสรรค์ พันเรือง นายทองเหม็น นายจันทร์หนวดเขี้ยว และนายทองแสงใหญ่ พม่ายกทัพมาตีถึง ๗ ครั้งด้วยกันก็มิอาจเอาชนะชาวบ้านบางระจันได้ แต่บังเอิญมีชาวมอญชื่อสุกี้(เป็นมอญที่อาศัยอยู่ในไทย) ขันอาสารบกับไทย ใช้วิธีใจเย็นสู้กับชาวบ้านเพราะรู้ว่าชาวบ้านใจร้อน รบกันอยู่นานชาวบ้านก็มีใบบอกไปถึงกรุงศรีฯ เพื่อขอปืนใหญ่และกระสุนปืนแต่ได้รับการปฏิเสธ เพียงแต่ส่งนายกองมาช่วยดู ชาวบ้านจึงช่วยกันนำเศษทองเหลืองที่เรี่ยไรมาได้มาหล่อปืนใหญ่ ๒ กระบอก แต่ว่าปืนร้าวใช้งานไม่ได้ สุกี้เห็นว่าไทยเริ่มอ่อนแอจึงให้ขุดอุโมงค์เข้าไปใก้ลค่ายบางระจันแล้วเอาปืนใหญ่ตั้งหอสูงระดมยิงใส่ค่ายจนค่ายแตก ทำให้ไทยต้องเสียค่ายบางระจันแก่พม่า ( พร้อมด้วยเลือดเนื้อของวีรชนชาวบางระจัน ) ค่ายบางระจันถูกพม่าตีแตกในวันจันทร์ เดือน ๘ แรม ๒ ค่ำ ปีจอ พศ.๒๓๐๙ รวมระยะเวลาที่วีรชนชาวบางระจันต่อสู้นานถึง ๕ เดือน 
ด้วยวีรกรรมนี้รัฐบาลไทย จึงกำหนดให้วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ เป็น  วันวีรชนค่ายบางระจัน  
				
comments powered by Disqus
  • กุ้งหนามแดง

    26 พฤษภาคม 2547 15:34 น. - comment id 274836

    ..
    ..ร่วมวิจารญ์ได้ตามแต่ใจท่านเถิด..
    ..
    ..ขอน้อมจิตแด่ดวงวิญญาญวีรชนผู้รักชาติ..ด้วยความเคารพอย่างสูง..
    
    
    กุ้งหนามแดง
    ..
    
    
  • tiki

    26 พฤษภาคม 2547 16:07 น. - comment id 274854

    ที่ในบ้านทิกิ มี เรือจ้างเล็กๆอยู่ หนึ่งลำ ท่านผุ้ปกิบัติบำเพ็ญธรรมท่านหนึ่งให้ไว้  ท่านทำพิธี ชุดแรก สิบหกลำ อย่างตั้งใจยิ่ง ชุดที่สองคือ พวก*ศิษย์พิเศษ* สามคน นี้ ให้คนละลำ เพราะท่านบอก อยากไม่ปฏิบัติธรรมช่วงที่สั่งแล้วสั่งอีก
    เป็นสมบัติชาติ ที่ท่าน เหล่าวีรบุรุษ วีรสตรีท่านเฝ้าทรัพย์แผ่นดินไว้ให้ แอบซ่อนไว้ในพิธีมงคลการจารลงในลำเรือ...ถือเป็นสิริมงคล ให้ขนานนามท่านเวลา เราไหว้พระ สวดมนต์บุชาครูที่ไร ก็น้อมค้อมใจบุชาท่านทุกทีค่ะ
    
    ร่วมบูชาด้วย เก็บไว้อ่านทีหลังค่ะ ต้องอ่านยาวหน่อย ขอบคุณมากค่ะกุ้งหนามแดงเขียนไพเราะเพราะพริ้ง อยู่แล้ว ขอบคุณที่ไปอ่าน ชุดกุ้งค่ะแม่ กับ โคลง กุ้งเผา ทิกิ นะคะ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    26 พฤษภาคม 2547 17:12 น. - comment id 274878

    สุดยอดเลยค่ะ แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ  ชื่นชมในผลงานมากๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชอบค่ะชอบ
  • อาภาภัส

    26 พฤษภาคม 2547 22:19 น. - comment id 275019

    เลือดทุกหยด  รดหยาด ประกาศฟ้า
    พสุธาแดนไทย อันใหญ่หลวง
    สู้ไม่ถอยถลาล่ากล้าสุดดวง
    ชีวาล่วง รบอยู่ สู้ตัวตาย
    ถึงรินหลั่งนำตาจนแห้งเหือด
    ไม่เท่าเลือด บางระจันผู้กล้าหลาย
    ยอมพลีร่างสร้างชาติมิมลาย
    เราควรหมาย ระลึก นึกพระคุณ
  • แก้วประเสริฐ

    26 พฤษภาคม 2547 22:24 น. - comment id 275025

    ขอชื่นชมผลงานอันลือลั่น
    สะท้านโลกันย์บทกวีภาษาศิลป์
    มธุรสอ่อนช้อยสดสวยเกินกิน
    ศิลปินบทกลอนกุ้งหนามแดง.
    
                      แก้วประเสริฐ.
    
    555  ขอแสดงความชื่นชมน้อมคาราวะในบทกวีที่รัดกุมอ่อนช้อยสุดที่จะหาใครเทียบได้   นี่แหละถือเป็นวรรณกรรมชิ้นอมตะได้เลย  แก้วประเสริฐ ขอน้อมคาราวะด้วยสุดหัวใจเลยครับ
  • คนจำแลง

    26 พฤษภาคม 2547 23:04 น. - comment id 275060

    ลงให้จบคุณกุ้ง..ผมอ่านแล้วขอบคุณมาก....
    สำหรับความคิดเห็น..ตอนจบ...
    รักษาสุขภาพด้วย..สวัสดีครับ...
  • กุ้งหนามแดง

    27 พฤษภาคม 2547 06:11 น. - comment id 275147

    ขอบคุณทุกกำลังใจน่ะค่ะ..
    
    คุณtiki, คุณอาภาภัส, คุณแก้วประเสริฐ
    
    และคุณคนจำแลง..
    
    
  • แก้วประเสริฐ

    27 พฤษภาคม 2547 11:03 น. - comment id 275204

    ผมติดใจมากเลยแวะมาหลายๆเที่ยว มาอ่านครับ เลยเก็บไว้ว่าจะหาทางปริ้นซ์แจกพวกครูเพื่อนผมนะครับให้ไปให้นักเรียนอ่านบ้างได้สาระประโยชน์มากครับ คงไม่ว่ากันนะครับเพื่อนรัก
    
                         แก้วประเสริฐ.
  • กุ้งหนามแดง

    27 พฤษภาคม 2547 11:16 น. - comment id 275210

    ..ตามแต่จะเห็นสมควร คุณแก้วประเสริฐ...
    ..
    
  • กุ้งหนามแดง

    27 พฤษภาคม 2547 11:29 น. - comment id 275215

    คุณคนจำแลง:
    
    ..เรียบเรียงเรียบร้อยและนำเสนอในคราวเดียวกัน..
    
    ..สุดแต่ท่านจะพิจารณาเถิด..
    
    ..ขอขอบพระคุณ..รักษาสุขภาพของท่านด้วยเช่นกัน..
    
    กุ้งหนามแดง
  • คนจำแลง

    27 พฤษภาคม 2547 20:11 น. - comment id 275463

    ความจริงคุณกุ้ง เขียนได้ดีอยู่แล้ว.ผมเพียงมาตบแต่ง เสริมสิ่งที่ขาดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น...
    
    กลอนตลาด..กระชับ อ่านง่าย เห็นภาพ คล้อยตาม..เขียนแล้วผู้อ่านมีความรู้สึกเช่นนั้นได้ ถือว่าคนเขียนประสบผลสำเร็จ...
    
    เรื่องนี้ของคุณ..มีความตั้งใจ  ความรักในการเขียน  ที่สำคัญผมว่าคุณทุ่มเทให้กับเรื่องนี้ใช่น้อย..นับว่าอุตสาหะมาก..เรื่องประเภทนี้เขียนยาก เพราะเรื่องราวตายตัว..ไม่เหมือนอีกเรื่องที่เป็นจินตนาการจะง่ายกว่า...
    
    เรื่องนี้ของคุณ..ยังขาดอยู่หลายอย่าง..โดยเฉพาะภาคแรก..แม้สัมผัสจะครบถ้วน..แต่อ่านแล้วยังไม่ไหล ใช้คำที่ให้ความหมายไม่หนักแน่น ไม่ชัดเจน..เช่น...ร่วมรักษาแดนไทยมิให้ราน...
    
    ไม่ว่าเราจะเขียนเรื่องอะไร เราต้องลงไปนั่งกลางเรื่องนั้นก่อน..ลงอารมณ์ใส่ให้ได้มากที่สุด สิ่งที่เราเขียนออกมาอ่านแล้วจะได้อารมณ์เราก่อน..และจะถ่ายทอดถึงผู้อ่าน...
    
    ผมเขียนกลอนได้ เพราะผมอ่าน โดยเฉพาะของสุนทรภู่..และไม่ได้อ่านเฉยๆ แต่งเทียม แต่งล้อไปด้วย จนบัดนี้ก็ใช่ว่าจะเขียนได้ดีนักหนา  ที่ผมบอกตรงนี้เพราะว่า ถ้ามีเวลาอยากให้คุณกุ้งลองดู......
    
    จบจากเรื่องนี้  สิ่งที่คุณกุ้งได้..นอกจากการฝึกฝน คือความมานะพยายามซึ่งคุณกุ้งจะติดตัว ไปใช้ในชีวิตตลอดไป...
    
    ผมขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้ให้ผม..นักเขียนกลอนเก่งๆ ใช้เวลากันนานนับสิบปีทั้งสิ้น ถึงจะสร้างสรรผลงานให้ดูดี..คุณมาถึงตรงนี้นับว่า ดีมากแล้ว ขอให้คุณพยายามต่อไป เวลาสำหรับคุณยังมีอีกนาน...
    
    ตั้งแต่เริ่มจนถึงบัดนี้.คุณพัฒนาการเขียน ไปมากแล้ว.นั่นเป็นสิ่งที่ผมชื่นชม..และจะคอยดูต่อไป..ในส่วนอื่นผมยังไม่แสดงความคิดเห็น..ขออ่านอีกเรื่องก่อน...สวัสดีนะครับ...
    
    
  • กุ้งหนามแดง

    28 พฤษภาคม 2547 10:16 น. - comment id 275781

    ...รับทราบและน้อมรับปฏิบัติ...กุ้งยังต้องฝึกฝนอีกมากค่ะ.
    
    ..งานทุกอย่างต้องผ่านความลำบากมาก่อน..ทั้งสิ้น..เป็นงานของชีวิต..
    
    ...ขอบพระคุณท่านที่ชี้แนะ...น้อมรับด้วยใจ..
    ..
  • magic

    28 พฤษภาคม 2547 20:35 น. - comment id 276012

    ประวัติศาสตร์..จารจบ..เคารพศึก
    บางระจันคึก..เป็นกวี..ศรีสร้างสรรค์
    เรียบเรียงร้อย..ผลงานงาม..ตามอ่านกัน
    สุดยอดนั้น..แวะมาชม..สมใจจริง
    ............................................................
    ยกนิ้วให้เลยค่ะ....
    เขียนดีมาก....
    อยากให้คนเรียนประวัติศาสตร์มาอ่าน
    รับรอง....จำได้ขึ้นใจแน่ ๆ
    ............................................................
    
  • กุ้งหนามแดง

    2 มิถุนายน 2547 10:41 น. - comment id 278750

    คุณ magic:
    
    เป็นอีกหนึ่งหน้าของประวัติศาสตร์เท่านั้นค่ะ ไม่ได้แต่งเติมสีสรรอะไรลงไป ยังต้องปรับปรุงอีกค่ะ
    
    อย่างไรก็แล้วแต่ ขอบคุณมากค่ะ ..
    
    ..

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน