ยามดึกดื่นคืนค่ำน้ำค้างตก เสียงวิหคโหยหวนมาตามสาย พระพายพัดโชยพลิ้วระริกกาย ปนปรายเสียงขลุ่ยแผ่วแว่วพลิกแพลง ท้องนภาคลาคล่ำดาวเดือนฉาย ดาวกระจายพรายพริบวิวับแสง มวลหมู่ไม้ใหญ่เล็กคล้ายสิ้นแรง ดุจดั่งแฝงอารมณ์เศร้าเคล้าขลุ่ยตาม เสียงขลุ่ยแผ่วแว่วครวญหวนใจจิต แม้นน้อยนิดใจระริกให้วาบหวาม สูงลงต่ำคล้ายร่ำไห้ของคนงาม แฝงถึงความสูญสิ้นช้ำระกำใจ บัดเดี๋ยวขลุ่ยเสียงแผ่วแว่วเลือนหาย ดุจดั่งคล้ายเจ้าของขลุ่ยนั้นร่ำไห้ ทำไมหนอใจฉันนี่เป็นอะไร ช่างหวั่นไหวต่อขลุ่ยแว่วแผ่วมา หมายย่างเท้าก้าวเดินเพื่อหลีกหนี เหมือนจะมีเสียงเรียกเพรียกหวนหา ต้องชะงักกายไว้เหมือนต้องมนตรา หลงเสน่หาขลุ่ยแผ่วแว่วหวนคืน ทำนองเสียงระริกพลิ้วสุดระริก คล้ายจะจิกกระชากใจต้องสุดฝืน ยิ่งฟังไปใจยิ่งช้ำต้องกล้ำกลืน ยากจะฝืนน้ำตาหลั่งรดทรวงใน โอ้ขลุ่ยหนอเสียงเจ้ายังเท่านี้ แล้วคนที่บรรเลงเจ้าจะเป็นไฉน มิหลั่งน้ำตาพร้อมเจ้าดูกระไร ฉันนี้ไกลได้ยินเจ้ายังเศร้าตรม. แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2547 14:14 น. - comment id 270047
ค่ะ ... ผู้ที่ครวญขลุ่ย ย่อมถ่ายทอดความรู้สึกที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน ...บรรจงวางนิ้ว พร่างพรม ให้เสียงผ่านสะท้อนความรวดร้าวในอก
18 พฤษภาคม 2547 14:23 น. - comment id 270053
T_T...จิงๆนะคะ.. ตั้งแต่เช้ามานี้..เจอแต่กลอนเศร้า... พาตัวเรา...คิดคำนึง...ให้ใจหาย.. ว่าทำไม..โลกนี้ช่างใจร้าย.. สร้างรักมา...เพื่อทำลาย...หัวใจกัน.. ทั้งๆที่ ไม่อยาก เก็บมาคิด... สุดจะ ปิดห้ามใจ ให้ไหวหวั่น.. หากมีรัก เราต้องทุกข์ เช่นทุกวัน.. ความสุขสันต์..คงหาได้...ยามอยู่คนเดียว... กลัวที่จะมีรักไปเลยค่ะ....ช่วงนี้... แต่ถ้าเป่าขลุ่ยแล้วร้องไห้...คงเป็นอะไรที่เกินบรรยายออกมาเป็นคำพูดแล้ว..คงต้องเศร้าจากใจจริงๆ...T_T...วันนี้ว่าจะไม่เศร้าแล้ว..แต่ก็ต้องเศร้าอีกตามเคย...ฮือ..ๆ.ๆ.... ***แวะมาทักทาย..แต่งกลอนเพราะมากมาย*** *-*-*-เป็นกำลังใจให้นะ-*-*-*
18 พฤษภาคม 2547 14:36 น. - comment id 270060
คุณ อัลมิตรา ยอดหญิงฯ ครับเป็นอย่างที่คุณแจ้งมาผมเคยหัดฝึกมาเหมือนกัน มันระบายอารมณ์ลึกๆภายในออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ผมเป่าได้นิดหน่อยยามอารมณ์เหงาเศร้าใจผมจะใช้ขลุ่ยนี่แหละระบายอารมณ์ออกมา ได้ผลมากครับ ขอบคุณมากที่มาเยือนเป็นกำลังใจให้ผมครับ แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2547 14:38 น. - comment id 270061
เสียงขลุ่ยเศร้าตัวเรายังเท่านี้ ช้ำฤดีเจ็บปวดรวดร้าวหมอง ต่ำสูงบรรเลงเพลงท่วงทำนอง คนเจ้าของขลุ่ยนี้ครวญลำพัง สูงต่ำยศศักดิ์ศรีมีเกลื่อนกล่น ชีวิตคนปนเศร้าสุขสมหวัง แผ่วปลิวลอยเคว้งคว้างอย่างจริงจัง จบเหมือนดังพลังขลุ่ยที่แผ่วจาง (หายไป) **มาชื่นชมผลงาน เพื่อให้กำลังใจเพื่อนนักกวีครับ
18 พฤษภาคม 2547 14:41 น. - comment id 270063
คุณ VeNuS เสียงขลุ่ยหวลผ่านใจในทรวงลึก อารมณ์ตรึกอาลัยพลันลับหาย ความชอกช้ำร่ำไห้ภายในกาย จะสูญหายเมื่อระบายกับเสียงเพลง. แก้วประเสริฐ. เป็นเครื่องดนตรีที่ง่ายพกพาไปไหนก็ง่ายและได้คุณค่ามหาศาล เราสามารถใช้ได้ในยามเศร้าเสียใจและดีใจได้อย่างดีเยี่ยมครับ เพื่อนรักลองหัดไว้นะแม้จะไม่เป็นหากได้เป่าแล้วรู้สึกว่าโลกทั้งโลกเป็นของเราเลยล่ะ เพื่อนทดลองดูนะ เชื่อผมเถอะครับผมทดลองแล้ว
18 พฤษภาคม 2547 14:46 น. - comment id 270066
เคยได้ยินเสียงคนเล่นดนตรีตอนกลางคืนเหมือนกันค่ะ แต่เป็นเสียง Mouth Organ นะคะ ฟังแล้วเหงามากเลย ทำให้พาลคิดถึงใจคนเป่าเช่นกันค่ะ งานไพเราะมากค่ะ
18 พฤษภาคม 2547 14:50 น. - comment id 270068
คุณ ยโส เพื่อนรักก่อนอื่นผมต้องขออภัยคุณด้วยนำกลอนคุณลงไว้คู่กับผมโดยมิได้ขออนุญาติก่อนคือกลอน สนพลิ้วลม หวังว่าเพื่อนคงอภัยให้นะครับ เสียงขลุ่ยนั้นบรรเลงได้ในทุกสิ่ง เสียงอ้อยอิ่งอ่อนช้อยสุดหวั่นไหว ระบายทุกข์สุขล้ำของหัวใจ จะหาดนตรีใดยากเทียบไม่มี เป็นอารมณ์หนึ่งในฝันครั้นได้เป่า มันโน้มน้าวอารมณ์เราให้สุขขี ระบายทุกข์ทั้งหลายที่พึงจะมี แล้วปลดหนี้ห้วงทุกข์สุขคลายอารมณ์. แก้วประเสริฐ. นี่เป็นดนตรีชิ้นหนึ่งที่ผมสรรเสริญไว้มากเหนือกว่าเครื่องดนตรีไทยทั้งสิ้นครับ เรียกว่าเครื่องดนตรีฉบับกระเป๋าครับ ทดลองนะครับเพื่อนรักเป่าเป็นหรือไม่เป็น ยามเป่าออกมาจิตเราปลอดโปร่งแน่นอนรับรองคุณภาพด้วยนายแก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2547 14:52 น. - comment id 270069
เศร้าดีจ๊ะ..
18 พฤษภาคม 2547 14:52 น. - comment id 270070
เพลงขลุ่ยลอยตามสายลม หวิวลออ แผ่วพรม ใจสอื้น คล้ายทอดท้อ คล้ายพ้อ ใครหวนคืน ฟังผิวขลุ่ย ครวญครืน หทัยคราง มาฟังขลุ่ยครวญใจนิ
18 พฤษภาคม 2547 15:15 น. - comment id 270090
คุณ กุ้งหนามแดง จ๊ะเพื่อนรัก เพราะปกติเมื่อก่อนนี้ผมก็เศร้ามาแล้วจึงมักถนัดระบบเศร้า..อิอิ...ตอนนี้มีเพื่อนหายเศร้าแล้วไง เชื่อคุณ..และเพื่อนๆจ๊ะ ขอบคุณมากจ้า เอ..กลอนนี้แต่งเพราะเพื่อนผมชอบขลุ่ยมาก แล้วใกล้ตัวคุณด้วย..อิอิ แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2547 15:21 น. - comment id 270092
คุณ น้ำ เสียงขลุ่ยแว่วลอยลมมาพาฝัน นึกพื่อนนั้นมีขลุ่ยแนบเคียงข้าง ใจเขาเศร้าคงใช้ขลุ่ยเป่าคราง สะท้านทรางทรวงอกฟกช้ำใจ. แก้วประเสริฐ. ขอบคุณเพื่อนมากครับ เร้าอารมณ์ดีไหมครับ..อิอิ
18 พฤษภาคม 2547 15:22 น. - comment id 270093
ขลุ่ยยังครวญชวนน้ำตก เสียงวิหกไล้โลมชมไพร เสียงนกก็กังวารอย่างใจ ทุกเสียงไซร้อย่างเปรมปรีดิ์ มาฟังเสียงด้วยคน
18 พฤษภาคม 2547 15:40 น. - comment id 270101
คุณ นิติ อันเสียงหวานพลิ้วแผ่วออกจากขลุ่ย เหมือนเมฆปุยลอยละล่องดุจหงส์เหิร ทำนองแผ่วหวานระริกพลิกพลิ้วเพลิน เหมือนดั่งเดินบนฟากฟ้าสุราลัย. แก้วประเสริฐ. ขอบคุณมากเลยครับ เชิญตามสะดวกนะครับวันหน้าแวะมาใหม่นะครับขอขอบคุณอีกครั้งครับ
18 พฤษภาคม 2547 17:19 น. - comment id 270137
ขลุ่ยคืดชีวิตคนไทยมาแต่อ้อนแต่ออกแล้วน่ะ....เพราะมาก..........อยากฟังขลุ่ยครวญอีก
18 พฤษภาคม 2547 19:05 น. - comment id 270201
แว่วขลุ่ยคลอล้อลมพรมพร่างเสียง ดั่งสำเนียงคร่ำครวญชวนโศกศัลย์ โอ้รักเอยจำพรากจากไกลกัน สุดจาบัลย์ขื่นขมระทมใจ.....ฯ บรรยากาศเศร้าน่ะ...เลยต้องเศร้าไปด้วย..ราชิกา..ชอบเสียงขลุ่ยมากค่ะ...แต่เป่าไม่เป็นอ่ะ...รอคอย..คนจะมาเป่าขลุ่ยให้ฟัง..ยังไม่ได้เลยค่ะ...คงต้องร้องเพลงรอ...ไปอีกนาน.... (หากเล่นกีต้าร์ได้..ก็น่าจะพิจารณาเนาะ..อิอิ)...
18 พฤษภาคม 2547 19:26 น. - comment id 270215
เรน..แวะมา..ชื่นชม นะคะ... ถ้า..เรนจะบอกว่า... ที่บ้านเรน .. ไม่เคย..ได้ยิน..เสียงขลุ่ย.. พี่..คุณแก้วฯ.. จะเชื่อ..เรน..ปล่าวคะ.. แบบ..เรน..สารภาพ... ไม่เคย..ได้ยิน..จริงๆ...นะคะ.. ..แต่..เรน..ก็ชอบ..ที่จะได้ยิน... จาก..เพลง..นะคะ.. เรนว่า.. คงไพเราะ.. นะคะ.. ...
18 พฤษภาคม 2547 20:05 น. - comment id 270231
เคลื่อนสายลมจากทรวงตามห้วงใจ พรมนิ้วไล่ร้อยเรียงเสียงประสาน สัมพันธ์พริ้วนิ้วกับลมจิตนาการ จึงขับขานกังวานไปในสายลม มาฟังเสียงขลุ่ยค่ะ ...บทกลอนบรรยายเสียจนเห็นภาพ ...และความทรงจำที่เคยฟังเสียงขลุ่ยของ ..อาจารย์ธนิสร์
18 พฤษภาคม 2547 20:48 น. - comment id 270249
ถ้าได้ฟังเสียงขลุ่ยตอนนี้คงสะอื้นไม่หยุดแน่ๆเลยค่ะคุณแก้ว.................. มาทักทายนะคะ คิดถึงเสมอๆเลยค่ะ
18 พฤษภาคม 2547 22:32 น. - comment id 270335
เขียนได้ลึกถึงอารมณ์เจง อิอิ ขนาดคนอ่านยังหลงเศร้าไปด้วย ถ้าได้ยินมิน้ำตกเหรอ คิคิ แวะมาเยี่ยมเยือนครับ เขียนไปเรื่อย ๆ นะครับ เมกชอบจัง
18 พฤษภาคม 2547 22:36 น. - comment id 270342
คุณ kOrOkOsO ขอบคุณมากเลยครับที่กรุณาแวะมาเยือน ครับขลุ่ยนี้จะเป็นเครื่องดนตรีของชาวชนบทโดยเฉพาะภาคกลาง ภาคอื่นก็มีนะครับแต่ส่วนน้อย สำเนียงอ้อยสร้อยแผ่วพลิ้ว ยิ่งฟังไกลด้วยแล้วซาบซึ้งใจเชียวครับ โอกาสหน้าขอเชิญด้วยนะครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ. แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2547 22:42 น. - comment id 270349
คุณ เพียงคนเดียว ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ตอบข้ามไปอภัยให้ผมเถอะนะครับ mouth organ นั้นออกจะเสียงแหลมกว่าครับแข็งกว่าขลุ่ยครับซึ่งรู้สึกจะนุ่มนวลกว่าครับ ซึ่งเป็นดนตรีฝรั่งเขา แต่ก็สร้างอารมณ์ได้ดีเหมือนกันครับ ขอบคุณมากครับที่แวะมาเยือนผมหากว่างขอเชิญอีกนะครับยินดีต้อนรับเพื่อนเสมอครับ แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2547 22:53 น. - comment id 270353
คุณ ราชิกา แฝดเพื่อนรัก เสียงขลุ่ยครางแผ่วพลิ้วนิ้วไล่เสียง ตามสำเนียงสูงต่ำทำนองขาน อ้อยอิ่งช้อยเลี้ยวลดจดใจจาร สำเนียงสั่นเพริศพลิ้วลิ้วตามลม. แก้วประเสริฐ. เพื่อนรักเป็นส่วนมากที่ขลุ่ยมักจะระบายอารมณ์ที่ฝังลึกของผู้ใช้ในความรันทดหดหู่ใจ เป็นการระบายอารมณ์ถ่ายทอดให้สายลมรับรู้ความหม่นหมองใจ น้อยครั้งที่จะใช้นอกเหนือไปจากนี้ครับ ผมเองเมื่อเด็กๆเคยหัดเล่นแต่ไม่มีครูสอนเพียงหัดเองได้นิดๆหน่อยๆ ส่วนกีต้านั้นมันจะออกไปในแนวทางสนุกสนานครับ หากผมเล่นเก่งก็อยากจะเป่าให้แฝดเพื่อนฟังแต่คงไม่ไหวหรอกครับ เสียใจด้วยจริงๆนะ
18 พฤษภาคม 2547 22:58 น. - comment id 270355
คุณ เรน ผมเชื่อครับหากว่าคุณอยู่ในกลางกรุงฯซึ่งจะไม่ได้ยินหรอก สิ่งเหล่านี้มักจะเป็นแถวชนบทเสียส่วนมากครับ หรือนอกจากคุณจะไปฟัง เอาอย่างนี้ซิครับ มีเทปขายซึ่งเป่าโดยระดับขั้นปรมาจารย์ทั้งนั้นแหละครับ อาจารย์ธนิสร์เป็นต้นครับ ท่านนี้ผมเคยได้ยินชื่อท่านมา ทดลองซื้อมาฟังนะครับแล้วคุณจะรู้ว่า เครื่องดนตรีฉบับกระเป๋านั้นมีคุณค่ามหาศาล บางทีคุณอาจจะไปฝึกหัดเสียอีกครับ โอกาสหน้าเชิญใหม่นะครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2547 23:06 น. - comment id 270361
คุณ พี่ดอกแก้ว นิ้วทั้งเก้าริ้วไล้สัมพันธ์จิต ส่งความคิดพลิ้วไปกระแสเสียง นิ้วกับใจสอดคล้องมิโอนเอียง ลมปราณเบี่ยงผ่อนคลายกลายเป็นเพลง. แก้วประเสริฐ. ครับท่านอาจารธนิสร์ท่านเก่งมากครับเรื่องขลุ่ยผมได้ยินชื่อเสียงท่านครับ ขอบคุณมากนะครับที่กรุณาแวะมาให้กำลังใจผม ซึ้งใจมากครับ
18 พฤษภาคม 2547 23:12 น. - comment id 270365
คุณ นางฟ้าซาตาน ผมเคยพูดแล้วว่าขลุ่ยคือเครื่องดนตรีไทยฉบับกระเป๋า สามารถใช้ได้ทุกทุกสถานะการณ์เป็นเพื่อนที่ดียามเหงาครับ พกพาเก็บรักษาง่ายครับ ขอบคุณเพื่อนรักมากครับผมเองก็คิดถึงเพื่อนเสมอแหละครับต้องคอยเข้ามาดูว่าเพื่อนรักจะเข้ามาหรือไม่ครับ รักเพื่อนเสมอครับ แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2547 23:14 น. - comment id 270367
คุณ เมกกะ อะไรจะปานนั้นเพื่อนแต่ผมก็จะพยายามหาเรื่องมามอบให้เพื่อนรักทุกๆคนได้อ่านและพิจารณาติติงด้วยล่ะครับ เพราะกลอนนั้นช่วยผมได้ในเรื่องความเงียบเหงา และยังได้เพื่อนที่ดีมีคุณค่าอีกมากนักครับ ครับผมจะพยายามครับ แล้วอย่าลืมผมเสียก่อนล่ะนะครับ แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2547 23:32 น. - comment id 270376
แว่วๆแจ้วเสียงเพลงบรรเลงขับ สุดสนับเสนาะหูมิรู้หาย ฟังไพเราะเกาะแน่นทั้งใจกาย พาตัวคลายละลายทุกข์สุขสมใจ
18 พฤษภาคม 2547 23:38 น. - comment id 270378
....มาตามเสียงขลุ่ยนะ..โหยหวนแบบนี้จะหวนมาไหมนะ
18 พฤษภาคม 2547 23:45 น. - comment id 270387
คุณ รัถยา ขอบคุณมากครับนักกลอนผู้บรรเจิดเลิศด้วยอรรถรส ซึ้งใจมากครับที่กรุณาแวะมาเยือนผม ยังไม่ทราบเลยครับแต่ผมแต่งกลอนตามอารมณ์ครับ วันไหนไปเจออะไรมาหากสนใจก็จะเอามาแต่งเลยครับ ขอขอบคุณอีกครั้งครับ แก้วประเสริฐ.
20 พฤษภาคม 2547 17:03 น. - comment id 271326
แว่วแว่วแจ้วเสียงเพลงบรรเลงขับ สุดสนับเสนาะหูมิรู้หาย ฟังไพเราะเกาะแน่นทั้งใจกาย พาตัวคลายละลายทุกข์สุขฤทัย
21 พฤษภาคม 2547 11:39 น. - comment id 271771
คุณ ต๊อง อันเสียงขลุ่ยหวานพริ้วระริกใส่ สุดกายใจให้ซึ้งตรึงใจหวน ถึงอดีตผ่านไปแสนรัญจวน เพลงนั้นชวนหวาบหวามสราญรมย์ แก้วประเสริฐ. ขอบคุณมากเลยครับ คุณต๊องที่แวะมาเยือนเห็นมาครั้งหนึ่งแล้วหายไป ทำให้คิดถึงจังครับ