ยามลมโชยพัดพลิ้วระริกผ่าน แสงตะวันสาดส่องท้องฟ้าใส หมู่เมฆาลอยละล่องท่องไป ใบไม้ไหวพัดพลิ้วระริกลม สนเอ๋ยยามลมโชยโรยตามผ่อน ลู่ลมอ่อนไหวเอนเป็นแนวร่ม ใบไม้ร่วงหล่นพสุธาดังปูพรม ยามต้องลมโอนไหวคล้ายละคร เมื่อเกิดพายุพัดโบกเสียงโฮกฮาก แนวสนจักลู่ไหวมิต้องสอน เปรียบไม้ใหญ่แข็งข้อต้องหักตอน เป็นแนวนอนสนฟื้นคืนกายา อุทาหรณ์สอนไว้เป็นแนวคิด ธรรมชาติจิตของเรามากนักหนา มีทั้งกระด้างแข็งอ่อนเป็นธรรมดา หากนำพาเอาไว้ไม่ขาดตอน ก็จะทำให้ได้เอาตัวรอด แคล้วคลาดปลอดภัยได้ทุกสถาน รู้จักหนักผ่อนเบาในเหตุการณ์ เป็นหลักการสอนไว้ให้จดจำ ขอจงดูปราชญ์ผู้รู้เป็นเหตุผล ยามจรดลไปไหนอ่อนเป็นตัวกล้ำ ย่อมถ่อมตนมิอยู่ให้สูงล้ำ จะกระทำการสิ่งใดให้อ่อนโยน ผิดกับผู้รู้น้อยถ่อยความคิด ยามสถิตนั่งเดินจะไปไหนโน่น ทำตัววางก้ามโตมิอ่อนโยน โอ้อวดตนเก่งกล้าข้ามีภูมิ ขอฝากข้อคิดนี้ไว้ให้ชายหญิง ว่าทุกสิ่งควรดูสนที่อ่อนนุ่ม พายุใหญ่พัดผ่านมาพากันรุม สนยังนุ่มยิ้มรับไว้ในเหตุการณ์. แก้วประเสริฐ. กุ้งหนามแดง สนต้องลมชมแล้วได้สัจจะ มีธรรมะในตนคนช่างสรร แข็งในอ่อนอ่อนในแข็งแรงเท่ากัน เรื่องพัวพันสมดุลย์หนุนให้เป็น ให้อ่อนโยนแต่ใช่ให้ไหวอ่อน แข็งให้ซ่อนเอาไว้อย่าให้เห็น คมในฝักทักษะตรงประเด็น มิลำเค็ญใช้ถูกทางคงร้างภัย.. ..แวะมาแจมค่ะ คุณแก้วฯ หายไปหลายวันไม่ว่ากันน่ะค่ะ ติดภาระกิจค่ะ.. .. จาก : รหัสสมาชิก : 7067 - กุ้งหนามแดง รหัส - วัน เวลา : 274067 - 17 พ.ค. 47 - 21:11 ท่านผู้หญิงไร้เงา เหมือนดั่งไผ่ลู่ลมให้ชมนั้น ช่างโอนอ่อนผ่อนผันไม่หวั่นไหว เมื่อลมมาพัดตามลมนั้นไป พอลมไกลก็ตั้งตรงคงที่เดิม *-*แต่งได้ดีค่ะ เปรียบเทียบได้เลยค่ะ*-* จาก : รหัสสมาชิก : 4521 - ผู้หญิงไร้เงา รหัส - วัน เวลา : 273899 - 17 พ.ค. 47 - 17:39 กลอนของท่านทั้งสองยอดเยี่ยมมาก จึงเชิญมาลงไว้ เพื่อเสริมกลอนของผมจะได้เป็นแนวคิดอีกทางหนึ่งครับ หวังว่าเพื่อนรักคงไม่ว่ากันนะครับ....แก้วประเสริฐ. ยโส สนโอนเอนลู่ลมตั้งตรงใหม่ ลมพัดไหวแกว่งไกวกิ่งสาขา พายุโหมแรงซัดพัดแรงมา กิ่งที่ว่าสงบนิ่งเมื่อลมไป อุปสรรคน้อยใหญ่นานานัป นักปราชญ์จับอารมณ์ข่มใจไหว ทุกข์สุขนินทาสรรเสริญเผชิญไป ใจยิ่งใหญ่มั่นคงตรงได้คืน ขอคาระคุณแก้วประเสริฐด้วยกวีบทนี้อีกครั้งครับ คุณแต่งได้ดี มีแก่นสาระ อ้างอิงคำสอน แฝงคติไว้สอนใจได้มากมาย ราชิกา จาก : รหัสสมาชิก : 7746 - ยโส ** สนเอนไหวใช่ใจนั้นไม่สู้ ฝึกเรียนรู้ตั้งตรงคงความหมาย แม้นสายลมโบกสะบัดพัดมิวาย สนยังคลายกลับลู่สู่ที่เดิม......ฯ งามด้วยลีลา..สัมผัสความหมายด้วยใจ...ให้แนวคิดที่ดีแก่สังคมค่ะ...ขอน้อม..ด้วยใจจ๊ะ.. มาทักทายแฝดเพื่อนนะจ๊ะ.. จาก : รหัสสมาชิก : 3197 - ราชิกา
17 พฤษภาคม 2547 16:48 น. - comment id 269452
อ่อนโอนดั่งสนต้องลม ตั้งตรงพริ้วพรมไม่อ่อนไหว หยัดยืนคงมั่นไม่หวั่นใจ เป็นเสน่ห์อยู่ข้างใน..ใช่ไม้งาม *** ดีค่ะ
17 พฤษภาคม 2547 17:39 น. - comment id 269483
เหมือนดั่งไผ่ลู่ลมให้ชมนั้น ช่างโอนอ่อนผ่อนผันไม่หวั่นไหว เมื่อลมมาพัดตามลมนั้นไป พอลมไกลก็ตั้งตรงคงที่เดิม *-*แต่งได้ดีค่ะ เปรียบเทียบได้เลยค่ะ*-*
17 พฤษภาคม 2547 17:56 น. - comment id 269499
สนพริ้วลมคมความคิดลิขิตเขียน เป็นกลอนเรียนเพียรศึกษามาได้อ่าน บทกวีที่ผ่านมาได้พบพาน งานที่ผ่านได้ข้อคิดสกิดใจ................... ..........................................................
17 พฤษภาคม 2547 17:57 น. - comment id 269500
ใช้คำเพราะจังเลยนะคะ.. เปรียบได้ดีเลย แวะมาทักทายค่ะ ..
17 พฤษภาคม 2547 19:40 น. - comment id 269609
อีกแล้วครับ...กลอนที่มีสาระ กลอนที่มีแก่นของชีวิตเช่นนี้หายากนะครับ ยังคงเป็นกำลังใจให้กันเสมอนะครับ...เมก
17 พฤษภาคม 2547 21:11 น. - comment id 269650
สนต้องลมชมแล้วได้สัจจะ มีธรรมะในตนคนช่างสรร แข็งในอ่อนอ่อนในแข็งแรงเท่ากัน เรื่องพัวพันสมดุลย์หนุนให้เป็น ให้อ่อนโยนแต่ใช่ให้ไหวอ่อน แข็งให้ซ่อนเอาไว้อย่าให้เห็น คมในฝักทักษะตรงประเด็น มิลำเค็ญใช้ถูกทางคงร้างภัย.. ..แวะมาแจมค่ะ คุณแก้วฯ หายไปหลายวันไม่ว่ากันน่ะค่ะ ติดภาระกิจค่ะ.. ..
17 พฤษภาคม 2547 21:17 น. - comment id 269653
ลึกซึ้งจริงๆ ค่ะ ชอบงานของคุณแก้วประเสริฐที่มมีความเป็นตัวเองและมักจะฝากแง่คิดไว้เสมอค่ะ แวะมาทักทายค่ะ
17 พฤษภาคม 2547 22:01 น. - comment id 269682
เพราะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยค่ะ นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่า ..กลอนสอนใจ.. มาทักทายนะคะ
17 พฤษภาคม 2547 23:12 น. - comment id 269770
คุณ น้ำตาอาบแก้ม อันอ่อนโยนโอนอ่อนดังสนต้อง จะประคองกายไว้ให้คนหลง เป็นเสน่ห์จะไปไหนไม่พะวง เป็นแนวตรงพ้นวิบัติที่จักมา. แก้วประเสริฐ. ขอบคุณมากครับ โอกาสหน้าแวะมาเยือนด้วยนะครับซึ้งใจครับ
17 พฤษภาคม 2547 23:34 น. - comment id 269788
คุณ ท่านผู้หญิงไร้เงา แฮะๆๆกลอนเพื่อนเยี่ยม ผมเลยอัญเชิญไปลงไว้กับกลอนผมเสียเลยจะได้ข้อคิดฝากเอาไว้ให้เพื่อนๆครับ หวังว่าเพื่อนไม่ว่ากันนะครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤษภาคม 2547 23:39 น. - comment id 269790
เป็นกลอนที่ให้แง่คิดดีมากค่ะ ..
17 พฤษภาคม 2547 23:40 น. - comment id 269793
คุณ magic เพราะเพื่อนนั้นเป็นแรงใจให้คิด จึงประดิษฐ์ฉีกแนวทางไม่เหมือนเขา เพื่อฝากไว้ข้อคิดลิขิตนำเนาว์ เพื่อพวกเราจะได้กระตุ้นเตือน. แก้วประเสริฐ. ขอบคุณเพื่อนมากนะครับ ที่ไม่ทิ้งแก้วประเสริฐเลย
17 พฤษภาคม 2547 23:46 น. - comment id 269796
คุณ กระดาษกาว ขอบคุณมากครับเป็นแรงใจจากเพื่อนทั้งนั้นแหละครับ แล้วแวะมาเยี่ยมใหม่ครับซึ้งใจครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤษภาคม 2547 23:48 น. - comment id 269800
คุณ เมกกะ ขอบคุณมากเลยครับเพื่อน ก็เพราะเพื่อนๆทั้งหลายนั่นแหละทำให้ผมเกิดบันดาลใจสร้างในสิ่งที่ไม่เหมือนใคร แล้วผมก็ไม่เป็นคนที่ไม่เหมือนใครอยู่แล้ว...อิอิ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤษภาคม 2547 23:50 น. - comment id 269803
คุณ กุ้งหนามแดง เพื่อนรัก...แก้วฯ ต้องขออภัยที่นำกลอนที่ตอบในกลอนผมอัญเชิญไว้ลงคู่กับผมเสียเลย เพื่อประโยชน์แก่สังคม หวังว่าเพื่อนรักคงไม่ว่ากันนะครับ.. รักเพื่อนเสมอ แก้วประเสริฐ.
17 พฤษภาคม 2547 23:54 น. - comment id 269806
++แก้วประเสริฐ ใบพริ้ว ปลิวไป ตามลม ดั่งปม ในใจ ใคร่รู้ คนเก่ง เข้าใจ ทางลู่ อ่อนโอน..เอนตาม ผู้นำ.. อวดฉลาด..เกินไป..ไป่คุ้ม จักโดนรุม นินทา..ว่าซ้ำ ใช่เก่ง แล้วดี..พูดพร่ำ จักจำ..ดูทาง ..ก่อนเดิน คนโง่ บางที ไม่โง่ ไม่ยโส ถ่อมตน ยอเยิน คนรัก มากนัก สรรเสริญ พาเพลิน สังคมดี สุขสบาย.. แต่งกลอนไพเราะและมีสาระเหมือนเดิมนะเจ้า.. สงสัยต้องไปฟิตมาใหม่ แบลยังคงแต่งกลอนไม่เก่งเหมือนเดิม.. อาจจะอ่านไม่ค่อยเข้าใจนะกลอนอันนี้อ่ะ ++มาเป็นกำลังใจให้เพื่อนเสมอ++
17 พฤษภาคม 2547 23:55 น. - comment id 269808
คุณ เพียงคนเดียว ขอบคุณมากนะครับ คำพูดของคุณมีประโยชน์แก่ผมมาก ครับผมเองก็แบบนี้แหละครับชอบเป็นตัวของตัวเองเสมอมา แฮะๆๆเรื่องจริงนะครับไม่ได้เมคเลย อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณอีกครั้งครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤษภาคม 2547 23:58 น. - comment id 269812
คุณ นางฟ้าซาตาน เพื่อนรัก ผมทำไปก็กลัวเหมือนกันว่าจะไปกระทบใครๆเขาแต่มาคิดอีกแง่หนึ่งว่าเราทำเพื่อส่วนรวมผมยอมรับผิดเพียงผู้เดียวครับ หากกลอนผมไปพาดพิงถึงใครบ้าง อย่างไรก็ตามเพื่อนรักคนนี้ไม่เคยลืมผมเลยขอบคุณเพื่อนรักมากครับ แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2547 00:03 น. - comment id 269815
คุณ อัลมิตรา ยอดหญิงนักกลอน เพียงเห็นคุณเข้ามาให้ข้อคิดแก่ผมกำลังใจผมเกิดขึ้นอีกมากครับ เหตุใดเพราะผมเองศรัทธาในกลอนคุณทุกอย่างที่เสนอมา มันช่างอมตะจริงๆครับ ขอขอบคุณอีกครั้งครับ ซึ้งใจจริงๆ แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2547 12:27 น. - comment id 269972
สนโอนเอนลู่ลมตั้งตรงใหม่ ลมพัดไหวแกว่งไกวกิ่งสาขา พายุโหมแรงซัดพัดแรงมา กิ่งที่ว่าสงบนิ่งเมื่อลมไป อุปสรรคน้อยใหญ่นานานัป นักปราชญ์จับอารมณ์ข่มใจไหว ทุกข์สุขนินทาสรรเสริญเผชิญไป ใจยิ่งใหญ่มั่นคงตรงได้คืน ขอคาระคุณแก้วประเสริฐด้วยกวีบทนี้อีกครั้งครับ คุณแต่งได้ดี มีแก่นสาระ อ้างอิงคำสอน แฝงคติไว้สอนใจได้มากมาย
18 พฤษภาคม 2547 12:37 น. - comment id 269979
คุณ ยโส ข้าผู้น้อยขอน้อมกายรับคารวะ แล้วก็จะนำไว้ใส่ใจเสมอ ก็ด้วยยโสปรนเปรอคำเลิศเลอ ผมจึงเสนอเพราะบ้าในคำยอ แก้วประเสริฐ. ขอบคุณเพื่อนรักมาก แฮะๆๆตามอารมณ์คนบ้าแหละครับ อิอิ ไม่ว่ากันนะเพื่อน
18 พฤษภาคม 2547 14:34 น. - comment id 270059
อืม...มาcommentอีกรอบ เพราะชอบกลอนนี้..มากมาย สอนใจได้มากหลาย.. มีความหมาย...ที่ดีงาม.. เพราะค่ะ ชอบกลอนนี้เพราะพ่อแม่สอนเสมอให้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน..รอยสองมาคอมเม้นต์..หวังว่าคงไม่ว่ากันนะ.. **แวะมาทักทาย**
18 พฤษภาคม 2547 15:00 น. - comment id 270078
คุณ VeNuS โถเพื่อนรักใครจะไปว่าได้ ผมกลับซึ้งใจที่ได้รับเกียรติเสียอีกครับ หากชอบนำกลอนไปได้เลยครับผมอนุญาตให้คุณครับ ความอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เป็นนิจ สร้างชีวิตของเราให้เกษมสันต์ เป็นที่รักของคนทุกหมู่ชั้น อนาคตกาลย่อมรุ่งโรจน์ชัชวาลย์ แก้วประเสริฐ. ขอบคุณมากครับ เอากลอนไปอีกนะ..อิอิ เพื่อนรัก
18 พฤษภาคม 2547 21:20 น. - comment id 270278
** สนเอนไหวใช่ใจนั้นไม่สู้ ฝึกเรียนรู้ตั้งตรงคงความหมาย แม้นสายลมโบกสะบัดพัดมิวาย สนยังคลายกลับลู่สู่ที่เดิม......ฯ งามด้วยลีลา..สัมผัสความหมายด้วยใจ...ให้แนวคิดที่ดีแก่สังคมค่ะ...ขอน้อม..ด้วยใจจ๊ะ.. มาทักทายแฝดเพื่อนนะจ๊ะ..
18 พฤษภาคม 2547 22:29 น. - comment id 270330
คุณ ราชิกา แฝดเพื่อน คำคมมากเลยจ้า เลยอัญเชิญไว้ร่วมกับกลอนผมเลย เพื่อนรักคงไม่ว่ากันนะ ขอขอบคุณเพื่อนรักมากนะจ๊ะ แก้วประเสริฐ.
19 พฤษภาคม 2547 00:30 น. - comment id 270413
^J^ .............. กลอนเพราะ...และมีความหมายดีจังครับ...
19 พฤษภาคม 2547 14:52 น. - comment id 270709
คุณ กฤษณะ สวัสดีครับเกลอเก่า ขอบคุณมากครับกลอนคุณก็เหมือนกันแหละครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.