นรชนกับคนขอโทษ ขอโทษสิบร้อยครั้ง ใจเจ้ายังไป่อภัย ขอโทษกลั่นออกไป ด้วยน้ำใสและใจจริง *โหสิข้างหลุมศพ ด้วยเคารพนบนอบนิ่ง เวรกรรมลุ่ล่วงสิ่ง เคยทำจริงในก่อนกาล โลกไม่เคยสับสน แต่ใจคนปนใจมาร มืดมนในสันดาน ยากประมาณในหมู่ชน คนดีมีเกินร้อย คนถ่อยด้อยร้อยพันปน เลือกเสพนรชน* แนะนำตนพ้นทางเลว ให้อภัยคำขอโทษ ใจหายโกรธโทษหายเร็ว เมตตาไล่เพลิงเปลว ไม่ตกเหวในอบาย *อโหสิ = to be at peace, to be reconciled *นรชน = ชนที่ประเสริฐเพียงดังนระ (นโร เอว ชโน= นรชโน,นรชน) ยโส อรินครับ
17 พฤษภาคม 2547 08:51 น. - comment id 269162
ขอบคุณที่มาของภาพประกอบจาก http://www.sunha.com/
17 พฤษภาคม 2547 09:14 น. - comment id 269172
แนวแบบนี้ หายาก เขียนดี ไพเราะมากครับ.....แวะมาเยี่ยมครับ ^_^...
17 พฤษภาคม 2547 09:33 น. - comment id 269190
ขอโทษสักแค่ไหน ถ้าเราไม่อภัยหนา ทุกครั้งยังตั้งตา คอยเข่นฆ่าและราวี ความแค้นที่เคืองโกรธ ยังพิโรธในทุกที อภัยคงไม่มี เพราะเรานี้ไม่อภัย แล้วสุขอยู่ไหนเล่า หากเราเฝ้าแค้นเคืองใคร ทุกข์จิตและทุกข์ใจ อยู่ที่ใจของเราเอง *-*เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วค่ะ แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ*-*
17 พฤษภาคม 2547 10:25 น. - comment id 269220
**ขอบคุณต้นหลิวครับที่แวะมาอ่านและให้กำลังใจ **ขอบคุณ คุณผู้หญิงไร้เงา คงสอบเสร็จแล้วนะครับ ขอให้สอบผ่าน ขอบคุณอีกครั้งที่มาต่อบทกสัและยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้น คุณแต่งได้ดีกว่าผมอีกนะครับ
17 พฤษภาคม 2547 10:34 น. - comment id 269227
คุณ อริน ยโส ยังเขียนทรงพลังเหลือเกิน เช่นเดียวกับคุณ ชัยชนะ เขียนงานทีจะสะดุ้ง ด้วย แรงพลังอักษร ...คุณสองคน นี้เหมือนกันมากค่ะ นับถือ
17 พฤษภาคม 2547 12:17 น. - comment id 269289
ยกโทษหั้ยอ่ะ คิ_คิ ยอมรับความจริง คือ คนมีปัญญาครับ อย่าจมอยู่กับควงามผิด ชีวิตข้างหน้ายังอีกยาวไกล สู้นะครับ คนที่คอยเป็นกำลังใจยังมี อย่างน้อยก็ พ่อ-แม่ โชคดีครับ
17 พฤษภาคม 2547 13:10 น. - comment id 269325
แต่งได้เยี่ยมมากครับ *_*? แวะมาชม
17 พฤษภาคม 2547 13:30 น. - comment id 269345
แนวแบบนี้เมื่อผมยังเรียน ป.4 ชอบมากเลยครับ คือ 20 ม้วน ยกตัวอย่างนะครับยังจำได้บัดนี้เลย ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ ให้สะใภ้ใช้คล้องคอ ใฝ่ใจเอาใส่ห่อ มิหลงใหลใคร่ขอดู ฯลฯ คือกลอน 5 ในกลอน 8 ครับ สั้นได้ใจความด้วย ไพเราะมาก ผมติดใจ จนป่านนี้ยังท่องได้เลยไม่ลืมครับ คุณแต่งได้ไพเราะมากความหมายดีมากครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤษภาคม 2547 14:56 น. - comment id 269399
ือืม เท่าที่รู้มานะคะ เค้าว่า ถ้าเราไม่อภัยให้เนี่ย ก็ต้องตามไปเจอกันตลอด...ชาตินี้เราฆ่าเค้า ชาติหน้าเค้าฆ่าเรา...วนเวียนกันไป หากไม่อโหสิ... ถ้างั้นหนูขอเลือกอโหสิดีกว่าค่ะ ไม่อยากเจอแล้ว หุหุหุ... ***ทรงพลัง อย่างเช่นที่พี่พี่เค้าว่ากันเลยค่ะ*** ***ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วแวะไปทักทายกันใหม่นะคะ*** +++เป็นกำลังใจให้ค่ะ+++
17 พฤษภาคม 2547 17:14 น. - comment id 269469
อภัยที่หัวใจ เรื่องผ่านไปอโหสิ สงบแล้วมีสติ อย่าได้ริสร้างกรรมต่อ .................................
17 พฤษภาคม 2547 18:18 น. - comment id 269519
**ขอบบคุณ คุณ tiki ชมอรินมากเกินไปแล้วครับ ไม่อาจเปรียบกวีรุ่นพี่อย่างคุณชัยชนะได้หรอกครับ ขอบคุณอีกครั้งครับกวีต้นแบบในดวงใจ **ขอบคุณ คุณเมกกะจริง ๆ ครับที่เข้าใจ ผมก็นิยมชมชอบบทกวีของคุณอยู่เช่นกันครับ **ขอบคุณ คุณกวีบ้านไร่ คุณเป็นกวีแนวเพื่อชีวิตจริง ๆ อ่านบทกวีของคุณแล้วบ่อยครั้งทำให้คิดถึงบ้านได้มากมาย **ขอบคุณ คุณแก้วประเสริฐ บทกวีของคุณอิงหลักธรรมะ และสัจจะความจริงเกี่ยวกับชีวิตที่แท้จริงได้ดีทีเดียวครับ จะติดตามอ่านผลงานของคุณเช่นกันครับ บทกวีที่ผมแต่งนี้เรียกว่ากาพย์ยานี 11 (ไม่แน่ใจ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ>>>คลิกตรง link นี้ครับ **ขอบคุณ คุณ รหัสสมาชิก : 7883 - =_+ VeNuS +_= การจองเวรกรรมกันก็คงจะมีแต่ก่อให้เกิดการผูกเวรกันไปตลอด ดั่งกากับนกเค้า ดั่งหมีกับตะคร้อ งูเห่ากับพังพอน สุนัขกับแมว อะไรทำนองนี้แหละครับ เมื่อยุติเวรและการจองเวรกันแล้ว ทุกอย่างก็เกิดสันติสุขขึ้นครับ แต่ที่สำคัญก็คือ ใจที่สงบลงเสียได้นั่นเองครับ เป็นสันติอย่างสูงสุดในชีวิตจริง ขอบคุณนะครับสำหรับการแวะเยี่ยมและการให้กำลังใจครับ **ตอบคุณ คุณ magic นามปากกาของคุณเหมือนนามปากกาของเพื่อนร่วมสถาบันเดียวกับผม (นิติศาสตร์ มสธ.) ก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ครับ คุณได้อธิบายเรื่องการอภัยมาเสริม เพิ่มบทกวีได้ดีมากทีเดียวครับ