....อะไร...ก็รัก..(ตอนที่ ๓)

อาภาภัส

                    
                              กามเทพ  สุขสันต์ กับวันหยุด
                              แอบมาผลุด สลับโผล่  โล้ทางฝัน
                              ยิงศรแจก แซกใจ ทุกวัยพลัน
                              แต่ไยนั่น  แถวพนา  เมฆาบัง
                              มีด้วยเหตุ อันใด  กระไรหนอ
                              เรียกรถหวอ วอฟ้า วิ่งขมัง
                              ตามไปดู  รู้ชัด  ถนัดจัง
                              มิถึงฝั่ง  ยังแว่ว  แผ่วร้าวรอน
                              ยินสำเนียง เสียงร่ำ  ฉ่ำดวงเนตร
                              เกิดอาเภท  ฝนหลั่ง ราวทอดถอน
                              สงสารใจ  รวดร้าว ไร้อาทร
                              องค์แอบซ่อน เล็งลักษณ์ ประจักษ์ตา
                              ณ ราตรี  คลี่ทับ  จับผืนฟ้า
                              ลุเวลา  คืนดับ  พับอุษา
                              ไร้ดวงดาว พราวแสง ส่องนภา
                              หยาดน้ำตา เลื่อมพราย กระจายแทน
                              รินหลั่งไหล  จากใจ   อนงค์นุช
                              พักตร์ผ่องผุด  สุดเศร้า โศกเหลือแสน
                              นางเหลียวหา ผวาไหว  ในไพรแดน
                              ไม่มีแม้น เหมือนชน  คนรอคอย
                              ทั้งวิ่งพลาง เหลียวหา มิอาจเห็น
                              นางลำเค็ญ คิดถึง  มิท้อถอย
                              เฝ้าจงรัก สลักลึก  จวบดาวลอย
                              ล่วงนับร้อย ปีผ่าน  นานเท่านาน
       อินทรวิเชียรฉันท์
         
                          ขอบเขต ณ แดนใจ       จะสดใส สว่างตา
                          หญิงนางหนึ่งคอยหา      ณ อุรา ระทมเหลือ
                          เวียนวน ดุจ หลงฝัน       มนผัน มิ หน่ายเจือ
                          สัญญา ดนูเกื้อ              จะกักก่อ ผิ ราโรย
                           ความซึ้ง หทัยหวาน        ชยหาญ ผสานโดย
                           เมตตา สง่าโปรย            นุ ช รอ พธูนาง
                           โอโอ้กระไรเลย              รติเฉย ฤเมินหมาง
                           นางวอน สะอื้นพลาง       ดุจร่างก็กลับกลาย
                           แข็งซบ ณ ที่นั้น              วนลั่น มิเลือนคลาย
                          ร้าวทรวง มิ ห่วงหาย         จะรัก รอ นิรันดร
                          ดวงมาลย์ สิ อยู่ฟ้า            สุดจะหา ตะวันจร
                          มองเมียง บ่หลอกหลอน      อุระมั่น สะท้านสรวง
                       
                           
                          
				
comments powered by Disqus
  • อาภาภัส

    11 พฤษภาคม 2547 02:43 น. - comment id 265584

    สวัสดีค่ะ
    ตอนที่ ๓  เดียวดาย  อ่านกันเองก็แล้วกัน
    
    
    
    อรุโณทัย  อาภาภัส
  • ชัยชนะ

    11 พฤษภาคม 2547 07:57 น. - comment id 265600

    จบไม่ประทัยใจ(ขอแต่งแปลงต่อ)
    
    องค์อินทร์ผ่าน วิมานฟ้า กลางอากาศ
    ทิพยอาสน์ อ่อนบาง กระด้างแข็ง
    ส่องนัยน์เนตร วิเศษล้น มนต์สำแดง
    จึงทราบแจ้ง จอมเจ้า เศร้าระทม
    
    คงเชื่องช้า จังเลย เกยราชรถ
    จึงสวมบทบาทเสพ เทพอุ้มสม
    อุ้มพระเอก เสกเคียงข้าง แท่นบรรทม
    เคล้าภิรมย์ ชมพะเน้า เคล้าพะนอ
    
  • อาภาภัส

    11 พฤษภาคม 2547 09:29 น. - comment id 265633

    ตอบคุณชัยชนะ
        ร้ายนักนะ ก็ตอนนี้เป็นรักอีกแบบ เดี๋ยวไปอ่านตอนที่สี่ รักสีหวานๆจะได้ผ่านแถมอ่านใจด้วย ให้ว่างก่อนนะ
    แต่ขอบคุณค่ะที่มาอ่าน
    
    อรุโณทัย  อาภาภัส
  • อรรถสิทธิ์

    11 พฤษภาคม 2547 12:03 น. - comment id 265703

    ........รักเกิดจากใจใครสอน
    รักซ้อนซ้อนรักจักเห็น
    รักยั่วรักเย้าเหมือนเป็น
    เฉกเช่นเนื้อทรายนายพราน
    
    
  • อรรถสิทธิ์

    11 พฤษภาคม 2547 12:04 น. - comment id 265704

    ........รักเกิดจากใจใครสอน
    รักซ้อนซ้อนรักจักเห็น
    รักยั่วรักเย้าเหมือนเป็น
    เฉกเช่นเนื้อทรายนายพราน
    
    
  • แก้วประเสริฐ

    11 พฤษภาคม 2547 13:51 น. - comment id 265741

    พลันสะดุ้งตื่นพลิกกายาอุษาเจ้า
    ใครโน้มเน้าเฝ้าโอบกอดข้างพระที่
    ผินพระพักตร์พบสบหน้าชายชาตรี
    โอ้ชายนี้ที่แอบเฝ้ามองหลังพลับพลา
              ด้วยฤทธิ์มนต์องค์อัมรินทร์ปิ่นเจ้า
    จึงผ่อนเร้าตามอารมณ์สมปรารถนา
    จนอรุโณทัยฉายแสงส่องลอดเข้ามา
    สององค์พาเกี่ยวก้อยออกจากแท่นบรรทม.
    
                           แก้วประเสริฐ.
    
    ผมขอแจมหน่อยนะครับ กลัวเรื่องจะค้างเอาไว้ให้คิดจะได้จบสิ้นเสียที อิอิ
    
    
    
  • First_January

    11 พฤษภาคม 2547 13:59 น. - comment id 265747

    
    ตอนนี้เศร้าจัง
    
    ไม่รุ้ว่าตอนนี้จบหรือยัง
    
    แล้วจะติดตามนะครับ
    
    ...
    
    ^____^
    
    
    
    
  • แก้ม .. ป่อง

    11 พฤษภาคม 2547 15:17 น. - comment id 265793

    เศร้า .. เนอะ ตอนนี้
    
    แล้วแก้มจะมาตามอ่าน ตอนต่อไปนะคะ
    
     
  • อัณณพ

    11 พฤษภาคม 2547 15:55 น. - comment id 265828

    เศร้านะค่ะ แต่ก็แต่งได้ดี เหลือเกินค่ะ
  • ***กฤษณะ***

    11 พฤษภาคม 2547 19:12 น. - comment id 265944

    ^J^       .............
    
            รอมาตั้งร้อยปี...รออีกสักนาที จะเป็นไร....
      เอ้า..จะรอครับ...........ฯ
    
    
  • อาภาภัส

    11 พฤษภาคม 2547 20:38 น. - comment id 265983

    ตอบตุณแก้ว
    
       ไฮ้กลัวนางเอกตัวแข็งหรือคะ เฮ้อคำว่าอะไรก็รักก็ต้องมีหลากหลายสุขมั่งทุกข์มั่งก็ตอนดอกทานตะวัน
      อือ ความจริงน่าจะทำการ์ตูนแบบโบราณนะ คุณแก้วเขียนดีมากเลย
  • อาภาภัส

    11 พฤษภาคม 2547 20:44 น. - comment id 265989

    ตอบขอบคุณคุณอรรถสิทธ์
       คุณเขียนได้ไพเราะจัง
    
      เนื้อทราย ย่างเยื้อง มา   พรานเล็งล่า ฆ่าเจ้าหมาย
      ป่าดงมีอันตราย    นางเนื้อทรายแฝงกายไพร
  • อาภาภัส

    11 พฤษภาคม 2547 20:50 น. - comment id 265992

    ตอบขอบคุณคุณหนึ่ง
    
             มันจบเป็นตอนๆ เศร้าบ้างสิ ขอบคุณที่ติดตาม
  • อาภาภัส

    11 พฤษภาคม 2547 20:54 น. - comment id 265995

    ตอบขอบคุณแก้มป่องจ้ะ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    11 พฤษภาคม 2547 22:27 น. - comment id 266054

    ด้วยมีเหตุอันใดกระไรหนอ
    ตัวพี่นั้นไม่ติดต่อไม่มาหา
    ทำให้เราเฝ้าคอยน้อยอุรา
    เมื่อเธอนั้นไม่มาพาเราคอย
    
    *-*ไพเราะและสวยงามมากเลยค่ะ*-*
    
  • อาภาภัส

    12 พฤษภาคม 2547 17:14 น. - comment id 266449

    ตอบคุณผู้หญิงไร้เงา
        กลอนที่เขียนตอบมาเพราะจัง ขอบคุณนะคะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน