สงครามคร่าชีวิต แหละรอนริดมนุษยธรรม จิตใจถูกจองจำ จากปิศาจอันชั่วร้าย มันมุ่งจะเข่นฆ่า เอาชีวาคือจุดหมาย มันเผาและทำลาย จะให้ชาติพินาศลง ใครเล่ายื่นมือช่วย แหละอำนวยเหล่าพันธุ์พงศ์ จับมันเข้าใส่กรง ขังให้จมระลึกกรรม ให้มันตายลงนรก ให้ไหม้หมกถึงสาสม ให้มันทุกข์ระทม ให้มอดม้วยในสันดาน - -
28 เมษายน 2547 18:42 น. - comment id 256268
อืมม์
28 เมษายน 2547 21:20 น. - comment id 256392
เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรนะคะ สงครามคงหยุด เมื่อสิ้นสุดจุดชีวิต มนุษย์ใช่ทำผิด เพียงความคิดเขาเปลี่ยนไป คุณธรรมค้ำจุนโลก ปัดเป่าโศกวิโยกภัย มนุษย์ให้อภัย สุขนั้นไซร้ ... คงใกล้มา อย่าจมอยู่ในความรุนแรงนะคะ มันจะฆ่าคุณทั้งเป็น
29 เมษายน 2547 14:54 น. - comment id 256792
สงครามคร่าชีวิต ด้วยความคิด ของหมู่มาร อ้างศรัทธา เป็นพยาน ใช้พร่าผลาญ ชีวิตคน สั่งคน ให้ไปฆ่า ดั่งคนบ้า น่าฉงน ชาวบ้านเค้าอับจน กูไม่สน ใช่ลูกกู นี่หรือ ที่มอบให้ ดั่งที่ไว้ ใจทุกผู้ หยุดเขม่น เป็นศัตรู แล้วอุ้มชู สู่สันติธรรม.. ---------------------------------
30 เมษายน 2547 10:53 น. - comment id 257293
ประวัติศาสตร์จารึกไว้ ความน่ากลัวเกิดขึ้นได้เสมอ การฆ่าห้ำหั่นกันด้วยนามของเหตุผล ฉุดกระชากพรากวิญญาณจากชีวิต สงครามเล็กและใหญ่จึงเกิดขึ้นได้เสมอ เพียงแค่สะดุดต้นหญ้าแห่งเขตแดน ธงรบก็ถูกชักขึ้น ในนามของกวีผู้ไม่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ฉันอยากเขียนบทกวีไว้สักบท แต่มันล้วนเป็นความรู้สึก อาจเป็นเพียงบันทึกทางประวัติศาสตร์ ยุคที่มนุษยชาติมีอารยธรรมรุ่งเรือง และพากันออกจากถ้ำมาสู่เมือง แล้วอวดอ้างว่ามีวัฒนธรรม มนุษย์เราอาจฆ่ากัน ด้วยเหตุผลหลายหลายอย่าง ซึ่งก็น่ากลัวมากพอแล้ว แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่า คือการถูกทำให้เชื่อ ว่าการฆ่านั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้องและชอบธรรม และก็ปล่อยให้ใครสักคนตัดสินใจ ว่าใครที่ควรจะฆ่าและถูกฆ่า ๒๘ เมษายน ๒๕๔๗ ป.ล.แด่โศกนาฏกรรมของสรรพชีวิตที่ถูกพรากวิญญาณด้วยอยุติธรรม