อาภาภัส
รัก ..นี่ละนะ..
เสียงนกเล็กๆจุบจิ๊บ จีบกันเบาๆยามเช้าวันนี้ ๑๕ เมษายน ๒๕๔๗ ฉันร่วมรับฟังเสียงจากเพื่อนในธรรมชาติ ชื่นชมที่หัวใจมันมีรัก รักที่มีคู่เคียง ย่อมไม่เหงาหงอย ฉันเองก็มีเช่นกัน หนังสือ คำกลอน เรื่องราว ในความคิด ที่อยากให้ภาษาไทยอยู่ก้องฟ้า แม้ฉันเปรียบเหมือนละอองแห่งธุลีดินที่เล็กที่สุด แต่ฉันก็ยังพอใจถ้าหากฉันถูกแดดส่องมันคงมีประกายดุจดังประกายเพชรเช่นกัน
สายน้ำที่ฉันปล่อยให้มันรินรดหน้าฉันยามนี้ เพื่อจะเรียกความสดชื่น และตั้งใจคิดว่าจะช่วยโอบอุ้มภาษาได้อย่างไร แล้วทำให้ผู้ได้ลิ้มรส อิ่ม อิ่มเอม มีความสุข สิ่งทีฉันชอบคงอยากเห็นผู้คนยิ้ม ยิ้มที่ไม่ลงทุนใดๆเลยนะ เป็นสิ่งที่
ธรรมชาติมอบให้ทุกคนโดยไม่เลือก เพศ เลือกวัย เป็นความอบอุ่นในหัวใจที่ไหลกระจายส่งความสุขให้ผู้คนโดยผ่านสายตาเป็นสื่อ ยามเราแย้มยิ้ม ตายิ้ม ปากยิ้ม หัวใจ ยิ้ม ไมตรีไม่มี ลงเงิน ก็คือยิ้ม
เคยเห็นใครสักคนยิ้มไหม ใจถึงใจ มันอ่านค่าภาษาใจ ตามแต่เจ้าตัวจะพรรณนา สายตากรองสื่อแห่งการยิ้ม ไออุ่นใน ความรู้สึกดีงามจะปรากฏหากเป็นความรัก ความชอบพอ ความพอใจ มันสดใส มันแบ่งปันความรู้สึกจริงใจให้แก่ผู้คนแม้ไม่รู้จัก เขาสุขเราสุข
แล้วยามที่เราเขียนเป็นโคลง ฉันท์กาพย์ กลอนล่ะ มันส่งสาร และสื่อใจได้แค่ไหนนะ และจำเป็นไหม ที่ต้องให้คนนิยมอ่านเฉพาะกลอนรัก แต่เท่าที่ประเมินก็จริงเสียด้วย กลอนรักหวานกระจุ๋มกระจิ๋ม ได้รับการต้อนรับแล้วจะทำไงดีที่จะพลิกไถภาษา
เอาล่ะนะ จะลองเริ่มดูนึกถึงคำครูสอน รู้แบบงูๆปลาๆ ทำอะไรแบบงูๆปลาๆ มันคงเหมือนเราตอนนี้เลย วันนี้ลองปนๆกันดู
.
** บอก รัก **
ร่ายสุภาพ
โอรักเอยอึดอัด ลอยเรือลัดเรียบคลอง หวังจีบจองนวลนาง โฉมสอางค์สวยสาว งามผิวขาวเรื่อลิ้ม ดวงเด่นยามยะยิ้ม สว่างฟ้านภาลัย เรืองนา
** รัก ..อ๊ะ จ๊ะ **
อินทรวิเชียรฉันท์
(เวลาอ่าน ให้อ่านเหมือนตอนสวดมนต์ องค์ใดพระสัมพุทธ)
ใจเรียมจะเจียนร้าว นะจ๊ะ เจ้า หทัยหวาน
พี่นี้ มลายราน มน หม่น ฤดีรอน
หวังเห็น ธ นวลนาง วร ปราง ยะยิ้มวอน
ตาตอบ และ เอ่ยอ้อน รักจ๊ะ จ้า รตีเผย
** รัก ฝากลม **
กาพย์ฉบัง ๑๖
ชายใดไร้รักจักตรม หวังร่วมภิรมย์
สมสู่อยู่สุขร่วมสอง
เอื้อนเอ่ยฝากลมโฉมน้อง คิดถึงเนื้อทอง
คมขำขาวนวลยวนใจ
** รัก พาชม **
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘
เรือรักลอยลำ คลาคล้อยจ้วงจ้ำ จรจีบอรชร หวานใจใสสด งามงดโอษฐ์อ่อน อย่าปล่อยเรียมรอน รวดร้าวหนาวทรวง
โปรดเผยพาที ใจเจ้าเนาพี่ ชื่นชอบห่วงหวง
รักลึกนึกรัก ทึกทักแดดวง วอนเว้าอย่าลวง รักแล้วรักจริง
** รัก คารม **
โคลงสี่สุภาพ
ยามไกลใจพี่นี้ เนานวล
คิดก่อภาพยามสรวล ส่งให้
อีกคำเอ่ยคมครวญ เคยค่อน รอนนา
ฝังอยู่ ทราบสุขไซร้ ซ่านซึ้งหวานหอม
** รัก รัก รัก รัก **
โคลงกระทู้ ๑ คำ
รัก คือยอม ร่วมรู้ รสใจ
รัก เอ่ยจากตาไหว หว่านล้อม
รัก ตอบย่อมละไม มากดั่ง เดือนนอ
รัก เร่าพอเพียบพร้อม พรั่นสิ้นถวิลหา
** รักเธอ เสมอมิ่ง ยอดหญิง หวานฉ่ำ**
โคลงกระทู้ ๒ คำ
รักเธอ เธอห่อนรู้ ฤาไร
เสมอมิ่ง มิตรสวยใส สู่เจ้า
ยอดหญิง หนึ่งทรามวัย วอนแว่ว รักเอย
หวานฉ่ำ หวานคละเคล้า คู่ร้อยพลอยฝัน
** รัก คือ รัก **
โคลงสามสุภาพ
รักคือรัก ทักใจ เจืออวลไออุ่นหล้า
ลอยล่อง เหนือฟากฟ้า เฟื่องฟุ้งแดนสรวง สวรรค์นอ
** รัก นะ **
โคลงสองสุภาพ
รักนะนวลนิ่มน้อง เนาร่อง นองยาม จ้อง
หลั่งล้นโหยหา
** อย่างไรก็รัก **
กลอนสุภาพ
รักอยู่คู่หล้ารักมานานเนา ใครใคร่เอา อุ่นใคร ใจลุ่มหลง
รัญจวนรวนโรมรัน ชะงักงง ชีพปลิดปลง ยังชีพ เพียงเพื่อหวาน
ใจชนล้วน ชนใจ ในยามรัก เพลินสบพักตร์รักเพลินสะเทิ้นสาน
ตาส่งสุขซึ้งตา พาเบิกบาน สุขสราญพบสุขทุกดวงใจ
** รัก เอ๋ย รัก เอย **
กลอนดอกสร้อย
รักเอ๋ย เคยรู้ไหม ข้ารักใคร ใจข้า ยังหวาหวือ
ลอยละลิ่วปลิวลอยลมกระพือ รักก็คือ ความรัก สมัครครอง
ยอมผูกจิตคิดยอมแม้เจ็บจิต ระแรงฤทธิ์ ลึกระ คราหม่นหมอง
อาภาภัส จัดอา ลักษณ์ร้อยกรอง รักคะนอง ครองรัก โอ รักเอย