๏ ครางแหบแหบโหยไห้หวังคลายโศก เคยอับโชคอย่างไรหนีไม่พ้น อยู่ท่ามกลางมืดดับของอับจน ฝืนฝืนทนดั่งเป็นเดนสังคม ถูกกดขี่ขืนข่มทั้งถ่มถุย มิอาจคุ้ยแคะเขี่ยระเหี่ยห่ม ทนทนสายตาเหยียดเสียดอารมย์ เพียงชื่นชมดมกลิ่นของดินทราย หมอกคล้ำคล้ำคลี่คลุมยังสุมสู่ ไม่รับรู้วันลางเลือนจางหาย จะกู่ก้องร้องเป่าจนเฉาตาย ก็อย่าหมายแม้เศษของเมตตา สาบสาบสางยังคลุ้งฟุ้งไปทั่ว พร้อมเสียงรัวพ่นคำย่ำกร่นด่า ใช่อยากจนค่นแค้นแสนทรมา เมื่อวาสนานำน้อมจำยอมทน กระหยับยืนขืนขันหวั่นหวั่นหวาด ดูขลาดขลาดกล้ากล้ามาหลายหน ยอมดื้อด้านหน้าอยู่กลางหมู่ชน ขอจำนนโชคชะตาอีกราตรี....๚๛
15 มีนาคม 2547 11:54 น. - comment id 231119
ครางแหบแหบ..โหยไห้...หวังคลายสร่าง เมื่อคืน...หนักไปบ้าง...ช้างยกไห กะจะจิบ...น้อยน้อย...ค่อยพิไล.. แต่มือไว..ยกขึ้นซด..หมดยาดอง... อิอิๆๆ...เมา...ยาดองเหรอค่ะ... ^____^ ท่ามกลางชน...ทนสู้...สู้บากบั่น ต้องกัดฟัน...ฟันฝ่า...พายุโหม... ใช่ว่าเป็น..ส่ำสัตว์..เดนสังคม จะขมขม..ขื่นขื่น..ดื้อด้านไป.. ^____^ แต่งได้เพราะจังเลยค่ะ..
15 มีนาคม 2547 12:12 น. - comment id 231138
ใครบางคนที่บนฟ้า ขีดมาแล้วทุกอย่าง ขีดให้เราได้มาพบ แล้วเราก็เดินแยกทาง ฉันไม่รู้ต้องพูดยังไง ให้เธอหักใจได้บ้าง แต่ขอ...ขอได้เพียงพูดไป อันคนเราก็แค่นี้ อย่างที่เห็นกันอยู่ อยากให้เธอได้เรียนรู้ เรื่องราวจากคนมากมาย คิดว่ารักจะมั่นคง ยังอาจจบลงง่ายง่าย แตกสลาย ไม่ได้มีเพียงเรา คงไม่ตาย หากไม่เหมือนดังเก่า คงไม่ตาย หากไม่มาพบเธอ ถามว่าฉันไม่เจ็บเลยหรือ หรือฉันไม่รักไม่แคร์เธอ ขออย่าถามอะไรแบบนั้น ยอมจำนนให้บนฟ้า จับเราแยกกันห่าง สิ่งในใจที่ยังค้าง ให้เราอภัยให้กัน ขอให้คิดว่าโชคชะตาของเราไม่มีร่วมกัน เธอกับฉัน... รักมันเกินเป็นจริง
15 มีนาคม 2547 13:18 น. - comment id 231159
ครางแหบแหบโหยไห้หวังคลายโศก เหมือนดั่งคนไร้โชคสุดอับเฉา มีแต่ทุกข์กล้ำกลายคล้ายดั่งเงา โถตัวเราแสนเศร้าในโชคชะตา *-*กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ แต่งเก่งจัง*-*
15 มีนาคม 2547 13:45 น. - comment id 231173
เมื่อไหร่น้าสิบจะอ้วนนะ ..เห็นผอมเหลือแต่กระดูกมาข้ามปี ..
15 มีนาคม 2547 13:48 น. - comment id 231180
ใยท้อแท้แม้ใจให้โศกซ้ำ ใยชอกช้ำกล้ำกลืนฝืนสดใส ใยหมองหม่นทนสู้อยู่ร่ำไป ลองถามใจของเราคงเข้าที....ฯ ลองถามใจเราก่อนว่าเกิดจากอะไร?..นะคะ..เพราะทุกอย่าง..ย่อมต้องมีเหตุ...ผลจึงจะเกิดขึ้น....พิจารณาที่ตัวเรานะคะ...ยังเป็นห่วงอยู่นะ..( ดื่ม..น้อยลงหรือยัง...)
15 มีนาคม 2547 14:10 น. - comment id 231209
บทบาทในยามราตรีเหมาะเจาะกับลุงผีขี้เมา ดื่มด่ำสุราร่ำ และราตรีนี้เพิ่งจะเริ่มต้น บทกวีให้แนวคิดในด้านสนุกสนานและ ความไม่ถือโทษและเอาความกับสิ่งไม่เป็นสาระ สบายใจ สบายใจ แบบปล่อยปล่อยวาง ดีจังครับ
15 มีนาคม 2547 15:38 น. - comment id 231286
เพิ่งได้เข้ามาอ่านคุณผีเป็นท่านแรกในวันนี้ค่ะ สวัสดีค่ะ เขียนกลบทอะไรคะอันนี้
15 มีนาคม 2547 16:37 น. - comment id 231338
คุณน้ำใส....ขอบคุณจ้า คุณ 4264...ขอบคุณจ้า คุณผู้หญิง.....ขอบคุณจ้า หลานสาว......นะ ก็พยายามกินแล้ว..เนื้ออยู่ไหน..อิอิ คุณราชิกา...พิจารณาแล้ว...เมาแหงๆ หลานชาย....ทำนองนั้นแหละนะ...แต่มึนๆ เนอะ ทิกิเพื่อนเรา.....เรื่อยๆ แหละจ้า..
15 มีนาคม 2547 19:48 น. - comment id 231427
โชคชะตา ชอกช้ำ ชวดเชยชม ความขื่นขม คลุกคลี เข้าเคียงข้าง วุ่นว้าเหว่ วังเวง ว่ายเวิ้งว้าง ทนทุกข์ทาง ท้อแท้ ระทดระทวย
16 มีนาคม 2547 12:34 น. - comment id 231586
วาสนาคืออะไรใครกำหนด มัวรันทดยอมแพ้แก่วาสนา แล้วเมื่อไรอ้าปากและลืมตา ด้วยสองมือแกร่งกล้าท้าสู้กัน.... ตัววาสนาคงไม่แข็งแรงเท่ามือเราแน่เลย อิอิ
16 มีนาคม 2547 12:42 น. - comment id 231593
:) เมาอะไรยังผ่อนคลายเมื่อได้สร่าง แต่เมาค้างในรักมันหนักหน่วง เมาทุกวันนาทีมีให้มันหนักทรวง แต่ยังห่วงรักจึงเมาได้ทุกวัน. แก้วประเสริฐ.
16 มีนาคม 2547 16:32 น. - comment id 231751
*-* ยังคงเขียนได้ดีไม่เปลี่ยนแปลงเลยนะค่ะ *-*แวะมาทักทายเช่นเคยค่ะ