ในเมืองแห่งแสงสีที่สดใส ข้าหม่นหมอง ข้าร้องไห้ ตั้งหลายหน ในเมืองแห่งความหลายหลากมากผู้คน ข้าอ่อนแรง ดิ้นรน...จนอ่อนใจ คิดถึงข้าวเต็มนา ปลาเต็มน้ำ คิดถึงคลองเคยว่ายดำ น้ำใสใส คิดถึงบ้านที่ลาร้างมาห่างไกล คิดถึงใครบางคนที่เฝ้าคอย ทั้งดินทั้งฟ้า เจ้าจะรู้ไหมว่า ข้าเหงาหงอย ชีวิตที่เป็นอยู่ดูล่องลอย ตัวข้าเล็กกระจ้อยร่อยอยู่กลางกรุง อยากจะคืนภูมิลำเนา แหล่งกำเนิด ผืนแผ่นดินถิ่นเกิด และท้องทุ่ง กลิ่นจำปี มะลิลา หอมจรุง ฝากความมุ่งหวังไป กับสายลม ฝากคิดถึงแม่พ่อและน้องพี่ อยู่ทางนี้ ใจจะขาดด้วยขื่นขม ยังไม่ลืมทุกถ้อยร้อยคำคม สอนสั่งสมสูงค่ากว่าเงินทอง ฝากคิดถึงเถาตำลึงที่ริมรั้ว ทั้งสายบัวสันตะวาในนาหนอง ฝากห่วงแม่โสนน้อยที่ริมคลอง ฝากปกป้อง ผักบุ้งน้ำ ตามคันนา ภาพเจ้าทุยลุยลายยังไม่ลบ เสียงเขียดกบยังเจื้อยแจ้วให้แว่วหา หอมควันไฟจากเตาฟืนยังไม่ซา ยังหวังว่ายังมีหวัง.จึงยังทน ในเมืองแห่งแสงสีที่สดใส ข้าหม่นหมองข้าร้องไห้ตั้งหลายหน ในเมืองแห่งความหลายหลากมากผู้คน ข้าอ่อนแรง ดิ้นรนจนอ่อนใจ มีภาพของพ่อแก่ และแม่เฒ่า คอยปลอบใจให้คลายเศร้าพร้อมก้าวใหม่ ข้าฝากตัวไว้เมืองกรุงที่ศิวิไลซ์ ข้าฝากรักและห่วงใยไว้บ้านนา
28 มกราคม 2547 23:29 น. - comment id 208860
มาชื่นชมผลงานขอรับกะผม แต่งได้ดีมีความหมายมาก ๆ นะ ขอชม
29 มกราคม 2547 00:54 น. - comment id 208922
ยอมรับและนับถือ ในฝีมือของคุณนั้น แต่งได้ดีและสร้างสรรค์ ในทุกวันที่ลงกลอน *-*ชื่นชมในผลงานคุณเสมอค่ะ กลอนไพเราะ และความหมายดีมากเลยค่ะ แต่งเก่งจริง ๆ *-*
29 มกราคม 2547 01:57 น. - comment id 208958
จะหาใครเขียนงานหวานอ่ย่างนี้ได้อีกหนอ
29 มกราคม 2547 10:28 น. - comment id 209003
คุณแม่จิตร...ทุกคำแนะนำและความคิดเห็นของคุณแม่จิตร ก็มีความหมายอย่างยิ่งเช่นกันค่า :)
29 มกราคม 2547 10:45 น. - comment id 209018
คุณผู้หญิงไร้เงา... ขอบคุณทุกค่ำเช้า... เช่นกันค่า
29 มกราคม 2547 11:41 น. - comment id 209043
คุณ tiki... คุณ tiki ก็ชมได้หวานนนนน สุดๆ เช่นกันค่า
11 กรกฎาคม 2547 10:17 น. - comment id 283185
คนเหล่านี้แหละเป็นหนึ่งในผู้สร้างและรากฐานความเจริญทางวัตถุ.... ความหมายดีมากครับ แทน