กงจักรนั้นหรือ.....จะครือบัว ??. .มันอาจเลือนไปบ้าง......หว่างความสุข ว่าความขมขื่น.....ขมทุกข์......นั้นเป็นไฉน ? หากภาพทุกข์........ผ่านแวบ.......เวียนจิตใจ กระทบให้........น้ำตาหลั่ง ไม่รู้ตัว ........( ๑) น้ำตาหยด.......ลงเม็ดข้าว.........กินเคล้าทุกข์ ช่างร้าวรุก..........ราวกลั่น............ภาพสลัว ความหลังผ่าน............ม่านน้ำตา............มาพร่ามัว หลอมจิตใจ............เคยหวาดกลัว............ให้กรอบเกรียม..........(๒ ) ผ่านมาได้............อย่างไร............ไฉนหนอ? หากไม่สู้............คงกดคอ............จมน้ำเปี่ยม ในความช้ำ............ท้อรันทด............น้ำตาเรียม ย้อนมาเยี่ยม............เยือนมาย้ำ............ให้ช้ำตรม........( ๓) .ในความร้าว............รานลึก............ผนึกไว้ ผ่านน้ำใจ............อันหินโหด............สุดโฉดฉม ในความหลัง............คั่งแค้น............ดุจเคียวคม สับคว่ำล้ม............โค่นครั้ง............พังบรรลัย.......( ๔) หรือ ? เวรกรรม............นำจากชาติ............อันชาช้ำ ปลายดาบย้ำ............คำคอ............เบียดขาดไหล่ คือใช้กรรม............ชาติเก่าเก่า............จึงเข้าใจ อโหสิให้............เธอผ่านไป............อย่าพานเวียน........(๕ ) อโหสิ............ให้แก่กรรม............ซึ่งนำซัด ดั่งมรสุม............กระหน่ำพัด............ฉวัดเฉวียน กระแสกรรม............ไหลคว้าง............ล้างโล่งเตียน กว่าจะปลด............หนามเสี้ยน............แทบปางตาย( ๖) ..... บอกตัวเอง............ให้หยุดคิด............พิษไม่ข้อง........ แต่ใจจอง............ทุกข์ลำบาก............ยากใจหาย ปะเหล่าพาล............ชาญกระชาก............ลากใจกาย ล้มกลิ้งคล้าย............กรรมกระหน่ำ............ซ้ำชีวิต.......( ๗) มองผ่านม่านน้ำตา...........ซึ่งพาเศร้า ตรมไหลผ่าว...........ผ่านกลบตา...........คราเห็นผิด ผลักดอกบัว...........ปทุมา...........ว่าเป็นพิษ เสน่ห์กงจักร...........เชือดลิขิต...........ชีวิตพัง........( ๘)
28 มกราคม 2547 00:05 น. - comment id 208502
อย่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัวเลยนะในชาตินี้ ทำอะไรก็ทำให้ถูก ให้ดีดี อย่าสับสนสะเปะสะปะ จะได้จับทางต่อไปไม่ผิดพลาด คลาดถลำช้ำใจ .................................... ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน เขียนให้อ่าน มาแต่เมื่อ 10 มกราคม 2547
28 มกราคม 2547 02:04 น. - comment id 208540
ตามมาอ่านค่ะ
28 มกราคม 2547 07:38 น. - comment id 208568
กงจักรเล็กๆ ไม่กลัวนะ
28 มกราคม 2547 08:17 น. - comment id 208571
ตามมาอ่านค่ะ จาก : ละอองน้ำ รหัส - วัน เวลา : 212100 - 28 ม.ค. 47 - 02:04 :)
28 มกราคม 2547 08:18 น. - comment id 208572
กงจักรเล็กๆ ไม่กลัวนะ จาก : รหัสสมาชิก : 2353 - ผีขี้เมา รหัส - วัน เวลา : 212127 - 28 ม.ค. 47 - 07:38 อืมม์ ยังไงก็จักร อยุ่ดีอะคะคุณผี
28 มกราคม 2547 12:12 น. - comment id 208610
บอกให้ตนหยุดคิดกับพิษเศร้า และเลิกเหงาเศร้าใจเมื่อไม่มีเขา แต่ทำไมนะทำไมใจของเรา เลิกลืมเศร้าไม่ได้ในอุรา *-*กลอนไพเราะมากเลยค่ะ ชอบค่ะชอบ*-*
28 มกราคม 2547 12:36 น. - comment id 208624
เดินก้มหน้าสงบใจสะพายบาตร ออกจากวัดดับนิโรธเพื่อโปรดสัตว์ นึกว่าโยมถวายบัวสักหนึ่งมัด เป็นกงจักรเฉือนตัดถึงดับขันธ์... พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ สัตว์นรกเท่านั้นที่ทำได้ที่ นราธิวาส มันเห็นกงจักรเป็นดอกบัวจริง ๆ
28 มกราคม 2547 14:10 น. - comment id 208643
บอกให้ตนหยุดคิดกับพิษเศร้า และเลิกเหงาเศร้าใจเมื่อไม่มีเขา แต่ทำไมนะทำไมใจของเรา เลิกลืมเศร้าไม่ได้ในอุรา *-*กลอนไพเราะมากเลยค่ะ ชอบค่ะชอบ*-* จาก : รหัสสมาชิก : 4521 - ผู้หญิงไร้เงา รหัส - วัน เวลา : 212169 - 28 ม.ค. 47 - 12:12 .จึงปรุงแต่งเป็นรูปธรรมซึ่งสังขาร หอบรื้อ*รัก* ข้ามผ่าน จนเกิดหลง ด้วย*รัก*แล้ว...จะประจักษ์....พะวักพะวง รูปโฉมหลง.......เสียง..สัมผัส..มัดย้อมใจ ....... ...............พันธนาการความคั่งแค้นคุโชนมิเคยได้ดับแม้นสักกระผีกร้นของเมตตาที่หลั่งให้ ด้วยปิดใจมิรับพลังเมตตาใดๆ ออดอ้อนหวั่นไหวแต่ในความเก่าที่ผ่านพ้นไป เกินไปหยุดค้นหาณ.แหล่งไหนในจักรวาล . และด้วยเหตุที่ใครที่ได้เห็นพ้องพานก็มิอยากได้จะไปเก็บอารมณ์อันขมขื่นใจนั้นมาจับใส่ไว้ในห้องใจแห่งเมตตา ยากจะปลอบขวัญที่ร้างลา......ด้วยโฉมพิศมัยแต่กระไรหนา.....ไม่เห็นเยื่อใยใจนี้ที่เฝ้าดู..เฝ้ามีกรุณามหาศาล......ที่หลั่งล้นให้แด่เธอทุกทิวา.......ราตรีกาล เธอก็เพียงบ่มสะท้านอยู่แต่ในทรมาณแห่งกามา... อันเริงล้นระส่ำระส่ายในใจน้อย แต่โชนแสงสว่างด้วยสีดำข้นเข้มแดงน่าผวา ..... พี่เข้าใกล้........แม้นโอบไว้ด้วยเมตตา แม้นห่มเธอทั้งปีกฟ้า........เธอก็ยังไม่ฟื้นใจ
28 มกราคม 2547 14:17 น. - comment id 208645
พันธนาการความคั่งแค้นคุโชนมิเคยได้ดับแม้นสักกระผีกร้นของเมตตาที่หลั่งให้ ด้วยปิดใจมิรับพลังเมตตาใดๆ ออดอ้อนหวั่นไหวแต่ในความเก่าที่ผ่านพ้นไป เกินไปหยุดค้นหาณ.แหล่งไหนในจักรวาล แต่โชนแสงสว่างด้วยสีดำข้นเข้มแดงน่าผวา ..... น้องตูนที่รัก ดังพระพุทธพจน์ว่า ทุกข์เพราะไม่รัก......เป็นฉันใด ด้วยไม่รัก ต่อจะให้ดีปานใด ต่อใหจับข้าฯนั้นไปขังไว้...ข่มเหงทั้งกายใจ ก็ไม่อาจได้รักจากข้าฯนี้เลยสักครา จะลากข้าฯไปให้ใครเผาใจ หรือจะถ่วงน้ำไว้ให้ตายบ้า อย่าหวังเลยนะชาตินี้นะพี่ยา ด้วยไม่รักคือทุกข์หนักหนาที่เข้าใกล้ ............................................... ................................................ พี่เข้าใกล้........แม้นโอบไว้ด้วยเมตตา แม้นห่มเธอทั้งปีกฟ้า........เธอก็ยังไม่ฟื้นใจ คำตอบของบท.........เห็นกงจักรเป็นดอกบัวนะคะ ทิกิ_tiki -ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน .
28 มกราคม 2547 14:25 น. - comment id 208646
เดินก้มหน้าสงบใจสะพายบาตร ออกจากวัดดับนิโรธเพื่อโปรดสัตว์ นึกว่าโยมถวายบัวสักหนึ่งมัด เป็นกงจักรเฉือนตัดถึงดับขันธ์... พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ สัตว์นรกเท่านั้นที่ทำได้ที่ นราธิวาส มันเห็นกงจักรเป็นดอกบัวจริง ๆ จาก : รหัสสมาชิก : 4068 - ฤกษ์ ชัยพฤกษ์ รหัส - วัน เวลา : 212183 - 28 ม.ค. 47 - 12:36 .........คุณฤกษื ชัยพฤกษ์ผู้มากด้วยเมตตาคะ.... แต่โชนแสงสว่างด้วยสีดำข้นเข้มแดงน่าผวา ..... พันธนาการความคั่งแค้นคุโชนมิเคยได้ดับแม้นสักกระผีกร้นของเมตตาที่หลั่งให้ ด้วยปิดใจมิรับพลังเมตตาใดๆ ออดอ้อนหวั่นไหวแต่ในความเก่าที่ผ่านพ้นไป เกินไปหยุดค้นหาณ.แหล่งไหนในจักรวาล . และด้วยเหตุที่ใครที่ได้เห็นพ้องพานก็มิอยากได้จะไปเก็บอารมณ์อันขมขื่นใจนั้นมาจับใส่ไว้ในห้องใจแห่งเมตตา สัตว์โลกเอ๋ย...... พันธนาการแห่งความเกลียดชังในใจนั้น จะมีสิ่งใดดับได้แม้นไร้ซึ่งเมตตา......... -ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน
28 มกราคม 2547 17:13 น. - comment id 208707
ผมเห็นกงจักรเป็น 4 หลามตัดแฮะ ปล.ผมมันโลกียชน
28 มกราคม 2547 17:25 น. - comment id 208711
ผมเห็นกงจักรเป็น 4 หลามตัดแฮะ ปล.ผมมันโลกียชน จาก : หมี่เป็ด โลกียชน รหัส - วัน เวลา : 212267 - 28 ม.ค. 47 - 17:13 อ่าค่ะ...555 อืมม์ น่าคิดเหมือนกันนะ อบายมุข
28 มกราคม 2547 20:38 น. - comment id 208758
มองผ่านม่านน้ำตา...........ซึ่งพาเศร้า ตรมไหลผ่าว...........ผ่านกลบตา...........คราเห็นผิด ผลักดอกบัว...........ปทุมา...........ว่าเป็นพิษ เสน่ห์กงจักร...........เชือดลิขิต...........ชีวิตพัง........( ๘) นับจากบทนี้ก็จะเป็นเพียงเยื่อใยบางๆ พันผูกไว้ในใจให้รู้รสขมปร่าขื่นคอ ขอชีวิต
28 มกราคม 2547 21:52 น. - comment id 208787
เพราะเราเห็นกงจักรเป็นดอกบัว จึงโผนเข้าความชั่วแนบสนิท หากรักนั้นแสนร้ายจนกลายพิษ ก็เพราะจิตตกช้ำกรรมตามทัน อย่าหม่นหมอง อย่าหม่นหมอง อย่าร้องไห้ เตือนสติตัวเองไว้ไม่หุนหัน ผิดไปแล้วพลาดไปใจรู้พลัน สติมั่นดึงสลักโยนจักรคืน...!!!!!. ทิกิ_tiki ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน .....