๏ ปราชญ์โบราณท่านนั้น.......พลันสอน สั่งแล ดุจดั่งคำอวยพร.....................ก่อนให้ เขียนตามกฎเกณฑ์กลอน........โคลงเก่า ให้เล่าเรียนเพียรไว้.................เปลี่ยนถ้อยงดงาม ตามพยางค์ ๚ ๏ เขียนกลอนโคลงบ่งชี้..........ความนัย จิตซึ่งขบคิดไป.....................แผกถ้อย แตกต่างยิ่งหลงใหล...............ร่ายพจน์ อิงบทพลางรจน์ร้อย...............อย่างย้ำให้สม- ใจเอย ๚ะ๛ ปราชญ์โบราณท่านนั้นพลันสอนสั่ง แลดุจดั่งคำอวยพรก่อนให้เขียน ตามกฎเกณฑ์กลอนโคลงเก่าให้เล่าเรียน เพียรไว้เปลี่ยนถ้อยงดงามตามพยางค์ เขียนกลอนโคลงบ่งชี้ความในจิต ซึ่งขบคิดไปแผกถ้อยแตกต่าง ยิ่งหลงใหลร่ายพจน์อิงบทพลาง รจน์ร้อยอย่างย้ำให้สมใจเอย ๚ะ๛
20 ธันวาคม 2546 01:31 น. - comment id 192918
...สุดจะแปลงแต่งถ้อย.....ตามรอย ครูที่ทำดูคอย..................แค่สร้าง แลหนออย่างฝนปรอย.....คอยหล่น จนกว่าพอเสียบ้าง...........ต่อพื้นภพเคยซบเซา.. ....สุดจะแปลงแต่งถ้อยตามรอยครู ที่ทำดูคอยแค่สร้างแลหนอ อย่างฝนปรอยคอยหล่นจนกว่าพอ เสียบ้างต่อพื้นภพเคยซบเซา.... .....................สวัสดีครับ.......................
20 ธันวาคม 2546 12:35 น. - comment id 192955
กลอนบทนี้พี่ช่วยสอนผมบ้างได้ใหมคับผมอยากแต่งเป็นบ้างmymintToT@thai.comนะครับ
20 ธันวาคม 2546 14:19 น. - comment id 192976
วรรคกลอนมีสี่ถ้วน.....ครวญตาม หลักบ่งแบบจักงาม.....เงื่อนถ้อย เตือนผองแต่งผูกความ...คือเคร่ง..เล็งแล ตรองเทียบทำนองร้อย..ร่ำเค้าคำโคลง วรรคกลอนมีสี่ถ้วนครวญตามหลัก บ่งแบบจักงามเงื่อนถ้อยเตือนผอง แต่งผูกความคือเคร่งเล็งแลตรอง เทียบทำนองร้อยร่ำเค้าคำโคลง ถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนว่า พี่เนาว์ (เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์) จะเป็นคนริเริ่มเล่นกลบทแบบนี้ โดยอาศัยหลักการที่จำนวนคำในกลอนกับโคลงมีใกล้เคียงกัน ตำแหน่งบังคับสัมผัสก็ไม่ขวางทางกัน และบังคับเสียงท้ายวรรคกลอน กับบังคับเอกโทของโคลง ก็ไม่ทับซ้อนตำแหน่งลำดับคำให้เกิดปัญหา 00000............00 x00x0.............00 0@000...........00..00 @00@0.........0000 x และ @ คือตำแหน่งบังคับสัมผัสนอกของกลอน ส่วนเอกโท และสัมผัสโคลง หากันเองได้มั้งว่าอยู่ตรงไหนบ้าง
20 ธันวาคม 2546 14:27 น. - comment id 192978
..00..00x..............00x..00..00@ 000..00..00@.......... .00@..00..000 00000............00 x00x0.............00 0@000...........00..00 @00@0.........0000 เทียบผังให้เห็นชัดเจนขึ้น
20 ธันวาคม 2546 20:07 น. - comment id 193093
อ้อค่ะ
20 ธันวาคม 2546 23:32 น. - comment id 193163
ได้มาศึกษาด้วย อัลมิตราได้กุศลด้วยนะ
21 ธันวาคม 2546 00:07 น. - comment id 193173
คุณแก้วโนรี ขอบคุณค่ะ ที่ต่อโคลง-กลอน คุณน้องใหม่ .. ลุงเวทย์ลงผังให้แล้วค่ะ ลุงเวทย์..ขอบคุณหลายๆทีค่ะ คุณทิกิ ..:) คุณฤกษ์ .. ยินดีเป็นยิ่งนัก ค่ะ ..
21 ธันวาคม 2546 01:11 น. - comment id 193207
มารับรู้ด้วยคนนะ
21 ธันวาคม 2546 06:02 น. - comment id 193211
ขอบคุณลุงเวทย์มากครับที่มาแนะนำ ไม่งั้นผมคงมาปล่อยไก่ ตัวเบ่อเร่อที่นี่ มิน่าล่าผมไม่เคยเห็นคุณอัลมิตราเขียนลักษณะแบบนี้ มาเจอนักเขียนต้องสังเกตุเป็นพิเศษซะแล้ว ไยน้องนั้นกลั่นแกล้ง แปลงกล ลวงพี่ตกบ่วงมนต์ ล่อให้ ลุ่มหลงจิตสับสน เสน่ห์ งมงาย งงงั่งพะวงใกล้ ชิดแท้เชยเงา ไยน้องนั้นกลั่นแกล้งแปลงกลลวง พี่ตกบ่วงมนต์ล่อให้ลุ่มหลง จิตสับสนเสน่ห์งมงายงง งั่งพะวงใกล้ชิดแท้เชยเงา เนื้อหาคงไม่เข้ากัน ก็ถนัดแต่งแนวแบบนี้โดยเฉพาะครับ
21 ธันวาคม 2546 19:11 น. - comment id 193346
มาชื่นชมผลงานค่ะ แต่เรื่องโคลงไม่มีความรู้ค่ะ อยากจะศึกษาและลองแต่ง แต่ปรากฎว่าพอแต่งแล้วออกเป็นอะไรก็ไม่รู้ ฉะนั้นขออ่านอย่างเดียว พร้อมกับชื่นชมผลงานคุณอัลมิตราและผู้มีความรู้ มีฝีมือทางด้านนี้ดีกว่าค่ะ
21 ธันวาคม 2546 22:26 น. - comment id 193427
สวัสดีค่ะ คุณแม่จิตร .. ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการค่ะ คุณชัยชนะ .. หลายชุดค่ะ ที่อัลมิตราเขียนร้อยกรองผสม บางที่เป็นโคลง-กลอน โคลงฉันท์ กาพย์ห่อโคลง กมลฉันท์สมานกลอน ฯลฯ ..หากสังเกตให้ดี จะพบว่างานที่ผ่านมา บางทีเป็นลูกผสมอย่างที่อัลมิตราบอกค่ะ และรู้สึกดีใจมากค่ะ ที่คุณชื่นชอบงานเขียนแบบนี้ ไว้จะเอามาฝากอีกนะคะ .. คุณผู้หญิงไร้เงา .. อีกไม่นานนี้จะมีโรงเรียนเปิดสอนเกี่ยวกับ โคลง กลอน กาพย์ ฉันท์ ค่ะ .. ได้ยินข่าวแว่วๆมาจากคุณครูไหวใจร้าย หากมีข่าวคืบหน้าอย่างไร จะรีบบอกคุณผู้หญิงไร้เงาเลยค่ะ ..