เมื่อเดินไปไม่ได้...จะไปไหน จะก้าวไปทั้งที่ไร้หนทางหรือ...? จะก้าวหน้าพบทางตันมันครือครือ จะให้รื้ออิฐเขาเข้าได้ใย..? จะถอยหลังก็วนกลับนับลำบาก หันหลังยาก..ยากจะหาทางแก้ไข ก้าวไม่ได้ถอยไม่ได้ ทำอย่างไร คิดแล้วให้..ใจกลุ้มสุมวุ่นวาย ครั้นไปไหนไม่ได้ ...ก็ยืนนิ่ง ให้ทุกสิ่งหมดสภาพหมดความหมาย อยากจะทำให้ตัวเองนั้นละลาย จะได้กลายไปจากโลกในพริบตา....!!
26 พฤศจิกายน 2546 03:24 น. - comment id 185036
ครั้นปุจฉาครวญมาข้าเหนื่อยจิต คร่ำครวญคิดพิจารณาหาเหตุผล สิ่งที่ทำย่ำลงไปใจวกวน ข้าอับจนหนทางสว่างมี อันวิสัชนาข้าได้พบ คือจุดจบกลบเกลื่อนเบือนสุขี ครั้นข้าเดินเผชิญสุขทุกข์ทวี ใคร่ขอฉุดหยุดชีวีแค่นี้พอ ++อ่านหนังสือไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลยมานั่งโพสความคิดเห็นให้พี่น่ะค่ะ เนื้อหาเพราะมากๆเลยค่ะ แต่งปบบนี้อีกเยอะนะคะ ฟ่างชอบมากๆค่ะ (ขอเก็บไว้นะจ๊ะพี่)++
26 พฤศจิกายน 2546 03:30 น. - comment id 185037
อืมม์ ไม่น่าเชื่อว่าน้องว่าเพราะ ! แต่กลอนน้องเพราะกว่านะคะ
26 พฤศจิกายน 2546 03:41 น. - comment id 185040
แวะมาอ่านค่า อ่าอยากจาแจมอยู่หรอกแต่ว่าง่วงค่ะ ไปก่อนนะคะ
26 พฤศจิกายน 2546 04:32 น. - comment id 185047
รีรอ รอรี ทำอะไรไม่ได้ ยืดเวลา
26 พฤศจิกายน 2546 06:00 น. - comment id 185052
ไปข้างหน้า ถอยข้างหลัง ยังไม่ได้ ก็เหลือไว้ ให้ย่าง ทางซ้ายขวา หรือดำดิน บินบนฟ้า อย่าเกรงกลัว ยิ้มแย้มหัว คงมีเห็น สักเส้นทาง ขอให้พี่พบเส้นทางที่สุขสดใสนะครับ ส่งกำลังใจมาช่วยครับ
26 พฤศจิกายน 2546 08:38 น. - comment id 185065
เอ้า...อย่าถึงกับละลายเลย...ชีวิตมันหนังเรื่องยาว....ต้องดูกันนานๆ เงียบเงียบเปรียบร้างกางครอบ รอบรอบมืดดำย่ำหา เวิ้งว้างย่างเยือนไม่เคลื่อนคลา หวิวหวิวล้าล้าอกอาวรณ์ ไม่มีใครจะไขว่หาณครานี้ ไม่มีดีจะสืบสานจะสืบสอน ยังแต่เหนื่อยและเมื่อยล้าคอยอาทร ยังแต่ร้อนมาจรย่ำไม่อำลา คิดไปไกลคิดใฝ่ฝันถึงวันเก่า เคยสบเศร้าเคยเข้าใจเคยใฝ่หา เคยกอดกล้ำเคยย้ำคิดพินิศพา บ้างถลาในท่าทีบ้างดีควร เงียบเงียบยังเพียบคว้ายังล้าอก งกงกตกประหวั่นคอยบั่นสรวล รื่นรื่นเคยชื่นจิตเคยชิดจวน คร่ำครวญกลับมาครองมาพ้องพาน คว้างคว้างร่วงหล่นร่วงบนโศก สั่นสั่นสบวิโยคกระโชกผลาญ ชั่วแล้วแคลัวกันแต่วันวาร สิ้นวิญญาณสิ้นสัมพันธ์จวบวันตาย
26 พฤศจิกายน 2546 11:45 น. - comment id 185079
-^^- เจงๆแฮะ บางขณะของชีวิตเปงแบบนั้นเจงๆ
26 พฤศจิกายน 2546 12:05 น. - comment id 185083
คุณทิกิคะ....ดาหลาขออนุญาตออกความเห็นนะคะ.....คนเราทุกคนมักจะพบทางตันแบบนี้นะคะ...และแต่ละคนก้อหาทางออกได้ไม่เหมือนกัน............... สาหรับดาหลา.....ดาหลาจะหันหลังพิงกำแพงนั้นแล้วร้องให้....การร้องให้เป็นการระบายความเครียดได้อย่างนึงนะคะ.....หลังจากหยุดร้องก้อจะมองไปรอบๆ....บางครั้งแสงสว่างมักจะมาหลังม่านน้ำตานะคะ..... ดาหลาเป็นกำลังใจให้คุณทิกินะคะ.....
26 พฤศจิกายน 2546 12:14 น. - comment id 185084
ขออนุญาตตอบดาหลาก่อน น่ารักมากค่ะ อ่านแล้วซึ้งใจจัง และก็คิดว่า น่าจะต้องทำ แต่บางครั้ง ถ้าทุกสิ่งรุมประดังจนทำอะไรไม่ได้ คือการรอแสงสว่างจากฟากฟ้าลงมาช่วยเท่านั่นนะคะ
26 พฤศจิกายน 2546 12:18 น. - comment id 185085
ไปข้างหน้า ถอยข้างหลัง ยังไม่ได้ ก็เหลือไว้ ให้ย่าง ทางซ้ายขวา หรือดำดิน บินบนฟ้า อย่าเกรงกลัว ยิ้มแย้มหัว คงมีเห็น สักเส้นทาง ขอให้พี่พบเส้นทางที่สุขสดใสนะครับ ส่งกำลังใจมาช่วยครับ จาก : รหัสสมาชิก : 5053 - ชัยชนะ รหัส - วัน เวลา : 188293 - 26 พ.ย. 46 - 06:00 อ่านความน้องชายแสนน่ารัก มาถามทัก..คอยบอกกล่าว..เย้า..เล่นหัว บางครั้งแรงไปหน่อยหยอกลืมตัว แต่ไม่กลัว ยังมาตอบ ชอบเหมือนเคย ขอบคุณในกำลังใจค่ะ
26 พฤศจิกายน 2546 12:28 น. - comment id 185086
เอ้า...อย่าถึงกับละลายเลย...ชีวิตมันหนังเรื่องยาว....ต้องดูกันนานๆ เงียบเงียบเปรียบร้างกางครอบ รอบรอบมืดดำย่ำหา เวิ้งว้างย่างเยือนไม่เคลื่อนคลา หวิวหวิวล้าล้าอกอาวรณ์ ไม่มีใครจะไขว่หาณครานี้ ไม่มีดีจะสืบสานจะสืบสอน ยังแต่เหนื่อยและเมื่อยล้าคอยอาทร ยังแต่ร้อนมาจรย่ำไม่อำลา คิดไปไกลคิดใฝ่ฝันถึงวันเก่า เคยสบเศร้าเคยเข้าใจเคยใฝ่หา เคยกอดกล้ำเคยย้ำคิดพินิศพา บ้างถลาในท่าทีบ้างดีควร เงียบเงียบยังเพียบคว้ายังล้าอก งกงกตกประหวั่นคอยบั่นสรวล รื่นรื่นเคยชื่นจิตเคยชิดจวน คร่ำครวญกลับมาครองมาพ้องพาน คว้างคว้างร่วงหล่นร่วงบนโศก สั่นสั่นสบวิโยคกระโชกผลาญ ชั่วแล้วแคลัวกันแต่วันวาร สิ้นวิญญาณสิ้นสัมพันธ์จวบวันตาย จาก : สดายุ รหัส - วัน เวลา : 188306 - 26 พ.ย. 46 - 08:38 ชื่นใจค่ะ
26 พฤศจิกายน 2546 12:29 น. - comment id 185087
-^^- เจงๆแฮะ บางขณะของชีวิตเปงแบบนั้นเจงๆ จาก : 4501 รหัส - วัน เวลา : 188322 - 26 พ.ย. 46 - 11:45 อืมม์ เวลาน้อย..มาก จนไม่รู้จะทำอันไหนก่อน นะ
26 พฤศจิกายน 2546 15:03 น. - comment id 185141
ทั้งชีวิตพี่มีแต่งานห้างฯที่บ้าน อีกทั้งร้านค้ายามบ่ายฉายถึงดึก มโนนี้มีแต่งานงานซึมลึก ไม่เคยนึกเรื่องชู้สาวคาวกะใคร จะมีบ่นเบื่อด้วยว่าประสามรำคาญ เห็นเด็กเด็กวิ่งกันพล่านสถานไหนไหน ขับรถกลับดึกเห็นคึกทุกร้านพล่านหัวใจ เวทนาสังคมไทยไทยนับวันถอยลง
26 พฤศจิกายน 2546 17:24 น. - comment id 185160
กำหนดการอบรมผู้นำกิจกรรมสำหรับเด็กด้อยโอกาส 28 30 พฤศจิกายน 2546 ณ ค่ายลูกเสือ น้ำตกไร่พรพรรณ อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี เชิญน้องๆที่พอมีเวลาสนใจไปลงชื่อได้ที่ http://www.issarachon.com ค่ะ
26 พฤศจิกายน 2546 17:55 น. - comment id 185186
ก้าวแล้วก้าวไปก็ลำบาก ด้วยมีเรื่องยุ่งยากลำบากให้เห็น ก้าวกลับหันหลังไม่ควรเป็น แล้วฉันจะก้าวเน้นเน้นนั้นเช่นไร ในเมื่อก้าวเดินหน้าก็ไม่ได้ ก้าวหลังก็ไม่สบายใจไหนไหน ก้าวหน้าก็ลำบากแสนยากไป ก้าวหลังก็ไม่ได้ใจจำยอม *-*สงสัยต้องไม่ก้าวแล้วค่ะ อยู่กับทีเลยดีกว่านะค่ะ อิ อิ(กลอนน่ารักค่ะ)*-*
26 พฤศจิกายน 2546 18:13 น. - comment id 185205
กลอนน่ารักดีค่ะ
26 พฤศจิกายน 2546 18:22 น. - comment id 185217
ผมก็เป็น ภาวะอันกระอ่วนกระอัก ราวดักแด้ที่รอวันเปลือกปริออกมา
26 พฤศจิกายน 2546 18:25 น. - comment id 185221
อืมม์ ดักแด้ ดักแด้ในกับดักของกรรม จริงเลยนะคะ ภาวะแห่งทรมาณกรรม
27 พฤศจิกายน 2546 00:15 น. - comment id 185356
:))
27 พฤศจิกายน 2546 03:12 น. - comment id 185378
อ้าว...อ่านะ น้องน้องเค้าบอกว่า พี่ทิกิเขียนกำกวม อีกแล้วนะบทนี่ ก็มาอ่านอือ..คนบางคน ที่หลงตัวเองนึกว่าเป็นเรื่อง ส่วนตัวแบบ รักรัก ใคร่ใคร่ หามิได้นะเจ้าคะ เป็นปัญหาเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง ซึ่งพิจารณาด้วย ความครุ่นคิดหาวิธีการจะรักษาสัญญาเช่าสาขา หรือจะทิ้งสาขา ซึ่งก็ต้องใจพลังใจแก้ปัญหาพอ สมควร ว่าการจะเก็บสิ่งเล็กๆที่เราเคยมีความสุข แบบเด็กๆ ไปเปิดสาขา บ่าย ได้คุยกะหนุง กะหนัง สนุกสนานกะ ชาววัยรุ่น วัยโจ๋ ฯลฯ เอะอะเฮฮา ปาร์ตี้ ดูดนตรีคอนเสิร์ท อะไรแบบ นั้น กับ โจทย์ เตรียมรับงานใหญ่ ต้องไปดูแลอย่างหนัก สาขา จะเป็นตัวถ่วงอันใหญ่ต่อไป ต้องรีบปิดคดี สาขา ก็ขอเฉลยมาณ. ที่นี้ ด้วย น้องๆเค้าก็ อิน กันกะพี่ทิกิ กันมากจริงๆ อย่างที่คุณสดายุ ท่านอุตส่าห์ มาเขียนกลอนให้ตั้งยาว ทำให้ทิกิ ปลื้มใจไม่หายเลยค่ะ... บางคนเขียนอะไรที่ไม่เข้ากะปรัชญาตอนนี้ ก็ต้องขออนุญาตถอดถอนออกจากกระทู้เพราะจะทำให้ น้องๆแฟนคลับ ( อิ อิ คำคุณสดายุ) มีปัญหาว่า เอ๊ ใครน่ะ พี่มาทำยังกะเป็นเจ้าของพี่แล้วมาเย้ยเยาะพี่อีก เหมือนทิ้งพี่ไปแล้ว พี่โกรธเค้า....อ่านะ มันคนละเรื่องค่ะ นี่มันเรื่องงาน กะ สาขา ที่ไนท์บาซาร์ เอ้า บอกแหล่งไปเลย ว่ามันจะต้องปิด จริงๆแล้ว สาขาไนท์บาซาร์ ในอนาคตก็จะดีมาก ด้วย รถไฟใต้ดินจะขึ้นตรงนั้นแน่นอน แต่ในการบริหารที่จะเป็นตัวถ่วงเราต่อไป การ จะทำการปิดไปเลย คือการไม่เดินหน้า ดื้อดันทุรังทำต่อ และไม่ถอยกลับ คือการถอยไปตั้งหลักเพื่อหาสินค้ามาลงร้านใหม่ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อกิจการ งานออกแบบภายใน ซึ่งทิกิกำลัง จะต้องสานต่อ งาน prelimiary ซึ่งลูกค้าใกล้ ฟันธงลงมาแล้วนี้ พูดแบบเปิดใจกับน้องๆ ที่ห่วงใยความรู้สึกพี่ทิกิ ที่สอบถาม มา ทั้งโทรศัพท์ และ เอ็มเอสเอ็น กันเป็นแถวให้กระจ่างแจ้งนะคะ ว่า แม้จะเสียดาย วันเวลา สนุก สนาน ส่วนตัว ได้**หนี** ไปจากความยุ่งวุ่นวาย เครียด เครียด ไปเปิดหูเปิดตา ยามบ่าย ไล่ไปถึง เที่ยงคืน หรือ ตีหนึ่ง มาตลอดเกือบ สองปีกว่านี้ ก็จำเป็นจะต้องปิดลง นี่คือที่มาของกลอนบทนี้ ..เพราะเราเรียนผูก ก็ต้องเรียนแก้ค่ะ ร้านเล็กๆ นี้ ทิกิ มีไว้แอบไป ยืนยิ้มเล่นกะลูกค้า แบบ เราต้องลงจากหอคอยงาช้าง ไปเดินดิน กินข้าวแกงกะชาวบ้านร้านถิ่นมั่งค่ะ เอ้อ ยาวดีจังนะ ตอบบทนี้ค่ะ