ออดเสียงขลุ่ยกรุยทางระหว่างทุ่ง กระจายฟุ้งรุ้งเสียงสำเนียงโหย กรอบทุ่งหญ้า ห่าแดดแผดทางโรย ฝุ่นตะวันคว้างโชย ถนนไกล ใบไม้ร่วงรวงทางหว่างจังหวะ เสียงขลุ่ยละ ขณะช่วงห่วงใบไม้ พริ้วกระทบหลบท่อนยามร่อนใบ เหลืองทุ่งแล้ง แดดร้าย ปลิดใบชม คืนดึกหนาวดาวพร่ำน้ำตาฝน หยดชโลมลงบนคนขื่นขม ระบัดพริ้วริ้วขลุ่ย - เจ้าทุยระทม ศพใบไม้เดือดห่ม ในลมแล้ง ลมฤดูร้อนราวบาดร้าวรวด คล้ายขลุ่ยสวดปวดรินดินระแหง แตกระบัดตัดทุ่งฝุ่นฟุ้งแดง ตอฟางยืนขื่นแคลงแสลงนา ร่ำร่ำจะรำไรในขลุ่ยแผ่ว ซอกซอนวอนทุกแนวแววใบหน้า ชโลมเสียงสวดสั่งยังท้องนา ขลุ่ยจะลาเสียงลับไปกับกรุง! ...รำลึกถึงขลุ่ยเลาแรกและเลาสุดท้ายที่ติดตัวเสมอๆ ... ...บัดนี้ขลุ่ยเลานั้นได้หยุดเสียวของมันนานแล้ว นานจนน่าใจหาย ...อาจจะรอการกลับรับลมอีกครั้ง เมื่อถนนสายนี้สำเร็จก่อน... บ้านระเบียงดอย, ป่าเหนือเมื่อหนาว ไหมฟ้า 13 พย. 46
13 พฤศจิกายน 2546 18:19 น. - comment id 181215
เสียงขลุ่ยที่เป่ามา ทำให้อุราฉันหายเหงา ไม่เหลือรอยซึมเซา และหายเหงาเพราะเสียงขลุ่ย ***กลอนน่ารักดีค่ะ***
13 พฤศจิกายน 2546 20:36 น. - comment id 181251
ขอบคุณ ผู้หญิงไร้เงา ที่ติดตามงานผมมาตลอดครับ
13 พฤศจิกายน 2546 22:03 น. - comment id 181289
คมจริงครับมันช่างเพราะๆลมปาก เป่ามากๆใจได้ยินอดไม่ไหว ยิ่งเอื้อนๆเน้นลูกคอบอกเธอไป หญิงนี่ไง คนแรก เคลิบเคลิ้มเอย...
14 พฤศจิกายน 2546 07:28 น. - comment id 181366
เปิดนิ้วเอกวิเวกหวานร้าวรานจิต เสียงขลุ่ยครวญหวนคิดถึงความหลัง ระเบียงดอยดึกหนาวเศร้าใจจัง ต้องซ่อนหน้าน้ำตาหลั่งอยู่หลังดอย.. อิอิ คงจะเบื่อเมืองกรุงมาก.... ขอบคุณที่มาทักทายกัน
14 พฤศจิกายน 2546 12:01 น. - comment id 181399
ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นครับจะผลิตงานมาให้อ่านเสมอๆครับ
14 พฤศจิกายน 2546 12:01 น. - comment id 181400
ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นครับจะผลิตงานมาให้อ่านเสมอๆครับ