อกเอ๋ยเคยชินหรือยังหนอ ทุกข์ท้อทับถมจ่มเพียงไหน บาดเจ็บทุกครั้ง ณ หัวใจ ระทมหมองไหม้..ใครยลยิน ? มองจันทร์ผ่านฟ้าอุราร้าว เกินเก็บความเศร้าเฝ้าถวิล คำกล่าวว่าภักดิ์...รักยุพิน กลับกลายลืมสิ้นหมดเยื่อไย ผ่านวันเดือนปีลาลับล่วง หมดรักหมดห่วงฤๅไฉน ? จึงต้องพลัดพรากจากกันไป ตัดขาดสายใยที่ให้กัน วสันต์สวาทบาดใจนัก ความรักก็เป็นเช่นดั่งฝัน อยากหยุดฟ้าฝนบ่นรำพัน สาปส่งเหมันต์อย่าผันกราย
2 พฤศจิกายน 2546 02:04 น. - comment id 178000
ขอสาปส่งเหมันต์นั้นด้วยคน ด้วยกมลตัวฉันนั้นมันเหงา จึงไม่ขอใกล้ชิดติดเป็นเงา กับเหมันต์ที่ทำเศร้าและร้าวใจ ***สวัสดีค่ะคุณอัลมิตรา กลอนคุณไพเราะมากเลยค่ะ***
2 พฤศจิกายน 2546 02:57 น. - comment id 178011
สาปเหมันต์ ผันผ่าน ร้าวราน ผ่านผัน สาปเจ้า เหมันต์ คืนวัน หม่นมัว ไพเราะจริงๆครับ
2 พฤศจิกายน 2546 11:12 น. - comment id 178033
....ยามกายหนาวร้าวรวดปวดถึงจิต จนชีวิตผ่านคืนยิ่งขื่นขม พอได้เจอเธอนั้นพลันคลายตรม หนาวกายบ่มกลับชื่นทั่วผืนใจ แม้หนาวกายคลายบ้างเพียงอย่างน้อย แค่จิตพลอยสุขสมภิรมย์ไหว ถึงหนาวนักรักดูอยู่ข้างใน คอยเป็นไออุ่นแอบคอยแนบเคียง... .................สวัสดีครับ........................
2 พฤศจิกายน 2546 11:55 น. - comment id 178041
....เพราะหนาวเหน็บเจ็บทรวงในห้วงจิต กับชีวิตวันคืนที่ขื่นขม เมื่อต้องหนาวร้าวรวดปวดระทม ต้องตรองตรมขมขื่นกับคืนวัน จึ่งขอสาปส่งไปไกลชีวิต อย่ามาข้องต้องจิตปิดทางฝัน ฉันปาวร้าวหนาวจิตนิจนิรันทร์ เพราะเหมันต์ผันย้อนกร่อนจิตใจ... ...............สบายดีนะครับ..................
2 พฤศจิกายน 2546 11:56 น. - comment id 178042
..บทกวี..ของพี่อัลมิ..เศร้าจัง..นะคะ... ..เรน..ไม่รู้...ในบทกวี..มีอะไร.. ซุกซ่อนไว้.. ให้เรนต้อง..ค้นหา... ..ในโลกฝัน.. กับภาพ..มายา... ..เรน..แค่..อยากมา..เพื่อปลอบใจ... ..ผู้หญิง.ในความจริง...ที่แสนเก่ง.... ..พี่สาวเด่น..ในบทกวี...ยิ่งใหญ่... อ่านทุกครั้ง...ทุกบท..สื่อรส..ให้... แค่เขียนได้.. สักครึ่ง..ก้อซึ้ง..พอ... ..แบบ..เรน..ชื่นชม..พี่อัลมิ..นะคะ.. ...
2 พฤศจิกายน 2546 13:45 น. - comment id 178068
เหมันต์ผ่านรานหัวใจให้เป็นเสี่ยง คู่เคยเคียงคิดว่าแท้แปรเปลี่ยนผัน สาปฤดูฤดีเหงาคราวจากกัน มนต์บทใดฤาจะกั้นหัวใจรัก.... หนาวหน้าก็เปลี่ยนหน้าใหม่ละกัน อิอิ
2 พฤศจิกายน 2546 14:15 น. - comment id 178073
รักครานั้นหวานซึ้งซึมชาบซ่าน ฤดิกาลผ่านผันวันคืนลับ สลัวเงาเศร้าระทมถมทับ ผิจะกลับกลายฝันอุราร้าว หมอกม่านพานพัดสายลมไหว ระอุไกลกรุ่นกลิ่นไอเหน็บหนาว ไร้ฅนเคียงหมองไหม้ไฟผ่าว บาดเจ็บราวคมมีดสาบเหมันต์
2 พฤศจิกายน 2546 15:04 น. - comment id 178078
ฟังเสียงสาป แสบทรวง ห้วงดวงจิต หนาวเป็นพิษ น้องคิดครา ครั้งหน้าฝน คู่ครองแอบ แนบสนิท นฤมล ทำสับสน ฝนเปียกใจ ไม่บรรเทา ฤดูหนาว เหน็บใน หทัยพี่ คอยฤดี เคียงลม ห่มแก้หนาว อกอ้างว้าง ข้างเคียงหมอน นอนสั่นเทา หวังตัวเจ้า ลืมเรื่องราว คราวฝนพรำ
2 พฤศจิกายน 2546 18:46 น. - comment id 178132
^J^...... *ในโลกแห่ง ความฝัน วสันต์สาย ละเลื่อมพราย ดุจม่าน ในหมอกหนา เสมือนภาพ ในอดีต มันลวงตา วสันต์มา แล้วต้องไป กลายเหมันต์......ฯ
2 พฤศจิกายน 2546 21:54 น. - comment id 178182
กลอนเศร้าจังนะ -------------------+ ฤดูกาลผันผ่านไปแล้ว ขอน้องแก้วอย่าเศร้าฤาใจหาย อารมณ์กาลเปลี่ยนได้ไม่วางวาย อย่าใส่ใจกับใจคนที่เปลี่ยนเลย
2 พฤศจิกายน 2546 22:02 น. - comment id 178188
คุณผู้หญิงไร้เงา .. หนาวนั้นเหน็บเนื้อเจือผ้าอุ่น แต่กรุ่นไอรักจักคลายไฉน ภาพอดีตยอกย้อนชอนห้วงใจ เกินจะเก็บไว้...ไม่อินัง คุณฮัลเลลูยา ..เหมือนเพลงเหมันต์อย่าผ่านมาเลย นะคะ ความรู้สึกนั้นกำลังเกิดขึ้นค่ะ คุณใบบอนแก้ว .. ผ่านร้อนผ่านหนาวมากเศร้าหมอง ความทุกข์เนืองนองเกินมองเห็น กล้ำกลืนฝืนช้ำย้ำประเด็น เพียงแค่หลีกเร้นตัวตนจริง จนเมื่อวสันต์ครั้นลาจาก สัญญาก็พรากไปทุกสิ่ง มิเหลือหัวใจให้ประวิง จำต้องละทิ้งหยิ่งทรนง คุณหมึกมรกต .. สบายดีค่ะ อืมม ..ตรงประเด็นดีจัง (กลอนของคุณ) หากต้องขาดจากกันในวันนี้ ขอคนดีอย่าคืนมาชื่นใหม่ เมื่อตัดแล้วให้แคล้วตลอดไป อย่าหลงเหลือเผื่อใจหมายกลับคำ น้องเรน .. ในบทกวี มีความรู้สึกบางอย่างค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าจะจริงเสมอไปนะคะ ตอนที่เขียนก็ต้องสวมบทบาทนั้นไป ทุกอย่างเป็นเพียงภาพมายา เหตุการณ์สมมุติค่ะ อย่าได้กังวลใจนะคะ และขอบคุณที่น้องเรนเป็นกำลังใจให้เสมอมา คุณฤกษ์ .. จะเสกมนต์กลรักที่หนักจิต วางยาพิษแสนขมเพื่อข่มหมอง ยามเหมันต์ผันเปลี่ยนมิเวียนครอง อย่าหมายข้องเกี่ยวใจ..ไม่ยินดี คุณ|NdEpEndEnT .. ผิว์หทัยข้าหมองนองนัยน์ช้ำ สุดระกำเกินเก็บความเจ็บได้ ผ่านวสันต์ปานว่าข้าขาดใจ อีกหนาวไซร้ชิดวันเข้าผันเยือน ข้าจักทำอย่างไรใคร่อยากรู้ หลบหรือสู้ต่อไปให้เสมือน จะแข็งกร้าวห้าวหาญมิลางเลือน หรือจะเบือนแสร้งทำดุจอำลา คุณชัยชนะ .. :) ยากจะลืมเรื่องราวคราวก่อนนั้น จิตผูกพันเกินแก้แย่หนักหนา ฟังเสียงฝนคนหมองนองนัยนา เหมือนคนบ้าละเมอเพ้อข้างเดียว จึงสาปส่งคำมั่นที่ผันผ่าน อย่าพบพานอีกเลยเคยข้องเกี่ยว พร้อมรักษาใจนั้นให้มั่นเชียว มิลดเลี้ยวรักใครที่ไหนเลย หากแม้นคิดผูกจิตพิสมัย ถ้อยความนัยมอบต่อข้อเฉลย เพียงอย่าทำเยี่ยงเก่าคู่เคล้าเคย อย่าละเลยต่อกันสัญญาใจ อีกวันคืนขื่นขมดั่งจมปลัก วสันต์ทักให้เศร้าร้าวไฉน ขอเหมันต์บรรเทาความเหงาใจ โอบอุ่นรักเคียงใกล้..มิคลายคำ คุณกฤษณะ .. โลกอดีตกรีดใจไม่หวนคิด สิ่งที่ผิดลืมหมดปลดความฝัน หากละเลยความเคยมีต่อกัน วสันต์นั้น..ก็จบ ขอลบเลือน .. ไอซ์เพื่อนรัก .. จะหักใจคิดข่มความตรมตรอม มิยินยอมให้เศร้าร้าวอีกหน หากในเมื่อความรักมักซ่อนกล จำจักต้องหลีกพ้น..คนคนนั้น
3 พฤศจิกายน 2546 13:19 น. - comment id 178290
อกเอ๋ยเคยชินเมื่อสิ้นหวัง ทุกข์ประดังตรอมตรมจ่มหมองไหม้ เมื่อทุกคราเขาต้องมาพร่าหัวใจ ทั้งที่เรารักเขาไปหมดใจมี เจ็บระอาคราเขานั้นเผาทุกครั้ง แต่ใจยังห่วงใยแม้ไร้ค่า จึงเจ็บแสบแปลบใจด้วยเจตนา สมน้ำหน้าทุกคราพาระทม ไม่เคยจำเค้าที่เขาทำซ้ำทุกครั้ง แต่ใจหนอช่างไม่จำซ้ำห่วงหา ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งไกลห่างยิ่งร้างรา เจ็บแบบนี้แทบทุกคราล้าหัวใจ . หวังดีให้เท่าไหร่คืนให้หมด ทำเท่าไหร่ใจก็งดหมดเงื่อนไข เจ็บหนักหนาทุกคราเขาพล่าใจ แต่ทำไมถึงโง่ชดใช้กรรม . อยากสาปส่งเหมันต์กระสันต์สวาท แต่ไม่อาจทำได้ใจอ่อนไหว คงต้องรอถึงคราข้าสิ้นใจ จึงตัดได้โอ้เหมันต์พลันจากจร
5 พฤศจิกายน 2546 22:12 น. - comment id 178943
ยัยไหม .. ขอบใจนะ ที่มาปลอบ