เคลื่อนไหวไปกับจังหวะชีวิต
ปุถุซน
จวนจะถึงค่ำคืนแรกของเดือนถือศีลอด
ฉันนั่งรถเมล์เบาะหลังติดกับพระห่มจีวรเหลือง
ท่านสะพายย่ามสีน้ำเงินฉันสะพายย่ามสีครีม
ท่านโกนผมโกนคิ้วฉันผมยาวไว้หนวดไว้เครา
ฉันนั่งรถเมล์เบาะหลังติดกับพระห่มจีวรเหลือง
นักบวชเป็นคนฉันก็เป็นคน
ท่านโกนผมโกนคิ้วฉันผมยาวไว้หนวดไว้เครา
ในย่ามของท่านมีอะไรฉันไม่รู้แต่ของฉันมีกวีนิพนธ์
นักบวชเป็นคนฉันก็เป็นคน
เราต่างมีตัวมีตนมีกิเลสและมีตัณหา
ในย่ามของท่านมีอะไรฉันไม่รู้แต่ของฉันมีกวีนิพนธ์
ฉันหิวฉันกระหายแต่จิตวิญญาณของฉันหิวและกระหายกว่า
เราต่างมีตัวมีตนมีกิเลสและมีตัณหา
มันอยู่ที่ว่าเราจะปลดปล่อยมันหรือจะเก็บกดมัน
ฉันหิวฉันกระหายแต่จิตวิญญาณของฉันหิวและกระหายกว่า
ฉันกินข้าวดื่มน้ำให้หายหิวหายกระหายแต่จิตวิญญาณฉันยังหิวโหย
มันอยู่ที่ว่าเราจะปลดปล่อยมันหรือจะเก็บกดมัน
กิเลสตัณหาดีชั่วประเสริฐเลิศเลอเลวทรามมาจากตัวเราเอง
ฉันกินข้าวดื่มน้ำให้หายหิวหายกระหายแต่จิตวิญญาณฉันยังหิวโหย
ฉันอ่านคัมภีร์ฉันอ่านบทกวีฉันเขียนบทกวีแล้วจิตวิญญาณฉันเปี่ยมสุข
กิเลสตัณหาดีชั่วประเสริฐเลิศเลอเลวทรามมาจากตัวเราเอง
เป็นนักบวชนักบุญยาจกขอทานล้วนสามารถบรรลุธรรม
ฉันอ่านคัมภีร์ฉันอ่านบทกวีฉันเขียนบทกวีแล้วจิตวิญญาณฉันเปี่ยมสุข
ฉันไม่ใช่นักบวชนักบุญไม่ใช่ยาจกไม่ใช่ขอทานไม่ใช่นักพรต
เป็นนักบวชนักบุญยาจกขอทานล้วนสามารถบรรลุธรรม
แต่ถ้ายังคงวนเวียนวกวนสับสนในตนบ่รู้จักตนคือใคร
ฉันไม่ใช่นักบวชนักบุญไม่ใช่ยาจกไม่ใช่ขอทานไม่ใช่นักพรต
ฉันไม่ลืมตนว่าฉันคือใคร ฉันมาจากไหน และฉันกำลังจะไปไหน
26 ตุลาคม 2546 / บนรถเมล์ สาย 124 และ สาย 2